ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ดิอิมพอสซิเบิ้ล"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม)
ลบลิงก์ที่ซ้ำซ้อน wikidata
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
แทนที่คำผ่านการค้นหา: 'มลรัฐ'→'รัฐ'
บรรทัด 29: บรรทัด 29:
ช่วงหลังจากชนะเลิศในปีแรก ความนิยมได้พุ่งสูงอย่างมากมาย วงดิอิม ได้มีโอกาสเข้าไปร่วมแสดงและบรรเลงเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง[[โทน (ภาพยนตร์)|โทน]] (เพลงเริงรถไฟ ชื่นรัก ปิดเทอม) ของผู้กำกับ[[เปี๊ยก โปสเตอร์]] ทำให้ดิอิมได้รับความสำเร็จอย่างท่วมท้น ในขณะเดียวกันก็เกิดความเปลี่ยนแปลง สุเมธ แมนสรวง ได้ลาออกไป และได้สิทธิพร อมรพันธุ์ จากวงฟลาวเวอร์กับ ปราจีน ทรงเผ่า จากวงเวชสวรรค์ ได้เข้าร่วมวงแทน ระยะเวลานั้นดิอิม เล่นประจำอยู่ที่ศูนย์การค้าเพลินจิต แห่งเดียว ส่วนการแสดงตามโรงภาพยนตร์ในรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์ไทย หรือการแสดงในรอบเช้า 6.00 นาฬิกา ร่วมกับการฉายภาพยนตร์ซึ่งเป็นที่นิยมมากในยุคนั้น (ภาพยนตร์ไทยเรื่อง [[เก๋า..เก๋า]] พ.ศ. 2549 ได้นำเสนอบรรยากาศของเรื่องการแสดงรอบเช้าของดิอิมด้วย ถึงจะไม่เหมือนไปทุกอย่าง แต่ก็ทำได้ใกล้เคียงและทำให้เห็นบรรยากาศในยุคนั้นได้ดีทีเดียว) ได้รวมถึงการแสดงตามเวทีลีลาศทั้งที่สวนลุมพินี สวนอัมพร ซึ่งมีขึ้นประจำทุกวันศุกร์หรือเสาร์ ช่วงปี 2511-2515 กลายเป็นปีทองของวงดิอิมอย่างแท้จริงราวปี พ.ศ. 2516-2518
ช่วงหลังจากชนะเลิศในปีแรก ความนิยมได้พุ่งสูงอย่างมากมาย วงดิอิม ได้มีโอกาสเข้าไปร่วมแสดงและบรรเลงเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง[[โทน (ภาพยนตร์)|โทน]] (เพลงเริงรถไฟ ชื่นรัก ปิดเทอม) ของผู้กำกับ[[เปี๊ยก โปสเตอร์]] ทำให้ดิอิมได้รับความสำเร็จอย่างท่วมท้น ในขณะเดียวกันก็เกิดความเปลี่ยนแปลง สุเมธ แมนสรวง ได้ลาออกไป และได้สิทธิพร อมรพันธุ์ จากวงฟลาวเวอร์กับ ปราจีน ทรงเผ่า จากวงเวชสวรรค์ ได้เข้าร่วมวงแทน ระยะเวลานั้นดิอิม เล่นประจำอยู่ที่ศูนย์การค้าเพลินจิต แห่งเดียว ส่วนการแสดงตามโรงภาพยนตร์ในรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์ไทย หรือการแสดงในรอบเช้า 6.00 นาฬิกา ร่วมกับการฉายภาพยนตร์ซึ่งเป็นที่นิยมมากในยุคนั้น (ภาพยนตร์ไทยเรื่อง [[เก๋า..เก๋า]] พ.ศ. 2549 ได้นำเสนอบรรยากาศของเรื่องการแสดงรอบเช้าของดิอิมด้วย ถึงจะไม่เหมือนไปทุกอย่าง แต่ก็ทำได้ใกล้เคียงและทำให้เห็นบรรยากาศในยุคนั้นได้ดีทีเดียว) ได้รวมถึงการแสดงตามเวทีลีลาศทั้งที่สวนลุมพินี สวนอัมพร ซึ่งมีขึ้นประจำทุกวันศุกร์หรือเสาร์ ช่วงปี 2511-2515 กลายเป็นปีทองของวงดิอิมอย่างแท้จริงราวปี พ.ศ. 2516-2518


ดิอิมพอสซิเบิ้ล มีชื่อเสียง และได้ทำดนตรีประกอบภาพยนตร์ไทยเป็นจำนวนมาก ผลงานแผ่นเสียงขายดีที่สุดในยุคนั้น ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในกลางปี 2515 ดิอิมพอสซิเบิ้ล ได้รับทาบทามให้ไปทำการแสดงที่มลรัฐ[[ฮาวาย]] [[สหรัฐอเมริกา]]ในครั้งนี้ได้เพิ่มยงยุทธ มีแสง ทรัมเป๊ตจากวงวิชัย อึ้งอัมพร ร่วมวงไปด้วย ตลอดเวลา 1 ปีใน ฮาวาย ดิอิมพอสสิเบิลส์ได้รับความนิยมและความสำเร็จมากมาย เป็นวงดนตรีแรกที่ทำสถิติยอดขายต่อคืนสูงสุดตั้งแต่เปิดทำการของคลับที่แสดงอยู่ชื่อ ฮาวายเอี้ยนฮัท โรงแรมอลาโมอานา (ที่มีศูนย์การค้าใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนั้นตั้งอยู่บริเวณเดียวกัน) ดิอิมซ้อมนักมาก พิชัย ทองเนียม มือเบส ขอลาออก เศรษฐาต้องไปเล่นเบส ทำให้ไม่สะดวกในการร้องนำ จึงทำให้เกิดความคิดที่จะเรียก[[เรวัติ พุทธินันท์]](เต๋อ) นักร้องนำวงเดอะแธ้งค์ ซึ่งเคยเล่นสลับที่อิมพอสสิเบิลส์คาเฟ่มาเป็นนักร้องนำแทนเศรษฐา ช่วงที่เต๋อเข้ามาได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่นของการบรรเลง โดยได้เน้นเพลงที่มีเครื่องเป่ามากขึ้น และเป็นเพลงที่เหมาะกับการเต้น เช่นเพลงของวง [http://www.towerofpower.com Tower of Power] เป็นต้น ขณะที่แสดงที่นั้นได้มีนักร้องศิลปินดัง ๆ ของโลกมาเปิดการแสดงที่ฮาวาย ทำให้วงดิอิม ได้ใช้ประสบการณ์ในการเข้าชมศิลปินดัง ๆ เหล่านี้มาปรับปรุงการแสดงของวงให้พัฒนาขึ้นตลอดเวลา
ดิอิมพอสซิเบิ้ล มีชื่อเสียง และได้ทำดนตรีประกอบภาพยนตร์ไทยเป็นจำนวนมาก ผลงานแผ่นเสียงขายดีที่สุดในยุคนั้น ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในกลางปี 2515 ดิอิมพอสซิเบิ้ล ได้รับทาบทามให้ไปทำการแสดงที่รัฐ[[ฮาวาย]] [[สหรัฐอเมริกา]]ในครั้งนี้ได้เพิ่มยงยุทธ มีแสง ทรัมเป๊ตจากวงวิชัย อึ้งอัมพร ร่วมวงไปด้วย ตลอดเวลา 1 ปีใน ฮาวาย ดิอิมพอสสิเบิลส์ได้รับความนิยมและความสำเร็จมากมาย เป็นวงดนตรีแรกที่ทำสถิติยอดขายต่อคืนสูงสุดตั้งแต่เปิดทำการของคลับที่แสดงอยู่ชื่อ ฮาวายเอี้ยนฮัท โรงแรมอลาโมอานา (ที่มีศูนย์การค้าใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนั้นตั้งอยู่บริเวณเดียวกัน) ดิอิมซ้อมนักมาก พิชัย ทองเนียม มือเบส ขอลาออก เศรษฐาต้องไปเล่นเบส ทำให้ไม่สะดวกในการร้องนำ จึงทำให้เกิดความคิดที่จะเรียก[[เรวัติ พุทธินันท์]](เต๋อ) นักร้องนำวงเดอะแธ้งค์ ซึ่งเคยเล่นสลับที่อิมพอสสิเบิลส์คาเฟ่มาเป็นนักร้องนำแทนเศรษฐา ช่วงที่เต๋อเข้ามาได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่นของการบรรเลง โดยได้เน้นเพลงที่มีเครื่องเป่ามากขึ้น และเป็นเพลงที่เหมาะกับการเต้น เช่นเพลงของวง [http://www.towerofpower.com Tower of Power] เป็นต้น ขณะที่แสดงที่นั้นได้มีนักร้องศิลปินดัง ๆ ของโลกมาเปิดการแสดงที่ฮาวาย ทำให้วงดิอิม ได้ใช้ประสบการณ์ในการเข้าชมศิลปินดัง ๆ เหล่านี้มาปรับปรุงการแสดงของวงให้พัฒนาขึ้นตลอดเวลา


ดิอิมหมดสัญญาที่ฮาวายในเดือนสิงหาคม 2516 และได้เดินทางกลับเมืองไทยพร้อมกับผู้จัดการวงใหม่ ชื่อจรัล นันทสุนานนท์(ปัจจุบัน ดร.พุทธจรัล) เพื่อให้มีการจัดการวงในรูปแบบสากลอย่างมีระบบ ต้นเดือนพฤศจิกายน 2516 หลังเหตุการณ์[[วันมหาวิปโยค]] ดิอิม ได้เข้าทำการแสดง ณ เดอะเดนไนท์คลับ [[โรงแรมอินทรา]] ประตูน้ำเป็นเวลา 6 เดือน และที่เดอะเดนนี้เอง ดิอิม ได้สร้างระบบใหม่ในการเข้าชมของวง โดยมีการเก็บค่าชม ก่อนการเข้าไปในคลับ ซึ่งนับได้ว่าเป็นครั้งแรกของเมืองไทยและวงดนตรีไทย ในช่วงนี้ก็มีความเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้ง ได้สมชาย กฤษณเศรณี(ปึ๊ด) มาเล่นเบสแทนเศรษฐา และปรีด์เทพ มาลากุล ณ อยุธยา(เปี๊ยก)มาเล่นกลองแทนอนุสรณ์ พัฒนกุล ได้ให้เรวัติเป็นนักร้องนำและเล่นออร์แกน เศรษฐาได้กลับไปเป็นนักร้องนำตามเดิม
ดิอิมหมดสัญญาที่ฮาวายในเดือนสิงหาคม 2516 และได้เดินทางกลับเมืองไทยพร้อมกับผู้จัดการวงใหม่ ชื่อจรัล นันทสุนานนท์(ปัจจุบัน ดร.พุทธจรัล) เพื่อให้มีการจัดการวงในรูปแบบสากลอย่างมีระบบ ต้นเดือนพฤศจิกายน 2516 หลังเหตุการณ์[[วันมหาวิปโยค]] ดิอิม ได้เข้าทำการแสดง ณ เดอะเดนไนท์คลับ [[โรงแรมอินทรา]] ประตูน้ำเป็นเวลา 6 เดือน และที่เดอะเดนนี้เอง ดิอิม ได้สร้างระบบใหม่ในการเข้าชมของวง โดยมีการเก็บค่าชม ก่อนการเข้าไปในคลับ ซึ่งนับได้ว่าเป็นครั้งแรกของเมืองไทยและวงดนตรีไทย ในช่วงนี้ก็มีความเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้ง ได้สมชาย กฤษณเศรณี(ปึ๊ด) มาเล่นเบสแทนเศรษฐา และปรีด์เทพ มาลากุล ณ อยุธยา(เปี๊ยก)มาเล่นกลองแทนอนุสรณ์ พัฒนกุล ได้ให้เรวัติเป็นนักร้องนำและเล่นออร์แกน เศรษฐาได้กลับไปเป็นนักร้องนำตามเดิม

รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:36, 4 พฤษภาคม 2556

ดิอิมพอสซิเบิ้ล
ไฟล์:TheImpossibles.jpg
ข้อมูลพื้นฐาน
แนวเพลงป็อป, แจ๊ซ-ร็อก
ช่วงปีพ.ศ. 2509-2520
ค่ายเพลงนิธิทัศน์ โปรโมชั่น
สมาชิกวินัย พันธุรักษ์ (กีตาร์)
เศรษฐา ศิระฉายา (กีตาร์-ร้องนำ)
เรวัต พุทธินันทน์ (คีย์บอร์ด-ร้องนำ)
ปราจีน ทรงเผ่า (คีย์บอร์ด-ทรอมโบน)
อนุสรณ์ พัฒนกุล (กลอง)
สุเมธ แมนสรวง (ร้องนำ-ออร์แกน)
พิชัย ทองเนียม (เบส)
สิทธิพร อมรพันธ์ (กีตาร์)
ยงยุทธ มีแสง (ทรัมเปต)
สมชาย กฤษณเศรณี
ปรีดิ์เทพ มาลากุล ณ อยุธยา (กลอง)
ไพฑูรย์ วาทยะกร

ดิอิมพอสซิเบิ้ล หรือชื่อเรียกสั้นๆ ว่า ดิอิม เป็นวงดนตรีสตริงคอมโบวงแรกๆ ของไทย ตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2509 มีสมาชิกรุ่นแรกประกอบด้วย วินัย พันธุรักษ์, อนุสรณ์ พัฒนกุล, สุเมธ แมนสรวง และพิชัย ทองเนียม และได้นักร้องนำคือ เศรษฐา ศิระฉายา ใช้ชื่อวงว่า Holiday J-3 ต่อมาเปลี่ยนเป็น จอยท์ รีแอ็กชั่น เล่นดนตรีเพลงสากลที่มีชื่อเสียง เช่น เพลงของคลิฟ ริชาร์ด เอลวิส เพรสลีย์ บางเพลงนำทำนองเพลงต่างประเทศที่เป็นที่นิยม มาแต่งเนื้อร้องเป็นภาษาไทย เช่นเดียวกับวงอื่นๆ ในยุคเดียวกัน เช่น ซิลเวอร์แซนด์ รอยัล สไปรท์ส เล่นดนตรีตามไนท์คลับต่างๆ

วงจอยท์ รีแอ็กชั่น เข้าร่วมการประกวดวงสตริงคอมโบ จัดโดยสมาคมดนตรีแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ เมื่อปี พ.ศ. 2512 ได้รับรางวัลชนะเลิศ 3 ปีติดต่อกัน [1] ในปี(2512,2513,2515) วงจอยท์ รีแอ็กชั่น เปลี่ยนชื่อเป็น ดิอิมพอสซิเบิ้ล (The Impossibles) ชื่อนี้ตั้งโดยเศรษฐา ตามชื่อภาพยนตร์การ์ตูนทางโทรทัศน์ จากสหรัฐอเมริกา คือเรื่อง The Impossibles (1966) [2][3]

ช่วงหลังจากชนะเลิศในปีแรก ความนิยมได้พุ่งสูงอย่างมากมาย วงดิอิม ได้มีโอกาสเข้าไปร่วมแสดงและบรรเลงเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่องโทน (เพลงเริงรถไฟ ชื่นรัก ปิดเทอม) ของผู้กำกับเปี๊ยก โปสเตอร์ ทำให้ดิอิมได้รับความสำเร็จอย่างท่วมท้น ในขณะเดียวกันก็เกิดความเปลี่ยนแปลง สุเมธ แมนสรวง ได้ลาออกไป และได้สิทธิพร อมรพันธุ์ จากวงฟลาวเวอร์กับ ปราจีน ทรงเผ่า จากวงเวชสวรรค์ ได้เข้าร่วมวงแทน ระยะเวลานั้นดิอิม เล่นประจำอยู่ที่ศูนย์การค้าเพลินจิต แห่งเดียว ส่วนการแสดงตามโรงภาพยนตร์ในรอบปฐมทัศน์ของภาพยนตร์ไทย หรือการแสดงในรอบเช้า 6.00 นาฬิกา ร่วมกับการฉายภาพยนตร์ซึ่งเป็นที่นิยมมากในยุคนั้น (ภาพยนตร์ไทยเรื่อง เก๋า..เก๋า พ.ศ. 2549 ได้นำเสนอบรรยากาศของเรื่องการแสดงรอบเช้าของดิอิมด้วย ถึงจะไม่เหมือนไปทุกอย่าง แต่ก็ทำได้ใกล้เคียงและทำให้เห็นบรรยากาศในยุคนั้นได้ดีทีเดียว) ได้รวมถึงการแสดงตามเวทีลีลาศทั้งที่สวนลุมพินี สวนอัมพร ซึ่งมีขึ้นประจำทุกวันศุกร์หรือเสาร์ ช่วงปี 2511-2515 กลายเป็นปีทองของวงดิอิมอย่างแท้จริงราวปี พ.ศ. 2516-2518

ดิอิมพอสซิเบิ้ล มีชื่อเสียง และได้ทำดนตรีประกอบภาพยนตร์ไทยเป็นจำนวนมาก ผลงานแผ่นเสียงขายดีที่สุดในยุคนั้น ความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่งในกลางปี 2515 ดิอิมพอสซิเบิ้ล ได้รับทาบทามให้ไปทำการแสดงที่รัฐฮาวาย สหรัฐอเมริกาในครั้งนี้ได้เพิ่มยงยุทธ มีแสง ทรัมเป๊ตจากวงวิชัย อึ้งอัมพร ร่วมวงไปด้วย ตลอดเวลา 1 ปีใน ฮาวาย ดิอิมพอสสิเบิลส์ได้รับความนิยมและความสำเร็จมากมาย เป็นวงดนตรีแรกที่ทำสถิติยอดขายต่อคืนสูงสุดตั้งแต่เปิดทำการของคลับที่แสดงอยู่ชื่อ ฮาวายเอี้ยนฮัท โรงแรมอลาโมอานา (ที่มีศูนย์การค้าใหญ่ที่สุดในโลกในขณะนั้นตั้งอยู่บริเวณเดียวกัน) ดิอิมซ้อมนักมาก พิชัย ทองเนียม มือเบส ขอลาออก เศรษฐาต้องไปเล่นเบส ทำให้ไม่สะดวกในการร้องนำ จึงทำให้เกิดความคิดที่จะเรียกเรวัติ พุทธินันท์(เต๋อ) นักร้องนำวงเดอะแธ้งค์ ซึ่งเคยเล่นสลับที่อิมพอสสิเบิลส์คาเฟ่มาเป็นนักร้องนำแทนเศรษฐา ช่วงที่เต๋อเข้ามาได้เปลี่ยนแปลงรูปแบบการเล่นของการบรรเลง โดยได้เน้นเพลงที่มีเครื่องเป่ามากขึ้น และเป็นเพลงที่เหมาะกับการเต้น เช่นเพลงของวง Tower of Power เป็นต้น ขณะที่แสดงที่นั้นได้มีนักร้องศิลปินดัง ๆ ของโลกมาเปิดการแสดงที่ฮาวาย ทำให้วงดิอิม ได้ใช้ประสบการณ์ในการเข้าชมศิลปินดัง ๆ เหล่านี้มาปรับปรุงการแสดงของวงให้พัฒนาขึ้นตลอดเวลา

ดิอิมหมดสัญญาที่ฮาวายในเดือนสิงหาคม 2516 และได้เดินทางกลับเมืองไทยพร้อมกับผู้จัดการวงใหม่ ชื่อจรัล นันทสุนานนท์(ปัจจุบัน ดร.พุทธจรัล) เพื่อให้มีการจัดการวงในรูปแบบสากลอย่างมีระบบ ต้นเดือนพฤศจิกายน 2516 หลังเหตุการณ์วันมหาวิปโยค ดิอิม ได้เข้าทำการแสดง ณ เดอะเดนไนท์คลับ โรงแรมอินทรา ประตูน้ำเป็นเวลา 6 เดือน และที่เดอะเดนนี้เอง ดิอิม ได้สร้างระบบใหม่ในการเข้าชมของวง โดยมีการเก็บค่าชม ก่อนการเข้าไปในคลับ ซึ่งนับได้ว่าเป็นครั้งแรกของเมืองไทยและวงดนตรีไทย ในช่วงนี้ก็มีความเปลี่ยนแปลงขึ้นอีกครั้ง ได้สมชาย กฤษณเศรณี(ปึ๊ด) มาเล่นเบสแทนเศรษฐา และปรีด์เทพ มาลากุล ณ อยุธยา(เปี๊ยก)มาเล่นกลองแทนอนุสรณ์ พัฒนกุล ได้ให้เรวัติเป็นนักร้องนำและเล่นออร์แกน เศรษฐาได้กลับไปเป็นนักร้องนำตามเดิม

การเดินทางเริ่มขึ้นอีกครั้งหลังหมดสัญญาที่เดอะเดน วงดิอิมได้รับการติดต่อไปแสดงในประเทศแถบสแกนดิเนียเวีย เริ่มจากสวีเดน ฟินแลนด์ นอร์เวย์ ตั้งแต่เดือน มิถุนายนถึงธันวาคม 2517 จากนั้นกลับเมืองไทย และเปลี่ยนมือเบส ไพฑูรย์ วาทยะกร เข้ามาแทนสมชาย เดือนมิถุนายน ไปยุโรปอีกครั้ง เริ่มที่สวีเดน ฟินแลนด์ ข้ามไปสวิตเซอร์แลนด์ กลับมาสวีเดนอีกและไปจบที่สวิสในเดือนกุมภาพันธ์ 2519 กลับเมืองไทย เล่นที่โรงแรมมณเฑียรเหมือนเดิม

ในปี 2518 ระหว่างการกลับไปตระเวณแสดงในยุโรปครั้งที่ 2 ดิอิมพอสสิเบิ้ล ได้ทำการบันทึกเสียงเพลงสากลเป็นครั้งแรกของวง ในชื่ออัลบั้ม Hot pepper

หลังจากนี้ได้ว่าเกือบเป็นปลายยุคของวง ได้มีการประชุมตกลกที่จะยุบวง หลังจากวงมีอายุรวมกันมาถึง 9 ปี มีการแถลงข่าวยุบวงอย่างเป็นทางการต่อสื่อมวลชนช่วงเดือนเมษายน 2519 หลังจากนั้นได้เดินทางไปเล่นที่โรงแรมมาเจสติค กรุงไทเป ไต้หวัน โดยทำสัญญาเดือนต่อเดือน พอเริ่มทำงานหมดเดือนแรก เรวัติออกไปก่อน และได้เดินทางไปทำงานที่สวีเดน 3 เดือน ในไต้หวันทำงานค่อนข้างหนัก เพราะต้องแสดงทั้งกลางวันและกลางคืน (1 มิถุนายน-4 กันยายน 2519) หลังกลับเมืองไทยดิอิมได้แสดงในช่วงสุดท้ายที่คลับโรงแรมแมนฮัตตัน ทอปเปอร์คลับ ตึกนายเลิศ และที่เดอะฟ๊อกซ์ ชั้นใต้ดินศูนย์การค้าเพลินจิต โดยทำการแสดงคืนละ 3 แห่ง ในราวเดือนตุลาคม 2519 ก็ได้หยุดทำการแสดงอย่างเป็นการถาวรในนาม ดิอิมพอสซิเบิ้ล วงดนตรีที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นตำนานของวงดนตรีสากลแบบสตริงคอมโบ วงดนตรีขวัญใจวัยรุ่นของประเทศไทยต่อมาในช่วงพ.ศ. 2533ทางวงได้กลับมาออกอัลบั้มอีกครั้งกับนิธิทัศน์ โปรโมชั่นโดยเป็นการนำเอาเพลง ยอดนิยมมาออกใหม่

สรุปผลงาน

อัลบั้มทางการ

ผลงานการแสดงดนตรี [4]

(จากการบันทึกของสมาชิกวงพิชัย ทองเนียม และปราจีน ทรงเผ่า หนังสือ รวมบทเพลง The Impossibles)

ช่วงปี 2509-2512 (ยุคเริ่มต้น)
  • Holiday Carden ถนนเพชรบุรีตัดใหม่(ชื่อวง Holiday J-3)
  • Wachington Bar ถนนเพชรบุรีตัดใหม่(ชื่อวง Joint Reaction)
  • Progress Bar ถนนเพชรบุรีตัดใหม่(ชื่อวง The Impossibles)
  • Las Vegas Bar ถนนเพชรบุรีตัดใหม่(ชื่อวง The Impossibles)
ช่วงปี 2512-2517 (หลังชนะการประกวดสตริงคอมโบชิงถ้วยพระราชทานปีแรก)
  • The Fire Cracker Club โรงแรม First ประตูน้ำ
  • The impossibles Cafe ศูนย์การค้าประตูน้ำ ปทุมวัน
  • ศาลาแดง ฮอลล์ ตรงข้างสวนลุมพินี (สลับกับวงวิชัย อิ้งอัมพร)
  • Hawaiian Hut Ala Moana Hotel Honolulu Hawai U.S.A. - การแสดงต่างประเทศครั้งแรก
  • The Den โรงแรมอินทรา ประตูน้ำ กรุงเทพฯ
ช่วงปี 2517(ทัวร์ยุโรปครั้งแรก 1974)
  • Europa Hotel - Gothenberg Sweden
  • Norrköping - Sweden
  • Monday Club - Stockholm Sweden
  • Hesperia Hotel - Helsinki Finland
  • Rainbow Club - Oslo Norway
  • Noimalman - Stockholm Sweden
  • Borsen Club - Stockholm Sweden
  • Sundsvall - Sweden
  • Grand Central Hotel - Gävle Sweden
  • Hotel Jonkoping -Sweden
  • New Yaki Club - Gothenberg Sweden
  • แอน แอน ครับ - โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ (กลับเมืองไทยชั่วคราว)

ช่วงปี 2518-2519 (ทัวร์ยุโรปครั้งแรก 1975-1976)

  • Tragarn Restaurant - Gothenberg Sweden
  • Hesperia Hotel - Helsinki Finland
  • Malibu Club Basle - Switzerland
  • New Yaki Club - Gothenberg Sweden
  • Grinderwald - Switzerland
  • Mascot Club Zurich - Switzerland
  • Babalu Club Bern - Switzerland
  • แอน แอน คลับ โรงแรมมณเฑียร สุรวงศ์ (กลับเมืองไทย 2519|1976)
  • ประกาศยุบวงในเดือนเมษายน 2519 ขณะเล่นที่ แอน แอน คลับ
  • หลังประกาศยุบวงยังได้กลับมาวงตัวไปแสดงที่ ไต้หวัน ช่วง 1 มิถุนายน - 4 กันยายน 2519 Majestic Club Majestic Hotel - Taipei Taiwan
  • ตุลาคม 2519 กลับเมืองไทย เล่นส่งท้าย (ประมาณ 14 วัน) คืนละ 3 แห่ง ที่ แมนฮัตตัน คลับ สุขุมวิท, ทอปเปอร์คลับ ตึกนายเลิศ, เดอะ ฟอกซ์ ศูนยการค้าเพลินจิต

เพลงประกอบภาพยนตร์

  • เริงรถไฟ-จากภาพยนตร์เรื่อง โทน (2512)
  • ปิดเทอม-จากภาพยนตร์เรื่อง โทน (2512)
  • ชื่นรัก-จากภาพยนตร์เรื่อง โทน (2512)
  • รักกันหนอ-จากภาพยนตร์เรื่อง รักกันหนอ (2513)
  • เจ้าพระยา-จากภาพยนตร์เรื่อง หนึ่งนุช (2514)
  • ลำนำรัก-จากภาพยนตร์เรื่อง หนึ่งนุช (2514)
  • เริงสายชล-จากภาพยนตร์เรื่อง หนึ่งนุช (2514)
  • ล่องวารี-จากภาพยนตร์เรื่อง หนึ่งนุช (2514)
  • เริงทะเล-จากภาพยนตร์เรื่อง ชื่นชีวาฮาวาย (2514)
  • ไม่มีวันที่เราจะพรากจากกัน-จากภาพยนตร์เรื่อง ไม่มีวันที่เราจะพรากจากกัน (2514)
  • ไปตามดวง-จากภาพยนตร์เรื่อง ดวง (2514)
  • หนาวเนื้อ-จากภาพยนตร์เรื่อง ดวง (2514)
  • ผม-จากภาพยนตร์เรื่อง ดวง (2514)
  • โลกของเรา-จากภาพยนตร์เรื่อง สะใภ้หัวนอก (2514)
  • น้ำผึ้งพระจันทร์(ร้องโดยชรินทร์ นันทนาคร)-จากภาพยนตร์เรื่อง น้ำผึ้งพระจันทร์ (2514)
  • ใจหนุ่มใจสาว-จากภาพยนตร์เรื่อง น้ำผึ้งพระจันทร์ (2514)
  • มันไหนล่ะ-จากภาพยนตร์เรื่อง สายชล (2514)
  • จันทร์เพ็ญ-จากภาพยนตร์เรื่อง จันทร์เพ็ญ (2514)
  • ดีด สี ตี เป่า-จากภาพยนตร์เรื่อง จันทร์เพ็ญ (2514)
  • ความหวัง-จากภาพยนตร์เรื่อง จันทร์เพ็ญ (2514)
  • หาดสีทอง-จากภาพยนตร์เรื่อง จันทร์เพ็ญ (2514)
  • สายใยชีวิต-จากภาพยนตร์เรื่อง จันทร์เพ็ญ (2514)
  • ระเริงชล-จากภาพยนตร์เรื่อง ระเริงชล (2514)
  • จูบฟ้า ลาดิน-จากภาพยนตร์เรื่อง ระเริงชล
  • มิสเตอร์สโลลี่-จากภาพยนตร์เรื่อง ระเริงชล (2514)
  • ข้าวเปลือก-จากภาพยนตร์เรื่อง ระเริงชล
  • ค่าของคน-จากภาพยนตร์เรื่อง ค่าของคน (2514)
  • ค่าของรัก-จากภาพยนตร์เรื่อง ค่าของคน (2514)
  • ค่าของเงิน-จากภาพยนตร์เรื่อง ค่าของคน (2514)
  • รอรัก-จากภาพยนตร์เรื่อง เจ้าลอย (2514)
  • หนึ่งในดวงใจ-จากภาพยนตร์เรื่อง เจ้าลอย (2514)
  • เดอะทีนเอจ-จากภาพยนตร์เรื่อง สวนสน (2514)
  • ทะเลไม่เคยหลับ-จากภาพยนตร์เรื่อง สวนสน (2514)
  • ครองจักรวาล-จากภาพยนตร์เรื่อง สวนสน (2514)
  • โลกมายา-จากภาพยนตร์เรื่อง สาวกอด (2515)
  • โอ้รัก-จากภาพยนตร์เรื่อง โอ้รัก (2515)
  • หัวใจเหิร-จากภาพยนตร์เรื่อง สองสิงห์สองแผ่นดิน (2515)
  • ยอดเยาวมาลย์-จากภาพยนตร์เรื่อง ภูกระดึง (2515)
  • ไม่มีคำตอบจากสวรรค์-จากภาพยนตร์เรื่อง ไม่มีคำตอบจากสวรรค์ (2516)
  • ทอง-จากภาพยนตร์เรื่อง ทอง (2516)
  • ข้าวนอกนา-จากภาพยนตร์เรื่อง ข้าวนอกนา (2518)
  • ชีวิตคนดำ-จากภาพยนตร์เรื่อง ข้าวนอกนา (2518)
  • เกลียดคนสวย-จากภาพยนตร์เรื่อง ข้าวนอกนา (2518)
  • ตัดเหลี่ยมเพชร-จากภาพยนตร์เรื่อง ตัดเหลี่ยมเพชร (2518)
  • แล้วเธอจะรู้-จากภาพยนตร์เรื่อง ตัดเหลี่ยมเพชร (2518)
  • ราตรีที่แสนเหงา-จากภาพยนตร์เรื่อง ตัดเหลี่ยมเพชร (2518)
  • The Great Friday(บรรเลง)-จากภาพยนตร์เรื่อง ตัดเหลี่ยมเพชร (2518)
  • ดับสุริยา-จากภาพยนตร์เรื่อง ดับสุริยา (2519)
  • คมกุหลาบ-จากภาพยนตร์เรื่อง คมกุหลาบ (2519)
  • ในช่วงปี 2517 บริษัทศรีกรุงภาพยนตร์ ได้จัดสร้างภาพยนตร์เรื่องเป็นไปไม่ได้ โดยมีรงค์ วงษ์สวรรค์ เป็นผู้เขียนเรื่องและบทภาพยนตร์ มีเพลงประกอบที่สำคัญคือ เพลงเป็นไปไม่ได้ กังวลทะเล ผมเป็นโคบาลไทย และเพลงกุลา(ผลงานของสุรชัย จันทิมาธร) แต่งานสร้างประสบความล้มเหลว ไม่สามารถสร้างให้จบได้

เพลงที่มีชื่อเสียง

  • เป็นไปไม่ได้
  • เริงทะเล
  • ชื่นรัก
  • ทะเลไม่เคยหลับ
  • โอ้รัก
  • ไหนว่าจะจำ
  • คอยน้อง
  • หนาวเนื้อ
  • หนึ่งในดวงใจ
  • จูบฟ้า ลาดิน
  • ชั่วนิจนิรันดร
  • ขาดเธอ ขาดใจ
  • ทัศนาจร
  • ชาวดง
  • นกขมิ้น
  • ข้าวนอกนา
  • เกลียดคนสวย
  • ชีวิตคนดำ
  • ผมไม่วุ่น

ฯลฯ

อ้างอิง

  1. รู้ไปโม้ด.. มติชน
  2. http://www.oknation.net/blog/kilroy/2007/06/02/entry-2
  3. en:The Impossibles (TV series)
  4. หนังสือรวมบทเพลง The Impossibles โดยปราจีน ทรงเผ่า,พ.ศ. 2544

แหล่งข้อมูลอื่น