ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มหาวิทยาลัยรามคำแหง"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 10: | บรรทัด 10: | ||
| head = [[วิรัช ชินวินิจกุล]]<br>(8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - ปัจจุบัน) |
| head = [[วิรัช ชินวินิจกุล]]<br>(8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - ปัจจุบัน) |
||
| ตำแหน่งหัวหน้า = อธิการบดี |
| ตำแหน่งหัวหน้า = อธิการบดี |
||
| อธิการบดี = [[วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์|ผู้ช่วยศาสตราจารย์วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์]]<br>(21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - ปัจจุบัน) |
| อธิการบดี = [[วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์|ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์]]<br>(21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - ปัจจุบัน) |
||
| เพลง = รามของเรา |
| เพลง = รามของเรา |
||
| ต้นไม้ = [[สุพรรณิการ์]] |
| ต้นไม้ = [[สุพรรณิการ์]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:39, 17 กรกฎาคม 2556
Ramkhamhaeng | |
ชื่อย่อ | ม.ร. / RU |
---|---|
คติพจน์ | รู้จักอภัย ตั้งใจศึกษา บูชาพ่อขุน สนองคุณชาติ |
ประเภท | รัฐ มหาวิทยาลัยตลาดวิชา |
สถาปนา | พ.ศ. 2514 |
อธิการบดี | ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ (21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - ปัจจุบัน) |
อธิการบดี | ผู้ช่วยศาสตราจารย์ วุฒิศักดิ์ ลาภเจริญทรัพย์ (21 ตุลาคม พ.ศ. 2554 - ปัจจุบัน) |
นายกสภามหาวิทยาลัย | วิรัช ชินวินิจกุล (8 พฤษภาคม พ.ศ. 2556 - ปัจจุบัน) |
ที่ตั้ง | |
เว็บไซต์ | www.ru.ac.th |
มหาวิทยาลัยรามคำแหง (อังกฤษ: Ramkhamhaeng University) สถาบันอุดมศึกษาของรัฐเป็นมหาวิทยาลัยตลาดวิชาแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งรับบุคคลเข้าศึกษาโดยไม่สอบคัดเลือกและไม่จำกัดจำนวน ทำการเรียนการสอนแบบตลาดวิชา คือมีการเรียนการสอนในชั้นเรียนเช่นเดียวกับมหาวิทยาลัยปกติ แต่ไม่บังคับเข้าชั้นเรียน อันเป็นระบบเดียวกันกับมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองในอดีต มหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นหนึ่งในสถาบันการศึกษาชั้นนำของประเทศไทยและมีชื่อเสียงในด้านรัฐศาสตร์ และนิติศาสตร์อย่างมาก
มหาวิทยาลัยรามคำแหง ตั้งอยู่บนถนนรามคำแหง กรุงเทพมหานคร
ประวัติ
มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2514 บนบริเวณที่ดินประมาณ 300 ไร่เศษ บนถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร โดยพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ. 2514 กำหนดให้มหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นสถาบันการศึกษาและวิจัยแบบตลาดวิชา[1] กล่าวคือ ให้เปิดรับสมัครบุคคลเข้าเป็นนักศึกษา โดยไม่จำกัดจำนวน และไม่มีการสอบคัดเลือกนับตั้งแต่ได้รับการสถาปนาขึ้นในปี 2514 ทั้งนี้เพื่อแก้ไขการขาดแคลนสถานที่เรียนในระดับอุดมศึกษา ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญในขณะนั้น ต่อมาได้มีประกาศใช้พระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ. 2541 ขึ้นใช้บังคับแทนกฎหมายฉบับเดิม
การตรากฎหมายเพื่อจัดตั้งมหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้มีผู้เสนอร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยเป็นครั้งแรก เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2512 คือ นายประมวล กุลมาตย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดชุมพร สังกัดพรรคสหประชาไทย โดยในร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวยังไม่ได้ระบุชื่อมหาวิทยาลัย และสภาผู้แทนราษฎรได้มีมติรับหลักการเป็นเอกฉันท์เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2512 โดยตั้งคณะกรรมาธิการฯ ซึ่งมีพลเอกประภาส จารุเสถียร เป็นประธานกรรมาธิการเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวโดยละเอียด คณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณาร่างกฎหมายฉบับนี้แล้วเสร็จ พร้อมทั้งกำหนดชื่อมหาวิทยาลัยในร่างพระราชบัญญัตินั้นว่า "ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยรัตนโกสินทร์ พ.ศ. ..." ก่อนที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศใช้ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยรามคำแหง พ.ศ. ... เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2514
ระยะแรก คณะรัฐมนตรีได้อนุญาตให้ใช้อาคารสถานที่แสดงสินค้านานาชาติ ที่ตำบลหัวหมาก อำเภอบางกะปิ จังหวัดพระนคร เป็นที่ตั้งชั่วคราวจนกระทั่งเดือนตุลาคม พ.ศ. 2515 จึงได้อนุญาตให้สถานที่ดังกล่าวเป็นที่ตั้งถาวร และได้มีการประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์สถานที่ประดิษฐานพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช เมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2515 โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จพระราชดำเนินเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช และพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยรามคำแหงรุ่นแรก ในวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518 ซึ่งถือว่าเป็นวันประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยได้กำหนดให้ วันที่ 26 พฤศจิกายนของทุกปี เป็นวันสถาปนามหาวิทยาลัยรามคำแหง
ด้วยความเป็นมหาวิทยาลัยตลาดวิชา ระบบการศึกษาของมหาวิทยาลัยรามคำแหงจึงเปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถเลือกวิธีเรียนที่เหมาะสมกับความต้องการและความจำเป็นของแต่ละบุคคล จึงจัดให้มีการบรรยายในชั้นเรียน สำหรับผู้ที่จะเข้าฟังบรรยายในชั้นเรียน และจัดให้มีสื่อการสอนทางไกลเพื่อศึกษาด้วยตนเอง เช่น ตำราเรียน การบรรยายผ่านวิทยุและโทรทัศน์ ตลอดจนอินเทอร์เน็ต เพื่อให้นักศึกษาที่มีภาระการงาน หรืออยู่ในท้องถิ่นห่างไกลไม่สามารถเดินทางมาเรียนอย่างสม่ำเสมอได้ อย่างไรก็ตาม ในบางสาขาวิชาที่ต้องมีการฝึกปฏิบัติหรือจำเป็นต้องศึกษาจากผู้สอนอย่างใกล้ชิด มหาวิทยาลัยหรือภาควิชาอาจกำหนดให้นักศึกษาต้องเข้าชั้นเรียน โดยเฉพาะคณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ รวมถึงคณะอื่นๆ ในบางรายวิชา
สัญลักษณ์ของรามคำแหง
-
พระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
-
สุพรรณิการ์ ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย
-
ตราประจำมหาวิทยาลัย
พระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
นับแต่ได้สถานที่เป็นที่ตั้งถาวรแล้ว มหาวิทยาลัยรามคำแหงก็ได้เร่งดำเนินการก่อสร้างอาคาร และปรับปรุงสถานที่ให้ทันกับการเปิดสอนของแต่ละปีมาโดยลำดับ ถาวรวัตถุสิ่งแรกที่มหาวิทยาลัยเห็นว่าจำเป็นจะต้องก่อสร้างก่อนก็คือ ที่ประดิษฐาน..'พระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราช'.. ซึ่งมหาวิทยาลัยได้อัญเชิญมาเป็นเครื่องหมายของมหาวิทยาลัย เมื่อได้สร้างเสร็จและอัญเชิญพระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราชมาประดิษฐานเรียบร้อย ถาวรวัตถุนี้จะเป็นสัญญลักษณ์ที่รวมพลังกาย พลังใจของคณาจารย์ ข้าราชการ และนักศึกษาให้มุ่งประกอบแต่ความดีงามอันจักเป็นคุณต่อชาติบ้านเมืองสืบไป สำหรับพระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราชนั้น ได้จัดสร้างตามแบบของกรมศิลปากร เป็นโลหะทองเหลืองผสมทองแดงและรมดำ ความสูงจากพื้นฐานถึงยอดพระมาลา 115 เซนติเมตร พระหัตถ์ขวาทรงถือหนังสือ และประทับบนพระแท่นมนังคศิลาบาตร การหล่อพระบรมรูปต้องใช้วิธีแยกเททองเป็นส่วนๆ รวมถึง 5 ส่วน กว่าจะเสร็จครบบริบูรณ์ต้องใช้เวลาถึง 8 เดือนเศษ จากนั้นมหาวิทยาลัยจึงได้กราบบังคมทูลขอพระราชทานเชิญเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาประกอบพิธีเปิดพระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยรามคำแหงรุ่นที่ 1 เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2518
ต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชทานต้นสุพรรณิการ์ (ฝ้ายคำซ้อน) เป็นต้นไม้ประจำมหาวิทยาลัย ขณะนี้ปลูกไว้บริเวณหน้าอาคาร หอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เมื่อวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2542 สุพรรณิการ์มีถิ่นกำเนิดในอินเดียทางตะวันตกเฉียงเหนือของภูเขาหิมาลัย และเป็นไม้พื้นเมืองของพม่าด้วย ในศรีลังกามักปลูกบริเวณพระอุโบสถ เป็นดอกไม้บูชาพระ ในเมืองไทยทางเหนือ เรียกว่า ฝ้ายคำ นำเข้ามาประเทศไทยกว่า 50 ปีมาแล้ว
ตราประจำมหาวิทยาลัย
เป็นพระรูปพ่อขุนรามคำแหงมหาราช และศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงมหาราช (ศิลาจารึกหลักที่ 1) จารึกนี้พบเมื่อ พ.ศ. 2376 ณ เนินปราสาท เมืองเก่าสุโขทัย อำเภอเมือง จังหวัดสุโขทัย โดยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะที่ผนวชเป็นผู้ค้นพบ เป็นจารึกหลักแรกที่ใช้ภาษาไทยและตัวอักษรไทย มีลักษณะเป็นแท่นหินรูปสี่เหลี่ยม ยอดกลมมน สูง 1 เมตร 11 เซนติเมตร หนา 35 เซนติเมตร เป็นหินชนวนสีเขียวมีจารึกทั้ง 4 ด้าน ปัจจุบันเก็บอยู่ที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร กรุงเทพมหานคร
สีประจำมหาวิทยาลัย
"สีน้ำเงิน-ทอง" ความหมาย สีน้ำเงิน เป็นสัญลักษณ์ของพระมหากษัตริย์คือพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ส่วนสีทอง เป็นเครื่องหมายของความอุดมสมบูรณ์และเจริญรุ่งเรือง สะท้อนถึงความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจักรสุโขทัย
อุดมการณ์ของมหาวิทยาลัยรามคำแหง
- ปรัชญา (Philosophy) : ส่งเสริมความเสมอภาคทางการศึกษา ผลิตบัณฑิตที่มีความรู้คู่คุณธรรม
- ปณิธาน (Ambition) : พัฒนามหาวิทยาลัยรามคำแหงให้เป็นแหล่งวิทยาการแบบตลาดวิชา มุ่งผลิตบัณฑิตที่มีความรู้คู่คุณธรรม และจิตสำนึกในความรับผิดชอบต่อสังคม
- วิสัยทัศน์ (Vision) : มหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นองค์การเรียนรู้ (Learning Organization) ที่มีสมรรถนะสูง (High Organization) มุ่งผลิตบัณฑิตในอุดมคติไทยที่มีความรู้คู่คุณธรรม เพื่อสร้างสรรค์สังคมไทยพัฒนาอย่างยั่งยืนตามหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
- คติพจน์ (Motto) : รู้จักอภัย ตั้งใจศึกษา บูชาพ่อขุน สนองคุณชาติ
- คำขวัญ (Slogan) : เปลวเทียนให้แสง รามคำแหงให้ทาง
- ??? : อตฺตา หิ อตฺตโน นาโถ : ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน"
เกี่ยวกับมหาวิทยาลัยรามคำแหง
- รามคำแหงเปิดเรียนครั้งแรก ในวันที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2514 วิชาที่เปิดบรรยายเป็นวิชาแรกคือ LB103 (การใช้ห้องสมุด) โดยปัจจุบัน ได้เปลี่ยน รหัสวิชาเป็น LIS1003 ตั้งแต่ปีการศึกษา 2555 เป็นต้นไป ส่วนชื่อกระบวนวิชายังคงเดิม
- คำขวัญเดิมของรามคำแหง คือ รู้จักอภัย ตั้งใจศึกษา บูชาพ่อขุน สนองคุณชาติ เป็นของ ศ.ดร.ศักดิ์ ผาสุขนิรันดร์ อธิการบดีคนแรก และต่อมาได้มีการคิดคำขวัญเพิ่มเติมขึ้นอีก ประมาณปี 2527 ได้มีการจัดประกวดคำขวัญของรามคำแหงขึ้น สำนวนที่ชนะเลิศคือ "เปลวเทียนให้แสง รามคำแหงให้ทาง"
- ค่าหน่วยกิตของรามคำแหง มหาวิทยาลัยรามคำแหงเป็นมหาวิทยาลัยที่มีค่าหน่วยกิตถูกที่สุดในโลก[ต้องการอ้างอิง] คือ 25 บาท เดิมทีเดียวใน พ.ศ. 2514 กำหนดค่าหน่วยกิตไว้ที่ 30 บาท เนื่องจากคาดว่าอาจมีนักศึกษาเข้ามาสมัครเรียนไม่มากนัก แต่ปรากฏว่ากลับมีผู้สนใจสมัครเข้าเป็นนักศึกษาในครั้งนั้นกว่า 30,000 คน ดร.ศักดิ์ ผาสุขนิรันดร์ จึงเสนอต่อที่ประชุม ทปม. เห็นควรให้ลดค่าหน่วยกิตลงมาเหลือ 25 บาท ครั้งหนึ่งในช่วงหลังเหตุการณ์ 14 ตุลา ได้มีการเรียกร้องให้ลดค่าหน่วยกิตลงมาอีก ซึ่งได้ลดลงมาจนถึงหน่วยกิตละ 18 บาท จนถึงปีพ.ศ. 2537 ได้มีการเพิ่มค่าหน่วยกิตเป็น 25 บาท จนถึงปัจจุบัน
- เกรดของมหาวิทยาลัยรามคำแหง มีความแตกต่างจากมหาวิทยาลัยอื่น ๆ กล่าวคือ ใช้ระบบ G P F แสดงระดับผลการเรียนในระดับปริญญาตรี โดย G = Good 4.00 (ระดับคะแนน 80-100) , P = Pass 2.25 (ระดับคะแนน 60-79) และ F = Failure หมายถึงสอบตก (ระดับคะแนน 59 ลงมา) ในช่วงเตรียมจัดตั้งมหาวิทยาลัยได้มีบางท่านเสนอว่าควรใช้ระบบ A B C D แต่จากข้อสรุปของที่ประชุมตกลงให้ใช้ G P F ดังเช่นในปัจจุบัน สาเหตุที่ไม่ใช้ระบบ A B C D เนื่องจากนักศึกษามีเป็นจำนวนมาก และมีรูปแบบเป็นมหาวิทยาลัยตลาดวิชา การใช้ตะแกรงถี่เกินไปอาจไม่เป็นระบบการวัดผลที่ดี แต่ตั้งแต่ปีการศึกษา 2555 เป็นตันไป มหาวิทยาลัยได้ปรับระบบเกรด จาก G P F เป็น A B C D เพื่อให้ทัดเทียมกับการเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี พ.ศ. 2558 [2] และมีการพิจารณาให้ ปริญญาเกียรตินิยมอันดับ 1 แก่นักศึกษาที่มีระดับผลการเรียน G ร้อยละ 75 ของหน่วยกิตทั้งหมดของหลักสูตรการศึกษา และปริญญาเกียรตินิยมอันดับ 2 แก่นักศึกษาผู้มีระดับผลการเรียน G ร้อยละ 50 ของหน่วยกิตทั้งหมดของหลักสูตรทั้งนี้นักศึกษาต้องสำเร็จการศึกษาภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้สำหรับหลักสูตรนั้น และต้องไม่มีการลงทะเบียนในวิชาใดวิชาหนึ่งเกิน 1 ครั้ง
ที่ตั้งมหาวิทยาลัยรามคำแหงและวิทยาเขต
มหาวิทยาลัยรามคำแหง (ส่วนกลาง)
แรกเริ่มที่มหาวิทยาลัยรามคำแหงก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2514 ได้รับอนุญาตให้ใช้สถานที่แสดงสินค้านานาชาติที่ ตำบลหัวหมาก อำเภอบางกะปิ จำนวน 300 ไร่เศษ เป็นสถานที่ตั้งมหาวิทยาลัย ระยะแรกที่ทำการเปิดสอนได้ใช้อาคารแสดงสินค้าที่มีอยู่เดิมเป็นที่ทำการและห้องเรียนของมหาวิทยาลัย ต่อมาได้มีการก่อสร้างอาคารที่ทำการคณะ/สำนัก/สถาบัน รวมทั้งอาคารเรียนฯลฯ เพิ่มขึ้นแทนอาคารแสดงสินค้าเดิมเหล่านั้น จะเห็นว่า ปัจจุบัน มหาวิทยาลัยรามคำแหงมีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและเปลี่ยนแปลงไปมาก บริเวณของมหาวิทยาลัยเต็มไปด้วยอาคารหลากหลายที่ทันสมัย บรรยากาศเป็นมหาวิทยาลัยวิชาการ อีกทั้งภูมิทัศน์สวยงาม สะอาดและสะดวกสบาย
มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก เป็นสถานที่ตั้งที่ทำการของทุกคณะ/สำนัก/สถาบันต่าง ๆ เป็นศูนย์กลางการบริหารและการจัดการเรียนการสอนของมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตปัจฉิมสวัสดิ์ - สุวรรณนภาศรี (รามคำแหง 2 - บางนา)
มหาวิทยาลัยรามคำแหงได้จัดตั้ง วิทยาเขตปัจฉิมสวัสดิ์ - สุวรรณนภาศรี (วิทยาเขตบางนา)ในปีพ.ศ. 2522 (และเริ่มเปิดทำการสอนปีพ.ศ. 2527) บนที่ดินที่ได้รับบริจาคจำนวน 150 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณกิโลเมตรที่ 8 ถนนบางนา – ตราด เพื่อรองรับการขยายตัวของจำนวนนักศึกษาที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว วิทยาเขตบางนาจึงใช้เป็นสถานที่จัดการเรียนการสอนกระบวนวิชาชั้นปีที่ 1 ของระดับปริญญาตรีทุกสาขา ต่อมาได้ใช้เป็นสถานที่สอนระดับปริญญาโทบางโครงการ
มหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตสุโขทัย
เมื่อปี พ.ศ. 2542 มหาวิทยาลัยได้จัดตั้งสาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสุโขทัย ขึ้น เพื่อการกระจายโอกาสทางการศึกษาให้ท้องถิ่นและจังหวัดใกล้เคียง ซึ่งได้มีการจัดการเรียนการสอนทั้งระดับปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอก รวมทั้งหลักสูตรโครงการพิเศษต่าง ๆ จังหวัดสุโขทัยนั้นในอดีตคือกรุงสุโขทัยในยุคสมัยของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
ต่อมาในปี พ.ศ. 2549 ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2549 ได้มีมติเห็นชอบโครงการยกฐานะ มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสุโขทัย เป็นมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตสุโขทัย ในการนี้ ทางมหาวิทยาลัยรามคำแหงได้รับงบประมาณแผ่นดินเตรียมการก่อสร้างอาคารเรียน ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในระยะดำเนินการก่อสร้าง เมื่อแล้วเสร็จ ก็จะเปิดสอนคณะใหม่ที่วิทยาเขตแห่งนี้
พื้นที่การศึกษา
มหาวิทยาลัยรามคำแหง แบ่งพื้นที่การศึกษาออกเป็น 5 ส่วน กับ 1วิทยาเขต และ1ศูนย์การศึกษา (วิทยาเขต)
- ส่วนที่ 1 คือส่วนของพื้นที่ได้แก่ สำนักงานอธิการบดี (กองคลัง กองแผนงาน) อาคารวิทยบริการและบริหาร กองบริการการศึกษา อาคารเรียนรวม (เวียงคำ) อาคารเรียนรวม (เวียงผา) คณะรัฐศาสตร์1 อาคารบรรยายรวมและศูนย์ศึกษารัฐศาสตร์ อาคารจอดรถพิเศษ8ชั้น ศูนย์หนังสือมหาวิทยาลัย สถาบันการศึกษานานาชาติ โรงกลาง (โรงอาหารกลาง) อาคารนพมาศ (บัณฑิตศึกษา) หอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช อาคารบรรยายรวม (กงไกรลาศ) ศูนย์ฝึกซ้อมกลอฟ์ในร่ม KLB 601 สำนักบริการทางวิชาการและทดสอบประเมินผล งานแพทย์และอนามัย
- ส่วนที่ 2 คือส่วนพื้นที่การจัดศึกษาได้แก่ คณะบริหารธุรกิจ อาคารบรรยายรวมบริหารธุรกิจ อาคารท่าชัย (บัณฑิตวิทยาลัย) อาคารสุโขทัย เป็นที่ตั้งของ (คณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ สถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพ สถาบันภาษา สำนักทดสอบทางอิเล็กทรอนิกส์ ) อาคารคณะเศรษฐศาสตร์1 และ2 อาคารสถาบันคอมพิวเตอร์ สำนักเทคโนโลยีทางการศึกษา อาคารโรงยิม1
- ส่วนที่ 3ครอบคลุมไปยัง คณะนิติศาสตร์1 นิติศาสตร์2 สำนักหอสมุดกลาง อาคารสวรรคโลก คณะศึกษาศาสตร์1 ศึกษาศาสตร์2 สำนักกีฬา สนามกีฬาแห่งมหาวิทยาลัยรามคำแหง โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยรามคำแหง ฝ่ายประถม โรงเรียนสาธิตอนุบาล สนามเทนนิส โรงยิม2 โรงยิม3 อาคารวิทยบริการ (กองอาคารสถานที่)
- ส่วนที่ 4เป็นที่ตั้งของ คณะมนุษยศาสตร์ 1 และ2 คณะวิทยาศาสตร์ อาคารปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ อาคารเรียนวิทยาศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง ฝ่ายมัธยม อาคารเรียนคณะมนุษยศาสตร์ (ส่วนขยาย) อาคารวิทยาการจัดการ ภาควิชาสถิติ
- ส่วนที่ 5เป็นที่ตั้งของพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช สระน้ำ พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพย์อาสน์เป็นพระที่นั่งปราสาทโถงกลางสระน้ำ สร้างในแบบปราสาทจตุรมุข หอนาฬิกา
- ส่วนที่ 6เป็นที่ตั้งของ กองงานวิทยาเขตบางนา จัดการเรียนการสอนของ นักศึกษาชั้นปริญญาตรี ปีที่1 และ ปริญญาบางสาขา
- ส่วนที่ 7อยู่ที่จังหวัดสุโขทัย ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2549 ได้มีมติเห็นชอบโครงการยกฐานะ มหาวิทยาลัยรามคำแหง สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสุโขทัย เป็นมหาวิทยาลัยรามคำแหง วิทยาเขตสุโขทัย ในการนี้ ทางมหาวิทยาลัยรามคำแหงได้รับงบประมาณแผ่นดินเตรียมการก่อสร้างอาคารเรียน ฯลฯ ซึ่งปัจจุบันกำลังอยู่ในระยะดำเนินการก่อสร้าง เมื่อแล้วเสร็จ ก็จะเปิดสอนคณะใหม่ที่วิทยาเขตแห่งนี้
นอกจากนี้ยังมีส่วนภูมิภาคซึ่งเป็นหน่วยจัดการเรียนการสอนและพื้นที่ในความดูแลของมหาวิทยาลัย คือ สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ ต่างจังหวัด22แห่งจัดการเรียนการสอน ปริญญาตรี โท บางคณะ และสาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติ ต่างประเทศ
สาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติต่างประเทศ
มหาวิทยาลัยรามคำแหงได้เริ่มขยายการเรียนการสอนสู่ต่างประเทศ ตั้งแต่ภาคการศึกษาที่2/2546 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้โอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาแก่ปวงชนชาวไทยในต่างประเทศทั่วโลก เพื่อนำการอุดมศึกษาไทยสู่สากลอย่างเป็นรูปธรรม และพัฒนาการอุดมศึกษาไทยแข่งขันในเวทีการศึกษาโลก พัฒนาศักยภาพการจัดการศึกษาของมหาวิทยาลัยรามคำแหง รวมทั้งสร้างชื่อเสียงของมหาวิทยาลัยรามคำแหงและประเทศชาติให้กว้างไกลทั่วสากล หลักสูตรที่เปิดสอนในต่างประเทศ เปิดสอนระดับปริญญาตรี ระดับปริญญาโท และกำลังจะเปิดสอนระดับปริญญาเอก ปัจจุบัน ขยายสู่ 29 ประเทศทั่วโลก มีศูนย์สอบ 38 แห่งในประเทศต่าง ๆ และกำลังขยายเพิ่มขึ้น การจัดสอบได้รับความร่วมมืออย่างดียิ่งจากกระทรวงการต่างประเทศ ในการให้ความอนุเคราะห์สถานที่สอบ และการดำเนินการจัดสอบ ณ สถานเอกอัครราชทูตไทย และสถานกงสุลใหญ่ในประเทศต่าง ๆ ที่มีผู้สมัครเรียน ประเทศที่มีศูนย์สอบมหาวิทยาลัยรามคำแหง 29 ประเทศ ดังต่อไปนี้
- สหรัฐอเมริกา
- แคนาดา
- สหราชอาณาจักร
- สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี
- ฝรั่งเศส
- สวิตเซอร์แลนด์
- เบลเยี่ยม
- อิตาลี
- สเปน
- ออสเตรีย
- โปแลนด์
- โปรตุเกส
- ไอซ์แลนด์
- สวีเดน
- นอร์เวย์
- เดนมาร์ก
- บาห์เรน
- สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
- ออสเตรเลีย
- นิวซีแลนด์
- ญี่ปุ่น
- เกาหลีใต้
- สาธารณรัฐประชาชนจีน
- อินเดีย
- กัมพูชา
- สิงคโปร์
- มาเลเซีย
- เวียดนาม
สถาปัตยกรรมที่สำคัญในมหาวิทยาลัย
- พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพย์อาสน์ พระที่นั่งไอศวรรย์ทิพยอาสน์ เป็นจุดเด่นของพระราชวัง ซึ่งในมหาวิทยาลัยรามคำแหงก็มีพระที่นั่งจำลององค์นี้ ตั้งอยู่กลางสระน้ำ ด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช เป็นสัญลักษณ์ที่ชาวรามคำแหงภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง
- เรือสุพรรณหงส์จำลอง อยู่กลางสระน้ำภายในเรือประดิษฐฐานพระพุทธรูปจำลอง ซื้งมีความสวยงามโดดเด่น
- พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช มหาวิทยาลัยได้สร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ท่านไว้กลางมหาวิทยาลัยที่เรียกว่า “ลานพ่อขุน” ที่นี่ จึงเป็นจุดรวมใจของชาวรามคำแหงทั้งมวล
ชาวรามคำแหงเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นอย่างยิ่ง และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในการพระราชทาน ปริญญาบัตร ณ มหาวิทยาลัยรามคำแหง เป็นประจำทุกปี
- ศาลาไทยประยุกต์ อยู่หน้าอาคารสุโขทัย เป็นศาลาประยุกต์ กลางน้ำ จัดเป็นสถาปัตยกรรมผสมผสานรว่มสมัย
- หอนาฬิกา จัดเป็นหอนาฬิกาขนาดใหญ่ มีความสูงเท่ากับตึก4 ชั้น หน้าปัด เป็นสถาปัตยกรรมศิลาจารึก เป็นกระจกสีฟ้า เดินเวลาแบบดิจิตอล
- หอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช เป็นอาคารแบบประยุกต์ 2 ชั้น โดยด้านหน้ามีหลังคาเป็นศิลาจารึก โดยภายในอาคารมีห้องรับรองไว้สำหรับเป็นที่ประทับของพระบรมวงศานุวงศ์ที่เสด็จมาประกอบพระกรณียกิจที่มหาวิทยาลัย และใช้เป็นสถานที่ประกอบกิจกรรมต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย
วิชาการ
มหาวิทยาลัยรามคำแหงได้เปิดรับสมัครนักศึกษารุ่นแรกในปีพ.ศ. 2514 ซึ่งในครั้งแรกเปิดสอนใน 4 คณะ คือ คณะนิติศาสตร์ คณะบริหารธุรกิจ คณะมนุษยศาสตร์ และคณะศึกษาศาสตร์ โดยมีผู้สนใจสมัครเป็นนักศึกษาในครั้งแรกจำนวน 37,198 คน ต่อมาในพ.ศ. 2517 ได้เปิดเพิ่มอีกสามคณะคือ คณะวิทยาศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ และคณะเศรษฐศาสตร์ กระทั่งในปี 2540 ได้เปิดสอนคณะวิศวกรรม ศาสตร์ เนื่องจากมหาวิทยาลัยรามคำแหงมีผู้สนใจเข้าศึกษาต่อเป็นจำนวนมาก จนสถานที่เรียนที่หัวหมากเริ่มแออัด มหาวิทยาลัยจึงได้ เปิดวิทยาเขตรามคำแหง 2 หรือวิทยาเขตบางนา ขึ้นในปีพ.ศ. 2527 ที่ถนนบางนา-ตราด กม.8 แขวงวัดดอกไม้ เขตประเวศ กรุงเทพฯ บนเนื้อที่ 150 ไร่เศษ โดยใช้เป็นที่เรียนของนักศึกษาชั้นปีที่ 1 มาจนถึงปัจจุบัน ด้วยความเป็นมหาวิทยาลัยตลาดวิชา ระบบการศึกษาของมหาวิทยาลัยรามคำแหงจึงเปิดโอกาสให้นักศึกษาสามารถเลือกวิธีเรียนที่เหมาะสมกับความต้องการและความจำเป็นของแต่ละบุคคล จึงจัดให้มีการบรรยายในชั้นเรียน สำหรับผู้ที่จะเข้าฟังบรรยายในชั้นเรียน และจัดให้มีสื่อการสอนทางไกลเพื่อศึกษาด้วยตนเอง เช่น ตำราเรียน การบรรยายผ่านวิทยุและโทรทัศน์ ตลอดจนอินเทอร์เน็ต เพื่อให้ นักศึกษาที่มีภาระการงาน หรืออยู่ในท้องถิ่นห่างไกลไม่สามารถเดินทางมาเรียนอย่างสม่ำเสมอได้ อย่างไรก็ตาม ในบางสาขาวิชาที่ต้องมีการฝึกปฏิบัติหรือจำเป็นต้องศึกษาจากผู้สอนอย่างใกล้ชิด มหาวิทยาลัยหรือภาควิชาอาจกำหนดให้นักศึกษาต้องเข้าชั้นเรียน โดยเฉพาะ คณะวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ รวมถึงคณะอื่น ๆ ในบางรายวิชา
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยมีกระบวนวิชาที่เปิดสอน ในระดับปริญญาตรีประมาณ 1,900 กระบวนวิชา ระดับปริญญาโท 130 กระบวนวิชาจัดการศึกษาครอบคลุมทางด้านสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์สุขภาพ ทุกระดับจำนวนทั้งสิ้น 256 หลักสูตร เป็นระดับปริญญาตรี 111 หลักสูตร ประกาศนียบัตรบัณฑิต 8 หลักสูตร ปริญญา จัดการสอนในหลักสูตรระดับอนุปริญญา 23 สาขาวิชา ระดับปริญญาตรี 60 สาขาวิชา ระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต 1 สาขาวิชาระดับ ปริญญาโท 30 สาขาวิชา โดยมีคณะวิชาที่รับผิดชอบ 8 คณะ และหน่วยงานเทียบเท่าคณะรับผิดชอบการเรียนการสอนในระดับบัณฑิตศึกษาอีก 1 หน่วยงาน รวมทั้งคณะวิศวกรรมศาสตร์ หลักสูตรปริญญาเอก และหลักสูตรภาคภาษาอังกฤษ และเปิดคณะศิลปกรรมศาสตร์ คณะพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ คณะธุรกิจการบริการ คณะสาธารณสุขศาสตร์
กลุ่มสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์
กลุ่มวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
กลุ่มวิทยาศาสตร์สุขภาพ
- สถาบันวิทยาศาสตร์สุขภาพ (ยุบตามมติสภามหาวิทยาลัยรามคำแหง)
- คณะสาธารณสุขศาสตร์
- คณะทัศนมาตรศาสตร์
นอกจากนี้ ยังมีหลายหน่วยงานที่จัดหลักสูตรการเรียนการสอนสำหรับนักศึกษา อาทิ สถาบันภาษา, กองกิจการนักศึกษา เป็นต้น อีกทั้งทางมหาวิทยาลัยยังมีหน่วยงานที่จัดการเรียนการสอนเฉพาะระดับสูงกว่าปริญญาตรีอีกด้วย อันได้แก่ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยรามคำแหง และสถาบันภาษา
กลุ่มบัณฑิตศึกษา
หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับทางมหาวิทยาลัย
|
|
นอกจากนี้ ยังประกอบด้วย สำนักงานสาขาวิทยบริการเฉลิมพระเกียรติต่างประเทศ
พระราชทานปริญญาบัตร มหาวิทยาลัยรามคำแหง
วันที่ 26 พฤศจิกายน พุทธศักราช 2518 นับเป็นวันที่สำคัญยิ่งของชาวรามคำแหง เมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จพระราชดำเนินมาทรงประกอบพิธีเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช และประทับ ณ ห้องรามคำแหงอนุสรณ์ถือเป็นความภาคภูมิใจหนึ่งของมหาวิทยาลัยและชาวรามคำแหง เพราะเป็นห้องที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถประทับพักพระราชอิริยาบถ ทรงฉลองพระองค์ชุดครุย และวันเดียวกันในช่วงบ่ายมีพิธีทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญานิติศาสตรดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ทางสังคมวิทยา แด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ จากนั้นพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิตมหาวิทยาลัยรามคำแหงรุ่นแรก ณ บริเวณหน้าสำนักหอสมุดกลางฯ มหาวิทยาลัยรามคำแหงจึงจารึกวันมหามงคลนี้ กำหนดเป็นวันสถาปนามหาวิทยาลัยอย่างเป็นทางการ
พระราชทานพระบรมราโชวาท
หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานปริญญาบัตรแล้ว ได้พระราชทานพระบรมราโชวาทแก่บัณฑิต ความตอนหนึ่งว่า...
...มหาวิทยาลัยรามคำแหงนี้เป็นมหาวิทยาลัยในแบบที่ให้โอกาสแก่
ผู้ปรารถนาวิชาความรู้ ให้เข้ามาศึกษาค้นคว้าวิทยาการต่างๆ ได้อย่างกว้างขวาง และอย่างอิสระจึงอำนวยประโยชน์ได้มาก ในด้านสนับสนุนส่งเสริมบุคคลทั่วไป และโดยเฉพาะผู้ที่ทำงานแล้ว ให้ได้ฟื้นฟูเพิ่มพูนความสามารถของตนทางด้านวิชาการ เพื่อนำไปปรับปรุง การงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และยกฐานะหน้าที่ให้สูงขึ้น มหาวิทยาลัยมีความมุ่งหมายสำคัญประการหนึ่งที่จะส่งเสริม ผู้ที่เข้ามาศึกษาดังนี้ผู้ที่สำเร็จการศึกษาแล้วทุกคนควรจะได้มองเห็น และควรที่จะได้น้อมนำมาเป็นคติในการดำเนินชีวิต และการงานต่อไป โดยทำความตั้งใจและความเพียรให้มั่นคง ในอันที่จะฝึกฝนและปรับปรุงตนเอง ในการทำงานให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพ และสำคัญที่สุดควรจะได้พยายาม หาทางนำความคิดวิทยาการซึ่งอุตส่าห์ฝึกฝนศึกษามาได้ด้วยยากนั้นมาใช้ ให้เป็นประโยชน์แก่ส่วนรวมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อความ
เจริญมั่นคงของชาติบ้านเมืองของเรา...
— พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ภูมิพลอดุลยเดช
พระราชทานปริญญาบัตรปัจจุบัน
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีเสด็จพระราชดำเนินแทนพระองค์ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยวิทยาลัยรามคำแหง ณ หอประชุมพ่อขุนรามคำแหงมหาราช
สถานที่พระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรก
ห้องรามคำแหงอนุสรณ์ตั้งอยู่บริเวณอาคาร 1 ชั้น 1 สำนักหอสมุดกลาง ภายในห้องรามคำแหงอนุสรณ์นั้นแบ่งเป็น 3 ส่วนด้วยกัน ในส่วนที่ 1 เป็นส่วนของห้องรับรองที่ทรงใช้ประทับพักพระราชอิริยาบถ และเสวยพระสุธารส พระราชอาสน์ทุกองค์ที่ประดิษฐานอยู่ในส่วนนี้เป็นของเดิมทั้งหมด ที่ทางสำนักหอสมุดกลางได้ดูแล และเก็บรักษาเป็นอย่างดี และให้คงอยู่ในสภาพเดิมมากที่สุด ส่วนที่ 2 และ3 เป็นห้องทรงฉลองพระองค์ครุย ทรงเปลื้องพระองค์ครุย ทรงแต่งพระวรกาย เครื่องใช้ส่วนพระองค์ที่อยู่ในส่วนนี้ทุกองค์ก็ได้รับการดูแลไว้เป็นอย่างดีที่สุดเช่นกัน
ปัจจุบันทางสำนักหอสมุดกลางได้ปรับปรุงห้องรามคำแหงอนุสรณ์ให้เป็นห้องสำหรับจัดนิทรรศการ แสดงพระบรมฉายาลักษณ์ พระบรมราโชวาทที่พระราชทานแก่บัณฑิตรุ่นแรกในวันที่ 26 และ 27 พฤศจิกายน 2518 พระราชนิพนธ์ และสิ่งของที่จัดทำเป็นที่ระลึกเนื่องในวโรกาสต่างๆ อาทิ เหรียญที่ระลึก เรือใบจำลอง (เรือมด) และอื่นๆ รวมทั้งใช้เป็นสถานที่เก็บรวบรวมสารนิเทศที่เกี่ยวข้องกับงานพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของบัณฑิตรุ่นแรก เช่นหนังสืออนุสรณ์บัณฑิตรุ่นแรก หนังสือพิมพ์ข่าวรามคำแหงฉบับปฐมฤกษ์ หนังสือพิมพ์ข่าวรามคำแหงที่จัดพิมพ์เป็นพิเศษเนื่องในวันพระราชทานปริญญาบัตรครั้งแรกเป็นต้น พร้อมทั้งเปิดให้ผู้ที่สนใจเข้าชม ศึกษาหาความรู้ และร่วมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของทั้งสองพระองค์ ที่ทรงมีต่อผสกนิกรชาวรามคำแหง
รายนามอธิการบดีและรักษาราชการแทนอธิการบดี
นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงปัจจุบัน มหาวิทยาลัยรามคำแหงมี อธิการบดี มาแล้ว 9 ท่าน และ ผู้รักษาราชการแทนอธิการบดี อีก 2 ท่าน ดังรายนามต่อไปนี้
ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยรามคำแหง
ตลอดระยะเวลา 41 ปี ที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยรามคำแหงมีความภูมิใจในบัณฑิตและศิษย์เก่าที่สำเร็จการศึกษาไปแล้วกว่า 8 แสนคน ซึ่งศิษย์เก่าเหล่านี้ได้นำวิชาความรู้ไปสร้างสรรค์สังคม และประสบความสำเร็จในวิชาชีพมีความก้าวหน้าในหน้าที่การงานอย่างเป็นที่ประจักษ์ชัด
- อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร,สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร,อดีตนายกรัฐมนตรี,อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์
- บรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี,อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร,ฯลฯ , ศิษย์เก่ามหาวิทยาลัยรามคำแหง
- ชัย ชิดชอบ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, อดีตประธานรัฐสภา, อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร, ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์
- ร.ต.อ.ดร.เฉลิม อยู่บำรุง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน,อดีตรองนายกรัฐมนตรี,รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม,กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข
- นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์
- ชินวรณ์ บุณยเกียรติ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ,อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์
- วิทวัส บุญญสถิตย์ สมาชิกวุฒิสภา, อดีตสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์
- จตุพร พรหมพันธุ์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร,พิธีกรรายการโทรทัศน์, แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์
- พล.อ.ดร.สนธิ บุญยรัตกลิน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร, อดีตรองนายกรัฐมนตรี, อดีตผู้บัญชาการทหารบก ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์
- พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา อดีตผู้บัญชาการทหารบก ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์
- พล.ต.คมสัน มานวกุล แม่ทัพน้อยที่ 2,อดีตผู้ช่วยเสนาธิการกองทัพบก ฝ่ายกิจการพลเรือน ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์
- รศ.ดร.ปณิธาน วัฒนายากร อดีตรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง,อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์
- ศ.ดร.บรรเจิด สิงตะเนติ คณบดี คณะนิติศาสตร์ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์,กรรมการปฏิรูปกฎหมาย,อดีตอาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์,อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์
- ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย คณบดีคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย,ผอ.ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ศิษย์เก่าคณะเศรษฐศาสตร์
- ผศ.ดร.อัทธ์ พิศาลวานิช ผอ.ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ศิษย์เก่าคณะเศรษฐศาสตร์
- รศ.คิม ไชยแสนสุข อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง,อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ศิษย์เก่าคณะเศรษฐศาสตร์
- ชวลิต สุจริตกุล ผู้พิพากษาอาวุโส อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา(คนแรกของรามคำแหง) ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์
- ศิริชัย วัฒนโยธิน ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์
- ชีพ จุลมนต์ ประธานศาลอุทธรณ์ภาค 1 ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์
- ชัยยุทธ ศรีจำนงค์ ผู้พิพากษาศาลฎีกา ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์
- สราวุธ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์
- สุวิจักขณ์ นาควัชระชัย เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์
- มงคล สุระสัจจะ อดีตอธิบดีกรมการปกครอง อดีตอธิบดีกรมพัฒนาชุมชน อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์
- รังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ รองอธิบดีกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ศิษย์เก่าคณะบริหารธุรกิจ
- วิบูลย์ลักษณ์ ร่วมรักษ์ อธิบดีกรมการค้าภายใน , อดีตรองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพานิชย์ ศิษย์เก่าคณะเศรษฐศาสตร์
- นิรันดร์ กัลยาณมิตร รองอธิบดีกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย (กลุ่มภารกิจด้านสนับสนุนการบริหารงานแบบบูรณาการ) ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์
- เสรี สุวรรณภานนท์ อดีตสมาชิกวุฒิสภากรุงเทพมหานคร,อดีตรองประธานสภาร่างรัฐธรรมนูญ (พ.ศ. 2550) คนที่1, ทนายความ ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์
- เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ สมาชิกวุฒิสภา,อดีตข้าราชการ กองตรวจเงินรัฐวิสาหกิจและเงินทุน สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน,อดีตที่ปรึกษาผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ศิษย์เก่าคณะบริหารธุรกิจ
- ประมาณ เลืองวัฒนะวณิช ทนายความ, พิธีกรรายการโทรทัศน์, ที่ปรึกษาผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์
- วันชัย สอนศิริ ทนายความ,พิธีกรรายการโทรทัศน์, อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์
- ไตรภพ ลิมปพัทธ์ พิธีกรรายการโทรทัศน์ ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์
- แอนดรูว์ บิ๊กส์ พิธีกรรายการโทรทัศน์,ผู้ประกาศข่าว ศิษย์เก่าคณะมนุษยศาสตร์
- อดิศักดิ์ ศรีสม พิธีกรรายการโทรทัศน์,พิธีกรและผู้ประกาศข่าว สทท. ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์
- สุวิช สุทธิประภา บรรณาธิการข่าวฝ่ายข่าวภายในประเทศ สำนักข่าวไทย อสมท ผู้ประกาศข่าว รายการ คุยโขมงข่าวเช้า และ คุยโขมงบ่าย 3 โมง ทางโมเดิร์นไนน์ทีวี ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์
- ศรราม เทพพิทักษ์ นักร้อง, นักแสดง ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์
- เจริญ สิริวัฒนภักดี นักธุรกิจชาวไทย ประธานกรรมการบริษัทไทยเบฟเวอเรจ ระดับปริญญาตรี ,ระดับปริญญาโท จากคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- ดร.ณัฐกฤตย์ ณ ชุมพร ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์,นักบริหาร,เจ้าของกิจการไร่กาแฟ, เจ้าของผลิตภัณฑ์กาแฟคั่วสดยี่ห้อ Hilly Coffee กาแฟดีติดอันดับโลกของคนไทย, ปริญญาตรี,โท,เอก มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- รศ.พรชัย ลิขิตธรรมโรจน์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์
- ภราดร ศรีชาพันธุ์ อดีตนักเทนนิสอันดับ 9 ของโลก ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์
- ต่าย อรทัย ศิลปินนักร้องลูกทุ่ง,ศิษย์เก่าคณะมนุษยศาสตร์ วิชาเอกสื่อสารมวลชน (ภาคพิเศษ)
- ร.อ.หญิง อารีย์ วิรัฐถาวร นักกีฬายกน้ำหนักเหรียญทองแดง โอลิมปิก 2004 ศิษย์เก่าคณะมนุษยศาสตร์ เอกสื่อสารมวลชน
- เจิมมาศ จึงเลิศศิริ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์
- ชาดา ไทยเศรษฐ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์
- จีระนันท์ มะโนแจ่ม นักแสดง ศิษย์เก่าคณะมนุษยศาสตร์ เอกสื่อสารมวลชน
- แอนดริว เกร้กสัน นักแสดง ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์
- ศกลรัตน์ วรอุไร นักร้อง นักแสดง ศิษย์เก่าคณะรัฐศาสตร์ภาคพิเศษ
- อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ นักแสดง นักร้อง ศิษย์เก่าคณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ
- พลตรี ขัตติยะ สวัสดิผล ศิษย์เก่าปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์บัณฑิตภาคพิเศษ
- จิระศักดิ์ ปานพุ่ม (แมว) นักร้อง นักดนตรีชาวไทย ศิษย์เก่าปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์
- ลีนา จังจรรจา นักธุรกิจชาวไทย มีชื่อเสียงจากการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในปี 2547, 2551 และ 2552 ศิษย์เก่าคณะนิติศาสตร์
- วิชัย รักศรีอักษร นักธุรกิจชาวไทยที่มีชื่อเสียง ปัจจุบันเป็นเจ้าของกลุ่มกิจการคิง เพาเวอร์ และประธานสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ในอังกฤษ ปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต (รัฐศาสตร์)
- คุณหญิงปัทมา ลีสวัสดิ์ตระกูล ปริญญาบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาบริหารธุรกิจ ,ปริญญาเศรษฐศาสตรบัณฑิต สาขาเศรษฐศาสตร์ ,ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาการบริหารทั่วไป มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- ปวีณา หงสกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ , ระดับปริญญาตรี ศิลปศาสตรบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ ,ระดับปริญญาโท ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต คณะรัฐศาสตร์ ,ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิตกิตติมศักดิ์ สาขาวิชาศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- ท่านผู้หญิงวิระยา ชวกุล กรรมการมูลนิธิสายใจไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ประธานกรรมการ และเลขาธิการมูลนิธิบำรุงขวัญทหาร ตำรวจ อาสาสมัครชายแดน ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ประธานกรรมการมูลนิธินพรัช-รัตนโกสินทร์ กรรมการมูลนิธิศาสตราจารย์นายแพทย์หม่อมราชวงศ์กัลยาณกิติ์ กิติยากร สำเร็จการศึกษาปริญญาตรีรัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- ร้อยตำรวจเอก ดร. นิติภูมิ นวรัตน์ ปริญญาตรีรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
ศิษย์ปัจจุบันมหาวิทยาลัยรามคำแหง
- ศิรินทรา ยายี (เมย์) ทายาทรุ่นที่7 ของพระนางมัสสุหรี เจ้าหญิงแห่งเกาะลังกาวี รัฐเกดะห์ ประเทศมาเลเซีย,คณะมนุษยศาสตร์ เอกภาษาอังกฤษ
- ชาลี ไตรรัตน์ (แน็ก) นักแสดงภาพยนตร์ชาวไทย คณะรัฐศาสตร์
- เปาวลี พรพิมล (เปา) นักร้องลูกทุ่งและนักแสดงหญิงชาวไทย,คณะมนุษยศาสตร์ เอกสื่อสารมวลชน
- ภรภัสสรณ์ ชัยอนันต์นิธิ (ไอซ์ AF9 ) สุดยอดนักล่าฝันAF9 นักร้องไทย,คณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขาดนตรีไทยสมัยนิยม วิชาเอกดนตรีลูกกรุง (ขับร้องดนตรีลูกกรุง)
- วราวุธ โพธิ์ยิ้ม (ตั้ม เดอะสตาร์9) แชมป์เดอะสตาร์9 นักร้องไทย,คณะนิติศาสตร์ สาขาวิชานิติศาสตร์
- มาริโอ้ เมาเร่อ (โอ้) นักแสดงชาวไทย,นักร้องชาวไทย,คณะมนุษยศาสตร์ เอกสื่อสารมวลชน
- พัชรวลัย พงษ์ภมร (น้ำมน) ดาวมหาวิทยาลัยรามคำแหงปี2555,นางแบบ,ถ่ายแบบโฆษณา,นักแสดงชาวไทยปี2556(เข้าวงการหลังประกวด)
- ภูวดล เวชวงศา (เจมส์) รองอันดับ 1 ฝ่ายชาย เดือนมหาวิทยาลัยรามคำแหงปี2555,นายแบบ,นักแสดงชาวไทยปี2556(เข้าวงการหลังประกวด)
- ณิชารีย์ โชคประจักษ์ชัด (วาววา )ดารานักแสดงชาวไทย , คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
การจัดอันดับมหาวิทยาลัย
การจัดอันดับโดย เว็บโอเมตริกซ์ (Webometrics) ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อแสดงความตั้งใจของสถาบันต่าง ๆ ในการเผยแพร่ความรู้สู่เว็บไซต์ และเป็นความริเริ่มเพื่อส่งเสริมการเข้าถึงความรู้อย่างเปิดกว้าง (Open Access) ทั่วโลก โดยบ่งบอกถึงปริมาณและคุณภาพของสิ่งตีพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ของสถาบัน เพื่อใช้ร่วมกับตัวชี้วัดอื่น ๆ ในการประเมินผลงานวิจัยของสถาบัน ซึ่งทางเว็บโอเมตริกซ์ได้จัดอันดับปีละ 2 ครั้งในเดือนมกราคม และกรกฎาคม ล่าสุดเดือนมกราคม พ.ศ. 2556 มหาวิทยาลัยรามคำแหง อยู่ในอันดับที่ 894 ของโลก อันดับที่ 181 ของทวีปเอเชีย อันดับที่ 13 ของมหาวิทยาลัยในประเทศไทย[3]
อ้างอิง
ดูเพิ่ม
- มหาวิทยาลัยตลาดวิชา
- มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช มหาวิทยาลัยเปิดแห่งเดียวของประเทศไทย
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- เฟสบุ๊คเพจ กองทุน ม.รามคำแหง
- เว็บชุมชนนักศึกษา
- Interner Radio & TV
- นักศึกษาภาควิทยาการคอมพิวเตอร์
- แผนที่และภาพถ่ายทางอากาศของ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- ภาพถ่ายดาวเทียมจากวิกิแมเปีย หรือกูเกิลแมปส์
- แผนที่จากลองดูแมป หรือเฮียวีโก
- ภาพถ่ายทางอากาศจากเทอร์ราเซิร์ฟเวอร์