ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฮอนด้า แอคคอร์ด"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 101: | บรรทัด 101: | ||
==Generation ที่ 9 (รุ่นปี พ.ศ. 2556-ปัจจุบัน)== |
==Generation ที่ 9 (รุ่นปี พ.ศ. 2556-ปัจจุบัน)== |
||
[[ไฟล์:'13 Honda Accord Sedan.JPG|thumb|ฮอนด้า แอคคอร์ด โฉมที่ 9]] |
[[ไฟล์:'13 Honda Accord Sedan.JPG|thumb|ฮอนด้า แอคคอร์ด โฉมที่ 9]] |
||
โฉมนี้มี2 ตัวถังคือ คูเป้ 2 ประตู และ ซีดาน4 ประตู ระบบเกียร์มี 4 ระบบ คือ 6 สปีด ธรรมดา,ออโต้,CVTและ 5 สปีด โดยต่อไปนี้ แอคคอร์ดจะใช้โฉมเดัยวกันท้งโลก มีรุ่น plug in hybrid ซึ่งใช้ระบบไฮบริดโดยการชาร์จไฟฟ้าอีกด้วย โดยเผยโฉมคูเป้เป็นคอนเซปคาร์ครั้งแรกในงานดีทรอยมอเตอร์โชว์ปี2012 ขายจริงในเดือนกันยายนปีเดียวกันโดยมีตัวถัง2แบบคือซีดานและคูเป้เหมือนเคยโดยมีเครื่องยนต์3แบบคือ2400cc Earth dream I-VTECเบนซินฉีดตรง 185แรงม้า 3500cc 278แรงม้า และ 2000cc hybrid 196แรงม้าซึ่งเปิดตัวในงาน LA Autoshowในภายหลังสำหรับบ้านเราเปิดตัวเมื่อวันที่11มีนาคม2556 |
โฉมนี้มี2 ตัวถังคือ คูเป้ 2 ประตู และ ซีดาน4 ประตู ระบบเกียร์มี 4 ระบบ คือ 6 สปีด ธรรมดา,ออโต้,CVTและ 5 สปีด โดยต่อไปนี้ แอคคอร์ดจะใช้โฉมเดัยวกันท้งโลก มีรุ่น plug in hybrid ซึ่งใช้ระบบไฮบริดโดยการชาร์จไฟฟ้าอีกด้วย โดยเผยโฉมคูเป้เป็นคอนเซปคาร์ครั้งแรกในงานดีทรอยมอเตอร์โชว์ปี2012 ขายจริงในเดือนกันยายนปีเดียวกันโดยมีตัวถัง2แบบคือซีดานและคูเป้เหมือนเคยโดยมีเครื่องยนต์3แบบคือ2400cc Earth dream I-VTECเบนซินฉีดตรง 185แรงม้า 3500cc 278แรงม้า และ 2000cc hybrid 196แรงม้าซึ่งเปิดตัวในงาน LA Autoshowในภายหลังสำหรับบ้านเราเปิดตัวเมื่อวันที่11มีนาคม2556 ใช้เครื่องตัวเดิม2000ccI-VTEC155แรงม้าและ Earthdreamที่ไม่ใช่ฉีดครง174แรงม้าโดยไม่มีรุ่นv6ขายแล้วและเติมE85ได้ด้วยในราคาที่คุ้มค่ากับออฟชันที่ได้มา |
||
{{clear}} |
{{clear}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:13, 5 กรกฎาคม 2556
ฮอนด้า แอคคอร์ด | |
---|---|
ภาพรวม | |
บริษัทผู้ผลิต | ฮอนด้า |
เริ่มผลิตเมื่อ | พ.ศ. 2519 - ปัจจุบัน |
ตัวถังและช่วงล่าง | |
รูปแบบตัวถัง | 2 ประตู รถคูเป้, รถซีดาน 4 ประตู, 5 ประตู วาก้อน |
รุ่นที่คล้ายกัน | โตโยต้า คัมรี่/โคโรน่า นิสสัน เซฟิโร่/เทียน่า มิตซูบิชิ กาแลนต์ มาสด้า 6 ฮุนได โซนาต้า โฟล์กสวาเกน พาสสาต ซูบารุ เลกาซี ฟอร์ด ทอรัส คาดิแลค ซีทีเอส เมอร์คิวรี มิลาน |
ระบบส่งกำลัง | |
เครื่องยนต์ | เครื่อง 4 สูบ เครื่องฮอนด้าK เครื่อง 6 สูบ เครื่องฮอนด้าJ |
ระยะเหตุการณ์ | |
รุ่นก่อนหน้า | ฮอนด้า 1300 |
ฮอนด้า แอคคอร์ด เป็นรถซีดานขนาดกลางที่ผลิตและพัฒนาโดยบริษัทฮอนด้าโดยเริ่มต้นสายการผลิตในปี พ.ศ. 2519 ในประเทศญี่ปุ่น โดยเครื่องที่ออกมาตัวแรกคือเครื่อง 1600 ซีซี ซึ่งนับเป็นรถขนาดกลาง โดยรูปทรงที่ออกมามีลักษณะใกล้เคียงกับ ฮอนด้า ซีวิคในรุ่นเดียวกัน ในช่วงที่แอคคอร์ดถูกออกแบบมาใหม่ๆ แอคคอร์ดถูกกำหนดให้ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบโดยเฉพาะ ซึ่งกำหนดให้สภาพเครื่องยนต์แตกต่างจากซีวิค แต่เนื่องจากเหตุการณ์วิกฤติเศรษฐกิจ และภาวะน้ำมันแพงในระยะต่อมา ทางฮอนด้าได้มีการปรับเปลี่ยนระบบต่างๆ รวมทั้งเครื่องยนต์ โดยได้ปรับปรุงและพัฒนาออกมาเป็นเป็น 2 รุ่นหลักอย่างที่เห็นในปัจจุบัน คือ รุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 4 สูบ และรุ่นที่ใช้เครื่องยนต์ 6 สูบ
แอคคอร์ดจะแบ่งรุ่นตามขนาดและอุปกรณ์เสริมภายในรถ ได้แก่รุ่น DX, LX, EX โดยจะเรียงจากอุปกรณ์เสริมน้อยและขนาดเล็ก ถึงอุปกรณ์เสริมมากและขนาดใหญ่ ยกตัวอย่างที่เห็นได้ชัด เช่น
- รุ่นปี 2005 แอคคอร์ด LX ไม่มีมูนรูฟ ขณะที่ EX มีมูนรูฟ
- รุ่นปี 2005 แอคคอร์ด DX มาพร้อมกับ ลำโพง 2 ตัว ขณะที่ LX และ EX มาพร้อมกับลำโพง 6 ตัว
นอกจากแบ่งตามขนาดแล้ว ยังแบ่งตามลักษณะของเกียร์เหมือนรถยนต์ทั่วๆ ไป คือ เกียร์กระปุก และเกียร์ออโต้
ฮอนด้า แอคคอร์ด โฉมที่ 1-4 จัดอยู่ในประเภทรถยนต์ขนาดเล็ก , โฉมที่ 5-9 จัดอยู่ในประเภทรถยนต์ขนาดกลาง (ยกเว้นโฉมที่ 8 เฉพาะตัวถังแบบ Sedan ที่มีมูนรูฟ จัดอยู่ในประเภทรถยนต์ขนาดใหญ่)
สายการผลิต
โรงงานผลิตรถของ ฮอนด้า แอคคอร์ด ตั้งอยู่ทั่วโลกเพื่อรองรับปริมาณการสั่งซื้อจากทั่วโลก โดยแยกดังต่อไปนี้
- เมืองแมรีส์วิลล์ รัฐโอไฮโอ สหรัฐอเมริกา (แอคคอร์ด/แอคคอร์ด V6 สำหรับทวีปอเมริกาเหนือ)
- Guadalajara, ฮาลิสโค, ประเทศเม็กซิโก (แอคคอร์ด สำหรับทวีปอเมริกาใต้)
- เมืองซายามะ, ไซตามะ, ประเทศญี่ปุ่น (อินสไปร์/แอคคอร์ด 2.4 LX สำหรับทวีปอเมริกาเหนือ)
- กว่างโจว, ประเทศจีน (แอคคอร์ด/แอคคอร์ด V6 สำหรับประเทศจีนและฮ่องกง)
- พระนครศรีอยุธยา ประเทศไทย (แอคคอร์ด/แอคคอร์ด V6 สำหรับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้)
รถยนต์ฮอนด้า แอคคอร์ดที่ผลิตมานั้น จนถึงปัจจุบันมีทั้งหมด 9 Generation (โฉม) ได้แก่
Generation ที่ 1 (รุ่นปี พ.ศ. 2519-2524)
โฉมแรกนี้ ทำออกมาทั้งสิ้น 6 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี พ.ศ. 2519 - พ.ศ. 2524 โดยรุ่นบุกเบิกมีเครื่องยนต์ขนาด 68 แรงม้า แต่ว่ารุ่นปี พ.ศ. 2523 นั้น ยังผลิตอยู่จนถึง พ.ศ. 2524 จึงเลิกผลิต โดยในสมัยนั้น ระบบเกียร์อัตโนมัตินั้น ยังไม่ถูกพัฒนาเท่าที่ควร ระบบอัตโนมัติได้กินพื้นที่กระปุกเกียร์ จึงไม่สามารถติดเฟืองเกียร์ได้มากเหมือนเกียร์ธรรมดา ในโฉมแรกนี้ ระบบเกียร์มี 3 ระบบ คือ เกียร์ธรรมดา 5 ระดับเกียร์เดินหน้า กับเกียร์อัตโนมัติ 2 กับ 3 ระดับเกียร์เดินหน้า ดังนั้น การมีเกียร์น้อย ทำให้มีปัญหาในด้านของการใช้น้ำมันอย่างสิ้นเปลือง จึงไม่ค่อยมีคนซื้อ แต่ก็ยังมีการผลิต แต่โฉมนี้ ก็เป็นโฉมแรกและโฉมเดียวที่มีการผลิตเกียร์อัตโนมัติ 2 กับ 3 ระดับเกียร์เดินหน้าด้วย โดยเปิดตัวในปี1976โดยเป็นตัวถัง3ประตูในตอนแรกใช้แพลตฟอร์มเดียวกับซีวิค ใช้เครื่องยนต์เบนซิน1600cc 68แรงม้า ต่อมาในเดือนตุลาคมปี1977ก็ออกรุ่น4ประตูซีดานและปรับกำลังเพิ่มขึ้นเป็น72แรงม้า ในปี1978ก็ออกรุ่นเบนซิน1800cc ในปี1980ก็ออกรุ่นเกียร์อัตโนมัติ3สปีดจากเดิมแค่2สปีดให้เลือก โดยในเจเนอเรชันแรกนี้มีขายในประเทศไทยเพียงไม่กี่คัน คู่แข่งที่สำคัญในเวลานั้นคือ โตโยต้า โคโรน่ามาสด้า 626 ดัทสัน 510 มิตซูบิชิ กาแลนต์ ด้านตัวถัง โฉมแรกนี้แอคคอร์ดมีตัวถังเพียง 2 แบบ คือ Hatchback 3 ประตู กับ Sedan 4 ประตู มีเครื่องยนต์ให้เลือก 2 ขนาดคือ 1.6 กับ 1.8 ลิตรสำหรับในประเทศไทย แอคคอร์ดรุ่นนี้มีการนำเข้ามาขายไม่กี่คันเท่านั้นจากการนำเข้าของ เอเชียน ฮอนด้า
Generation ที่ 2 (รุ่นปี พ.ศ. 2525-2528)
โฉมที่ 2 นี้ ผลิตออกมาทั้งสิ้น 4 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี พ.ศ. 2525 - พ.ศ. 2528 เปิดตัวกันยายนปี1981ในญี่ปุ่นและยุโรปส่วนอเมริกาเหนือในปี1982 และยังมีฝาแฝดขายในชื่อvigorแอคคอร์ดรุ่นนี้เป็นแอคคอร์ดรุ่นแรกที่ฮอนด้านำไปขึ้นไลน์ประกอบในอเมริกาและเป็นรุ่นแรกที่นำมาขายในไทยอย่างเป็นทางการ และในปี1984ก็นำเครื่องหัวฉีดPGMiมาใข้เป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นโดยรุ่น1800cc carburator มี110แรงม้า 1800cc หัวฉีดPGM-Fi โดย1600ccตัวเก่ายังอยู่ในปี1983ก็มีรุ่นเกียร์อัตโนมัติ4สปีดและยังมีรุ่นพิเศษspecial editionมีหลังคาซันรูฟ กระจกไฟฟ้า เบาะหนังอีกด้วยสำหรับประเทศไทยมีจำหน่ายรุ่นเดียวคิอ1800cc carburator 100แรงม้า
Generation ที่ 3 (รุ่นปี พ.ศ. 2529-2532)
โฉมที่ 3 นี้ ผลิตมาทั้งสิ้น 4 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี พ.ศ. 2529 - พ.ศ. 2532 เปิดตัวครั้งแรกมิถุนายน1985ที่ญี่ปุ่นในยุโรปและอเมริกาตามมาภายหลังนักเลงรถบ้านเราเรียกว่ารุ่นท้ายดำแดงสองชั้นใช้แพลตฟอร์มเดียวกับโดยรุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่ใช้ช่วงล่างดับเบิลวิชโบนอิสระทั้ง4ล้อและมีระบบเบรคABSให้เลิอกด้วยในรุ่นดิสก์เบรค4ล้อเป็นรุ่นเดียวที่ไฟหน้าเป็นไฟแบบpopupรุ่นแรกและรุ่นเดียวแต่รุ่นที่ขายในไทยเป็นแบบธรรมดามีรุ่นเครื่องยนต์1600cc 1800ccและ2000cc นอกจากนี้ยังมีตัวถังหลายแบบ3ประตูhatchback 3ประตู shootingbrake เรียกว่า Accord Aerodeck และ2ประตู มาในปี1987และขายกันถึงปี1989ได้รับรางวัลรถยนต์นั่งยอดเยี่ยมแห่งปีของญี่ปุ่นประจำปี1985-1986อีกด้วยในไทยนั้นเป็นเครื่อง2000cc105แรงม้าปัจจุบันหาได้ยากแล้วบนท้องถนนในไทย
Generation ที่ 4 (รุ่นปี พ.ศ. 2533-2536)
โฉมนี้ ผลิตมาทั้งสิ้น 4 ปี ตั้งแต่รุ่นปี พ.ศ. 2533 - พ.ศ. 2536 เปิดตัวครั้งแรกในปี1989ใช้พื้นฐานทางวิศวกรรมร่วมกับhonda ascot ,honda vigorและhonda inspireที่เน้นตลาดบนมากกว่าพี่น้องร่วมสายพันธ์โฉมนี้นับว่าเป็นรุ่นที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในไทยและในอเมริกายังเป็นรถยนต์นั่งที่ขายดีที่สุดถึง3ปีซ้อนอีกด้วย นักเลงรถบ้านเราเรียกว่ารุ่นตาเพชรก็เนื่องจากไฟหน้าเป็นมัลติรีเฟลกเตอร์เมื่อมองแล้วมีลักษณะเหมือนเพชรที่แวววาวจึงเรียกว่าตาเพชร โดยโฉมนี้มีเครื่องยนต์1800cc 2000cc และ2200cc125แรงม้า 130แรงม้าและ140แรงม้าแต่ในไทยมีแต่รุ่น2000ccเท่านั้นและมีให้เลือกคือเกียร์ออโต้เครื่องหัวฉีดคือEXI เกียร์ธรรมดาคาร์บิวเรเตอร์คิอEXเกียร์ธรรมดาหัวฉีดคือLXIเกียร์ธรรมดาคาร์บิวเรเตอร์คือLXรุ่นคาร์บิวเรตอร์มี110แรงม้าและรุ่นหัวฉีด130แรงม้าโดยรุ่นนี้นำถุงลมนิรภัยมาใช้เป็นครั้งแรกโดยรุ่นแรกจำหน่ายในไทยปี1990และรุ่นไมเนอร์เชนจ์ออกเมื่อปี1992โดยเปลี่ยนไฟเล้ยวใหม่ ไฟท้ายใหม่ที่กลับไฟเบรคมาอยู่ข้างบนไฟเลี้ยวนักเลงรถเรียกรุ่นนี้ว่าไฟท้ายสั้นโดยขายจนถึงปี1994 รุ่นนี้ไม่มีตัวถัง3ประตูแล้ว โดยตัวถัง5ประตูขายในยุโรปชื่อ Aerodeck
Generation ที่ 5 (รุ่นปี พ.ศ. 2536-2540)
โฉมนี้ ผลิตออกมาทั้งสิ้น 4 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี พ.ศ. 2536 - พ.ศ. 2540 ขายในปี1994โดยในโฉมนี้ที่ขายในญี่ปุ่นกับยุโรปเป็นคนละโมเดลกันโดยอเมริกายังเป็นโมเดลเดียวกับญี่ปุ่นโดยรุ่นที่ขายในยุโรปญี่ปุ่นขายในญี่ปุ่นในชื่อAscot Innova โดยใช้พื้นฐานวิศวกรรมเดียวกับฮอนด้าพรีลูด และยังขายในชื่อ rover 800และisuzu aska อีกด้วยในเวอร์ชันญี่ปุ่นส่วนเวอร์ชันยุโรปยังขายในชื่อrover 600อีกด้วยและขยับขนาดตัวถังจากรถยนต์นั่งขนาดเล็กเป็นขนาดกลาง ได้รับการวางเครื่องยนต์รหัส F18B ซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาพต์ 4 สูบ 16 วาล์ว 1,849 ซีซี 125 แรงม้า, รหัส F20B ซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาพต์ 1,997 ซีซี 135 แรงม้า, รหัส F22B ซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาพต์ 2,156 ซีซี 145 แรงม้า และแรงสุดในรหัส H22A ทวินแคม VTEC 2,156 ซีซี 190 แรงม้าซึ่งบลอกนี้เป็นเครื่องที่คนที่ใช้รุ่นตาเพชรและรุ่นนี้ที่ต้องการความแรงเพิ่มต่างถวิลหากันที่จะเอามาวางต่อมา2700cc v6 H23A 2300ccและ2000ccดีเซลเครื่องroverโดย2บลอคหลังเฉพาะเวอร์ชันยุโรปและRover 600 เกียร์อัตโนมัติ ระบบกันสะเทือนปีกนกคู่ ระบบเบรกหน้าดิสก์-หลังดรัม (เฉพาะรุ่น SiR เป็นดิสก์เบรก4ล้อ)แต่ในประเทศไทยขายในต้นปี1994มีทั้งประกอบนอกและประกอบในโดยในรุ่นนี้นักเลงรถบ้านเราเรียกว่ารุ่นไฟท้ายก้อนเดียวเพราะมีไฟท้ายชิ้นเดียวบนฝากระโปรงโดยในรุ่นแรกเป็นเครื่อง2200ccvtec145แรงม้าตัวประกอบนอกVti-s และ140แรงม้าตัวประกอบใน โดยตัวประกอบนอกมีหลังคาซันรูฟและเบาะหนังแท้อีกด้วยและรุ่นไมเนอร์เชนจ์มาในปี1996โดยนักเลงรถบ้านเราเรียกว่ารุ่นไฟท้าย2ก้อนเพราะมีไฟท้าย2ชิ้นขายถึงปี1997โดยในช่วงเจเนอเรชันนี้โตโยต้าทนไม่ไหวที่จะขายโตโยต้า โคโรนาอย่างเดียวจึงสั่งโตโยต้า แคมรีจากออสเตรเลียเข้ามาขาย ควบคู่ไปด้วย
Generation ที่ 6 (รุ่นปี พ.ศ. 2541-2545)
โฉมนี้ ผลิตออกมาทั้งสิ้น 5 ปี ตั้งแต่รุ่นปี พ.ศ. 2541 - พ.ศ. 2545 โดยตัวถังนี้แบ่งเป็น3เวอร์ชันคือญี่ปุ่น ยุโรปและอเมริกาโดยบ้านเราตัวถังเดียวกับอเมริกาโดยในญี่ปุ่นเปิดตัวครั้งแรกในเดือนสิงหาคมปี1997และยังมีอีกโมเดลทีใช้พื้นฐานวิศวกรรมเหมือนกันชื่อhonda torneoและยังมีขายในชื่อisuzu askaโดยมีตัวถัง4ประตูซีดานและ5ประตูwagonโดยมีเครื่องยนต์ดังนี้ F18B 4 สูบ VTEC ซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาพต์ 1,849 ซีซี 140 แรงม้า, F20B 4 สูบVTEC ซิงเกิลโอเวอร์เฮดแคมชาพต์ 1,997 ซีซี148 แรงม้า มีรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อให้เลือก และรหัส F20B(ในรุ่น SiR) 4 สูบ VTEC ทวินแคม 16 วาล์ว 1,997 ซีซี 180 แรงม้าและH22A 220แรงม้าในรุ่นEuro R2.0L ส่วนเวอร์ชันอเมริกานั้นเปิดตัวในปี1997ใกล้เคียงกันโดยเวอร์ชันนี้เป็นเวอร์ชันเดียวกับของไทยโดยมีตัวถัง2ประตูคูเปและ4ประตูซีดาน โดยมีเครื่องยนต์ดังนี้F20B5 I4 147 hp(110 kW)2.3L F23A1 I4 150 hp(112 kW)2.3L F23A4 I4 148 hp(110 kW)2.3L F23A5 I4 135 hp (101 kW) 3.0L J30A1 V6 200 hp (150 kW)ส่วนในเวอร์ชันยุโรปมีทั้งตัวถัง4ประตูซีดานและhatchbackโดยมีเครื่องยนต์1800cc 2000cc และ H22A 2200cc 220แรงม้าและยังมีดีเซลตัวเดิมอีกด้วยแต่สำหรับประเทศไทยนักเลงรถบ้านเราเรียกว่ารุ่นงูเห่าโดยมีเครื่องยนต์3ตัวคือ 2300cc 140แรงม้าในรุ่นหัวฉีดธรรมดาโดยรุ่นvtecมี150แรงม้าและ3000cc v6 vtec 200แรงม้าโดยเปิดตัวปลายปี1997และไมเนอร์เชนจ์ในปี2001โดยเปลี่ยนกันชนหน้าใหม่กระจังหน้าใหม่ขายจนถึงต้นปี2003
Generation ที่ 7 (รุ่นปี พ.ศ. 2546-2550)
โฉมนี้ ผลิตออกมาทั้งสิ้น 5 รุ่นปี ตั้งแต่รุ่นปี พ.ศ. 2546 - พ.ศ. 2550 โดยรุ่นนี้เปิดตัวปี2002ส่วนอเมริกาปี2003และยังแบ่งเป็น2เวอร์ชันคือเวอร์ชันญี่ปุ่นกับยุโรปเวอร์ชันเดียวกันและอเมริกากับบ้านเราเวอร์ชันเดียวกันในญี่ปุ่นขายแอคคอร์ดเวอร์ชันอเมริกาในชื่อinspire ในเวอร์ชันญี่ปุ่นมีตัวถัง2แบบคือ4ประตูsedanและwagon5ประตูมีเครื่องยนต์2000ccI-VTEC,2400ccI-VTECดีเซล2200ccI-DTECและยังมีเวอร์ชันตัวแรงEuro R ใช้เครื่องยนต์2000ccรหัสK20A 200แรงม้าซึ่งเป็นตัวเดียวกับที่อยูในซีวิคไทพ์อาร์ ส่วนเวอร์ชันอเมริกานั้นมีตัวถัง2แบบคือ2ประตูcoupeและ4ประตูsedanโดยรุ่นนี้มีเกียร์ออโต5สปีดและธรรมดา6lสปีดเป็นครั้งแรกอีกด้วย โดยมีเครื่องยนต์2ขนาดคือ2400cc ,v63000ccและยังมีรุ่นhybrid อีกด้วยโดยใช้เครื่องยนต์3000cc v6 I-VTEC พร้อมเทคโนโลยีใหม่VCMลูกสูบแปรผันอัจฉริยะโดยควบคุมการทำงานของลูกสูบให้ทำงานให้เหมาะสมให้กำลัง255แรงม้าและ16แรงม้าจากมอเตอร์ไฟฟ้าใช้เกยร์กึ่งอัตโนมัติ5สปีดคลัทซ์คู่อีกด้วยและไมเนอร์เชนจ์ในปี2005โดยเปลี่ยนไฟหน้าและไฟท้ายเป็นแบบชิ้นเดียวLEDฝากระโปรงท้ายใหม่ส่วนในประเทศไทยนักเลงรถบ้านเราเรียกรุ่นนี้ว่ารุ่นปลาวาฬเปิดตัวครั้งแรกในต้นปี2003รุ่นนี้เป็นรุ่นแรกที่มีถุงลมนิรภัยด้านข้างโดยมีเครื่องยนต์2ขนาดคือ2400cc I-VTEC160แรงม้าและ3000ccI-VTEC v6 220แรงม้าต่อมาปี2005ก็มีรุ่น2000cc I-VTEC 150 แรงม้าออกมาและไมเนอร์เชนจ์ในปี2006โดยเปลี่ยนไฟหน้าไฟท้ายแบบใหม่เป็นชิ้นเดียวLEDและฝากระโปรงท้ายแบบใหม่ และปรับกำลังเครื่อง2400ccจาก160แรงม้าเป็น170แรงม้าแต่รุ่นนี้โฉมไมเนอร์เชนจ์เห็นไม่ค่อยเยอะเท่าไรบนถนนเมืองไทยเนื่องจากช่วงนั้นโตโยต้าออก แคมรีไหม่มาสกัดดาวรุ่งพอดีและขายถึงในปลายปี2007
Generation ที่ 8 (รุ่นปี พ.ศ. 2551-2555)
โดยรุ่นนี้ก็แบ่งเป็น2เวอร์ชันตัวถังอีกตามเคยคือเวอร์ชันยุโรปกับญี่ปุ่น มีขายในอเมริกาชื่ออคูรา ทีเอสเอกซ์และอเมริกากับบ้านเราเวอร์ชันเดียวกันขายในญี่ปุ่นในชื่อhonda inspireเหมือนเคย เวอร์ชันยุโรปเปิดตัวในปี2008ที Geneva motorshowและมึตัวถัง2แบบเหมือนเคยคือ4ประตูsedanและ5ประตูwagonในชื่อAccord Tourerมีเครื่องยนต์ 2000cc,2400ccและ2200ccตัวเดิมทั้งหมดและยังขายมาถึงปัจจุบัน ส่วนเวอร์ชันอเมริกานั้นเปิดเผยคอนแซบคาร์ของรุ่นนี้ในรุ่นตัวถังcoupeในงานดีทรอยมอเตอร์โชว์ปี2007โดยเริ่มขายกันจริงๆในเดือนกันยายนปีเดียวกันและมี2แบบเหมือนเคยคือ2ประตูคูเป้และ4ประตูsedanมีเครื่องยนต์ดังนี้R20A 2000cc 2400ccK24Z2177แรงม้าและK24Z3190แรงม้า J35Z2 v63500cc271 แรงม้า J35Z3 v63500cc nonvcm 268แรงม้า และ turbodiesel 2200ccโดยในปี2010ก็ออกรุ่น Accord Crosstour ซึ่งเป็นsuvที่มีพื้นฐานมาจากแอคคอร์ดรุ่นนี้ใช้เครื่อง2400ccและ3500ccตัวเดิม และในปี2010ก็ไมเนอร์เชนจ์โดยเปลี่ยนกระจังหน้าและกันชนหน้าใหม่สำหรับประเทศไทยนั้นเปิดตัวในปลายปี2007ช่วงงานมอเตอร์เอกซ์โปพอดีซึ่งมีเครื่องยนต์3ขนาดคือR20A 2000cc 156แรงม้า K24Z2 180แรงม้า และv6 I-VTEC VCM3500cc 275 แรงม้าและเติมE20ได้มาใช้เป็นครั้งแรกที่มีระบบ VCM ระบบลูกสูบแปรผันอัตโนมัติโดยรุ่นนี้มีเนวิเกเตอร์พร้อมฮาร์ดดิสก์ด้วยในรุ่น2400ccและv6 3500ccไมเนอร์เชนจ์ในปี2010โดยเปลี่ยนกันชนหน้าใหม่และกระจังหน้าใหม่อีกด้วยในรุ่น2000ccนั้นได้มีเนวิเกเตอร์แล้วในปลายปี2011ได้เกิดมหาอุทกภัยในประเทสไทยทำให้โรงงานไม่สามารถผลิตรถออกมาขายได้ฮอนด้าประเทศไทยจึงนำเข้าaccordจากญี่ปุ่นที่ขายในญี่ปุ่นในชื่อinspireมาขาย2รุ่นคือ2000ccและ2400ccข้อสังเกตคือคันที่เป็นรถนำเข้านั้นจะมีหลังคาซันรูฟและไฟหน้าซีนอนแต่ก็ขายไม่ค่อยดีเท่าช่วงต้นโมเดลสักเท่าไรโดยขายกันมาจนถึงมีนาคม2013 และโฉมที่ 8 นี้ สามารถรองรับน้ำมันพลังงานทดแทนพิเศษ แก๊สโซฮอล์ E20 ได้ ซึ่งเป็นพลังงานทดแทนใหม่ของประเทศไทยที่สามารถช่วยลดมลพิษได้
ฮอนด้า แอคคอร์ด โฉมที่ 8 นี้ ได้รับรางวัล รถยนต์ยอดเยี่ยมแห่งปี (Thailand Car of the Year 2009) ในประเภทรถยนต์ขนาดกลาง ในรุ่นไม่เกิน 2,500 ซีซี (Best Mid-size Sedan under 2,500 cc.)
Generation ที่ 9 (รุ่นปี พ.ศ. 2556-ปัจจุบัน)
โฉมนี้มี2 ตัวถังคือ คูเป้ 2 ประตู และ ซีดาน4 ประตู ระบบเกียร์มี 4 ระบบ คือ 6 สปีด ธรรมดา,ออโต้,CVTและ 5 สปีด โดยต่อไปนี้ แอคคอร์ดจะใช้โฉมเดัยวกันท้งโลก มีรุ่น plug in hybrid ซึ่งใช้ระบบไฮบริดโดยการชาร์จไฟฟ้าอีกด้วย โดยเผยโฉมคูเป้เป็นคอนเซปคาร์ครั้งแรกในงานดีทรอยมอเตอร์โชว์ปี2012 ขายจริงในเดือนกันยายนปีเดียวกันโดยมีตัวถัง2แบบคือซีดานและคูเป้เหมือนเคยโดยมีเครื่องยนต์3แบบคือ2400cc Earth dream I-VTECเบนซินฉีดตรง 185แรงม้า 3500cc 278แรงม้า และ 2000cc hybrid 196แรงม้าซึ่งเปิดตัวในงาน LA Autoshowในภายหลังสำหรับบ้านเราเปิดตัวเมื่อวันที่11มีนาคม2556 ใช้เครื่องตัวเดิม2000ccI-VTEC155แรงม้าและ Earthdreamที่ไม่ใช่ฉีดครง174แรงม้าโดยไม่มีรุ่นv6ขายแล้วและเติมE85ได้ด้วยในราคาที่คุ้มค่ากับออฟชันที่ได้มา