ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ชะอม"
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม) ล ลบลิงก์ที่ซ้ำซ้อน wikidata |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 10: | บรรทัด 10: | ||
|genus = ''[[Acacia]]'' |
|genus = ''[[Acacia]]'' |
||
|species = '''''A. pennata''''' |
|species = '''''A. pennata''''' |
||
|binomial = ''Acacia pennata'' |
|binomial = ''Acacia pennata'' supsp. insuavis<ref>http://www.fortunecity.com/campus/springbank/677/std1/P8.html</ref> |
||
|binomial_authority = (L.) [[Willd.]] |
|binomial_authority = (L.) [[Willd.]] |
||
|}} |
|}} |
||
'''ชะอม'''เป็น[[พืช]] ที่นิยมรับประทานในทุกภาค เป็นพืชยื่นต้น ใช้ใบแก่และอ่อน เป็นสมุนไพร ของไทย ลำต้นของชะอมมีหนาม ใบมีขนาดเล็กและมีกลิ่นฉุน ใบอ่อนของชะอมหรือส่วนยอดของใบสามารถนำมารับประทานได้ มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปแต่ละภาค โดยมากมักปลูกตามรั้วบ้านเนื่องจากมีหนามแล้วยังเป็นผักที่ทานได้ตลาดทั้งปี พืชอีกชนิดหนึ่งที่พบในประเทศ ซึ่งเป็นคนละสปีชีส์ย่อยกับชะอมคือ[[ผักคา]]<ref>ปิยะ เฉลิมกลิ่น จิรพันธุ์ ศรีทองกุล และอนันต์ พิริยะภัทรกิจ. พรรณไม้ที่พบครั้งแรกในประเทศไทย. กทม. โครงการพัฒนาองค์ความรู้และศึกษานโยบายการจัดการทรัพยากรชีวภาพ. 2551 </ref> |
|||
'''ชะอม'''เป็น[[พืช]] ที่นิยมรับประทานในทุกภาค เป็นพืชยื่นต้น ใช้ใบแก่และอ่อน เป็นสมุนไพร ของไทย |
|||
==ข้อมูล== |
|||
ลำต้นของชะอมมีหนาม ใบมีขนาดเล็กและมีกลิ่นฉุน ใบอ่อนของชะอมหรือส่วนยอดของใบสามารถนำมารับประทานได้ มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปแต่ละภาค โดยมากมักปลูกตามรั้วบ้านเนื่องจากมีหนามแล้วยังเป็นผักที่ทานได้ตลาดทั้งปี |
|||
== ชื่อทางวิทยาศาสตร์ == |
|||
''Acacia Pennata (L.) '' Willd.Subsp.InsuavisNielsen<ref>http://www.fortunecity.com/campus/springbank/677/std1/P8.html</ref> |
|||
==การปลูก== |
==การปลูก== |
||
ปลูกโดย การปักชำ เพาะเมล็ดหรือตอนกิ่ง หรือการโน้มกิ่งลงดิน โดยไม่ได้ต่อตาหรือชำกิ่ง ส่วนมากใช้การเพาะเมล็ด เนื่องจากได้ต้นที่แข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศและยังมีหนามมากกว่าการปลูกด้วยวิธีปลูกแบบอื่น |
ปลูกโดย การปักชำ เพาะเมล็ดหรือตอนกิ่ง หรือการโน้มกิ่งลงดิน โดยไม่ได้ต่อตาหรือชำกิ่ง ส่วนมากใช้การเพาะเมล็ด เนื่องจากได้ต้นที่แข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศและยังมีหนามมากกว่าการปลูกด้วยวิธีปลูกแบบอื่น |
||
บรรทัด 32: | บรรทัด 23: | ||
* นำยอดชะอมมาต้มหรือลวก รับประทานร่วมกับ[[น้ำพริก]] |
* นำยอดชะอมมาต้มหรือลวก รับประทานร่วมกับ[[น้ำพริก]] |
||
* ใส่ลงพร้อมใข่เจียว |
* ใส่ลงพร้อมใข่เจียว |
||
หรือนำไปประยุกต์กับอาหารตามชอบ |
|||
== สรรพคุณทางยา == |
== สรรพคุณทางยา == |
||
บรรทัด 43: | บรรทัด 33: | ||
==แหล่งข้อมูลอื่น== |
==แหล่งข้อมูลอื่น== |
||
[[หมวดหมู่:ผัก]] |
[[หมวดหมู่:ผัก]] |
||
[[หมวดหมู่:อาเคเชีย]] |
|||
[[หมวดหมู่:สมุนไพร]] |
|||
{{โครงพืช}} |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:46, 26 มิถุนายน 2556
ชะอม | |
---|---|
ไฟล์:ชะอม.jpg | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Plantae |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Angiosperms |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Eudicots |
ไม่ได้จัดลำดับ: | Rosids |
อันดับ: | Fabales |
วงศ์: | Fabaceae |
สกุล: | Acacia |
สปีชีส์: | A. pennata |
ชื่อทวินาม | |
Acacia pennata supsp. insuavis[1] (L.) Willd. |
ชะอมเป็นพืช ที่นิยมรับประทานในทุกภาค เป็นพืชยื่นต้น ใช้ใบแก่และอ่อน เป็นสมุนไพร ของไทย ลำต้นของชะอมมีหนาม ใบมีขนาดเล็กและมีกลิ่นฉุน ใบอ่อนของชะอมหรือส่วนยอดของใบสามารถนำมารับประทานได้ มีชื่อเรียกแตกต่างกันไปแต่ละภาค โดยมากมักปลูกตามรั้วบ้านเนื่องจากมีหนามแล้วยังเป็นผักที่ทานได้ตลาดทั้งปี พืชอีกชนิดหนึ่งที่พบในประเทศ ซึ่งเป็นคนละสปีชีส์ย่อยกับชะอมคือผักคา[2]
การปลูก
ปลูกโดย การปักชำ เพาะเมล็ดหรือตอนกิ่ง หรือการโน้มกิ่งลงดิน โดยไม่ได้ต่อตาหรือชำกิ่ง ส่วนมากใช้การเพาะเมล็ด เนื่องจากได้ต้นที่แข็งแรง ทนทานต่อสภาพอากาศและยังมีหนามมากกว่าการปลูกด้วยวิธีปลูกแบบอื่น
รูปแบบการเพาะนำเมล็ดใส่ถุงพลาสติก รดน้ำวันละครั้ง เมื่อเมล็ดงอกทำการย้ายลงดิน ปลูกห่างกันประมาณ 1 เมตร บำรุงต้นด้วย ปุ๋ยสดหรือมูลสัตว์ การเก็บยอดควรเหลือยอดไว้ 3-4 ยอด เพื่อให้ต้นได้โต ควรปลูกในฤดูร้อนช่วยรดน้ำเจริญดีกว่าปลูกในฤดูฝนหากปลูกในฤดูฝนชะอม มีโอากาศเมล็ดเน่าได้มาก ชะอมไม่ค่อยมีโรคและแมลงมารบกวนหากพบโรคป้องกันโดยใช้ ปูนขาวโรยรอบโคนต้นหรือจุ่มท่อนพันธุ์ในน้ำปูนขาวก่อนปลูก ส่วนแมลงมีหนอนกินยอดชะอม ใช้ยาฆ่าแมลงฉีดทุก ๆ 8 วัน ควรเก็บยอดชะอมหลังฉีดยาแล้วไม่น้อยกว่า 7 วันสามารถเก็บเกี่ยวจากต้นที่ปลูกกิ่งตอนได้ประมาณ 10 -15 วัน ตัดยอดขายได้ ทุก ๆ 2 วัน ควรบำรุงและดูแลต้นอย่างสม่ำเสมอ
การรับประทาน
- นำยอดชะอมมาต้มหรือลวก รับประทานร่วมกับน้ำพริก
- ใส่ลงพร้อมใข่เจียว
สรรพคุณทางยา
รายอ้างอิง
- ↑ http://www.fortunecity.com/campus/springbank/677/std1/P8.html
- ↑ ปิยะ เฉลิมกลิ่น จิรพันธุ์ ศรีทองกุล และอนันต์ พิริยะภัทรกิจ. พรรณไม้ที่พบครั้งแรกในประเทศไทย. กทม. โครงการพัฒนาองค์ความรู้และศึกษานโยบายการจัดการทรัพยากรชีวภาพ. 2551
- ↑ http://www.fortunecity.com/campus/springbank/677/std1/P8.html
- ↑ http://www.eldercarethailand.com/index.php?option=com_content&task=view&id=476