ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ภาษาเวียดนาม"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 124: บรรทัด 124:
! rowspan="8" | พยัญชนะต้น
! rowspan="8" | พยัญชนะต้น
! ''x''
! ''x''
| rowspan="2" | {{IPA|[s]}}
| rowspan="2" | {{IPA|[s]}}
| {{IPA|[s]}} || {{IPA|[s]}} || {{IPA|[s]}}
| {{IPA|[s]}} || {{IPA|[s]}} || {{IPA|[s]}}
|-
|-
! ''s''
! ''s''
| {{IPA|[ʂ]}} || {{IPA|[ʂ]}} || {{IPA|[ʂ]}}
| {{IPA|[ʂ]}} ส(ม้วนลิ้น) || {{IPA|[ʂ]}} ส(ม้วนลิ้น) || {{IPA|[ʂ]}} ส(ม้วนลิ้น)
|-
|-
! ''ch''
! ''ch''
| rowspan="2" | {{IPA|[tɕ]}}
| rowspan="2" | {{IPA|[tɕ]}}
| {{IPA|[tɕ]}} || {{IPA|[tɕ]}} || {{IPA|[tɕ]}}
| {{IPA|[tɕ]}} || {{IPA|[tɕ]}} || {{IPA|[tɕ]}}
|-
|-
! ''tr''
! ''tr''
| {{IPA|[tʂ]}} || {{IPA|[tʂ]}} || {{IPA|[tʂ]}}
| {{IPA|[tʂ]}} จ(ม้วนลิ้น) || {{IPA|[tʂ]}} จ(ม้วนลิ้น) || {{IPA|[tʂ]}} จ(ม้วนลิ้น)
|-
|-
! ''r''
! ''r''
| rowspan="3" | {{IPA|[z]}}
| rowspan="3" | {{IPA|[z]}} ซ(ก้อง)
| {{IPA|[ɹ], [ʐ]}} || {{IPA|[ɹ], [ʐ]}} || {{IPA|[ɹ], [ʐ]}}
| {{IPA|[ɻ]}} ร(ม้วนลิ้น) || {{IPA|[ɻ]}} ร(ม้วนลิ้น) || {{IPA|[ɻ]}} ร(ม้วนลิ้น)
|-
|-
! ''d''
! ''d''
| {{IPA|[ɟ]}}
| {{IPA|[ɟ]}} กึ่ง จ กึ่ง ก (ก้อง)
| rowspan="3" | {{IPA|[j]}}
| rowspan="3" | {{IPA|[j]}}
| rowspan="3" | {{IPA|[j]}}
| rowspan="3" | {{IPA|[j]}}
|-
|-
! ''gi''
! ''gi''
| {{IPA|[z]}}
| {{IPA|[z]}} ซ(ก้อง)
|-
|-
! ''v''<ref>In southern dialects, ''v'' is reported to have a [[spelling pronunciation]] (i.e., the spelling influences pronunciation) of {{IPA|[vj]}} or {{IPA|[bj]}} among educated speakers. However, educated speakers revert to usual {{IPA|[j]}} in more relaxed speech. Less educated speakers have {{IPA|[j]}} more consistently throughout their speech. See: Thompson (1959), Thompson (1965: 85, 89, 93, 97-98).</ref>
! ''v''<ref>In southern dialects, ''v'' is reported to have a [[spelling pronunciation]] (i.e., the spelling influences pronunciation) of {{IPA|[vj]}} or {{IPA|[bj]}} among educated speakers. However, educated speakers revert to usual {{IPA|[j]}} in more relaxed speech. Less educated speakers have {{IPA|[j]}} more consistently throughout their speech. See: Thompson (1959), Thompson (1965: 85, 89, 93, 97-98).</ref>
| {{IPA|[v]}} || {{IPA|[v]}}
| {{IPA|[v]}} กึ่ง ฟ กึ่ง ว || {{IPA|[v]}} กึ่ง ฟ กึ่ง ว
|-
|-
! rowspan="10" | ตัวสะกด
! rowspan="10" | ตัวสะกด
! ''c''
! ''c''
| {{IPA|[k]}} || {{IPA|[k]}}
| {{IPA|[k]}} || {{IPA|[k]}}
| rowspan="2" | {{IPA|[k]}}
| rowspan="2" | {{IPA|[k]}}
| rowspan="3" | {{IPA|[k]}}
| rowspan="3" | {{IPA|[k]}}
|-
|-
! ''t''
! ''t''
| rowspan="4" | {{IPA|[t]}}
| rowspan="4" | {{IPA|[t]}}
| rowspan="4" | {{IPA|[t]}}
| rowspan="4" | {{IPA|[t]}}
|-
|-
! style="line-height: 1em;" | ''t'' <br/><span style="font-weight: normal; font-size: small;">หลัง ''e''</span>
! style="line-height: 1em;" | ''t'' <br/><span style="font-weight: normal; font-size: small;">หลัง ''e''</span>
| {{IPA|[k, t]}}
| {{IPA|[k, t]}} ก/ต
|-
|-
! style="line-height: 1em;" | ''t'' <br/><span style="font-weight: normal; font-size: small;">หลัง ''ê''</span>
! style="line-height: 1em;" | ''t'' <br/><span style="font-weight: normal; font-size: small;">หลัง ''ê''</span>
| rowspan="3" | {{IPA|[t]}}
| rowspan="3" | {{IPA|[t]}}
| {{IPA|[k, t]}}
| {{IPA|[k, t]}} ก/ต
|-
|-
! style="line-height: 1em;" | ''t'' <br/><span style="font-weight: normal; font-size: small;">หลัง ''i''</span>
! style="line-height: 1em;" | ''t'' <br/><span style="font-weight: normal; font-size: small;">หลัง ''i''</span>
| rowspan="2" | {{IPA|[t]}}
| rowspan="2" | {{IPA|[t]}}
|-
|-
! ''ch''
! ''ch''
| {{IPA|[k]}} || {{IPA|[k]}}
| {{IPA|[c]}} กึ่ง จ กึ่ง ก || {{IPA|[k]}}
|-
|-
! ''ng''
! ''ng''
| {{IPA|[ŋ]}} || {{IPA|[ŋ]}}
| {{IPA|[ŋ]}} || {{IPA|[ŋ]}}
| rowspan="2" | {{IPA|[ŋ]}}
| rowspan="2" | {{IPA|[ŋ]}}
| rowspan="2" | {{IPA|[ŋ]}}
| rowspan="2" | {{IPA|[ŋ]}}
|-
|-
! ''n''
! ''n''
| rowspan="2" | {{IPA|[n]}}
| rowspan="2" | {{IPA|[n]}}
| rowspan="2" | {{IPA|[n]}}
| rowspan="2" | {{IPA|[n]}}
|-
|-
! style="line-height: 1em;" | ''n'' <br/><span style="font-weight: normal; font-size: small;">after ''i'', ''ê''</span>
! style="line-height: 1em;" | ''n'' <br/><span style="font-weight: normal; font-size: small;">after ''i'', ''ê''</span>
| rowspan="2" | {{IPA|[n]}}
| rowspan="2" | {{IPA|[n]}}
| rowspan="2" | {{IPA|[n]}}
| rowspan="2" | {{IPA|[n]}}
|-
|-
! ''nh''
! ''nh''
| {{IPA|[ŋ]}} || {{IPA|[ŋ]}}
| {{IPA|[ŋ]}} || {{IPA|[ŋ]}}
|}
|}



รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:59, 7 มีนาคม 2556

ภาษาเวียดนาม
Tiếng Việt
ออกเสียง[tjə̌ˀŋ vjə̀t] เตี๊ยงเหวียต
(ทางเหนือ)
[tjə̌ŋ jə̀k] เตี๊ยงเหยียก
(ทางใต้)
ประเทศที่มีการพูดเวียดนาม สหรัฐอเมริกา กัมพูชา ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย
จำนวนผู้พูด70–73 ล้าน  (ไม่พบวันที่)
ตระกูลภาษา
ออสโตรเอเชียติก
ระบบการเขียนอักษรละตินเพิ่มเครื่องหมายเสริมสัทอักษร
สถานภาพทางการ
ภาษาทางการเวียดนาม
รหัสภาษา
ISO 639-1vi
ISO 639-2vie
ISO 639-3vie

ภาษาเวียดนาม (Tiếng Việt, Việt ngữ) เป็นภาษาที่มีวรรณยุกต์ และเป็นภาษาทางการของประเทศเวียดนาม เป็นภาษาแม่ของประชากรเวียดนามถึง 87% รวมถึงผู้อพยพจากเวียดนามประมาณ 2 ล้านคน และรวมถึงชาวเวียดนาม-อเมริกันเป็นจำนวนพอสมควรด้วย ถึงแม้ว่าจะมีการยืมคำศัพท์จากภาษาจีน และเดิมใช้อักษรจีนเขียน แต่นักภาษาศาสตร์ยังคงจัดภาษาเวียดนามให้เป็น ภาษากลุ่มออสโตรเอเซียติก ซึ่งในกลุ่มนี้ภาษาเวียดนามมีผู้พูดมากที่สุด (10 เท่า ของภาษา ที่มีจำนวนคนพูดเป็นอันดับรองลงมา คือ ภาษาเขมร) ในด้านระบบการเขียนของภาษาเวียดนามนั้น แต่เดิมใช้ตัวเขียนจีน เรียกว่า "จื๋อญอ" ต่อมาชาวเวียดนามได้พัฒนาตัวเขียนจีนเพื่อใช้เขียนภาษาเวียดนาม เรียกว่า "อักษรจื๋อโนม" แต่ในปัจจุบันเวียดนามใช้ตัวอักษรโรมันที่พัฒนาขึ้นโดยมิชชันนารีชาวฝรั่งเศส โดยเครื่องหมายเสริมสัทอักษรใช้เป็นวรรณยุกต์

ตระกูลภาษา

ภาษาเวียดนามจัดอยู่ในสาขาเหวียด-เหมื่อง (Viet-Muong) ซึ่งเป็นสาขาหนึ่งในตระกูลภาษามอญ-เขมร (Mon-Khmer) หรือตระกูลออสโตรเอเชียติก (Austroasiatic) ประกอบด้วยภาษาเขมร ภาษามอญ ภาษามุนดา เป็นต้น แต่นักภาษาศาสตร์บางส่วนเห็นว่าควรจัดภาษาเวียดนามให้เป็นอีกสาขาหนึ่ง แยกจากภาษามอญ-เขมร

สำเนียงท้องถิ่น

ภาษาเวียดนามมีสำเสียงท้องถิ่นที่หลากหลาย แต่โดยมากถือว่ามี 3 หลัก ดังนี้

ถิ่นหลัก ท้องถิ่น ชื่อในยุคอาณานิคมของฝรั่งเศส
เวียดนามตอนเหนือ ถิ่นฮานอย, ถิ่นอื่นทางเหนือ: ไฮฟอง และถิ่นระดับจังหวัดจำนวนมาก ตังเกี๋ย
เวียดนามตอนกลาง ถิ่นเว้, ถิ่นเหงะอาน, ถิ่นกว๋างนาม อันนัมสูง
เวียดนามตอนใต้ ถิ่นไซ่ง่อน, ถิ่นแม่น้ำโขง (ตะวันตกไกล) โคชินไชนา

ภาษาถิ่นเหล่านี้มีน้ำเสียง การออกเสียง และบางครั้งก็มีคำศัพท์ที่แตกต่างไปบ้าง แม้ว่าภาษาถิ่นฮเว้จะมีคำศัพท์ที่แตกต่างค่อนข้างมากจากอื่นก็ตาม วรรณยุกต์ "หอย" และ "งะ" มีความแตกต่างในภาคเหนือ แต่กลืนเป็นวรรณยุกต์เดียวกันในภาคใต้

เสียง "ch" และ "tr" นั้นออกเสียงแตกต่างกันในถิ่นใต้และกลาง แต่รวมเป็นเสียงเดียวในถิ่นเหนือ สำหรับความแตกต่างด้านไวยากรณ์นั้นไม่ปรากฏ

ระบบเสียง

เสียงพยัญชนะ

เสียงพยัญชนะในภาษาเวียดนามมีหน่วยเสียงตามตารางทางด้านล่าง โดยอักษรด้านขวาเป็นสัทอักษร ส่วนอักษรทางด้านซ้ายเป็นอักษรที่ใช้เขียนแทนหน่วยเสียงนั้น ๆ ในภาษาเวียดนาม ส่วนด้านซ้ายนั้นเป็นอักษรไทยที่นิยมทับศัพท์

ริมฝีปาก ปุ่มเหงือก ปลายลิ้นม้วน เพดานแข็ง เพดานอ่อน เส้นเสียง
กัก ไม่ก้อง p [p] ป t [t] tr [tʂ~ʈ] ch [c~tɕ] c/k [k]
ธนิต   th [tʰ]
ก้อง b [ɓ] đ [ɗ] d [ɟ]
เสียดแทรก ไม่ก้อง ph [f] x [s] s [ʂ] kh [x] h [h]
ก้อง v [v] gi [z] r [ʐ~ɹ] g/gh [ɣ]
นาสิก m [m] n [n] nh [ɲ] ng/ngh [ŋ]
เปิด u/o [w] l [l] y/i [j]
สำเนียงต่างๆของเวียดนาม
รูปแบบ ค่าเสียงอ่าน เหนือ กลางตอนเหนือ กลาง ใต้
พยัญชนะต้น x [s] [s] [s] [s]
s [ʂ] ส(ม้วนลิ้น) [ʂ] ส(ม้วนลิ้น) [ʂ] ส(ม้วนลิ้น)
ch [tɕ] [tɕ] [tɕ] [tɕ]
tr [tʂ] จ(ม้วนลิ้น) [tʂ] จ(ม้วนลิ้น) [tʂ] จ(ม้วนลิ้น)
r [z] ซ(ก้อง) [ɻ] ร(ม้วนลิ้น) [ɻ] ร(ม้วนลิ้น) [ɻ] ร(ม้วนลิ้น)
d [ɟ] กึ่ง จ กึ่ง ก (ก้อง) [j] [j]
gi [z] ซ(ก้อง)
v[1] [v] กึ่ง ฟ กึ่ง ว [v] กึ่ง ฟ กึ่ง ว
ตัวสะกด c [k] [k] [k] [k]
t [t] [t]
t
หลัง e
[k, t] ก/ต
t
หลัง ê
[t] [k, t] ก/ต
t
หลัง i
[t]
ch [c] กึ่ง จ กึ่ง ก [k]
ng [ŋ] [ŋ] [ŋ] [ŋ]
n [n] [n]
n
after i, ê
[n] [n]
nh [ŋ] [ŋ]

เสียงสระ

  หน้า กลาง หลัง
สูง i [i] /-ิ/ ư [ɨ] /-ือ/ u [u] /-ู/
กลางสูง ê [e] /เ-/ ơ [əː] /เ-อ/ ô [o] /โ-/
กลางต่ำ e [ɛ] /แ-/ â [ə] /เ-อะ/ o [ɔ] /-อ/
ต่ำ ă [a] /-ะ/ , a [aː] /-า/


เสียงวรรณยุกต์

นักภาษาศาสตร์ได้ศึกษาภาษาเวียดนามและจัดให้อยู่ในภาษาตระกูลออสโตรเอเชียติก เช่นเดียวกับภาษาเขมร ซึ่งเป็นภาษาระบบคำสองพยางค์ (Disyllable) และมีลักษณะน้ำเสียง (Register) เป็นลักษณะสำคัญของภาษา อีกทั้งเป็นภาษาที่ไม่มีระบบเสียงวรรณยุกต์ แต่ภาษาเวียดนามปัจจุบันได้พัฒนาระบบเสียงวรรณยุกต์ขึ้นใช้ เนื่องจากอิทธิพลของภาษาที่มีเสียงวรรณยุกต์ อันได้แก่ ภาษาตระกูลไท (Tai familly) ที่อยู่โดยรอบ และภาษาจีนที่เข้ามาปกครองเวียดนามในขณะนั้น

สระในภาษาเวียดนามนั้น ออกเสียงโดยมีวรรณยุกต์ภายใน (thanh หรือ thanh điệu) โดยวรรณยุกต์ มีความแตกต่างกันที่

  • ระดับเสียง
  • ความยาว
  • น้ำเสียงขึ้นลง
  • ความหนักแน่น
  • การออกเสียงคอหอย (ลักษณะเส้นเสียง)

เครื่องหมายกำกับวรรณยุกต์นั้น ปกติจะเขียนเหนือหรือใต้สระ (ส่วนใหญ่เขียนไว้เหนือสระ แต่วรรณยุกต์หนั่ง (nặng) เป็นจุดใต้สระ) วรรณยุกต์ทั้ง 6 ในภาษาถิ่นเหนือ (รวมฮานอยด้วย) มีดังนี้

ชื่อ ลักษณะ เครื่องหมาย ตัวอย่าง ตัวอย่างสระ ออกเสียง
ngang   'ระดับ' สูงระดับ ˧ (ไม่มีเครื่องหมาย) ma  'ผี' a อา
huyền   'แขวน' ต่ำตก ˨˩ `  'แต่' à อ่า
sắc   'คม' สูงขึ้น ˧˥ ´  'แก้ม, แม่ (ถิ่นใต้) ' á อ๊า
hỏi   'ถาม' ต่ำขึ้น ˧˩˧  ̉ mả  'หลุมศพ, สุสาน' อ๋า
ngã   'ตก' สูงขึ้นหยุด ˧˥ˀ ˜  'ม้า (จีน-เวียดนาม), รหัส' ã อะ-อ๊ะ
nặng   'หนัก' ต่ำตกหยุด ˧˨ˀ  ̣ mạ  'สีข้าว' อ่า*(เสียงหนัก)

ไวยากรณ์

ภาษาเวียดนามเป็นภาษารูปคำโดดเช่นเดียวกับภาษาจีนและภาษาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อื่นๆ ไวยากรณ์เน้นที่การเรียงลำดับคำและโครงสร้างประโยคมากกว่าการผันคำ แสดงการโดยการเพิ่มคำเช่นเดียวกับภาษาไทย ภาษาเวียดนามเป็นภาษาคำโดด แต่ก็มีคำสองพยางค์อยู่เป็นจำนวนมาก การเรียงคำในประโยคเป็น ประธาน-กริยา-กรรม

กาล

ปกติแล้วไม่จำเป็นต้องแสดง โดยทั่วไปอดีตแสดงโดยคำว่า đã ปัจจุบันกาลกำลังกระทำ เติม đang อนาคตเติม sẽ

โครงสร้างแสดงหัวข้อ

เป็นโครงสร้างประโยคที่สำคัญในภาษาเวียดนาม ตัวอย่างเช่น Toi đọc sách này rồi = ฉันอ่านหนังสือนี้แล้ว อาจเรียงประโยคใหม่เป็น Sách này thi toi đọc rồi = หนังสือนี้น่ะฉันอ่านแล้ว (thi เป็นตัวแสดงหัวข้อ)

พหูพจน์

โดยทั่วไปไม่ต้องแสดง ถ้าแสดงจะใช้คำเติมเข้าไปในประโยค เช่น những, các, chúng

ลักษณนาม

ภาษาเวียดนามมีคำลักษณนามใช้แสดงลักษณะของนามเช่นเดียวกับภาษาไทยและภาษาจีน เช่น con ใช้กับสัตว์ cái ใช้กับสิ่งของไม่มีชีวิต คำลักษณนามบางคำอาจใช้ร่วมกันได้ เช่น cái con

คำสรรพนาม

คำสรรพนามในภาษาเวียดนามต่างจากภาษาอังกฤษ คือคำสรรพนามแต่ละคำไม่ได้ถูกแบ่งอย่างชัดเจนว่าเป็นบุรุษที่ 1 2 หรือ 3 ขึ้นกับผู้พูดและผู้ฟัง นอกจากนั้นยังต้องระมัดระวังในการระบุความสัมพันธ์ทางสังคมซึ่งขึ้นกับอายุและเพศ

การซ้ำคำ

พบมากในภาษาเวียดนามซึ่งเป็นการสร้างคำใหม่ ซึ่งมีความหมายต่างไปจากเดิม เช่นเป็นการลดหรือเพิ่มความเข้มของคำคุณศัพท์

คำศัพท์

คำศัพท์ทางการเมืองและวิทยาศาสตร์โดยมากมาจากภาษาจีน กว่า 70% ของคำศัพท์มีรากศัพท์มาจากภาษาจีน คำประสมหลายคำเป็นการประสมระหว่างคำดั้งเดิมในภาษาเวียดนามกับคำยืมจากภาษาจีน ซึ่งคำเหล่านี้ปัจจุบันมักถูกแทนที่ด้วยคำเวียดนาม นอกจากนี้ยังมีคำยืมจากภาษาฝรั่งเศสและภาษาอังกฤษ เช่น tivi มาจาก TV

ระบบการเขียน

ก่อนที่ฝรั่งเศสจะเข้ามายังเวียดนามนั้น ภาษาเวียดนามมีระบบการขียนสองแบบ ซึ่งทั้งสองแบบก็มีที่มาจากอักษรจีนเช่นเดียวกัน

  • อักษรจื๋อโญ (chữ nho, 字儒) หรืออักษรฮั้นถึ (hán tự, 漢字) คืออักษรจีนที่ใช้เขียนภาษาจีนโบราณ
  • อักษรจื๋อโนม (chữ nôm, 字喃) เป็นอักษรที่ใช้เขียนภาษาเวียดนาม โดยนำอักษรจีนมาดัดแปลงเล็กน้อย

ปัจจุบันภาษาเวียดนามเขียนด้วยอักษรโกว๊กหงือ (quốc ngữ แปลว่า อักษรประจำชาติ) ซึ่งเป็นอักษรละตินที่เพิ่มเติมเครื่องหมายต่าง ๆ เข้ามาเพื่อให้มีอักษรเพียงพอที่จะใช้เขียนภาษา อักษรดังกล่าวถูกคิดค้นขึ้นมาในคริสต์ศตวรรษที่ 17 โดยอาเลกซ็องดร์ เดอ โรดส์ ซึ่งเป็นมิชชันนารีชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาเผยแผ่ศาสนา โดยมีรากฐานมาจากระบบที่มิชชันนารีชาวโปรตุเกสคิดไว้ก่อนหน้านั้น ในระหว่างที่เวียดนามยังเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสนั้น อักษรโกว๊กหงือได้เป็นอักษรราชการของอาณานิคม ซึ่งได้ทำให้อักษรดังกล่าวเป็นที่แพร่หลายมากขึ้นเรื่อย ๆ อักษรโกว๊กหงือในปัจจุบันมีรูปแบบการเขียนที่อ้างอิงการออกเสียงของภาษาถิ่นเวียดนามกลาง ซึ่งสระและพยัญชนะท้ายจะคล้ายคลึงกับภาษาถิ่นเหนือ ส่วนพยัญชนะต้นจะคล้ายกับภาษาถิ่นใต้

ตัวอย่างประโยค

คำพูดที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

  • Xin chào ซิน จ่าว = สวัสดี
  • Bạn บั่น = เพื่อน

แม่แบบ:Link FA แม่แบบ:Link FA แม่แบบ:Link GA แม่แบบ:Link GA

  1. In southern dialects, v is reported to have a spelling pronunciation (i.e., the spelling influences pronunciation) of [vj] or [bj] among educated speakers. However, educated speakers revert to usual [j] in more relaxed speech. Less educated speakers have [j] more consistently throughout their speech. See: Thompson (1959), Thompson (1965: 85, 89, 93, 97-98).