ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สโมสรฟุตบอลทรูแบงค็อก ยูไนเต็ด"
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม) ล โรบอต: เปลี่ยนจาก หมวดหมู่:สโมสรฟุตบอลไทย ไปยัง หมวดหมู่:สโมสรฟุตบอลในประเทศไทย |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 9: | บรรทัด 9: | ||
capacity = 10,000| |
capacity = 10,000| |
||
owner = [[ทรูวิชั่นส์]]| |
owner = [[ทรูวิชั่นส์]]| |
||
chairman = {{Flagicon|Thailand}} [[ |
chairman = {{Flagicon|Thailand}} [[ขจร เจียรวนนท์]]| |
||
mgrtitle = ผู้จัดการทีม| |
mgrtitle = ผู้จัดการทีม| |
||
manager = {{Flagicon|Thailand}} [[สะสม พบประเสริฐ]]| |
manager = {{Flagicon|Thailand}} [[สะสม พบประเสริฐ]]| |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:27, 29 มิถุนายน 2556
- ระวังสับสนกับ สโมสรฟุตบอลกรุงเทพมหานคร ในลีกดิวิชัน 1
ชื่อเต็ม | Bangkok United Football Club สโมสรฟุตบอลแบงค็อก ยูไนเต็ด | |||
---|---|---|---|---|
ฉายา | Bangkok Angels (แข้งเทพ) | |||
ก่อตั้ง | 1988 (ในชื่อ สโมสรฟุตบอลมหาวิทยาลัยกรุงเทพ) 2009 (ในชื่อ สโมสรฟุตบอลแบงค็อก ยูไนเต็ด) | |||
สนาม | ศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น) กรุงเทพ, ประเทศไทย | |||
ความจุ | 10,000 | |||
เจ้าของ | ทรูวิชั่นส์ | |||
ประธาน | ขจร เจียรวนนท์ | |||
ผู้จัดการทีม | สะสม พบประเสริฐ | |||
ลีก | ไทยพรีเมียร์ลีก | |||
2012 | ดิวิชัน 1, อันดับที่ 3 (เลื่อนชั้น) | |||
|
สโมสรฟุตบอลแบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นสโมสรฟุตบอลในประเทศไทย เคยชนะเลิศการแข่งขันไทยพรีเมียร์ลีก 1 สมัย ในปี 2549 และได้รับสิทธิไปร่วมเล่นใน เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก ในอดีตเคยใช้ชื่อ สโมสรฟุตบอลมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จนกระทั่งปี พ.ศ. 2552 มหาวิทยาลัยกรุงเทพ ได้มีการร่วมเป็นพันธมิตรกับ กรุงเทพมหานคร ที่เข้ามาเป็นผู้สนับสนุน จึงมีการเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น แบงค็อก ยูไนเต็ด มาจนถึงปัจจุบัน
ประวัติสโมสร
ปี 2505 - 2530
สโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ด ฟุตบอลคลับ ได้ถือกำเนิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2505 ซึ่งในขณะนั้นใช้ชื่อว่า “สโมสรฟุตบอลมหาวิทยาลัยกรุงเทพ” จากปณิธานตั้งมั่นของผู้บริหารและคณาจารย์มหาวิทยาลัยที่ต้องการสร้างสรรค์มหาวิทยาลัยให้เป็นสถาบันอุดมศึกษาที่มีคุณภาพชั้นนำของประเทศ ซึ่งนอกเหนือจากมุ่งส่งเสริมด้านการเรียน เพื่อผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพออกสู่สังคมแล้ว มหาวิทยาลัยยังให้ความสำคัญกับการสนับสนุนกิจกรรมการกีฬา โดยจัดให้มีศูนย์กีฬาและสนามกีฬาเพื่อให้บริการแก่นักศึกษา บุคลากรตลอดจนบุคคลภายนอก และได้ส่งทีมนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันตามคำเชิญของหน่วยงานและองค์กรต่างๆ อย่างต่อเนื่อง และฟุตบอลถือเป็นกีฬาหนึ่ง ที่มหาวิทยาลัยได้ส่งสโมสรฟุตบอลเข้าร่วมการแข่งขันเรื่อยมา
ปี 2531 - 2544
เมื่อเข้าสู่ปี 2531 สโมสรฟุตบอลมหาวิทยาลัยกรุงเทพได้ร่วมเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ จนได้เข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วย พระราชทานประเภท ง. ก่อนจะสามารถเลื่อนระดับชั้นสู่ถ้วยพระราชทานประเภท ค. ในปี 2533 ก่อนจะไต่ลำดับขึ้นไปแข่งในถ้วยพระราชทานประเภท ข. ในปี 2534 จากการบ่มเพาะฝึกฝนพัฒนาทักษะของทีมเรื่อยมา ปี 2543 สโมสรฟุตบอลมหาวิทยาลัยกรุงเทพก็ได้รับตำแหน่งรองชนะเลิศถ้วยพระราชทานประเภท ข. ทำให้ได้รับสิทธิ์ให้เข้าร่วมการแข่งขันในไทยลีก ดิวิชั่น 1 และจบฤดูกาล 2544/2545 ด้วยการครองอันดับ 3
ปี 2545 - 2551
ในฤดูกาลแข่งขัน 2545/2546 สโมสรได้คว้าแชมป์ชนะเลิศฟุตบอลไทยลีก ดิวิชั่น 1 ทำให้ได้รับสิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นไปเล่นฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก ครั้งที่ 8 ซึ่งถือเป็นผลงานในระดับที่ดีที่สุดครั้งแรกของการก่อตั้งสโมสร และถือเป็นทีมสโมสรเดียวจากสถาบันการศึกษาที่สามารถเลื่อนชั้นขึ้นไปแข่งขันในระดับลีกสูงสุดของประเทศได้โดยที่มีนักกีฬาส่วนใหญ่มาจากนักศึกษาและศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัย จนมาถึงการเข้าร่วมแข่งขันในไทยลีก ครั้งที่ 3 ในฤดูกาล 2549 สโมสรฟุตบอลมหาวิทยาลัยกรุงเทพก็สามารถคว้าชัยชนะในระดับสูงสุดของระบบลีกฟุตบอลไทยได้สำเร็จ จากการร่วมแข่งขันทั้งหมด 16 ทีม ทำให้ได้สิทธิ์เป็นตัวแทนประเทศไทยเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก และได้รับเชิญจากสมาคมฟุตบอลประเทศสิงคโปร์ให้เข้าร่วมการแข่งขัน ฟุตบอลสิงคโปร์คัพ 2007 ซึ่งทีมได้ผลงานกลับมาในอันดับ 3 และจบฤดูกาลด้วยอันดับที่ 4 ในไทยพรีเมียร์ลีก ส่วนผลแข่งขันจากรายการเอเอฟซีแชมเปียนส์ ลีก 2007 จับฉลากได้อยู่ในสายเอฟ ซึ่งแข่งขันกับทีมคาวาซากิ ฟรอนตาเล่ จากญี่ปุ่น อาเรมามาลังจากอินโดนีเซีย และชุนนัม ดรากอนส์จากเกาหลีใต้ โดยมี การแข่งขันทั้งหมด 6 นัด ทีมมหาวิทยาลัยกรุงเทพเสมอ 3 และแพ้ 3 ซึ่งแม้จะไม่ผ่าน รอบแรกแต่ก็เป็นความภาคภูมิใจและเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาทีมสู่การแข่งขันอาชีพระดับนานาชาติ
ปี 2552 - 2553
ปี 2552 สโมสรฟุตบอลมหาวิทยาลัยกรุงเทพได้เปลี่ยนชื่อมาเป็น “แบงค็อก ยูไนเต็ด ฟุตบอลคลับ” จากการร่วมเป็นพันธมิตรกับ กรุงเทพมหานคร ด้วยหลักการและเหตุผลที่ต้องการพัฒนาทีมของมหาวิทยาลัยให้เป็นทีมของชาวกรุงเทพฯ และเพื่อยกระดับมาตรฐานฟุตบอลอาชีพของไทยสู่ความเป็นมืออาชีพอย่างเต็มตัว ทำให้มีการปรับเปลี่ยนของสโมสรหลายอย่าง เช่น การเปลี่ยน ตัวประธานสโมสรจากเรือโทหญิงสุธี บูรณธนิต เป็นนายอภิรักษ์ โกษะโยธิน และเปลี่ยน สัญลักษณ์ ตลอดจนสีชุดแข่งขันจากสีประจำมหาวิทยาลัยกรุงเทพเป็นสีประจำของกรุงเทพมหานคร รวมทั้งย้ายสนามแข่งขันจากสนามมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต มาเป็นสนามศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ล่าสุดเมื่อเดือนต้นเดือนมีนาคม 2553 กลุ่มทรู คอร์ปอเรชั่น ได้เข้าร่วมสนับสนุนโดยการถือหุ้นรายใหญ่ของสโมสรแบงค็อก ยูไนเต็ด ฟุตบอลคลับ เพื่อสร้างโอกาสเติบโตให้เกิดแก่วงการฟุตบอลไทย และเริ่มจัดตั้ง "สถาบันสอนฟุตบอลกรุงเทพมหานคร" หรือ “แบงค็อก ฟุตบอล อคาเดมี” จากความร่วมมือของกรุงเทพมหานคร พร้อมกับสร้างปูทางสู่ระดับนานาชาติให้กับทีมด้วยการดึงนักเตะต่างชาติมาเข้าร่วมทีม ตลอดจนรวมพลนักเตะระดับชาติที่มีชื่อหลายคนมาเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทีม ด้วยเป้าหมายสำคัญกับการขึ้นสู่อันดับ 1 ใน 5 ของไทยพรีเมียร์ลีก แต่สโมสรก็ทำผลงานได้อย่างน่าผิดหวังจนจบฤดูกาลในปี 2552 และ 2553 ด้วยอันดับ 13 และ 15 ตามลำดับ ตกชั้นสู่ ไทยลีก ดิวิชัน 1 ในฤดูกาลต่อมา
ปี 2554 - 2555
หลังจากตกชั้นลงสู่ไทยลีก ดิวิชั่น 1 สโมสรก็ได้ตั้งเป้าหมายในการกลับขึ้นไปแข่งขันในไทยพรีเมียร์ลีกซึ่งเป็นลีกสูงสุดของประเทศอีกครั้ง ด้วยการเปลี่ยนแปลงทีมใหม่ทั้งหมดเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งและสร้างรากฐานให้มีความพร้อมในการเป็นสโมสรฟุตบอลชั้นนำของประเทศ โดยในฤดูกาล 2554 สโมสรจบการแข่งขันด้วยอันดับ 6 ของไทยลีก ดิวิชั่น 1 พลาดการเลื่อนชั้นสู่ไทยพรีเมียร์ลีกอย่างน่าเสียดาย สำหรับในฤดูกาล 2555 ภายใต้การนำของผู้ฝึกสอน สะสม พบประเสริฐ แม้จะออกสตาร์ทช่วงต้นฤดูกาลไม่ดีนัก แต่ด้วยความร่วมมือร่วมใจกันของทุกฝ่ายสโมสรจึงกลับมาทำผลงานได้ดีในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาล ส่งผลให้จบฤดูกาลด้วยอันดับ 3 คว้าตั๋วใบสุดท้ายเลื่อนชั้นสู่ไทยพรีเมียร์ลีกในที่สุด
ปี 2556
สนามแข่งขัน
สนามเหย้า
สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ถือเป็นส่วนหนึ่งของศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย–ญี่ปุ่น) หรือ Bangkok Youth Centre (Thai-Japan) ภายใต้การกำกับ ดูแลของกรุงเทพมหานคร ถูกสร้างขึ้นจากความร่วมมือระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นและรัฐบาล ไทยเนื่องในโอกาสที่ประเทศไทยได้จัดงานเฉลิมฉลองครบรอบ 200 ปีกรุงรัตนโกสินทร์ โดยมติจากคณะรัฐบาลในสมัยนั้น (ฯพณฯ พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์) ได้อนุมัติให้สร้างศูนย์เยาวชนนี้ขึ้นที่บริเวณสนามกีฬาดินแดงเดิมของกรุงเทพมหานคร รวมเนื้อที่ประมาณ 73 ไร่ ภายใต้งบประมาณร่วมประมาณ 300 ล้านบาทเศษ ใช้ระยะเวลาสร้างประมาณ 2 ปี (กุมภาพันธ์ 2523 -ตุลาคม 2524) ประกอบด้วยสนามกีฬาต่างๆ มากมาย ทั้งสนามฟุตบอลพร้อมลู่วิ่งมาตรฐานซึ่งสามารถจุคนดูได้ถึง 6,600 ที่นั่ง สนามอเนกประสงค์ที่ใช้ในการแข่งขันกีฬาในร่มทุกประเภท สนามยูโด สนามมวย สนามกีฬากลางแจ้ง และสระว่ายน้ำ ฯลฯ ซึ่งได้เปิดบริการให้กับประชาชนทั่วไปที่สมัครเป็นสมาชิกรายปี
ปัจจุบันสนามกีฬาศูนย์เยาวชนไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ถือเป็นสนามเหย้าของสโมสร ฟุตบอลแบงค็อก ยูไนเต็ด ฟุตบอล คลับ (BANGKOK UNITED FOOTBALL CLUB) มาตั้งแต่ปี 2552
สนามฝึกซ้อม
สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต (สนามเหย้าเดิม) อยู่ในเขตพื้นที่ของมหาวิทยาลัยกรุงเทพ วิทยาเขตรังสิต ปัจจุบันใช้เป็นสนามฝึกซ้อมของสโมสร
ผู้เล่นและทีมงานชุดปัจจุบัน
ผู้เล่น
- ณ วันที่ 23 มีนาคม 2556
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
|
|
ทีมงาน
ตำแหน่ง | สัญชาติ | ชื่อ |
---|---|---|
ประธานสโมสร | ขจร เจียรวนนท์ | |
ผู้จัดการทีม | อ.สมหมาย ดอกไม้ | |
ผู้ข่วยผู้จัดการทีม | อ.อาคม สมุทรโคจร | |
ที่ปรึกษาสโมสร | ประกาศิต โบสุวรรณ | |
หัวหน้าผู้ฝึกสอน | สะสม พบประเสริฐ | |
ผู้ช่วยผู้ฝึกสอน | สุวโรจน์ อภิวัฒน์วราชัย, นิสสัน พบประเสริฐ | |
ผู้ฝึกสอนผู้รักษาประตู | นิพนธ์ มาลานนท์ | |
นักกายภาพบำบัด | ตระกูล ไชยสงคราม, ณัฐ ณ สงขลา | |
เจ้าหน้าที่ทีม | จักรกริช สิริวัฒนาศาสตร์, วรวุฒิ ทิพยศักดิ์วารกุล |
ทำเนียบผู้ฝึกสอน
ชื่อ | สัญชาติ | ระยะเวลา | ความสำเร็จ |
---|---|---|---|
สมชาย ทรัพย์เพิ่ม | 2549-มีนาคม 2553 | ชนะเลิศ ไทยพรีเมียร์ลีก 2549 | |
วรกร วิจารณรงค์ | มีนาคม 2553-กรกฎาคม 2553 | ||
ทวีรักษ์ สิทธิพูลทอง | กรกฎาคม 2553-สิงหาคม 2553 | ||
ประพล พงษ์พานิช | สิงหาคม 2553-ตุลาคม 2554 | ||
สุวโรจน์ อภิวัฒน์วราชัย | ตุลาคม 2554-พฤศจิกายน 2554 | ||
สะสม พบประเสริฐ | พฤศจิกายน 2554-ปัจจุบัน |
ผลงานที่ผ่านมา
เกียรติประวัติ
- ไทยพรีเมียร์ลีก ชนะเลิศ 1 ครั้ง (ฤดูกาล 2549)
- ไทยลีก ดิวิชั่น 1 ชนะเลิศ 1 ครั้ง (ฤดูกาล 2545/2546)
- เอเอฟซีแชมเปียนส์ลีก รอบแรก (ฤดูกาล 2549)
ผลงาน
ฤดูกาล/พ.ศ. | การแข่งขัน | ผลงาน |
---|---|---|
ไทยลีก ดิวิชั่น 1 | ชนะเลิศ (เลื่อนชั้นสู่ไทยพรีเมียร์ลีก) | |
ไทยพรีเมียร์ลีก | อันดับ 4 | |
ไทยพรีเมียร์ลีก | อันดับ 7 | |
ไทยพรีเมียร์ลีก | ชนะเลิศ | |
ไทยพรีเมียร์ลีก | อันดับ 4 | |
ไทยพรีเมียร์ลีก | อันดับ 10 | |
ไทยพรีเมียร์ลีก | อันดับ 13 | |
ไทยคม เอฟเอคัพ | รอบก่อนรองชนะเลิศ | |
ไทยพรีเมียร์ลีก | อันดับ 15 (ตกชั้นสู่ดิวิชัน 1) | |
โตโยต้า ลีกคัพ | รอบก่อนรองชนะเลิศ | |
ไทยคม เอฟเอคัพ | รอบ 16 ทีม | |
ไทยลีก ดิวิชั่น 1 | อันดับ 6 | |
โตโยต้า ลีกคัพ | รอบ 64 ทีม | |
ไทยคม เอฟเอคัพ | รอบ 2 | |
ไทยลีก ดิวิชั่น 1 | อันดับ 3 (เลื่อนชั้นสู่ไทยพรีเมียร์ลีก) | |
โตโยต้า ลีกคัพ | รอบแรก | |
ไทยคม เอฟเอคัพ | รอบ 3 |
ตารางคะแนน
เลื่อนชั้น คงที่ ตกชั้น
ฤดูกาล/พ.ศ. | การแข่งขัน | อันดับ | แข่ง | ชนะ | เสมอ | แพ้ | ประตูได้ | ประตูเสีย | ผลต่างประตู | คะแนน |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
2546/2547 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 4 | 18 | 9 | 4 | 5 | 26 | 22 | +4 | 31 |
2547/2548 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 7 | 18 | 5 | 7 | 6 | 16 | 21 | -5 | 22 |
2549 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 1 | 22 | 11 | 6 | 5 | 25 | 17 | +8 | 39 |
2550 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 4 | 30 | 14 | 5 | 11 | 39 | 36 | +3 | 47 |
2551 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 10 | 30 | 9 | 8 | 13 | 27 | 36 | -9 | 35 |
2552 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 13 | 30 | 5 | 15 | 10 | 24 | 34 | -10 | 30 |
2553 | ไทยพรีเมียร์ลีก | 15 | 30 | 5 | 9 | 16 | 25 | 52 | -27 | 24 |
2554 | ไทยลีก ดิวิชั่น 1 | 6 | 34 | 15 | 6 | 13 | 56 | 52 | +4 | 51 |
2555 | ไทยลีก ดิวิชั่น 1 | 3 | 34 | 23 | 5 | 6 | 57 | 29 | +28 | 74 |