ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระนางอเลนันดอ"
เปลี่ี่ยนทาง |
ล แทนที่คำผ่านการค้นหา: 'ทรงโปรด'→'โปรด' |
||
บรรทัด 18: | บรรทัด 18: | ||
'''พระนางอเลนันดอ''' มีพระนามจริงว่า '''สิ่นพยูมาชิน''' (Hsinbyumashin ซึ่งมีความหมายว่า นางพญาช้างขาว มีพระนามแรกประสูติว่า ศุภยากะเล) พระราชธิดาใน[[พระเจ้าจักกายแมง]]แห่งพม่า ที่เกิดกับแม่ค้าในตลาดที่ถูกนำมาเป็นสนมตั้งแต่สมัยยังเป็นเจ้าชาย ที่มีอุปนิสัยที่ไม่ค่อยดีนัก<ref>[http://www.thai-folksy.net/forum7/board_posts.asp?FID=50 ชวนกันเป็นชาวคติชน : อยากทราบประวัติของพระนางศุภยลัตค่ะ]</ref> |
'''พระนางอเลนันดอ''' มีพระนามจริงว่า '''สิ่นพยูมาชิน''' (Hsinbyumashin ซึ่งมีความหมายว่า นางพญาช้างขาว มีพระนามแรกประสูติว่า ศุภยากะเล) พระราชธิดาใน[[พระเจ้าจักกายแมง]]แห่งพม่า ที่เกิดกับแม่ค้าในตลาดที่ถูกนำมาเป็นสนมตั้งแต่สมัยยังเป็นเจ้าชาย ที่มีอุปนิสัยที่ไม่ค่อยดีนัก<ref>[http://www.thai-folksy.net/forum7/board_posts.asp?FID=50 ชวนกันเป็นชาวคติชน : อยากทราบประวัติของพระนางศุภยลัตค่ะ]</ref> |
||
ต่อพระนางเป็นพระมเหสีตำหนักกลางใน[[พระเจ้ามินดง]] ซึ่งตำแหน่งพระมเหสีตำหนักกลาง มีคำเรียกเป็น[[ภาษาพม่า]]ว่า ''อะเลนานดอ'' ด้วยพระนามนี้เองจึงกลายเป็นพระนามที่ชาวไทยรู้จักกันทั่วไป พระองค์เป็นมเหสีที่พระเจ้ามินดง |
ต่อพระนางเป็นพระมเหสีตำหนักกลางใน[[พระเจ้ามินดง]] ซึ่งตำแหน่งพระมเหสีตำหนักกลาง มีคำเรียกเป็น[[ภาษาพม่า]]ว่า ''อะเลนานดอ'' ด้วยพระนามนี้เองจึงกลายเป็นพระนามที่ชาวไทยรู้จักกันทั่วไป พระองค์เป็นมเหสีที่พระเจ้ามินดงโปรดที่สุดพระองค์หนึ่ง และเป็นที่เกรงอกเกรงใจของพระองค์ พระนางอเลนันดอมีพระราชธิดากับพระเจ้ามินดง 3 พระองค์ ได้แก่ [[พระนางศุภยาคยี]], [[พระนางศุภยาลัต]] และ[[พระนางศุภยากเล]] โดยพระธิดาองค์ที่สองของพระองค์คือ [[พระนางศุภยาลัต]]ซึ่งมีนิสัยทะเยอทะยานเช่นเดียวกับพระองค์ ด้วยเหตุที่พระมารดาของพระนางอเลนันดอเป็นแม่ค้าตลาดที่พระเจ้าจักกายแมงชุบเลี้ยง จึงมีนิสัยผิดกับกุลสตรีในวัง ด้วยความที่พระเจ้ามินดงเกรงในพระนางอเลนันดอ พระเจ้ามินดงจึงมิได้ตั้งองค์รัชทายาทไว้ พระนางศุภยาลัตพระธิดาของพระองค์จึงเลือกเจ้าชายสีป่อซึ่งเป็นคนหัวอ่อน โดยพระนางอเลนันดอได้ให้การสนับสนุน เมื่อพระนางศุภยาลัตพระธิดาได้เสกสมรสกับ[[พระเจ้าธีบอ]] แม้พระนางอเลนันดอได้ให้การช่วยเหลือแก่พระนางศุภยาลัตในเบื้องต้น แต่ภายหลังพระนางอเลนันดอถูกให้ไปประทับที่วังอื่นรวมทั้งพระธิดาคือพระนางศุภยาคยีซึ่งเป็นพระกนิษฐา |
||
ต่อมาเมื่อพม่าตกเป็นเมืองขึ้นของ[[อังกฤษ]] [[พระเจ้าธีบอ]] พระนางนางศุภยาลัต รวมถึงพระองค์ ได้ถูกเชิญออกนอกประเทศโดยให้ประทับในเมืองรัตนคีรี ทางใต้ของเมือง[[บอมเบย์]] ภายหลังพระนางอเลนันดอได้มีเรื่องวิวาทกับพระนางศุภยาลัตซึ่งเป็นพระธิดา ทางอังกฤษสงสาร จึงได้ส่งพระนางอเลนันดอมายังพม่า และใช้ชีวิตอยู่ที่เมือง[[มะละแหม่ง]]จนสิ้นพระชนม์<ref>[http://news.clipmass.com/story/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A0%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%95_%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2---2131 สุภยาลัต ราชินีโหดองค์สุดท้ายแห่งพม่า]</ref> |
ต่อมาเมื่อพม่าตกเป็นเมืองขึ้นของ[[อังกฤษ]] [[พระเจ้าธีบอ]] พระนางนางศุภยาลัต รวมถึงพระองค์ ได้ถูกเชิญออกนอกประเทศโดยให้ประทับในเมืองรัตนคีรี ทางใต้ของเมือง[[บอมเบย์]] ภายหลังพระนางอเลนันดอได้มีเรื่องวิวาทกับพระนางศุภยาลัตซึ่งเป็นพระธิดา ทางอังกฤษสงสาร จึงได้ส่งพระนางอเลนันดอมายังพม่า และใช้ชีวิตอยู่ที่เมือง[[มะละแหม่ง]]จนสิ้นพระชนม์<ref>[http://news.clipmass.com/story/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%A0%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%A5%E0%B8%B1%E0%B8%95_%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%B5%E0%B9%82%E0%B8%AB%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%84%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%A2%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%9E%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%B2---2131 สุภยาลัต ราชินีโหดองค์สุดท้ายแห่งพม่า]</ref> |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 09:56, 12 พฤษภาคม 2556
พระนางอเลนันดอ | |
---|---|
ไฟล์:Alenandaw.jpg | |
พระมเหสีตำหนักกลางในพระเจ้ามินดง | |
พระราชสวามี | พระเจ้ามินดง |
พระราชบุตร | พระนางศุภยาคยี พระนางศุภยาลัต พระนางศุภยากเล |
ศรีบวรดิลกสุริยมหาราเชนทรรัตนเทวี[1] | |
ราชวงศ์ | อลองพญา |
พระราชบิดา | พระเจ้าจักกายแมง |
พระราชมารดา | พระนางนันมาดอ แมนู |
พระนางอเลนันดอ มีพระนามจริงว่า สิ่นพยูมาชิน (Hsinbyumashin ซึ่งมีความหมายว่า นางพญาช้างขาว มีพระนามแรกประสูติว่า ศุภยากะเล) พระราชธิดาในพระเจ้าจักกายแมงแห่งพม่า ที่เกิดกับแม่ค้าในตลาดที่ถูกนำมาเป็นสนมตั้งแต่สมัยยังเป็นเจ้าชาย ที่มีอุปนิสัยที่ไม่ค่อยดีนัก[2] ต่อพระนางเป็นพระมเหสีตำหนักกลางในพระเจ้ามินดง ซึ่งตำแหน่งพระมเหสีตำหนักกลาง มีคำเรียกเป็นภาษาพม่าว่า อะเลนานดอ ด้วยพระนามนี้เองจึงกลายเป็นพระนามที่ชาวไทยรู้จักกันทั่วไป พระองค์เป็นมเหสีที่พระเจ้ามินดงโปรดที่สุดพระองค์หนึ่ง และเป็นที่เกรงอกเกรงใจของพระองค์ พระนางอเลนันดอมีพระราชธิดากับพระเจ้ามินดง 3 พระองค์ ได้แก่ พระนางศุภยาคยี, พระนางศุภยาลัต และพระนางศุภยากเล โดยพระธิดาองค์ที่สองของพระองค์คือ พระนางศุภยาลัตซึ่งมีนิสัยทะเยอทะยานเช่นเดียวกับพระองค์ ด้วยเหตุที่พระมารดาของพระนางอเลนันดอเป็นแม่ค้าตลาดที่พระเจ้าจักกายแมงชุบเลี้ยง จึงมีนิสัยผิดกับกุลสตรีในวัง ด้วยความที่พระเจ้ามินดงเกรงในพระนางอเลนันดอ พระเจ้ามินดงจึงมิได้ตั้งองค์รัชทายาทไว้ พระนางศุภยาลัตพระธิดาของพระองค์จึงเลือกเจ้าชายสีป่อซึ่งเป็นคนหัวอ่อน โดยพระนางอเลนันดอได้ให้การสนับสนุน เมื่อพระนางศุภยาลัตพระธิดาได้เสกสมรสกับพระเจ้าธีบอ แม้พระนางอเลนันดอได้ให้การช่วยเหลือแก่พระนางศุภยาลัตในเบื้องต้น แต่ภายหลังพระนางอเลนันดอถูกให้ไปประทับที่วังอื่นรวมทั้งพระธิดาคือพระนางศุภยาคยีซึ่งเป็นพระกนิษฐา
ต่อมาเมื่อพม่าตกเป็นเมืองขึ้นของอังกฤษ พระเจ้าธีบอ พระนางนางศุภยาลัต รวมถึงพระองค์ ได้ถูกเชิญออกนอกประเทศโดยให้ประทับในเมืองรัตนคีรี ทางใต้ของเมืองบอมเบย์ ภายหลังพระนางอเลนันดอได้มีเรื่องวิวาทกับพระนางศุภยาลัตซึ่งเป็นพระธิดา ทางอังกฤษสงสาร จึงได้ส่งพระนางอเลนันดอมายังพม่า และใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองมะละแหม่งจนสิ้นพระชนม์[3]
อ้างอิง
- ↑ Christopher Buyers. "The Konbaung Dynasty Genealogy". royalark.net. สืบค้นเมื่อ 2009-09-26.
- ↑ ชวนกันเป็นชาวคติชน : อยากทราบประวัติของพระนางศุภยลัตค่ะ
- ↑ สุภยาลัต ราชินีโหดองค์สุดท้ายแห่งพม่า