ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ศาลาเฉลิมไทย"
บรรทัด 20: | บรรทัด 20: | ||
เมื่อเข้าสู่ยุคปรับเปลี่ยนเป็นโรงภาพยนตร์ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2496 นอกจากตัวโรง ยังได้จัดพื้นที่ซึ่งเป็นต้นแบบของวัฒนธรรมร้านข้าวโพดคั่ว (Pop Corn) อย่างโรงหนังต่างประเทศ และร้าน[[ไอศกรีม]]ป๊อบ "ตราเป็ด" ที่ดังมากของยุค เป็นสัญลักษณ์มองเห็นแต่ไกล |
เมื่อเข้าสู่ยุคปรับเปลี่ยนเป็นโรงภาพยนตร์ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2496 นอกจากตัวโรง ยังได้จัดพื้นที่ซึ่งเป็นต้นแบบของวัฒนธรรมร้านข้าวโพดคั่ว (Pop Corn) อย่างโรงหนังต่างประเทศ และร้าน[[ไอศกรีม]]ป๊อบ "ตราเป็ด" ที่ดังมากของยุค เป็นสัญลักษณ์มองเห็นแต่ไกล |
||
ต้นเดือนเมษายน ปีนั้น เป็นแห่งแรกในเมืองไทยที่ฉายหนังสามมิติ ''ใต้อุ้งมือโจร (Man in the Dark)'' |
ต้นเดือนเมษายน ปีนั้น เป็นแห่งแรกในเมืองไทยที่ฉายหนังสามมิติ ''ใต้อุ้งมือโจร (Man in the Dark)'' ตามด้วยหนังซีเนมาสโคปเรื่องแรกของโลก ''อภินิหารเสื้อคลุม (The Robe)'' เข้าฉายในวันสิ้นปี <ref>ตำนานโรงหนัง หน้า 60-61</ref> |
||
พ.ศ. 2498 เป็นสถานที่ฉายเฉพาะกิจสำหรับหนังการ์ตูนไทยเรื่องแรก (16 มม./พากย์) ''เหตุมหัศจรรย์'' ของ [[ปยุต เงากระจ่าง]] ซึ่งเพิ่งขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติปี พ.ศ. 2555<ref>จุลสารทะเบียนมรดกภาพยนตร์ของชาติ ครั้งที่ 2,2555</ref> |
พ.ศ. 2498 เป็นสถานที่ฉายเฉพาะกิจสำหรับหนังการ์ตูนไทยเรื่องแรก (16 มม./พากย์) ''เหตุมหัศจรรย์'' ของ [[ปยุต เงากระจ่าง]] (ซึ่งเพิ่งขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติปี พ.ศ. 2555)<ref>จุลสารทะเบียนมรดกภาพยนตร์ของชาติ ครั้งที่ 2,2555</ref>และหนังสงครามยิ่งใหญ่ในช่วงต้นทศวรรษ 2500 ได้แก่ ''[[นเรศวรมหาราช]]'' ของอัศวินภาพยนตร์ ,''[[สุรนารี]]'' ของชอว์บราเดอร์ส-วิจิตรเกษมภาพยนตร์ ฯลฯ |
||
หลังจากนั้นเป็นผู้นำความแปลกใหม่มาเสนออย่างต่อเนื่อง ได้แก่ หนังเพลงระบบทอดด์-เอโอ เสียงสเตอริโอโฟนิคสมบูรณ์แบบครั้งแรกของฮอลลีวูด ''[[มนต์รักทะเลใต้]] (South Pacific)'' ,หนังการ์ตูน ระบบซูเปอร์เทคนิรามา 70 มม.เรื่องแรกของโลก ''[[เจ้าหญิงนิทรา]] (Sleeping Beauty)'' ,หนังมหากาพย์สงครามโลก 34 ดาราสากล ''[[วันผด็จศึก]] (The Longest Day)'' ,หนังซีเนราม่า 3 เครื่องฉาย ''พิชิตตะวันตก (How the West Was Won)'' ,หนังมหากาพย์ทุนมโหฬารตลอดกาล ''[[คลีโอพัตรา]] (Cleopatra)'' ซึ่งเป็นครั้งแรกของโรงหนังเมืองไทยที่ติดตั้งลิฟท์บริการผู้ชมชั้นบน<ref>ข่าวบันเทิง หน้า 13 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ,พ.ศ. 2506</ref> และหนังเด่นอีกหลายเรื่อง เช่น ''[[บุษบาริมทาง (ภาพยนตร์)|บุษบาริมทาง (My Fair Lady)]] ,ดร.ชิวาโก (Dr.Zhivago)'' รวมทั้งหนังไทย-ชอว์บราเดอร์ส (ซีเนมาสโคป) รางวัลตุ๊กตาทอง (มรดกชาติปี พ.ศ. 2555) เรื่อง ''[[เรือนแพ]] ''<ref>จุลสารทะเบียนมรดกภาพยนตร์</ref> ที่กลับมาฉายซ้ำอีก 2-3 ครั้ง เป็นต้น |
หลังจากนั้นเป็นผู้นำความแปลกใหม่มาเสนออย่างต่อเนื่อง ได้แก่ หนังเพลงระบบทอดด์-เอโอ เสียงสเตอริโอโฟนิคสมบูรณ์แบบครั้งแรกของฮอลลีวูด ''[[มนต์รักทะเลใต้]] (South Pacific)'' ,หนังการ์ตูน ระบบซูเปอร์เทคนิรามา 70 มม.เรื่องแรกของโลก ''[[เจ้าหญิงนิทรา]] (Sleeping Beauty)'' ,หนังมหากาพย์สงครามโลก 34 ดาราสากล ''[[วันผด็จศึก]] (The Longest Day)'' ,หนังซีเนราม่า 3 เครื่องฉาย ''พิชิตตะวันตก (How the West Was Won)'' ,หนังมหากาพย์ทุนมโหฬารตลอดกาล ''[[คลีโอพัตรา]] (Cleopatra)'' ซึ่งเป็นครั้งแรกของโรงหนังเมืองไทยที่ติดตั้งลิฟท์บริการผู้ชมชั้นบน<ref>ข่าวบันเทิง หน้า 13 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ,พ.ศ. 2506</ref> และหนังเด่นอีกหลายเรื่อง เช่น ''[[บุษบาริมทาง (ภาพยนตร์)|บุษบาริมทาง (My Fair Lady)]] ,ดร.ชิวาโก (Dr.Zhivago)'' รวมทั้งหนังไทย-ชอว์บราเดอร์ส (ซีเนมาสโคป) รางวัลตุ๊กตาทอง (มรดกชาติปี พ.ศ. 2555) เรื่อง ''[[เรือนแพ]] ''<ref>จุลสารทะเบียนมรดกภาพยนตร์</ref> ที่ยังกลับมาฉายซ้ำอีก 2-3 ครั้ง เป็นต้น |
||
==วันมหาวิปโยค 14 ตุลา== |
|||
มีบทบาทสำคัญในช่วงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ [[14 ตุลาคม]] พ.ศ. 2516 เป็นทั้งที่หลบภัยและโรงพยาบาลของคนเจ็บจากการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย <ref>ตำนานโรงหนัง หน้า 61</ref> |
มีบทบาทสำคัญในช่วงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ [[14 ตุลาคม]] พ.ศ. 2516 เป็นทั้งที่หลบภัยและโรงพยาบาลของคนเจ็บจากการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย <ref>ตำนานโรงหนัง หน้า 61</ref> |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:48, 16 เมษายน 2556
ศาลาเฉลิมไทย เป็นอาคารที่ตั้งอยู่มุมถนนราชดำเนินกลางกับถนนมหาไชย
ประวัติ
ก่อสร้างในสมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม นายกรัฐมนตรี มีความประสงค์ให้เป็นโรงละครแห่งชาติในเวลานั้น และมีรูปแบบของอาคารกลมกลืนกับอาคารอื่นที่สร้างขึ้นริมถนนราชดำเนินกลาง
เดิมเป็นอาคารว่างเปล่าแล้วเป็นโกดังเก็บผ้าของทางราชการ ต่อมาบริษัทศิลป์ไทย (ซึ่งมีนายพิสิฐ ตันสัจจา เป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นด้วย) ได้ขอเช่าพื้นที่ ริเริ่มปรับปรุงต่อเติมเป็นสถานบันเทิง ออกแบบและควบคุมโดย อาจารย์ศิววงศ์ กุญชร ณ อยุธยา สถาปนิกชั้นนำของเมืองไทย ใช้งบประมาณถึง 1 ล้านบาท [1]
เปิดดำเนินการเป็นสถานที่แสดงละครเวทีอาชีพระหว่าง พ.ศ. 2492 ถึง พ.ศ. 2496 จึงเปลี่ยนเป็นโรงภาพยนตร์
ในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2532 ทางศาลาเฉลิมไทยได้จัดแสดงละครเวทีเรื่อง พันท้ายนรสิงห์ เป็นการอำลาอาลัยการปิดตัวถาวร หลังจากนั้นจึงได้ขนย้ายวัสดุอุปกรณ์ เครื่องฉาย รถขายไอศกรีม ลำโพง ตัวอักษรชื่อโรง พร้อมกับการรื้อถอนทั้งหมด เพื่อสร้างเป็นลานพลับพลามหาเจษฎาบดินทร์ ซึ่งทำให้เห็นโลหะปราสาท วัดราชนัดดารามวรวิหาร ได้เต็มที่
ความรุ่งโรจน์และนวัตกรรม
ในอดีตได้ชื่อว่าเป็นโรงมหรสพ ซึ่งผสมผสานความสง่างามแบบโรงละครในยุโรปกับความหรูหราของศิลปะลวดลายไทยอันวิจิตร ทันสมัยยิ่งใหญ่ด้วยเวทีเลื่อนขึ้นลงได้ระบบไฮดรอลิค [2] เพียงแห่งเดียวของเมืองไทย สามารถจุผู้ชม 1,500 ที่นั่ง (ศาลาเฉลิมนคร 800 ที่นั่ง ,ศาลาเฉลิมกรุง 600 ที่นั่ง) ตั้งแต่ยุคละครเวที หลายเรื่องของคณะอัศวินการละครเป็นตำนานที่มีชื่อเสียง เช่น พันท้ายนรสิงห์ ,บ้านทรายทอง ฯลฯ[3]
เมื่อเข้าสู่ยุคปรับเปลี่ยนเป็นโรงภาพยนตร์ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2496 นอกจากตัวโรง ยังได้จัดพื้นที่ซึ่งเป็นต้นแบบของวัฒนธรรมร้านข้าวโพดคั่ว (Pop Corn) อย่างโรงหนังต่างประเทศ และร้านไอศกรีมป๊อบ "ตราเป็ด" ที่ดังมากของยุค เป็นสัญลักษณ์มองเห็นแต่ไกล
ต้นเดือนเมษายน ปีนั้น เป็นแห่งแรกในเมืองไทยที่ฉายหนังสามมิติ ใต้อุ้งมือโจร (Man in the Dark) ตามด้วยหนังซีเนมาสโคปเรื่องแรกของโลก อภินิหารเสื้อคลุม (The Robe) เข้าฉายในวันสิ้นปี [4]
พ.ศ. 2498 เป็นสถานที่ฉายเฉพาะกิจสำหรับหนังการ์ตูนไทยเรื่องแรก (16 มม./พากย์) เหตุมหัศจรรย์ ของ ปยุต เงากระจ่าง (ซึ่งเพิ่งขึ้นทะเบียนเป็นมรดกชาติปี พ.ศ. 2555)[5]และหนังสงครามยิ่งใหญ่ในช่วงต้นทศวรรษ 2500 ได้แก่ นเรศวรมหาราช ของอัศวินภาพยนตร์ ,สุรนารี ของชอว์บราเดอร์ส-วิจิตรเกษมภาพยนตร์ ฯลฯ
หลังจากนั้นเป็นผู้นำความแปลกใหม่มาเสนออย่างต่อเนื่อง ได้แก่ หนังเพลงระบบทอดด์-เอโอ เสียงสเตอริโอโฟนิคสมบูรณ์แบบครั้งแรกของฮอลลีวูด มนต์รักทะเลใต้ (South Pacific) ,หนังการ์ตูน ระบบซูเปอร์เทคนิรามา 70 มม.เรื่องแรกของโลก เจ้าหญิงนิทรา (Sleeping Beauty) ,หนังมหากาพย์สงครามโลก 34 ดาราสากล วันผด็จศึก (The Longest Day) ,หนังซีเนราม่า 3 เครื่องฉาย พิชิตตะวันตก (How the West Was Won) ,หนังมหากาพย์ทุนมโหฬารตลอดกาล คลีโอพัตรา (Cleopatra) ซึ่งเป็นครั้งแรกของโรงหนังเมืองไทยที่ติดตั้งลิฟท์บริการผู้ชมชั้นบน[6] และหนังเด่นอีกหลายเรื่อง เช่น บุษบาริมทาง (My Fair Lady) ,ดร.ชิวาโก (Dr.Zhivago) รวมทั้งหนังไทย-ชอว์บราเดอร์ส (ซีเนมาสโคป) รางวัลตุ๊กตาทอง (มรดกชาติปี พ.ศ. 2555) เรื่อง เรือนแพ [7] ที่ยังกลับมาฉายซ้ำอีก 2-3 ครั้ง เป็นต้น
วันมหาวิปโยค 14 ตุลา
มีบทบาทสำคัญในช่วงเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2516 เป็นทั้งที่หลบภัยและโรงพยาบาลของคนเจ็บจากการต่อสู้เรียกร้องประชาธิปไตย [8]
อ้างอิง
- ↑ ธนาทิพย์ ฉัตรภูติ ,ตำนานโรงหนัง,สำนักพิมพ์เวลาดี 2547,ISBN:974-9659-11-2 หน้า 56-57
- ↑ ตำนานโรงหนัง หน้า 57-58
- ↑ อิงคศักดิ์ เกตุหอม ,นี่คือชีวิตของดอกดิน หอภาพยนตร์ชาติ(องค์การมหาชน),2554 ISBN:978-616-543-135-4 หน้า 29-31
- ↑ ตำนานโรงหนัง หน้า 60-61
- ↑ จุลสารทะเบียนมรดกภาพยนตร์ของชาติ ครั้งที่ 2,2555
- ↑ ข่าวบันเทิง หน้า 13 หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ ,พ.ศ. 2506
- ↑ จุลสารทะเบียนมรดกภาพยนตร์
- ↑ ตำนานโรงหนัง หน้า 61
ดูเพิ่ม
- ศาลาเฉลิมกรุง
- ศ.ดร.สุรพล วิรุฬห์รักษ์, นาฎยศิลป์รัชกาลที่ 9, สำนักพิมพ์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย , 2549.