ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อับราฮัม"
พุทธามาตย์ (คุย | ส่วนร่วม) |
ล โรบอต เพิ่ม: min:Abraham |
||
บรรทัด 106: | บรรทัด 106: | ||
[[lt:Abraomas]] |
[[lt:Abraomas]] |
||
[[lv:Ābrams]] |
[[lv:Ābrams]] |
||
[[min:Abraham]] |
|||
[[mk:Аврам]] |
[[mk:Аврам]] |
||
[[ml:അബ്രഹാം]] |
[[ml:അബ്രഹാം]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 03:49, 8 กุมภาพันธ์ 2556
อับราฮัม (อังกฤษ: Abraham) เป็นบุคคลสำคัญในศาสนาอับราฮัม เรื่องราวของเขาถูกบันทึกไว้ในหนังสือปฐมกาลบทที่ 11 ถึงบทที่ 25 ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคัมภีร์โทราห์ของศาสนายูดาห์และคัมภีร์พันธสัญญาเดิมของศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลามก็ถืออับราฮัมเป็นเราะซูลของอัลลอฮ์ด้วย
อับราฮัม เดิมชื่อ "อับราม" เป็นบุตรของ เทราห์ สืบเชื้อสายมาจาก เชม บุตรของโนอาห์ [1]
อับราฮัมในคัมภีร์ไบเบิล
การเดินทาง
เทราห์บิดาของอับราฮัมได้นำอับราฮัม นางซาราห์ และโลท หลานชายออกเดินทางจากเมืองเออร์ ไปอยู่เมืองฮาราน ในดินแดนของคานาอัน ภายหลังจากบิดาเสียชีวิต เมื่ออับราฮัมมีอายุได้ 75 ปี เขาได้รับการทรงเรียกจากพระเจ้า ให้ไปยังดินแดนที่พระเจ้าจะนำทาง อับราฮัมจึงออกเดินทางพร้อมด้วยนางซาราห์ และพาโลทไปด้วย
เมื่อเกิดการกันดารอาหาร อับราฮัมจึงได้อพยพเข้าไปใน อียิปต์ เนื่องด้วยนางซาราห์เป็นคนสวย อับราฮัมเกรงจะถูกฆ่าเพื่อแย่งนาง อับราฮับจึงบอกคนอียิปต์ว่านางเป็นน้องสาว ด้วยเหตุนี้นางซาราห์จึงถูกนำไปถวายตัวแก่ฟาโรห์ พระเจ้าจึงทรงทำให้เกิดภัยพิบัติร้ายแรงแก่ฟาโรห์ ฟาโรห์จีงเรียกอับราฮัมมาและได้มอบตัวนางซาราห์ และทรัพย์สมบัติให้ อับราฮัมจึงเดินทางออกจากอียิปต์[2]
เมื่อออกจากอียิปต์ อับราฮัม ได้แยกทางกับ โลท เนื่องจากทั้งสองมีฝูงสัตว์ และคนรับใช้เยอะมาก ฝ่ายโลทเลือกเดินทางไปยังที่ลุ่มแม่น้ำจอร์แดน ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองโสโดม และเมืองโกมาราห์ ฝ่ายอับราฮัมก็เลือกไปอีกทางหนึ่ง
พันธสัญญาของพระเจ้า
เมื่ออับราฮัมอาศัยอยู่ในที่พำนักนั้น พระเจ้าทรงมีพระดำรัสกับอับราฮัมว่า "มองดูฟ้าเถิด ถ้าเจ้านับดาวทั้งหลายได้ ก็นับไปเถิด...พงศ์พันธ์ของเจ้าจะมากมายเช่นนั้น" [3] และทรงมีคำพยากรณ์ให้อัมราฮัมอีกว่า "...พงศ์พันธุ์ของเจ้า จะเป็นคนต่างด้าวในดินแดนซึ่งมิใช่ของเขา และเขาจะต้องรับใช้ชาวเมืองนั้น ชาวเมืองนั้นจะบีบบังคับเขาถึงสี่ร้อยปี..." [4]
เมื่ออับราฮัม อายุได้ 99 ปี พระเจ้าทรงปรากฏต่อหน้าอับราฮัม และทรงเปลี่ยนชื่อ จากเดิม อับราม เป็น อับราฮัม และทรงกระทำพันธสัญญาแก่อับราฮัม ว่า "เจ้าจะเป็นบิดาของประชาชาติมากมาย ชื่อของเจ้าจะมิใช่อับรามอีกต่อไป เจ้าจะมีชื่อใหม่คืออับราฮัม เพราะเราให้เจ้าเป็นบิดาของประชาชาติมากมาย เราจะกระทำให้เจ้ามีพงศ์พันธุ์มากอย่างยิ่ง เราจะกระทำเจ้าให้เป็นชนหลายชาติ และกษัตริย์หลายองค์จะเกิดมาจากเจ้า เราจะตั้งพันธสัญญาของเราไว้ระหว่างเรากับเจ้า และเชื้อสายของเจ้าที่สืบมาตลอดชั่วชาติพันธุ์ของเขาให้เป็นพันธสัญญานิรันดร์ คือเป็นพระเจ้าแก่เจ้า และแก่เชื้อสายของเจ้าที่สืบมา เราจะให้ดินแดนที่เจ้าอาศัยอยู่นี้ คือแผ่นดินคานาอันทั้งสิ้นแก่เจ้า และแก่เชื้อสายของเจ้าที่สืบมา ให้เป็นกรรมสิทธิ์นิรันดร์ และเราจะเป็นพระเจ้าของเขา" [5]
พระเจ้าทรงให้อับราฮัมและครอบครัวของเขาถือสุหนัต เพื่อเป็นพันธสัญญาระหว่างพระเจ้ากับอับราฮัมและเชื้อสาย โดยการตัดหนังหุ้มปลายองคชาต โดยกำหนดให้ผู้ชายทุกคนในครอบครัว ตั้งแต่เด็กที่มีอายุ 8 วันขึ้นไปต้องประกอบพิธีเข้าสุหนัต [6]
บุตรชายของอับราฮัม
เรื่องราวบุตรชายของอับราฮัมที่กล่าวถึงในพระคัมภีร์ที่โดดเด่นมีด้วยกัน 2 คน คืออิชมาเอลและอิสอัค และมีมุมมองต่อบุคคลทั้งสองแตกต่างกัน ระหว่างศาสนาอิสลามและศาสนาคริสต์
อิชมาเอล
นางซาราห์ ภรรยาของอับราฮัมเป็นหมัน นางจึงยกนางฮาการ์ สาวใช้ชาวอียิปต์ ให้เป็นภรรยาอับราฮัม นางฮาการ์ก็ตั้งครรภ์ และคลอดบุตรชาย ชื่อ อิชมาเอล ตามที่คัมภีร์ไบเบิลระบุไว้ว่าพระเจ้าไม่ได้ให้อิชมาเอลเป็นผู้สืบเชื้อสายของอับราฮัม แต่ในคัมภีร์อัลกุรอานมีมุมมองที่แตกต่างกันออกไป
ในหนังสือปฐมกาลกล่าวว่า เมื่อนางฮาการ์ตั้งครรภ์ ก็ดูถูกนายหญิงของตน ภายหลังเมื่อนางซาราห์มีบุตรของตนเอง นางฮาการ์และอิชมาเอล จึงถูกขับไล่ออกจากครอบครัว[7] แต่พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะให้พงศ์พันธุ์ของอิชมาเอลเป็นพงศ์พันธ์ใหญ่เช่นกัน นักศาสนศาสตร์บางท่านเชื่อว่า อิชมาเอล คือบรรพบุรุษของชาวเปอร์เซีย แต่ในทัศนะของอิสลาม อิชมาเอล เป็นบรรพบุรุษของอาหรับ
อิสอัค
อิสอัคเป็นบุตรของอับราฮัมและนางซาราห์ อิสอัคคลอดเมื่ออับราฮัมมีอายุได้หนึ่งร้อยปี[8] เมื่ออิสอัคโตขึ้น พระเจ้าก็ทรงลองใจอับราฮัม โดยให้ถวายอิสอัคเป็นเครื่องบูชา[9] และเมื่ออับราฮัมแสดงความไว้วางใจพระเจ้า พระองค์ก็ให้ทูตสวรรค์มายั้งมืออับราฮัม และมอบลูกแกะให้เป็นเครื่องบูชาแทน
คัมภีร์ไบเบิลบันทึกไว้ว่าอับราฮัมสิ้นใจเมื่อมีอายุได้หนึ่งร้อยเจ็ดสิบห้าปี เมื่ออับราฮัมเสียชีวิตอิสอัคและอิชมาเอลก็ฝังศพของท่านไว้ในถ้ามัคเปลาห์
อิบราฮีมในคัมภีร์อัลกุรอาน
ส่วนนี้รอเพิ่มเติมข้อมูล คุณสามารถช่วยเพิ่มข้อมูลส่วนนี้ได้ |
อ้างอิง
- ↑ หนังสือปฐมกาล บทที่ 11 ข้อที่ 10-26
- ↑ หนังสือปฐมกาล บทที่ 12
- ↑ หนังสือปฐมกาล บทที่ 15 ข้อที่ 4-5
- ↑ หนังสือปฐมกาล บทที่ 15 ข้อที่ 13
- ↑ หนังสือปฐมกาล บทที่ 17 ข้อที่ 4-8
- ↑ หนังสือปฐมกาล บทที่ 17 ข้อ 10-14
- ↑ หนังสือปฐมกาล บทที่ 16 และบทที่ 21
- ↑ หนังสือปฐมกาล บทที่ 21 ข้อ 5
- ↑ พระธรรมปฐมกาล บทที่ 22 ข้อ1-19