ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จักรพรรดินีเซี่ยวจิ้งเฉิง"
ล เก็บกวาดแม่แบบเรียงลำดับ |
== พระราชประวัติ == '''จักรพรรดินีเสี้ยวจิ้งเฉิง''' ประสูติในรัชสมัยของจักรพรรดิเจียชิ่ง เป็น |
||
บรรทัด 60: | บรรทัด 60: | ||
'''จักรพรรดินีเสี้ยวจิ้งเฉิง''' ประสูติในรัชสมัยของ[[จักรพรรดิเจียชิ่ง]] เป็นบุตรีของนายฮังกียา (花良阿) เลขาธิการของชั้นสอง (员外郎) ในกระทรวงยุติธรรม ในราชสกุล '''เบอร์จิกิต''' จากมองโกล พระนางเสี้ยวจิงได้รับการคัดเลือกเข้าเป็นพระสนมของ[[จักรพรรดิเต้ากวง]] และได้รับพระราชทานยศศักดิ์เป็นพระสนมจิง (静贵人) ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 1826 ต่อมาให้กำเนิดเจ้าชายยี่กง (奕纲) พระราชโอรสพระองค์ที่สองใน[[จักรพรรดิเต้ากวง]] พระนางได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นจิงเฟย (静嫔) |
'''จักรพรรดินีเสี้ยวจิ้งเฉิง''' ประสูติในรัชสมัยของ[[จักรพรรดิเจียชิ่ง]] เป็นบุตรีของนายฮังกียา (花良阿) เลขาธิการของชั้นสอง (员外郎) ในกระทรวงยุติธรรม ในราชสกุล '''เบอร์จิกิต''' จากมองโกล พระนางเสี้ยวจิงได้รับการคัดเลือกเข้าเป็นพระสนมของ[[จักรพรรดิเต้ากวง]] และได้รับพระราชทานยศศักดิ์เป็นพระสนมจิง (静贵人) ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 1826 ต่อมาให้กำเนิดเจ้าชายยี่กง (奕纲) พระราชโอรสพระองค์ที่สองใน[[จักรพรรดิเต้ากวง]] พระนางได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นจิงเฟย (静嫔) |
||
ในเดือนธันวาคม 1835 พระนางเบอร์จิกิตได้เลื่อนยศเป็น'''จิงกุ้ยเฟย''' (静贵妃) ในปี 1840 |
ในเดือนธันวาคม 1835 พระนางเบอร์จิกิตได้เลื่อนยศเป็น'''จิงกุ้ยเฟย''' (静贵妃) ในปี 1840 ก่อนการสรรคตของ[[จักรพรรดิเต้ากวง]] พระนางก็รับการสถาปนาเป็น'''จิงหวงกุ้ยเฟย''' |
||
เมื่อ[[จักรพรรดิเต้ากวง]]เสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1850 เจ้าชายอี้จู่ได้ขึ้นครองราชสมบัติเฉลิมพระนามเป็น[[จักรพรรดิเสียนเฟิง]] พระนางทรงได้รับการการเฉลิมพระนามเป็น '''คังฉินหวงกุ้ยไท่เฟย''' และในปี 1852 ทรงดูแลของการคัดเลือกบุตรีขุนนางแมนจูที่จะเป็นพระสนมของ[[จักรพรรดิเสียนเฟิง]] ในบรรดาที่ถูกเลือกฮองเฮาและพระสนม ต่อมามีบทบาทเป็น[[ซูอันไทเฮา| |
เมื่อ[[จักรพรรดิเต้ากวง]]เสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1850 เจ้าชายอี้จู่ได้ขึ้นครองราชสมบัติเฉลิมพระนามเป็น[[จักรพรรดิเสียนเฟิง]] พระนางทรงได้รับการการเฉลิมพระนามเป็น '''คังฉินหวงกุ้ยไท่เฟย'''เนื่องจากหลังจาก[[จักรพรรดินีเซี่ยวฉวนเฉิง]]เสด็จสิ้นพระชนม์ พระมเหสีจิงฮองกุ้ยเฟย ได้ทรงทำการอภิบาลองค์มงกุฏราชกุมารและทำการดูแลพระราชวังฝ่ายใน ซึ่งที่จริงและทรงควรได้รับรับการสถาปนาเป็น สมเด็จพระพันปีหลวง ซึ่งสร้างความไม่พอพระทัยแก่องค์ชายหกยิ่งนัก และในปี ค.ศ.1852 ทรงดูแลของการคัดเลือกบุตรีขุนนางแมนจูที่จะเป็นพระสนมของ[[จักรพรรดิเสียนเฟิง]] ในบรรดาที่ถูกเลือกฮองเฮาและพระสนม ต่อมามีบทบาทเป็น[[ซูอันไทเฮา|จักรพรรดินีเจิน]]และ[[ซูสีไทเฮา|พระสนมอี้]] |
||
== สมเด็จพระพันปีหลวงในจักรพรรดิเสียนเฟิง == |
|||
ในวันที่ 21 สิงหาคม 1855 พระนางคังฉินไท่เฟยไทเฮาสิ้นพระชนม์โดยพระศพของพระนางถูกฝังไว้ในสุสานหลวงติงหลิง สองปีต่อมา พระนางคังฉินไท่เฟยถูกฝังอยู่ในหลุมฝังพระศพสำหรับพระมเหสีและพระสนมในสุสานราชวงศ์ชิง . และได้รับการสถาปนาเป็น '''เสี้ยวจิงไทเฮา'''(孝静皇后) ซึ่งแตกต่างจากพระมเหสีอื่นๆและได้รับพระนามเพิ่มเติมต่อท้ายนามว่า '''เฉิง (成)''' ต่อมาในรัชสมัย[[จักรพรรดิถงจื้อ]]สถาปนาพระนางเป็น "สมเด็จพระจักรพรรดินีเสี้ยวจิงเฉิน พระพันปีหลวง" ตามคำขอของ[[กงชินหวัง|เจ้าชายกงชินหวัง]] |
|||
ในเดือน สิงหาคม 1855 พระพันปีหลวงคังฉินทรงพระประชวรหนัก และด้วยแรงกดดันทางการเมือง[[จักรพรรดิเสียนเฟิง]]จึงทรงสถาปนาพระพันปีหลวงคังฉินขึ้นเป็น '''สมเด็จพระจักรพรรดินี พระพันปีหลวง''' ในวันที 13 สิงหาคม ค.ศ.1855 และอีกแปดวันต่อมาพระนางทรงสิ้นพระชนม์โดยพระศพของพระนางถูกฝังไว้ในสุสานหลวงติงหลิงและได้รับการสถาปนาเป็น '''สมเด็จพระจักรพรรดินีเสี้ยวจิง'''(孝静皇后) ซึ่งแตกต่างจากจักรพรรดินีองค์อื่นๆของจักรพรรดิเต้ากวงได้รับพระนามเพิ่มเติมต่อท้ายนามว่า '''เฉิง (成)''' ต่อมาในรัชสมัย[[จักรพรรดิถงจื้อ]][[กงชินหวัง|องค์ชายหก]]ได้เป็นที่ปรึกษาผู้สำเร็จราชการของยุวฮ่องเต้ จึงได้มีการเติมพระราชทินนานามต่อท้ายให้พระมารดาในสุสาน โดยการเติมคำว่า '''เฉิง (成)''' และสถาปนาพระนามเป็นเป็น "สมเด็จพระจักรพรรดินีเสี้ยวจิงเฉิง พระพันปีหลวง" ตามคำขอของ[[กงชินหวัง|เจ้าชายกงชินหวัง]] |
|||
== พระราชโอรส == |
== พระราชโอรส == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:24, 25 พฤษภาคม 2556
สมเด็จพระจักรพรรดินีเสี้ยวจิ้งเฉิง พระพันปีหลวง | |
---|---|
พระพันปีหลวงใน สมเด็จพระจักรพรรดิเสียนฟง | |
ก่อนหน้า | สมเด็จพระพันปีหลวงกงซือ |
ถัดไป | สมเด็จพระพันปีหลวงฉืออัน สมเด็จพระพันปีหลวงฉือสี |
สมเด็จพระจักรพรรดินีแห่งมหาจักรวรรดิชิง | |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 19 มิถุนายน 1812 |
เสียชีวิต | 21 สิงหาคม 1855 (รวมพระชันษา43 ปี) พระราชวังต้องห้าม ปักกิ่ง มหาจักรวรรดิชิง |
ศาสนา | พุทธศาสนา |
คู่สมรส | สมเด็จพระจักรพรรดิเต้ากวง |
จักรพรรดินีเสี้ยวจิ้งเฉิง(จีน: 孝静成皇后; พินอิน:Xiaojingcheng ) (19 มิถุนายน 1812 - 21 สิงหาคม 1855) เดิมเป็นพระสนมในจักรพรรดิเต้ากวงแห่งราชวงศ์ชิง แม้ว่าพระนางจะไม่เคยเป็นจักรพรรดินีตอนที่พระนางยังมีพระชนม์ชีพอยู่ พระนางก็ได้รับพระราชทานพระราชอิสริยยศนั้นในปี 1855 โดยจักรพรรดิถงจื้อ
พระราชประวัติ
จักรพรรดินีเสี้ยวจิ้งเฉิง ประสูติในรัชสมัยของจักรพรรดิเจียชิ่ง เป็นบุตรีของนายฮังกียา (花良阿) เลขาธิการของชั้นสอง (员外郎) ในกระทรวงยุติธรรม ในราชสกุล เบอร์จิกิต จากมองโกล พระนางเสี้ยวจิงได้รับการคัดเลือกเข้าเป็นพระสนมของจักรพรรดิเต้ากวง และได้รับพระราชทานยศศักดิ์เป็นพระสนมจิง (静贵人) ในวันที่ 22 พฤศจิกายน 1826 ต่อมาให้กำเนิดเจ้าชายยี่กง (奕纲) พระราชโอรสพระองค์ที่สองในจักรพรรดิเต้ากวง พระนางได้รับการเลื่อนตำแหน่งเป็นจิงเฟย (静嫔)
ในเดือนธันวาคม 1835 พระนางเบอร์จิกิตได้เลื่อนยศเป็นจิงกุ้ยเฟย (静贵妃) ในปี 1840 ก่อนการสรรคตของจักรพรรดิเต้ากวง พระนางก็รับการสถาปนาเป็นจิงหวงกุ้ยเฟย
เมื่อจักรพรรดิเต้ากวงเสด็จสวรรคตในปี ค.ศ. 1850 เจ้าชายอี้จู่ได้ขึ้นครองราชสมบัติเฉลิมพระนามเป็นจักรพรรดิเสียนเฟิง พระนางทรงได้รับการการเฉลิมพระนามเป็น คังฉินหวงกุ้ยไท่เฟยเนื่องจากหลังจากจักรพรรดินีเซี่ยวฉวนเฉิงเสด็จสิ้นพระชนม์ พระมเหสีจิงฮองกุ้ยเฟย ได้ทรงทำการอภิบาลองค์มงกุฏราชกุมารและทำการดูแลพระราชวังฝ่ายใน ซึ่งที่จริงและทรงควรได้รับรับการสถาปนาเป็น สมเด็จพระพันปีหลวง ซึ่งสร้างความไม่พอพระทัยแก่องค์ชายหกยิ่งนัก และในปี ค.ศ.1852 ทรงดูแลของการคัดเลือกบุตรีขุนนางแมนจูที่จะเป็นพระสนมของจักรพรรดิเสียนเฟิง ในบรรดาที่ถูกเลือกฮองเฮาและพระสนม ต่อมามีบทบาทเป็นจักรพรรดินีเจินและพระสนมอี้
สมเด็จพระพันปีหลวงในจักรพรรดิเสียนเฟิง
ในเดือน สิงหาคม 1855 พระพันปีหลวงคังฉินทรงพระประชวรหนัก และด้วยแรงกดดันทางการเมืองจักรพรรดิเสียนเฟิงจึงทรงสถาปนาพระพันปีหลวงคังฉินขึ้นเป็น สมเด็จพระจักรพรรดินี พระพันปีหลวง ในวันที 13 สิงหาคม ค.ศ.1855 และอีกแปดวันต่อมาพระนางทรงสิ้นพระชนม์โดยพระศพของพระนางถูกฝังไว้ในสุสานหลวงติงหลิงและได้รับการสถาปนาเป็น สมเด็จพระจักรพรรดินีเสี้ยวจิง(孝静皇后) ซึ่งแตกต่างจากจักรพรรดินีองค์อื่นๆของจักรพรรดิเต้ากวงได้รับพระนามเพิ่มเติมต่อท้ายนามว่า เฉิง (成) ต่อมาในรัชสมัยจักรพรรดิถงจื้อองค์ชายหกได้เป็นที่ปรึกษาผู้สำเร็จราชการของยุวฮ่องเต้ จึงได้มีการเติมพระราชทินนานามต่อท้ายให้พระมารดาในสุสาน โดยการเติมคำว่า เฉิง (成) และสถาปนาพระนามเป็นเป็น "สมเด็จพระจักรพรรดินีเสี้ยวจิงเฉิง พระพันปีหลวง" ตามคำขอของเจ้าชายกงชินหวัง
พระราชโอรส
- เจ้าชายยี่กง (顺和郡王奕纲; 22 พฤศจิกายน 1826 - 5 มีนาคม 1827) พระโอรสคนที่สองในจักรพรรดิเต้ากวง สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์
- เจ้าชายยี่จี (慧质郡王奕继; 2 ธันวาคม 1829 - 22 มกราคม 1830) พระโอรสคนที่สามในจักรพรรดิเต้ากวง สิ้นพระชนม์ตั้งแต่ทรงพระเยาว์
- เจ้าชายยี่ซิน (恭忠亲王奕欣; 11 มกราคม 1833 - 29 พฤษภาคม 1898)พระโอรสคนที่หกในจักรพรรดิเต้ากวง ต่อมาเป็นเจ้าชาย กงชินหวาง มีบทบาทในรัฐประหารซินโหย่ว ของพระนางซูสีไทเฮา ในช่วงต้นรัชกาลจักรพรรดิถงจื้อ
พระสาทิสลักษณ์
อ้างอิง
ดูเพิ่ม
ก่อนหน้า | จักรพรรดินีเซี่ยวจิ้งเฉิง | ถัดไป
| ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระพันปีหลวงกงซือ | พระพันปีหลวงแห่งจักรวรรดิชิง |
สมเด็จพระพันปีหลวงฉืออัน ร่วมกับสมเด็จพระพันปีหลวงฉือสี |