ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระมหากษัตริยานี สีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ กุสุมะ นารีรัตน์ สิรีวัฒนา"
บรรทัด 28: | บรรทัด 28: | ||
ในช่วงปี พ.ศ. 2483 พระนางได้ทำการอุปถัมภ์[[ระบำเทพอัปสร]]โบราณขึ้นมาอีกครั้งโดยทรงให้การศึกษาแก่พระราชนัดดาพระองค์แรกคือ [[สมเด็จพระเรียมนโรดม บุปผาเทวี]]ให้เป็นนักรำอัปสร |
ในช่วงปี พ.ศ. 2483 พระนางได้ทำการอุปถัมภ์[[ระบำเทพอัปสร]]โบราณขึ้นมาอีกครั้งโดยทรงให้การศึกษาแก่พระราชนัดดาพระองค์แรกคือ [[สมเด็จพระเรียมนโรดม บุปผาเทวี]]ให้เป็นนักรำอัปสร |
||
ในปี พ.ศ. 2498 พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุสละราชบัลลังก์แก่พระราชบิดา โดยเป็น [[พระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต]] ต่อมาการสวรรคตของพระราชบิดาในปี พ.ศ. |
ในปี พ.ศ. 2498 พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุสละราชบัลลังก์แก่พระราชบิดา โดยเป็น [[พระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต]] ต่อมาการสวรรคตของพระราชบิดาในปี พ.ศ. 2503 เจ้านโรดม สีหนุได้ดำรงเป็นประมุขแห่งรัฐอีกครั้ง (ถึงแม้ว่าจะไม่ทรงดำรงพระอิสริยยศพระมหากษัตริย์อย่างเป็นทางการจนกระทั่งอีกสมัยหนึ่งใน พ.ศ. 2536) |
||
พ.ศ. 2513 สมาชิกสภาแห่งชาติลงมติปลดสมเด็จพระนโรดมสีหนุออกจากตำแหน่งประมุขรัฐขณะเสด็จเยือนต่างประเทศ แผนการรัฐประหารครั้งนี้นำโดยนักองค์ราชวงศ์[[สีสุวัตถิ์ สิริมตะ]]และมี[[ลอน นอล]]เป็นผู้ลงนามประกาศ |
พ.ศ. 2513 สมาชิกสภาแห่งชาติลงมติปลดสมเด็จพระนโรดมสีหนุออกจากตำแหน่งประมุขรัฐขณะเสด็จเยือนต่างประเทศ แผนการรัฐประหารครั้งนี้นำโดยนักองค์ราชวงศ์[[สีสุวัตถิ์ สิริมตะ]] และมี[[ลอน นอล]]เป็นผู้ลงนามประกาศสนับสนุนการปลดพระองค์ในสภาแห่งชาติ และมีการสถาปนา[[สาธารณรัฐเขมร]]ขึ้น พระนางได้เสด็จลี้ภัยออกจากกัมพูชา ในเหตุการณ์พนมเปญแตกเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2518 กลุ่มเขมรแดงได้ก่อตั้งกัมพูชาประชาธิปไตย เกิดการสังหารเชื้อพระวงศ์และชาวกัมพูชาจำนวนมาก พระนางเสด็จสวรรคตในวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2518 ณ กรุง[[ปักกิ่ง]] [[สาธารณรัฐประชาชนจีน]] สิริพระชนมายุ 71 พรรษา |
||
==อ้างอิง== |
==อ้างอิง== |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:55, 27 มีนาคม 2556
สมเด็จพระมหากษัตริยานี สีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ กุสุมะ นารีรัตน์ สิรีวัฒนา | |
---|---|
ไฟล์:Sisowath Kossamak.jpg | |
สมเด็จพระวรราชมารดา | |
ประสูติ | 9 เมษายน พ.ศ. 2447 พนมเปญ, กัมพูชา |
สวรรคต | 27 เมษายน พ.ศ. 2518 (71 ปี) ปักกิ่ง, จีน |
พระราชสวามี | พระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต |
พระราชบุตร | พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์นโรดม |
พระราชบิดา | พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ |
พระราชมารดา | พระองค์เจ้านโรดม กรรวิมาน |
สมเด็จพระมหากษัตริยานีสีสุวัตถิ์ กุสุมะ นารีรัตน์ สิริวัฒนา (9 เมษายน พ.ศ. 2447 - 27 เมษายน พ.ศ. 2518) เป็นสมเด็จพระราชินีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นพระอัครมเหสีในพระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต อภิเษกสมรสในปี พ.ศ. 2463
สมเด็จพระมหากษัตริยานีสีสุวัตถิ์ กุสุมะ นารีรัตน์ สิริวัฒนาเป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์กับพระองค์เจ้านโรดม กรรวิมาน พระนางทรงได้รับการสถาปนาเป็น สมเด็จพระวรราชมารดา หลังจากการสวรรคตของพระสวามี
พระราชประวัติ
สมเด็จพระสีสุวัตถิ์ กุสุมะอภิเษกสมรสกับพระญาติของพระราชบิดา ซึ่งก็คือ นักองมจะนโรดม สุรามฤต เมื่อการเสด็จสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ พระราชบิดาในปี พ.ศ. 2484 พระราชโอรสของพระนางคือ นักองราชวงศ์นโรดม สีหนุ ในฐานะที่ทรงเป็นพระราชนัดดาในพระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ มุนีวงศ์ ได้รับการเลือกให้สืบราชบัลลังก์ต่อจากพระอัยกาโดยฝรั่งเศสเป็น พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุ แทนที่พระปิตุลาซึ่งเป็นพระเชษฐาของพระนาง คือ สมเด็จกรมพระสีสุวัตถิ์ มุนีเรศ ที่มีสิทธิในการสืบราชบัลลังก์แต่ฝรั่งเศสไม่เลือกพระองค์
ในช่วงปี พ.ศ. 2483 พระนางได้ทำการอุปถัมภ์ระบำเทพอัปสรโบราณขึ้นมาอีกครั้งโดยทรงให้การศึกษาแก่พระราชนัดดาพระองค์แรกคือ สมเด็จพระเรียมนโรดม บุปผาเทวีให้เป็นนักรำอัปสร
ในปี พ.ศ. 2498 พระบาทสมเด็จพระนโรดม สีหนุสละราชบัลลังก์แก่พระราชบิดา โดยเป็น พระบาทสมเด็จพระนโรดม สุรามฤต ต่อมาการสวรรคตของพระราชบิดาในปี พ.ศ. 2503 เจ้านโรดม สีหนุได้ดำรงเป็นประมุขแห่งรัฐอีกครั้ง (ถึงแม้ว่าจะไม่ทรงดำรงพระอิสริยยศพระมหากษัตริย์อย่างเป็นทางการจนกระทั่งอีกสมัยหนึ่งใน พ.ศ. 2536)
พ.ศ. 2513 สมาชิกสภาแห่งชาติลงมติปลดสมเด็จพระนโรดมสีหนุออกจากตำแหน่งประมุขรัฐขณะเสด็จเยือนต่างประเทศ แผนการรัฐประหารครั้งนี้นำโดยนักองค์ราชวงศ์สีสุวัตถิ์ สิริมตะ และมีลอน นอลเป็นผู้ลงนามประกาศสนับสนุนการปลดพระองค์ในสภาแห่งชาติ และมีการสถาปนาสาธารณรัฐเขมรขึ้น พระนางได้เสด็จลี้ภัยออกจากกัมพูชา ในเหตุการณ์พนมเปญแตกเมื่อเดือนเมษายน พ.ศ. 2518 กลุ่มเขมรแดงได้ก่อตั้งกัมพูชาประชาธิปไตย เกิดการสังหารเชื้อพระวงศ์และชาวกัมพูชาจำนวนมาก พระนางเสด็จสวรรคตในวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2518 ณ กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน สิริพระชนมายุ 71 พรรษา