ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฟังก์ชันแฮช"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต: เปลี่ยนจาก หมวดหมู่:การตรวจหาและการแก้ไขความผิดพลาด ไปยัง หมวดหมู่:การตรวจหาและแก...
บรรทัด 21: บรรทัด 21:
== ดูเพิ่ม ==
== ดูเพิ่ม ==
* [[ตารางแฮช]]
* [[ตารางแฮช]]
{{โครงคอม}}


[[หมวดหมู่:ฟังก์ชันแฮช| ]]
[[หมวดหมู่:ฟังก์ชันแฮช| ]]
[[หมวดหมู่:ขั้นตอนวิธีการค้นหา]]
[[หมวดหมู่:ขั้นตอนวิธีการค้นหา]]
[[หมวดหมู่:การตรวจหาและการแก้ไขความผิดพลาด]]
[[หมวดหมู่:การตรวจหาและแก้ไขความผิดพลาด]]
{{โครงคอม}}


[[ar:دالة هاش]]
[[ar:دالة هاش]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:17, 4 มีนาคม 2556

ฟังก์ชันแฮชจับข้อความไปเป็นตัวเลขตั้งแต่ 0 ถึง 15 มีการชนกันของข้อความ "John Smith" และ "Sandra Dee" ที่ช่อง 02

ฟังก์ชันแฮช (อังกฤษ: hash function) คือวิธีการอย่างหนึ่งซึ่งทำให้ข้อมูลส่วนหนึ่งหรือทั้งหมด ให้กลายเป็นจำนวนเล็กๆ อันหนึ่งอย่างมีปฏิสัมพันธ์ ซึ่งจำนวนดังกล่าวเปรียบได้ว่าเป็น "ลายนิ้วมือ" ของข้อมูล ขั้นตอนวิธีของฟังก์ชันแฮชส่วนใหญ่จะเป็นการแบ่งย่อยข้อมูลและการผสมข้อมูลย่อยทั้งหมดเข้าด้วยกันเพื่อให้ได้ผลลัพธ์สุดท้าย ผลลัพธ์ดังกล่าวอาจเรียกว่า ผลบวกแฮช (hash sum) ค่าแฮช (hash value) รหัสแฮช (hash code) หรือเรียกว่า แฮช (hash) เฉยๆ ก็ได้ บ่อยครั้งที่การเอ่ยถึงแฮชจะหมายถึงฟังก์ชันแฮชโดยปริยาย ปกติแล้วฟังก์ชันแฮชจะทำงานผ่านดัชนีที่เก็บไว้ในตารางแฮชที่อยู่ในหน่วยความจำหรือแฟ้มข้อมูลชั่วคราว

คุณสมบัติของฟังก์ชันแฮช

  • ควรมีความจำเพาะแต่ละข้อมูล ข้อมูลแต่ละตัวควรผ่านฟังก์ชันแฮชแล้วมีค่าไม่เท่ากัน เพื่อให้ข้อมูล

แต่ละตัว มีผลการแฮชเฉพาะตัว หรือเป็นลายนิ้วมือของข้อมูล โดยเฉพาะการใช้กับการตรวจสอบข้อมูล

  • หาง่าย ใช้เวลาน้อย
  • ควรกระจายในช่วงที่กำหนด เช่นถ้าต้องการแฮชได้เลขห้าหลัก ผลของการแฮชก็ควรจะกระจายกันตั้งแต่ 00000-99999 โดยเฉพาะการใช้กับตารางแฮช
  • ควรจะไม่คงผลลัพธ์ของลำดับเดิม หรือแก้กลับได้ง่าย เช่น ถ้าคีย์เป็น 12345 ไม่ควรให้กลับเป็น

54321 เป็นผลแฮช เพราะจะทำกลับได้ง่ายโดยเฉพาะการแฮชสำหรับการเข้ารหัส

การประยุกต์ใช้ฟังก์ชันแฮช

ฟังก์ชันแฮชเข้ารหัส

ฟังก์ชันแฮชเข้ารหัส (cryptographic hash function) คือฟังก์ชันแฮชที่ใช้เพื่อจุดประสงค์ในด้านความปลอดภัยของสารสนเทศ อาทิการยืนยันตนเพื่อเข้าสู่ระบบ (authentication) หรือการตรวจสอบความถูกต้องสมบูรณ์ของเนื้อหาข้อมูล อาทิ SHA-1, MD5 หรือ CRC32 เป็นต้น

ดูเพิ่ม