ผลต่างระหว่างรุ่นของ "จังหวัดนครราชสีมา"

พิกัด: 14°58′28″N 102°05′53″E / 14.974444°N 102.098055°E / 14.974444; 102.098055
จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
BotKung (คุย | ส่วนร่วม)
เก็บกวาดบทความด้วยบอต
บรรทัด 513: บรรทัด 513:


'''อำเภอพิมาย'''
'''อำเภอพิมาย'''
* [[เทศบาลเมืองพิมาย]]
* [[เทศบาลตำบลพิมาย]]
* [[เทศบาลตำบลรังกาใหญ่]]
* [[เทศบาลตำบลรังกาใหญ่]]



รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:45, 9 มกราคม 2556

จังหวัดนครราชสีมา
การถอดเสียงอักษรโรมัน
 • อักษรโรมันChangwat Nakhon Ratchasima
คำขวัญ: 
เมืองหญิงกล้า ผ้าไหมดี หมี่โคราช ปราสาทหิน ดินด่านเกวียน

ข้อผิดพลาด: ต้องระบุภาพในบรรทัดแรก

แผนที่ประเทศไทย จังหวัดนครราชสีมาเน้นสีแดง
ประเทศ ไทย
การปกครอง
 • ผู้ว่าราชการ นายวินัย บัวประดิษฐ์
(ตั้งแต่ พ.ศ. 2555)
พื้นที่
 • ทั้งหมด20,493.964 ตร.กม.[1] ตร.กม. (Formatting error: invalid input when rounding ตร.ไมล์)
อันดับพื้นที่อันดับที่ 1
ประชากร
 (พ.ศ. 2555)
 • ทั้งหมด2,602,240 คน[2] คน
 • อันดับอันดับที่ 2
 • อันดับความหนาแน่นอันดับที่ 35
รหัส ISO 3166TH-30
ชื่อไทยอื่น ๆโคราช, ราชสีมา
สัญลักษณ์ประจำจังหวัด
 • ต้นไม้สาธร
 • ดอกไม้สาธร
ศาลากลางจังหวัด
 • โทรศัพท์0 4424 3798
 • โทรสาร0 4425 5070
เว็บไซต์http://www.nakhonratchasima.go.th/
สารานุกรมประเทศไทย ส่วนหนึ่งของสารานุกรมประเทศไทย

จังหวัดนครราชสีมา หรือรู้จักในชื่อ โคราช เป็นจังหวัดที่มีพื้นที่มากที่สุดในประเทศไทยและมีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ของประเทศ อยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีอาณาเขตติดกับจังหวัดขอนแก่น จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดนครนายก จังหวัดปราจีนบุรี และจังหวัดสระแก้ว

ประวัติศาสตร์

สมัยก่อนประวัติศาสตร์

จากหลักฐานทางโบราณคดีพบว่า มีชุมชนโบราณซึ่งเป็นร่องรอยของมนุษย์ก่อนประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคหินใหม่ต่อเนื่องมาถึงยุคสำริด และยุคเหล็ก กระจายอยู่ทั่วไปในจังหวัดนครราชสีมา โดยมีแหล่งโบราณคดีที่สำคัญคือ ชุมชนบ้านปราสาท ชุมชนบ้านโนนวัด แหล่งภาพเขียนสีเขาจันท์งาม ซึ่งกำหนดอายุได้ประมาณ 4,500 ปีมาแล้ว

ครั้นถึงสมัยประวัติศาสตร์ ได้เกิดมีความเจริญรุ่งเรืองมาตั้งแต่สมัยทวารวดี ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองเสมา ตั้งอยู่บริเวณอำเภอสูงเนินในปัจจุบัน เป็นเมืองใหญ่เชื่อกันว่าเป็นที่ตั้งของรัฐศรีจนาศะ ต่อมาในสมัยขอมพระนครมีการสร้าง เมืองโคราช หรือ นครราช อยู่ในบริเวณเดียวกัน และ มีเมืองพิมายเป็นเมืองสำคัญของขอมในบริเวณนี้

มีผู้เสนอว่าอาจมีความเป็นไปได้ที่ เมืองนครราช คือเมืองเดียวกันกับเมืองราด ของพ่อขุนผาเมือง เนื่องจากมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเมืองพระนครหลายประการ นอกจากนี้รูปสลักกองทัพชาวสยามบนระเบียงด้านหนึ่งของ นครวัด อาจเป็นชาวสยามจากลุ่มแม่น้ำมูลที่เกี่ยวข้องกับเมืองนครราช และยังมีการกล่าวถึงเมืองนครราชสีมาในพงศาวดารของกัมพูชาหลายครั้งด้วย อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีมุมมองอีกด้านหนึ่งก็ว่า นครราชสีมา นั้นเป็นคำไทยเป็นคำใหม่ แยกเป็นคำได้คือ นคร, ราช และ สีมา หมายความว่า "เมืองใหญ่อันเป็นขอบขัณฑสีมาของราชอาณาจักร" (ราช+สีมา) ส่วนคำว่า โคราช (สำเนียงถิ่น: โค-หฺราด , ไทยกลาง: โค-ราด, เขมร: โก-เรียช ) นั้น น่าจะเพี้ยนมาจาก นครราช (อ่านตามสำเนียงว่า คอน-หฺราด ซึ่งเป็นคำเรียกนครราชสีมาแบบย่อ ๆ ของชาวบ้าน) หรือ อังกอร์เรียจ ต่อมาลดรูปเป็น กอร์เรียจ และเพี้ยนเป็นโคราช ในที่สุด มากกว่าที่จะเพี้ยนมาจากโคราฆปุระ (Gorakhpur) ที่เป็นชื่อเมืองสมัยใหม่ในแคว้นเดียวกับเมืองอโยธยา (Ayodhya) ในอินเดีย ตามข้อสันนิษฐานของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ

สมัยอยุธยา

เนื่องจากตั้งอยู่เป็นบริเวณที่เป็นชายขอบระหว่างรัฐที่มีอำนาจ เป็นรัฐกันชน นครราชสีมาจึงมีประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวพันกับความขัดแย้งระหว่างรัฐอยู่เสมอ เช่น ระหว่างสยามกับกัมพูชา หรือ ระหว่างสยามกับล้านช้าง หรือ ในบางครั้งได้มีความพยายามที่จะตั้งตัวเป็นรัฐอิสระไม่ขึ้นกับผู้ใด เฉกเช่นเดียวกับบรรดาเมืองใหญ่อื่น ๆ

ในสมัยเจ้าสามพระยา อยุธยาสามารถเอาชนะกัมพูชาได้ รวมทั้งได้ทำการรวบรวมหัวเมืองในลุ่มแม่น้ำมูลเข้ามาอยู่ในอำนาจ เมื่อพระบรมไตรโลกนาถได้สืบราชสมบัติต่อมามีการจัดระดับเมืองพระยามหานคร 8 หัวเมือง คือ พิษณุโลก ศรีสัชนาลัย สุโขทัย กำแพงเพชร นครศรีธรรมราช นครราชสีมา ตะนาวศรี และทวาย ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เริ่มปรากฏชื่อเมืองนครราชสีมาเป็นเมืองสำคัญในขอบขัณฑสีมา และได้ดำรงความสำคัญสืบต่อมาในประวัติศาสตร์อยุธยาและรัตนโกสินทร์

ตามระบบระบบบรรดาศักดิ์ขุนนางไทย เจ้าเมืองนครราชสีมานับเป็นขุนนางระดับสูงมีบรรดาศักดิ์เป็น ออกญากำแหงสงครามรามภักดีพิรียภาหะ มีศักดินา 10,000 ไร่

ในสมัยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช กองทัพเมืองนครราชสีมาได้ถูกมอบหมายให้เป็นกำลังหลักในการโจมตีเมืองเสียมราฐ และภาคตะวันออกของทะเลสาบจนได้ชัยชนะเหนือพระยาละแวก ในที่สุด

เมืองโคราชสีมาในแผนที่ของ ลา ลูแบร์ พ.ศ. 2236

ครั้นถึงสมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย สมเด็จพระนารายณ์มหาราชทรงเห็นว่าเป็นหัวเมืองใหญ่และมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ เนื่องจากเป็นเมืองหน้าด่านของอยุธยาติดกับพรมแดนลาว (เข้าใจว่าเลยลำสะแทด ซึ่งเป็นลำน้ำสาขาของแม่น้ำมูลเหนือเมืองพิมายเป็นเขตแดนลาว เพราะมีบันทึกไว้ในนิราศหนองคาย สอดคล้องกับวัฒนธรรมและภาษาที่เปลี่ยนไปด้วย) จึงโปรดให้ย้ายเมืองเสมา มาสร้างเมืองใหม่ ณ ที่ตั้งปัจจุบัน โดยมี เดอ ลามาร์ นายช่างชาวฝรั่งเศสเป็นผู้ออกแบบ ขนาดกว้าง 1,000 เมตร ความยาว 1,700 เมตร มีกำแพงเมืองขนาดใหญ่ มีป้อมค่ายหอรบ และพระราชทานนามว่า "เมืองนครราชสีมา" ทรงโปรดให้พระยายมราช (สังข์)เป็นเจ้าเมือง ในคราวเดียวกันกับที่แต่งตั้ง เจ้าพระยารามเดโช เป็นเจ้าเมืองนครศรีธรรมราช

เดอ ลาลูแบร์ ชาวฝรั่งเศสที่เข้ามาสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้เขียนรายงานและบันทึกไว้ในจดหมายเหตุ ว่า เมืองโคราชสีมา (Corazema) เป็นหัวเมืองใหญ่ 1 ใน 7 มณฑล ตั้งอยู่ติดชายแดนของราชอาณาจักรสยามกับเมืองลาว มีเมืองบริวาร 5 เมือง

ในช่วงเริ่มต้นสองปีแรกของแผ่นดิน สมเด็จพระเพทราชา พระยายมราชเจ้าเมืองนครราชสีมาที่แต่งตั้งโดยสมเด็จพระนารายณ์มหาราชได้แข็งเมือง เนื่องจากไม่พอใจสมเด็จพระเพทราชา ที่ก่อการยึดอำนาจและเปลี่ยนราชวงศ์ จึงไม่ขอขึ้นต่อกรุงศรีอยุธยา แต่ถูกกองทัพกรุงศรีอยุธยาใช้เวลาปราบปรามโดยล้อมเมืองอยู่ประมาณ 2 ปี โดยใช้อุบายและกลยุทธปราบลงได้ พระยายมราช เจ้าเมืองนครราชสีมาได้หนีไปพึ่ง เจ้าพระยารามเดโชเจ้าเมืองนครศรีธรรมราชซึ่งไม่พอใจสมเด็จพระเพทราชาเช่นกัน แต่ถูกกองทัพอยุธยาตามไปปราบปรามลงได้ นับแต่นั้นเมืองนครราชสีมาได้ถูกลดความสำคัญลงไม่เข้มแข็งดังแต่ก่อน

สมัยกรุงธนบุรี

หลังกรุงศรีอยุธยาล่มสลาย เจ้าเมืองพิมายและกรมหมื่นเทพพิพิธได้ตั้งตัวเป็นชุมนุมอิสระที่สำคัญชุมนุมหนึ่งแต่ถูกปราบลงโดยพระเจ้าตาก หลังจากนั้นเมืองนครราชสีมาได้เป็นฐานกำลังทางทหารและการปกครองที่สำคัญของไทยมาโดยตลอด โดยในสมัยกรุงธนบุรีได้ถูกใช้เป็นฐานรวบรวมกำลังของ พระยาอภัยรณฤทธิ์ และ พระยาอนุชิตราชา ในการสงครามกับล้านช้างและกัมพูชา ในคราวสงครามตีเมืองเวียงจันทน์และได้พระแก้วมรกต หลวงยกกระบัตรเมืองพิมายอยู่ในทัพหน้า มีความดีความชอบจึงได้รับการแต่งตั้งเป็น พระยานครราชสีมา และ เจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น) ในที่สุด ต่อมาพระยากำแหงสงคราม (บุญคง) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าเมืองนครราชสีมา ในช่วงปลายรัชสมัยพระเจ้าตาก เมื่อเกิดการกบฏพระยาสรรค์ขึ้น พระสุริยอภัย กรรมการเมืองนครราชสีมา ได้นำกำลังทหารชาวนครราชสีมากลับเข้าควบคุมสถานการณ์ในกรุงธนบุรีไว้ได้ก่อนที่ เจ้าพระยาจักรี และ เจ้าพระยาสุรสีห์ จะยกทัพกลับมาจากกัมพูชาและเกิดการเปลี่ยนแผ่นดิน ในครั้งนั้น พระยากำแหงสงคราม (บุญคง) เจ้าเมืองนครราชสีมา ที่นำทัพไปกัมพูชาพร้อมกับ เจ้าฟ้ากรมขุนอินทรพิทักษ์ ถูกประหารชีวิตไปพร้อมกับเชื้อพระวงศ์ และขุนนางเดิมของพระเจ้าตาก จำนวนหนึ่ง และได้มีการเปลี่ยนตัวเจ้าเมืองนครราชสีมาเป็นพระยานครราชสีมา (เที่ยง) ผู้ซึ่งเป็นบุตรของเจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น)

สมัยรัตนโกสินทร์

ในรัชสมัยรัชกาลที่ 1 เมืองนครราชสีมามีฐานะเป็นเมืองชั้นเอก กำกับตรวจตราเมืองประเทศราช ๓ เมือง คือ เวียงจันทน์ นครพนม จำปาศักดิ์ ให้รวมทั้งปกครองหัวเมืองเขมร พระยานครราชสีมา (เที่ยง) เป็นผู้สำเร็จราชการ และในรัชสมัยรัชกาลที่ 1นี้ ชาวเมืองนครราชสีมาได้น้อมเกล้าถวายช้างเผือก 2 เชือก

ในสมัยรัชกาลที่ 2 เกิดกบฏ อ้ายสาเกียดโง้ง ที่จำปาศักดิ์ มีรับสั่งให้พระยานครราชสีมา (เที่ยง) นำกองทัพไปปราบ แต่ เจ้าอนุวงศ์ เจ้าประเทศราชเวียงจันทน์ส่งเจ้าราชวงศ์ไปปราบกบฏได้เสร็จสิ้นก่อน และเจ้าราชวงศ์ได้ครองเมืองจำปาศักดิ์ต่อมา ต่อมาทองอิน เชื้อสายของพระเจ้าตาก และบุตรบุญธรรมของเจ้าพระยานครราชสีมา (ปิ่น) ได้เป็นผู้สำเร็จราชการต่อจากพระยานครราชสีมา (เที่ยง)

ในสมัยรัชกาลที่ 3 เจ้าอนุวงศ์ ฉวยโอกาสที่เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอิน) นำกองทหารไปราชการต่างเมือง ยกทัพลาวมายึดครองเมืองนครราชสีมา และส่งกองทหารไปกวาดต้อนครอบครัวลาวถึงเขตเมืองสระบุรีก่อนที่จะถอยทัพเมื่อกองทัพสยามจากพระนครเริ่มรวมพลได้ทัน เมื่อวันที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2369 ก่อนกองทัพลาวจะถอยทัพออกจากเมืองนครราชสีมา ไปยังทางเหนือเพื่อสมทบกับกองทัพของเจ้าสุทธิสาร โดยก่อนไป ได้ถอนเสาหลักเมืองออกเพื่อให้เป็นเมืองร้าง และเจ้าอนุวงศ์ได้สั่งการให้ทหารกองหลังรื้อกำแพงเมืองออก เผาประตูเมือง และสถานที่สำคัญๆในเมืองให้หมดสิ้น ให้ตัดต้นไม้ที่ให้ผลให้เหลือแต่ตอ ด้วยที่จะได้กลับมายึดเมืองนครราชสีมาได้สะดวกในภายหลัง ทำให้ต้นไม้ผลถูกตัดหมดสิ้น กำแพงเมืองจากมุมทิศอิสานและกำแพงเมืองด้านทิศตะวันออกถูกรื้อออกหมด กำแพงเมืองทางทิศใต้ถูกรื้อมาถึงด้านหลังวัดสระแก้ว ส่วนกำแพงเมืองจากมุมทิศอิสานและกำแพงเมืองทางทิศเหนือถูกรื้อ กำแพงเมืองด้านทิศตะวันตกถูกรื้อออก 1 ส่วนเหลือ 2 ส่วน ประตูเมืองถูกเผาบางส่วน 3 ประตูคือ ประตูเมืองทางทิศตะวันเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก ชาวเมืองนครราชสีมาผู้เฒ่าผู้แก่ที่ไม่ได้ถูกกวาดต้อน ได้รับข่าวว่ากองทัพจากพระนครที่ส่งกำลังมาช่วยเหลือ กำลังจะเดินทัพมามาถึงทุ่งโพธิ์เตี้ยห่างจากเมืองนครราชสีมา 10 กม. ในอีกไม่นาน ทำให้กำลังทหารลาวกองหลังของเจ้าอนุวงศ์ที่กำลังทำรื้อกำแพง และเผาทำลายเมืองนครราชสีมาอยู่นั้น เกิดความหวาดกลัวและถอยทัพออกไป ทำให้เมืองนครราชสีมาถูกเผาทำลายลงไปเพียงบางส่วน ส่วนชาวเมืองนครราชสีมาที่ถูกกวาดต้อนไปนั้น ได้รวมตัวกันต่อต้านกองทัพลาวของเจ้าอนุวงศ์ โดยมีพระยาปลัดนครราชสีมา พระยายกกระบัตร และ พระณรงค์สงคราม (มี) เป็นผู้นำในการรบ ณ ทุ่งสัมฤทธิ และผู้นำในการสนับสนุนช่วยเหลือการรบ คือ คุณหญิงโม ภริยาปลัดเมืองนครราชสีมา ต่อมากองทัพชาวนครราชสีมาได้ร่วมกับกองทัพหลวงของกรมพระราชวังบวรฯ ในการรบครั้งต่อๆมาจนกระทั่งเข้ายึดเมืองเวียงจันทน์ได้ในที่สุด ภายหลัง คุณหญิงโมได้รับการแต่งตั้งเป็นท้าวสุรนารี และ พระณรงค์สงครามได้เลื่อนตำแหน่งเป็นพระยาณรงค์สงคราม

ในการสงครามเจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอิน) และพระยาณรงค์สงคราม ได้เป็นทัพหน้าของกองทัพที่นำโดยเจ้าพระยาบดินทรเดชานำพลชาวนครราชสีมาทำการรบอย่างกล้าหาญในสงครามกับเวียดนาม และสามารถรุกไปถึงเขตแดนเมืองไซ่ง่อน ก่อนที่จะต้องถอยทัพเนื่องจากกองทัพไทยพ่ายแพ้ในแนวรบด้านอื่น ต่อมาพระยาณรงค์สงคราม ได้เป็นนายทัพสำคัญในกองทัพของเจ้าพระยาบดินทรเดชา จนสิ้นสุดสงคราม

เมื่อ เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอิน) ถึงแก่กรรม พระพรหมบริรักษ์ (เกษ) บุตรชายคนโตของเจ้าพระยาบดินทรเดชาได้รับการแต่งตั้งให้เป็น เจ้าเมืองนครราชสีมาคนต่อมา

เมื่อว่างเว้นจากสงคราม เมืองโคราชได้ฟื้นตัวขึ้นใหม่กลายเป็นชุมทาง การค้าที่สำคัญ ในการติดต่อระหว่างภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับภาคกลาง มีกองเกวียน กองคาราวานการค้า ขนาดใหญ่ผ่าน และ หยุดพักอยู่เสมอ

ในสมัยรัชกาลที่ 4 บาทหลวงปาลเลกัวซ์ ได้เขียนว่า ตัวเมืองโคราชล้อมรอบด้วยกำแพงตั้งอยู่บนที่ราบสูง เดินทางจากบางกอกใช้เวลา 6 วันโดยไต่ระดับสูงขึ้นไปตามเส้นทาง ดงพญาไฟ ประชากรโคราชมีประมาณ 60,000 คน ครึ่งหนึ่งเป็นคนสยาม อีกครึ่งหนึ่งเป็นคนเขมร ในตัวเมืองมีประชากร 7,000 คน มีคนจีนประมาณ 700 คน มีเหมืองแร่ทองแดง มีโรงหีบอ้อย สินค้า คือ ข้าว งาช้าง หนังสัตว์ เขาสัตว์ ไม้เต็ง อบเชย

ในรัชกาลนี้ เจ้าพระยานครราชสีมา (เกษ) ได้เลื่อนเป็น เจ้าพระยามุขมนตรี (เกษ) และ เจ้าเมืองนครราชสีมาคนต่อมาคือ พระยานครราชสีมา (แก้ว) บุตรชายคนรองของเจ้าพระยาบดินทรเดชา หลังจากนั้น พระยานครราชสีมา (แก้ว) ได้เลื่อนเป็น เจ้าพระยายมราช (แก้ว) และ เจ้าเมืองคนต่อมาคือ พระยานครราชสีมา (เมฆ) บุตรชายคนโตของ เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอิน)

ในสมัยรัชกาลที่ 5 พระยานครราชสีมา (เมฆ) บุตรของ เจ้าพระยานครราชสีมา (ทองอิน) ได้เป็นแม่ทัพบกไปปราบจีนฮ่อที่เมืองหนองคาย ต่อมาเมื่อมีการจัดตั้งมณฑลนครราชสีมาเพื่อควบคุมดูแลหัวเมืองในบริเวณใกล้เคียง เป็นมณฑลแรกของประเทศ มีพระยานครราชสีมา (กาจ สิงหเสนี) บุตรเขยของพระยานครราชสีมา (เมฆ) เป็นผู้ว่าราชการคนแรก มีการจัดตั้งกองทหารประจำมณฑลตามหลักสากล มีการตั้งโรงเรียนนายร้อยตำรวจที่นครราชสีมา มีการสร้างทางรถไฟจากกรุงเทพฯ ผ่านอยุธยา สระบุรี ดงพญาไฟ ไปสู่นครราชสีมา จนเปิดการเดินรถไฟหลวง สายกรุงเทพ - นครราชสีมา ได้สำเร็จ การคมนาคมติดต่อสะดวกขึ้นเป็นอย่างมาก ในช่วงเดียวกันฝรั่งเศสได้เข้ามามีอำนาจเหนือคาบสมุทรอินโดจีน ทำให้สยามจำต้องเร่งการปรับปรุงพัฒนาราชอาณาจักรโดยเฉพาะในบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในสมัยรัชกาลที่ 6 มีการจัดตั้งการขนส่งปรษณียภัณฑ์ทางอากาศ และ สายการบินระหว่าง กรุงเทพ - นครราชสีมา มีการขยายเส้นทางรถไฟสายอีสาน จนสามารถขยายเส้นทางการเดินรถไฟจาก นครราชสีมา ถึง ขอนแก่น และ นครราชสีมา ถึง อุบลราชธานี ได้สำเร็จในสมัยรัชกาลที่ 7

ยุคหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง

ในช่วงหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พระองค์เจ้าบวรเดช ได้รวบรวมกองกำลังทหารจากมณฑลนครราชสีมาเป็นหลัก ร่วมกับ พันเอกพระยาศรีสิทธิ์สงคราม เพื่อทำการต่อสู้กับคณะผู้เปลี่ยนแปลงการปกครอง คณะผู้ก่อการได้ยกกองกำลังเข้ามาล้อมกรุงเทพฯ แต่เมื่อการต่อสู้ยืดเยื้อในที่สุดก็ต้องถอยทัพและประสบความพ่ายแพ้เนื่องจากมีกำลังที่น้อยกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ พันโทหลวงพิบูลสงครามผู้บัญชาการกองกำลังผสมฝ่ายรัฐบาล มีอำนาจในการควบคุมกำลังทหารมากขึ้นส่งผลให้ได้อำนาจทางการเมืองและจัดตั้งรัฐบาลทหารได้ในเวลาต่อมา

ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง กองทหารในสังกัด มณฑลทหารบกที่ 3 นครราชสีมา ได้ทำการร่วมรบในกรณีพิพาทอินโดจีน กองทัพไทยสามารถยึดดินแดนกลับคืนมาบางส่วน เป็นการชั่วคราว หลังสงครามยุติสหรัฐอเมริกาได้ให้ความช่วยเหลือสร้างถนนมิตรภาพ จาก สระบุรี ถึง นครราชสีมา ซึ่งเป็นทางหลวงที่ได้มาตรฐานดีที่สุดของประเทศในขณะนั้น

ในช่วงสงครามเวียดนาม สหรัฐอเมริกาได้ขอใช้นครราชสีมาเป็นฐานบัญชาการการรบ มีการสร้างฐานบินโคราช และต่อมาไทยได้เปลี่ยนให้เป็น กองบิน 1 ซึ่งเป็นฐานกำลังรบทางอากาศหลักของกองทัพอากาศไทยในปัจจุบัน โดยมีมีเครื่องบิน F-16 ประจำการอยู่สองฝูงบิน

ในปี พ.ศ. 2523 มีความพยายามรัฐประหารโดยกลุ่มทหารของ พลเอกสัณห์ จิตรปฏิมา แต่ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์นายกรัฐมนตรี ได้กราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระราชวงศ์ทรงแปรพระราชฐานไปประทับที่นครราชสีมา กองกำลังทหารจากกองทัพภาคที่ 2 นำโดยพลตรี อาทิตย์ กำลังเอกได้เป็นกองกำลังหลักในการปราบกบฏลงได้ในที่สุด หลังจากนั้น อดีตผู้บัญชาการกองทัพภาคที่ 2 หลายท่านได้ก้าวเข้าสู่ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกในเวลาต่อมา

เนื่องจากความสำคัญทางยุทธศาสตร์ ปัจจุบัน นครราชสีมา จึงได้กลายเป็นเมืองศูนย์ราชการที่สำคัญที่สุดรองจากกรุงเทพมหานคร เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน การเงิน การศึกษา การสาธารณสุข การวิจัย การคมนาคม และ การอุตสาหกรรม ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งเป็นที่ตั้งของกองฐานกำลังรบหลักของกองทัพบก และกองทัพอากาศในปัจจุบัน เปรียบได้ว่าเป็นเมืองหลวงของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ในปี พ.ศ. 2553 ได้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในจังหวัดนครราชสีมา เนื่องจากฝนช่วงปลายฤดูตกหนักในบริเวณต้นแม่น้ำมูล นับเป็นอุทกภัยครั้งร้ายแรงที่สุดในรอบ 50 ปี

ภูมิศาสตร์

ภูมิประเทศ

อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

จังหวัดนครราชสีมาเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อยู่บนที่ราบสูงโคราช ห่างจากกรุงเทพ 259 กิโลเมตร มีพื้นที่ทั้งหมด 20,493.964 ตารางกิโลเมตร (12,808,728 ไร่) เป็นพื้นที่ป่าไม้ 2,297,735 ไร่ โดยส่วนใหญ่เป็นพื้นที่อุทยานแห่งชาติคืออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และอุทยานแห่งชาติทับลานร้อยละ 61.4 และเป็นแหล่งน้ำ 280,313 ไร่[3] ทิศเหนือติดต่อกับจังหวัดชัยภูมิ และขอนแก่น ทิศใต้ติดต่อกับจังหวัดปราจีนบุรี นครนายก และสระแก้ว ทิศตะวันออกติดต่อกับจังหวัดบุรีรัมย์ และทิศตะวันตกติดต่อกับจังหวัดสระบุรี ชัยภูมิ และลพบุรี

พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบ สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางระหว่าง 150-300 เมตร มีเทือกเขาสันกำแพง และเทือกเขาพนมดงรัก เป็นแนวยาวทางด้านทิศใต้และทิศตะวันตก ส่วนบริเวณตอนล่างค่อนไปทางเหนือและตะวันออกเป็นที่ราบลุ่ม โดยมีลำตะคองและลำน้ำสาขาอื่น ๆ ไหลหล่อเลี้ยงบริเวณด้านเหนือของเมือง และ เป็นสาขาหนึ่งของแม่น้ำสำคัญคือแม่น้ำมูลซึ่งเป็นแม่น้ำสายหลักของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ภูมิอากาศ

สภาพภูมิอากาศของจังหวัดนครราชสีมาจัดอยู่ในประเภททุ่งหญ้าเขตร้อน มีลมมรสุมหลักพัดผ่านคือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ทำให้อากาศหนาวเย็นและแห้งแล้ง กับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้มีอากาศชุ่มชื้นและมีฝนตกชุก โดยทั่วไปสามารถแบ่งฤดูกาลออกได้เป็น 3 ฤดู คือ ฤดูฝน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคมถึงเดือนตุลาคม มีฝนตกชุก ตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงเดือนตุลาคม โดยมีปริมาณน้ำฝนสูงสุดในเดือนตุลาคม ฤดูหนาว สภาพอากาศจะเริ่มเปลี่ยนจากฤดูฝนไปสู่ฤดูหนาวตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ระยะนี้ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งเป็นลมหนาวและแห้งพัดจากประเทศจีน และฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ ถึงกลางเดือนพฤษภาคม

เนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดนครราชสีมาเป็นพื้นที่ราบสูง มีป่าและทิวเขาสูงกั้นเขตแดนเป็นแนวยาว อากาศจึงค่อนข้างร้อนอบอ้าวในฤดูร้อน และในฤดูหนาวก็ค่อนข้างหนาวเย็นโดยอุณหภูมิเฉลี่ยตลอดทั้งปีประมาณ 27.4 องศาเซลเซียส อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย 22.7 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย 33 อาศาเซลเซียส มีค่าความชื้นสัมพัทธ์เฉลี่ยตลอดทั้งปี 71 % ความชื้นสัมพัทธ์สูงสุดเฉลี่ย 89% ความชื้นสัมพัทธ์ต่ำสุดเฉลี่ย 49 %

ข้อมูลภูมิอากาศของจังหวัดนครราชสีมา (พ.ศ. 2504-2533)
เดือน ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. ทั้งปี
อุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ย °C (°F) 30.6
(87.1)
33.5
(92.3)
35.8
(96.4)
36.5
(97.7)
34.9
(94.8)
34.1
(93.4)
33.6
(92.5)
33.1
(91.6)
32.1
(89.8)
30.9
(87.6)
29.7
(85.5)
29.3
(84.7)
32.84
(91.12)
อุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ย °C (°F) 16.8
(62.2)
20.0
(68)
22.2
(72)
24.0
(75.2)
24.5
(76.1)
24.3
(75.7)
23.9
(75)
23.7
(74.7)
23.6
(74.5)
22.6
(72.7)
20.2
(68.4)
17.1
(62.8)
21.91
(71.44)
หยาดน้ำฟ้า มม (นิ้ว) 5.9
(0.232)
17.8
(0.701)
37.1
(1.461)
63.5
(2.5)
140.5
(5.531)
108.3
(4.264)
113.7
(4.476)
146.2
(5.756)
221.6
(8.724)
143.4
(5.646)
27.3
(1.075)
2.8
(0.11)
1,028.1
(40.476)
วันที่มีหยาดน้ำฟ้าโดยเฉลี่ย (≥ 0.1 mm) 0.9 2.2 5.1 7.7 13.8 13.3 13.5 16.4 18.1 12.2 4.0 0.7 107.9
จำนวนชั่วโมงที่มีแดด 284.2 245.1 253.8 248.1 237.5 208.6 194.6 187.3 169.0 233.4 257.3 282.0 2,800.9
แหล่งที่มา 1: WMO
แหล่งที่มา 2: CMA

ข้อมูลการปกครอง

การปกครองส่วนภูมิภาค

แบ่งปกครองแบ่งออกเป็น 32 อำเภอ 289 ตำบล 3743 หมู่บ้าน เนื้อที่รวม 20,493.968 ตารางกิโลเมตร

  1. อำเภอเมืองนครราชสีมา
  2. อำเภอครบุรี
  3. อำเภอเสิงสาง
  4. อำเภอคง
  5. อำเภอบ้านเหลื่อม
  6. อำเภอจักราช
  7. อำเภอโชคชัย
  8. อำเภอด่านขุนทด
  9. อำเภอโนนไทย
  10. อำเภอโนนสูง
  11. อำเภอขามสะแกแสง
  12. อำเภอบัวใหญ่
  13. อำเภอประทาย
  14. อำเภอปักธงชัย
  15. อำเภอพิมาย
  16. อำเภอห้วยแถลง
  1. อำเภอชุมพวง
  2. อำเภอสูงเนิน
  3. อำเภอขามทะเลสอ
  4. อำเภอสีคิ้ว
  5. อำเภอปากช่อง
  6. อำเภอหนองบุญมาก
  7. อำเภอแก้งสนามนาง
  8. อำเภอโนนแดง
  9. อำเภอวังน้ำเขียว
  10. อำเภอเทพารักษ์
  11. อำเภอเมืองยาง
  12. อำเภอพระทองคำ
  13. อำเภอลำทะเมนชัย
  14. อำเภอบัวลาย
  15. อำเภอสีดา
  16. อำเภอเฉลิมพระเกียรติ
 
แผนที่
แผนที่
ข้อมูลอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา
ชั้น ชื่ออำเภอ พื้นที่
(ตร.กม.)
ห่างจาก
จังหวัด (กม.)
ตั้งเมื่อ
(พ.ศ.)
ตำบล หมู่บ้าน ประชากร
ชาย หญิง รวม
พิเศษ
เมืองนครราชสีมา
755.596 0 2438 25 243 214,809 224,657 439,466
1
ด่านขุนทด
1,428.14 84 2451 16 220 62,900 63,881 126,781
1
บัวใหญ่
305.028 101 2429 10 121 41,776 41,984 83,760
1
ปักธงชัย
1,374.32 34 2451 16 213 56,797 59,349 116,146
1
พิมาย
896.871 60 2443 12 208 64,039 65,925 129,964
1
สีคิ้ว
1,247.07 45 2498 12 169 60,967 61,704 122,671
1
ปากช่อง
1,825.17 85 2498 12 217 92,953 94,097 187,050
2
ครบุรี
1,816.85 58 2482 12 152 46,578 47,683 94,261
2
จักราช
501.672 40 2496 8 108 34,979 35,138 70,117
2
โชคชัย
503.917 30 2448 10 126 38,581 40,364 78,945
2
โนนสูง
676.981 37 2440 16 195 61,941 64,443 126,384
2
ประทาย
600.648 97 2504 13 148 38,900 38,948 77,848
2
สูงเนิน
782.853 36 2444 11 125 39,140 41,065 80,205
2
ห้วยแถลง
495.175 65 2504 10 120 37,826 37,254 75,080
2
ชุมพวง
540.567 98 2502 9 130 41,132 41,179 82,311
3
เสิงสาง
1,200.24 88 2519 6 84 34,440 34,188 68,628
3
คง
454.737 79 2481 10 155 40,231 41,067 81,298
3
โนนไทย
541.994 28 2443 10 131 35,584 36,675 72,259
3
ขามสะแกแสง
297.769 50 2511 7 72 21,537 21,722 43,259
3
แก้งสนามนาง
107.258 130 2529 5 56 18,656 18,828 37,484
3
วังน้ำเขียว
1,130.00 70 2535 5 83 20,992 21,078 42,070
4
บ้านเหลื่อม
218.875 85 2519 4 39 10,733 10,859 21,592
4
หนองบุญมาก
590.448 52 2526 9 104 29,847 29,882 59,729
4
เทพารักษ์
357.465 90 2538 4 58 12,087 11,755 23,842
4
พระทองคำ
359.522 45 2539 5 74 20,982 21,255 42,237
4
สีดา
162.825 85 2540 5 50 12,177 12,167 24,344
4
บัวลาย
106.893 103 2540 4 45 12,296 12,473 24,769
4
โนนแดง
193.407 75 2532 5 65 12,536 12,950 25,486
4
ขามทะเลสอ
203.605 22 2509 5 46 14,404 14,418 28,822
4
เมืองยาง
255.522 110 2538 4 44 14,156 13,925 28,081
4
ลำทะเมนชัย
308.457 120 2539 4 59 16,166 16,066 32,232
4
เฉลิมพระเกียรติ
254.093 18 2539 5 61 17,191 17,777 34,968

รายนามผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา

รายนามผู้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา และ ปลัดมณฑลทำหน้าที่ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา
รายนาม วาระการดำรงตำแหน่ง
1. พระยากำแหงสงคราม (กาจ สิงห์เสนี) รศ.115 - 120 (พ.ศ. 2439 - 2444)
2. พระรังสรรค์สารกิจ (เลื่อน ศรีเพ็ญ) รศ.120 - 123 (พ.ศ. 2444 - 2447)
3. พระยาสุริยเดช (จาบ สุวรรณทัต) รศ.123 - 124 (พ.ศ. 2447 - 2448)
4. พระยาวรชัยวุฒิกร (เลื่อง สนธิรัต) รศ.124 - 125 (พ.ศ. 2448 - 2449)
5. พระบรมราชบรรหาร (สวัสดิ์ วิเศษศิริ) รศ.125 - 129 (พ.ศ. 2449 - 2453)
6. พระไชยนฤนาท (ทองดี) รศ.129 - 131 (พ.ศ. 2453 - 2455)
7. พระเทพราชธานี (โหมด) พ.ศ. 2455 – 2456
8. พระยศสุนทร (ศิริ เทพหัสดิน ณ อยุธยา) พ.ศ. 2456 – 2458
9. พระยาสุริยราชวราภัย (จร) พ.ศ. 2458 – 2460
10. พ.ต.พระยาบรมราชบรรหาร (เย็น ภะระมรทัต) พ.ศ. 2460 - 2465
11. พระยานครราชเสนี (สหัส สิงหเสนี) พ.ศ. 2465 – 2471
12. พระยาพิริยะพิชัย (เทียบ สุวรรณนิน) พ.ศ. 2471 – 2474
13. พระยานายกนรชร (เจริญ ปริยานนท์) พ.ศ. 2474 – 2476
14. พระยากำธรพายัพทิศ ( ดิส อินทโสฬส) 2 พ.ย.2476 – 1 มี.ค.2479
15. พ.อ.หลวงอาจศรศิลป (ประพันธ์ ธนพุทธิ) พ.ศ. 2479 – 2484
16. นายสุรินทร์ ชิโนทัย พ.ศ. 2484 – 2484
17. พระสาครบุรานุรักษ์ (ปริก สุวรรณานนท์) 19 ธ.ค.2484 – 19 พ.ย.2486
18. ขุนทยานราญรอน (วัชระ วัชรบูล) 1 ต.ค.2486 – 21 ธ.ค.2487
19. หลวงวิธสุรการ (ถวิล เจียนมานพ) 22 ธ.ค.2487 – 31 ธ.ค.2488
20. นายอุดม บุญประคอง 1 ส.ค.2488 – 31 ก.ค.2489
21. นายถนอม วิบูลมงคล 21 ต.ค.2489 – 5 ธ.ค.2490
22. ขุนบริบาลบรรพตเขตต์ (สังเวียน บริบาลบรรพตเขตต์) 6 ธ.ค.2490 – 21 มี.ค.2492
23. ขุนวรคุตต์คณรักษ์ (บุญฤทธิ์ วรนุตนานนท์ ) 23 มี.ค.2492 – 20 มี.ค.2495
24. นายยุทธ จรัณยานนท์ 21 มี.ค.2495 – 11 ต.ค.2497
25. นายสุวรรณ รื่นยศ 12 ต.ค.2497 – 22 พ.ค.2500
26. พ.ต.อ.เลื่อน กฤษณามระ 23 พ.ค.2500 – 6 มี.ค.2501
27. นายเจริญ ภมรบุตร 6 มี.ค.2501 – 4 มี.ค.2507
28. นายสวัสดิ์วงศ์ ปฏิทัศน์ 4 มี.ค.2507 – 2 ต.ค.2511
29. นายสมชาย กลิ่นแก้ว 2 ต.ค.2511 – 15 เม.ย.2513
30. ร.ต.ท.ระดม มหาศรานนท์ 13 เม.ย.2513 – 30 ก.ย.2516
31. นายประมูล ศรัทธาทิพย์ 1 ต.ค.2516 – 5 ธ.ค.2516
32. นายวิชิต ศุขะวิริยะ 6 ธ.ค.2516 – 31 ธ.ค.2519
33. นายจำรูญ ปิยัมปุตระ 1 ม.ค.2520 – 30 ก.ย.2520
34. นายเลิศ หงษ์ภักดี 1 ต.ค.2520 – 31 มี.ค.2524
35. นายสมบูรณ์ ไทยวัชรามาศ 1 เม.ย.2524 – 30 ก.ย.2531
36. นายไสว พราหมณี 1 ต.ค.2531 – 30 ก.ย.2533
37. นายดำรง รัตนพานิช 1 ต.ค.2533 – 30 ก.ย.2537
38. นายสุพร สุภสร 1 ต.ค.2537 – 30 ก.ย.2539
39. นายประวิทย์ สีห์โสภณ 1 ต.ค.2539 – 19 ต.ค.2540
40. นายโยธิน เมธชนัน 20 ต.ค.2540 – 22 เม.ย.2544
41. นายสุนทร ริ้วเหลือง 23 เม.ย.2544 – 30 ก.ย.2547
42. นายพงศ์โพยม วาศภูติ 1 ต.ค.2547 – 30 ก.ย.2548
43. นายสมบูรณ์ งามลักษณ์ 1 ต.ค.2548 – 30 ก.ย.2550
44. นายสุธี มากบุญ 1 ต.ค.2550 - 30 ก.ย.2551
45. นายประจักษ์ สุวรรณภักดี 1 ต.ค.2551 - 30 ก.ย.2553
46. นายระพี ผ่องบุพกิจ 1 ต.ค.2553 - 27 พ.ย.2554
47. นายชวน ศิรินันท์พร 28 พ.ย.2554 - 28 ก.ย.2555
48. นายวินัย บัวประดิษฐ์ 1 ต.ค. 2555 -ปัจจุบัน

การปกครองส่วนท้องถิ่น

แบ่งออกเป็น 1 เทศบาลนคร 4 เทศบาลเมือง 77 เทศบาลตำบล และ 251 องค์การบริหารส่วนตำบล โดยมีรายชื่อเทศบาลดังนี้

อำเภอเมืองนครราชสีมา

อำเภอปากช่อง

อำเภอสีคิ้ว

อำเภอบัวใหญ่

อำเภอปักธงชัย

อำเภอพิมาย

อำเภอโนนสูง

อำเภอโชคชัย

อำเภอด่านขุนทด

อำเภอครบุรี

อำเภอเทพารักษ์

อำเภอสูงเนิน

อำเภอขามทะเลสอ

อำเภอขามสะแกแสง

อำเภอคง

อำเภอโนนไทย

อำเภอห้วยแถลง

อำเภอเสิงสาง

อำเภอบ้านเหลื่อม

อำเภอจักราช

อำเภอเฉลิมพระเกียรติ

อำเภอชุมพวง

อำเภอโนนแดง

อำเภอบัวลาย

อำเภอประทาย

อำเภอพระทองคำ

อำเภอเมืองยาง

อำเภอลำทะเมนชัย

อำเภอวังน้ำเขียว

อำเภอสีดา

อำเภอหนองบุญมาก

อำเภอแก้งสนามนาง

ภาพมุมกว้างของตัวเมืองนครราชสีมา มุมมองจากอาคาร 9 ชั้นที่ 15 มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

เศรษฐกิจ

โครงสร้างเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดนครราชสีมามีโครงสร้างที่สำคัญ ได้แก่ ภาคอุตสาหกรรม ภาคการเกษตร และการค้าส่งค้าปลีก ซึ่งมีอัตราสัดส่วนโครงสร้างร้อยละ 22.46, 19.82 และ 14.91 ตามลำดับ[4] ในภาคการเกษตร จังหวัดมีพื้นที่เกษตรกรรมทั้งสิ้น 8,931,032 ไร่ แบ่งเป็น ปลูกข้าว จำนวน 4,329,724 ไร่ พืชไร่จำพวกข้าวโพด มันสำปะหลัง [[ปอ[[ ฝ้าย และข้าวฟ่าง จำนวน 3,793,602 ไร่ และปลูกพืชสวน 632,170 ไร่ มีครัวเรือนเกษตรกรรวมทั้งสิ้น 326,587 ครัวเรือน[4] โดยมีพืชเศรษฐกิจ 3 อันดับแรก คือ ข้าว มันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงสัตว์ เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด การเลี้ยงไหมโดยเฉพาะที่อำเภอปักธงชัยเป็นแหล่งผ้าไหมที่ขึ้นชื่อ อาชีพการทำป่าไม้ และการประมงน้ำจืดตามลุ่มน้ำ

ในภาคอุตสาหกรรม ปี พ.ศ. 2553 จังหวัดนครราชสีมามีโรงงานทั้งสิ้น 2,398 โรงงาน มีมูลค่าการลงทุน ประมาณ 119 ล้านบาท[4] ซึ่งโรงงานอุตสาหกรรมส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมการเกษตรมีสัดส่วนเฉลี่ยร้อยละ 18.84 อุตสาหกรรมขนส่งเฉลี่ยร้อยละ 12.27 อุตสาหกรรมอโลหะเฉลี่ยร้อยละ 11.38 และอุตสาหกรรมอาหารเฉลี่ยร้อยละ 10.02[5] สำหรับอุตสาหกรรมเหมืองแร่ มีแร่ที่สำคัญคือ หินบะซอลต์ หินปูน และ เกลือหิน โดยเฉพาะเกลือหิน พบมากในตอนเหนือและตอนกลางของจังหวัด

ปี พ.ศ. 2553 จังหวัดนครราชสีมามีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (Gross Provincial Product - GPP) เท่ากับ 187,693 ล้านบาท และ ผลิตภัณฑ์จังหวัดต่อคน (GPP per capita) เท่ากับ 66,670 บาท[6]

ภาคการเงินการธนาคาร จังหวัดนครราชสีมามีจำนวนสำนักงานของธนาคารทั้งสิ้น 125 สำนักงาน เงินรับฝากรวมทุกประเภท (ก.ค.2555) ทั้งสิ้น 108,245 ล้านบาท และ เงินให้สินเชื่อรวมทุกประเภท (ก.ค.2555) ทั้งสิ้น 109,406 ล้านบาท [7]

นักลงทุนทั้งในประเทศไทยและต่างชาติต่างให้ความสำคัญกับจังหวัดนี้มาก จึงได้ตั้งฉายาให้กับจังหวัดนี้ว่าเป็น "มหานครแห่งอีสาน" เป็นเสมือนเมืองหลวงของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะเป็นศูนย์กลางทางด้านต่าง ๆ ของภูมิภาค ได้แก่ การปกครอง การศึกษา การสาธารณสุข การคมนาคมขนส่ง การอุตสาหกรรม การเงินการธนาคาร การพาณิชย์ การลงทุน การสื่อสารโทรคมนาคม ฯลฯ มีคำขวัญของเมืองโคราชว่า มหานครแห่งอีสาน เมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ ประตูเชื่อมโยงพันธมิตร สร้างเศรษฐกิจสู่สากล

ข้อมูลประชากร

จังหวัดนครราชสีมามีประชากร ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2553 ทั้งสิ้น 2,582,089 คน แยกเป็นชาย 1,277,333 คนและหญิง 1,304,756 คน[8] มีเด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี จำนวน 88,569 คน ผู้สูงอายุเกิน 60 ปี จำนวน 192,533 คน และคนพิการ 22,230 คน[9] มีจำนวนบ้านทั้งสิ้น 802,134 หลัง

กลุ่มประชากร

ปัจจุบันจังหวัดนครราชสีมามีประชากรมากเป็นอันดับหนึ่งของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และมากเป็นอันดับสองของประเทศรองจากกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วยประชากรหลากหลายเชื้อชาติหรือหลายชาติพันธุ์ แต่กลุ่มชาติพันธุ์ในจังหวัดนครราชสีมาที่มีจำนวนมากมีอยู่สองกลุ่มใหญ่คือ ไทย (หรือเรียกอีกอย่างว่า ไทยโคราช) และอีกกลุ่มคือ ลาว (หรือไทยอีสาน) และมีชนกลุ่มน้อยอีกได้แก่ มอญ กุย (หรือส่วย) ชาวบน จีน ไทยวน ญวน และแขก

ไทยโคราช

ชาวไทยสยามเก็บน้ำตาล

กลุ่มชาติพันธุ์ไทยที่อยู่ในนครราชสีมาเรียกอีกอย่างว่า ไทยโคราช เป็นคนกลุ่มใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครราชสีมา คนกลุ่มนี้ใช้ภาษาเหมือนไทยในส่วนกลาง เพียงแต่เสียงวรรณยุกต์เพี้ยนไปบ้าง และมีคำศัพท์สำนวนบางอย่างที่มีลักษณะเป็นของตนเอง เดิมถิ่นนี้ชาวพื้นเมืองเป็นละว้า ชาวไทยได้อพยพเข้ามาอยู่อาศัย สมัยกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าอู่ทองให้ขุนหลวงพะงั่วยกกองทัพมารวบรวมดินแดนแถบนี้เข้ากับกรุงศรีอยุธยา พระเจ้าอู่ทองโปรดฯ ให้กองทหารอยุธยาตั้งด่านอยู่ประจำ และส่งช่างชาวอยุธยามาก่อสร้างบ้านเรือนและวัดวาอารามเป็นอันมาก ชาวไทยอยุธยาได้อพยพเข้ามาอยู่อาศัยเพิ่มขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช และได้อพยพมาอยู่นครราชสีมาอีกระลอกหนึ่งคือ คราวเสียกรุงครั้งที่ 2 โดยมีชาวไทยชายฝั่งทะเลภาคตะวันออกได้อพยพเข้ามาเพิ่มด้วย ชาวไทยกลุ่มนี้และชาวไทยพื้นเมืองเดิม (เข้าใจว่าเป็นชาวสยามลุ่มน้ำมูล (ไท-เสียม) อาจมีเขมรและมอญปนอยู่ด้วย) สืบเชื้อสายเป็นชาวไทยโคราชและรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีสืบทอดกันมา

กลุ่มไทยโคราชเป็นกลุ่มที่แสดงเอกลักษณ์ของเมืองนครราชสีมา เพราะสำเนียงแตกต่างจากกลุ่มอื่น เป็นกลุ่มที่พูดภาษาไทยโคราชซึ่งคล้ายคลึงภาษาไทยกลางแต่สำเนียงเพี้ยน เหน่อ ห้วนสั้น เกิ่นเสียง มีคำไทยลาว (อีสาน) ปะปนบ้างเล็กน้อย ชาวไทยโคราชแต่งกายแบบไทยภาคกลาง รับประทานข้าวเจ้า อาหารทั่วไปคล้ายคลึงภาคกลาง ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวัฒนธรรมคล้ายไทยภาคกลาง ปัจจุบัน กลุ่มไทยโคราชอาศัยอยู่ในทุกอำเภอในจังหวัดนครราชสีมา ยกเว้นบางอำเภอที่มีชาวไทยลาวมากกว่า (อำเภอบัวใหญ่ ปักธงชัย และสูงเนิน) และยังพบชาวไทยโคราชในบางส่วนของจังหวัดสระบุรี จังหวัดลพบุรี จังหวัดชัยภูมิ (อำเภอบำเหน็จณรงค์และจัตุรัส) และจังหวัดบุรีรัมย์ (อำเภอเมืองบุรีรัมย์ นางรอง และละหานทราย)

ลาว

ลาว (ลาวเวียง ไทยลาว หรือไทยอีสาน) เป็นกลุ่มหนึ่งที่มีจำนวนประชากรมากรองจากกลุ่มไทยโคราช แต่อพยพเข้ามาทีหลัง อาศัยอยู่มากในบางอำเภอของจังหวัดนครราชสีมา เช่น อำเภอบัวใหญ่ อำเภอปักธงชัย อำเภอสูงเนิน และบางส่วนของอำเภอประทาย อำเภอห้วยแถลง อำเภอชุมพวง และอำเภอสีคิ้ว เป็นต้น ไทยอีสานพูดภาษาอีสานและมีขนบธรรมเนียมประเพณีเหมือนชาวอีสานทั่วไป กลุ่มไทยอีสานอพยพเข้ามาอยู่ในจังหวัดนครราชสีมาหลายรุ่น ส่วนใหญ่อพยพเข้ามาอยู่สมัยสงครามปราบปรามเมืองเวียงจันทน์ สมัยธนบุรี มีการกวาดต้อนครอบครัวลาวเข้ามาอยู่ในหัวเมืองชั้นใน และอพยพเข้ามาโดยสมัครใจเพิ่มขึ้นในระยะหลัง

มอญ

จากการสำรวจสำมะโนประชากรของจังหวัดนครราชสีมา เมื่อปี พ.ศ. 2446 ในสมัยรัชกาลที่ 5 พบว่า มีชาวมอญอยู่จำนวน 2,249 คน จากจำนวนประชากรของนครราชสีมา 402,668 คน ชาวมอญอพยพเข้ามาอยู่บริเวณเมืองนครราชสีมา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2318 ในสมัยกรุงธนบุรี สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี พระราชทานครัวมอญที่อพยพเข้ามาสวามิภักดิ์ มีพระมหาโยธา (เจ่ง) เป็นหัวหน้า แบ่งให้พระยานครราชสีมานำขึ้นมาอยู่ที่เมืองนครราชสีมา ตั้งครัวมอญที่ลำพระเพลิง เขตอำเภอปักธงชัยที่บ้านพลับพลา อำเภอโชคชัย พระยาศรีราชรามัญผู้เป็นหัวหน้าพาญาติพี่น้องมาอยู่ในเมืองเป็นสายกองส่วยทอง ตั้งบ้านเรือนเรียกว่าบ้านมอญ เมื่อเกิดกบฏเจ้าอนุวงศ์ เมื่อปี พ.ศ. 2336 พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวได้โปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพระยามหาโยธา (ทอเรีย) คุมกองมอญมาสมทบมาร่วมรบกับกำลังฝ่ายไทย เมื่อเสร็จศึกแล้วพวกมอญเห็นเมืองปักธงชัยอุดมสมบูรณ์จึงมาตั้งถิ่นฐาน ปัจจุบันชาวมอญในนครราชสีมายังรักษาวัฒนธรรมประเพณีมอญไว้ เช่น ภาษา การไหว้ผี การเล่นสะบ้าในเขตบ้านท่าโพธิ บ้านสำราญเพลิง ตำบลนกออก อำเภอปักธงชัย ประกอบอาชีพทำนา ทำสวน ทำเครื่องปั้นดินเผา ภาษามอญจะใช้พูดในชาวไทยมอญที่อายุเกิน 60 ปีขึ้นไป คนรุ่นหลังจากนี้จะพูดภาษาไทยโคราชทั้งสิ้น

ส่วย

ส่วย หรือ ข่า เป็นชนพื้นเมืองของหัวเมืองเขมรป่าดงและเมืองนครราชสีมา พูดภาษาตระกูลมอญ-เขมร ได้อยู่ในพื้นที่นี้ก่อนที่คนไทยจะเข้ามามีอิทธิพลเหนือดินแดนบริเวณลุ่มแม่น้ำมูลตอนบน เมื่อปี พ.ศ. 2362 เจ้าเมืองนครราชสีมา (ทองอินทร์) ตีข่าได้ แล้วนำมายังเมืองนครราชสีมา ภาษาส่วย เป็นภาษาของชาวส่วยที่อพยพมาจากจังหวัดสุรินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ และจังหวัดบุรีรัมย์ ที่มาตั้งหลักแหล่งอยู่ที่ ตำบลห้วยแถลง อำเภอห้วยแถลง ปัจจุบันมีเฉพาะผู้ที่อายุเกิน 40 ปีขึ้นไป ที่ยังคงใช้ภาษาส่วยในกลุ่มของตนเอง นอกจากนั้นจะใช้ภาษาไทยโคราชเป็นพื้น

ญัฮกุร

ญัฮกุร หรือ เนียะกุล เป็นชนกลุ่มน้อยที่อาศัยอยู่ตามไหล่เขาหรือเนินเขาเตี้ย ๆ บริเวณด้านในของที่ราบสูงโคราช ชาวบนอาจสืบเชื้อสายมาจากคนในสมัยทวารวดี อยู่ในบางหมู่บ้านของอำเภอปักธงชัย อำเภอครบุรี และอำเภอหนองบุญมาก ภาษาชาวบน เป็นภาษาตระกูลมอญ-เขมร ปัจจุบันชาวบนพูดภาษาชาวบนเฉพาะผู้ที่อายุเกิน 60 ปีขึ้นไป นอกจากนั้นใช้ภาษาไทยโคราช

ไทยวน

ไทยยวน หรือ ไทยโยนก เป็นเผ่าไทยในภาคเหนือของไทย ได้อพยพเข้ามาอยู่ที่อำเภอสีคิ้วสองทางด้วยกันคือ พวกแรกอพยพจากทางเหนือมาอยู่ที่อำเภอเสาไห้ จังหวัดสระบุรี ต่อมาเจ้าเมืองสระบุรีต้องการตั้งกองเลี้ยงโคนมที่เมืองนครจันทึก จึงได้แบ่งครอบครัวชาวไทยยวนจากอำเภอเสาไห้ไปอยู่ที่อำเภอสีคิ้ว ส่วนอีกพวกหนึ่งอพยพมาจากเวียงจันทน์ ชาวไทยยวนยังรักษาประเพณีและวัฒนธรรมแบบโยนกไว้ได้ดีมาก ภาษาไทยยวน ใช้พูดในหมู่ไทยยวนด้วยกันเองซึ่งมีอยู่ประมาณ 5,000 คน ในเขตอำเภอสีคิ้ว ในท้องที่ตำบลลาดบัวขาว ตำบลสีคิ้ว และตำบลบ้านหัน

นอกจากนี้ยังมีกลุ่ม ชาวจีน ชาวเวียดนาม และชาวแขก

การศึกษา

จังหวัดนครราชสีมามีสถาบันการศึกษาหลายแห่ง แบ่งตามเขตการศึกษา ทั้งหมด 7 เขต

การแบ่งเขตพื้นที่การศึกษา

  • เขต 1 - อำเภอเมืองนครราชสีมาและอำเภอโนนสูง
  • เขต 2 - อำเภอจักราช อำเภอหนองบุญมาก อำเภอห้วยแถลง อำเภอเฉลิมพระเกียรติและอำเภอโชคชัย
  • เขต 3 - อำเภอปักธงชัย อำเภอครบุรี อำเภอเสิงสาง และอำเภอวังน้ำเขียว
  • เขต 4 - อำเภอสีคิ้ว อำเภอสูงเนินและอำเภอปากช่อง
  • เขต 5 - อำเภอเทพารักษ์ อำเภอพระทองคำ อำเภอขามสะแกแสง อำเภอขามทะเลสอ อำเภอโนนไทยและอำเภอด่านขุนทด
  • เขต 6 - อำเภอสีดา อำเภอบัวลาย อำเภอบ้านเหลื่อม อำเภอแก้งสนามนาง อำเภอคงและอำเภอบัวใหญ่
  • เขต 7 - อำเภอประทาย อำเภอเมืองยาง อำเภอชุมพวง อำเภอลำทะเมนชัย อำเภอพิมายและอำเภอโนนแดง

โรงเรียน

สถาบันอุดมศึกษา

สถาบันอุดมศึกษาของรัฐ

สถาบันอุดมศึกษาเอกชน

สถาบันอุดมศึกษานานาชาติ

สถาบันอาชีวศึกษา

สถาบันการอาชีวศึกษาของรัฐ

สถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 5

สถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๕ ประกอบด้วย วิทยาลัยเทคนิคนครราชสีมา วิทยาลัยอาชีวศึกษานครราชสีมา วิทยาลัยเทคนิคหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ วิทยาลัยเทคนิคสุรนารี วิทยาลัยเทคนิคชัยภูมิ วิทยาลัยเทคนิคบุรีรัมย์ วิทยาลัยเทคนิคคูเมือง วิทยาลัยเทคนิคสุรินทร์และวิทยาลัยอาชีวศึกษาสุรินทร์ เป็นหนึ่งใน สถาบันการอาชีวศึกษา 19 แห่ง ที่จัดตั้งขึ้นตามกฎกระทรวง การรวมสถานศึกษาอาชีวศึกษาเพื่อจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา ลงวันที่ ๑๓ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยมีวิทยาลัยในสังกัด ในจังหวัดนครราชสีมา ได้แก่

วิทยาลัยอาชีวศึกษาอื่น ๆ

สถาบันอาชีวศึกษา (เอกชน)

วิทยาลัยเฉพาะทาง

สถาบันวิจัย

การสาธารณสุข

การคมนาคม

ทางอากาศ

เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 54 ที่ท่าอากาศยานนครราชสีมา อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา บริษัท Thai Regional Aviation จำกัด ได้ทำการเปิดเที่ยวบิน สุวรรณภูมิ-โคราช-สุวรรณภูมิ บริษัทเลือกใช้เครื่องบินรุ่น Piper Navajo Chieftain ซึ่งเป็นเครื่องบินที่ได้รับความนิยมสูง และ มีความปลอดภัยจากประเทศสหรัฐอเมริกา ใช้เวลาในการเดินทาง 40 นาที

รถยนต์

จากกรุงเทพฯ สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ มายังจังหวัดนครราชสีมาได้หลายเส้นทาง คือ

รถโดยสารประจำทาง

เดินทางจากกรุงเทพฯ

มีรถโดยสารธรรมดา และ รถปรับอากาศชั้น 1 และชั้น 2 สาย 21 (กรุงเทพฯ - นครราชสีมา) วิ่งให้บริการจาก สถานีขนส่งหมอชิต 2 กรุงเทพฯ มายังจังหวัดนครราชสีมา ทุกวันตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีบริษัทเอกชน ที่ได้รับสัมปทานเปิดบริการเดินรถโดยสารสาย 21 จำนวน 3 รายคือ

  • บริษัท ราชสีมาทัวร์ จำกัด
  • บริษัท แอร์โคราชพัฒนา จำกัด
  • บริษัท สุรนารีแอร์ จำกัด

ซึ่งจะให้บริการ รับ-ส่ง ผู้โดยสารที่สถานีขนส่งทั้งสองแห่ง คือ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 (ถนนบุรินทร์) และ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ถนนมิตรภาพ-หนองคาย) นอกจากนั้น ยังสามารถที่จะเลือกเดินทางโดยรถโดยสารประจำทางจากกรุงเทพฯ ปลายทางจังหวัดต่าง ๆ ในภาคอีสานที่ผ่านจังหวัดนครราชสีมาได้อีกด้วย

เดินทางภายในจังหวัด

การเดินทางภายในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียง มีขนส่งสาธารณะให้บริการดังนี้คือ

  • รถโดยสารประจำทางหมวด 1 และหมวด 4 (รถสองแถว) วิ่งบริการภายในเขตเทศบาล และ บริเวณใกล้เคียง รถโดยสารหมวด 1 แบ่งออกเป็น 21 สาย วิ่งบริการภายในเขตเทศบาลและพื้นที่ใกล้เคียงไปตามเส้นทางต่าง ๆ
  • รถจักรยานยนต์รับจ้าง, รถสามล้อเครื่อง และรถสามล้อ วิ่งให้บริการผู้โดยสารภายในเขตตัวเมือง
  • รถแท็กซี่มิเตอร์ (Taxi Meter) เปิดให้บริการในช่วงการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 24 เมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2550 เป็นจังหวัดแรกในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีจุดจอดรถแท็กซี่อยู่ที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 และศูนย์การค้าเดอะมอลล์นครราชสีมา นอกจากนี้ยังสามารถเรียกใช้บริการโดยโทรศัพท์เลขหมายด่วน ปัจจุบันมีรถให้บริการทั้งสิ้นจำนวน 70 คัน

ถ้าต้องการเดินทางไปต่างอำเภอ จะมีรถโดยสารประจำทางหมวด 4 ให้บริการไปยังอำเภอต่าง ๆ ในจังหวัดนครราชสีมา หลายสายด้วยกัน สามารถขึ้นรถได้ที่สถานีขนส่งแห่งที่ 1 ถนนบุรินทร์ มีทั้งประเภทรถสองแถว และ รถบัสโดยสารประจำทางให้บริการ จะมีรถโดยสารไป อำเภอปักธงชัย อำเภอประทาย อำเภอด่านขุนทด อำเภอปากช่อง อำเภอสูงเนิน สำหรับสถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 นั้น จะมีรถโดยสาร ไปเฉพาะ อำเภอพิมาย และ ด่านเกวียน, อำเภอโชคชัย

เดินทางระหว่างจังหวัด

มีทั้งรถโดยสารประจำทางธรรมดา และปรับอากาศ หมวด 2 และ 3 จำนวนหลายเส้นทางในจังหวัดต่าง ๆ วิ่งให้บริการผ่านจังหวัดนครราชสีมาที่สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 (ถนนมิตรภาพ-หนองคาย) ทุกวัน

นอกจากนี้ มีรถโดยสารประจำทาง ให้บริการรับส่งผู้โดยสารจาก ต้นทางจังหวัดนครราชสีมา ไปยังปลายทางจังหวัดอื่น ในภาคต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

เดินทางระหว่างประเทศ
    • กรุงเทพฯ-นครราชสีมา - นครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
      • เวลา 21.00 น. สถานีต้นทาง กรุงเทพฯ (หมอชิต 2) ราคา 900 บาท
      • เวลา 18.00 น. สถานีต้นทาง นครหลวงเวียงจันทน์ ราคา 225,000 กีบ
      • เที่ยววิ่งนอกวันและเวลาราชการ เก็บค่าทำการล่วงเวลา ของด่านตรวจคนเข้าเมืองคนละ 5 บาท โดยจัดเก็บที่สถานีเดินรถ
      • เดินทางด้วยรถปรับอากาศ 2 ชั้น 32 ที่นั่ง มีสุขภัณฑ์ พนักงานต้อนรับ และอาหารว่าง
      • ติดต่อสถานีเดินรถนครราชสีมา โทรศัพท์ 044-254964 หรือ 1490 เรียก บขส.

ในการเดินทางข้ามแดนจากจังหวัดนครราชสีมา ไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว สามารถใช้หลักฐาน คือหนังสือเดินทางคือหนังสือผ่านแดน หรือหนังสือผ่านแดนชั่วคราวโดยมีแนวปฏิบัติและขั้นตอนดังต่อไปนี้

1. ใช้บัตรผ่านแดน สำหรับเดินทางเข้าประเทศลาวไม่เกิน 3 วัน 2 คืน และไม่เดินทางไปแขวงอื่น การทำบัตรผ่านแดนทำที่ศาลากลางจังหวัดที่มีชายแดนติดกับลาวโดยใช้หลักฐาน ดังนี้
  • รูปถ่าย 1 นิ้ว 2 รูป
  • สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และบัตรจริง
  • สำเนาทะเบียนบ้าน
  • ค่าธรรมเนียม
  • หากยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องใช้สำเนาสูติบัตรด้วย
2. การขอวีซ่า
  • ผู้ถือหนังสือเดินทางทูตและราชการของไทยได้รับยกเว้นไม่ต้องขอวีซ่า สามารถอยู่ในประเทศลาวได้ 30 วัน
  • สำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดาต้องขอวีซ่าจากสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ประจำประเทศไทยที่กรุงเทพฯ หรือสถานกงสุลใหญ่ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ที่จังหวัดขอนแก่นโดยต้องใช้รูปถ่าย 1 รูป และเสียค่าธรรมเนียม 30 ดอลลาร์สหรัฐ
สถานีขนส่งผู้โดยสาร

จังหวัดนครราชสีมา มีสถานีขนส่งผู้โดยสารที่ให้บริการแก่ผู้ที่ต้องเดินทางไปยังอำเภอ หรือ จังหวัดต่างๆ ดังนี้

สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 ตั้งอยู่เลขที่ 86 ถนนบุรินทร์ ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ มีเนื้อที่ทั้งสิ้น 7 ไร่ 2 งาน 98 ตารางวา เปิดใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2510 บริหารจัดการโดยเทศบาลนครนครราชสีมา ใช้เป็นสถานีขนส่งภายในจังหวัดเป็นหลัก และมีรถโดยสารปรับอากาศ สายที่ 21 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ให้บริการ ประกอบไปด้วย

  • ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 24 ช่องจอด พื้นที่ 3,840 ตารางเมตร
  • พื้นที่อาคารผู้โดยสาร 6,194 ตารางเมตร

ปัจจุบันสถานีขนส่งฯ แห่งที่ 1 มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 2,000 เที่ยว/วัน หรือประมาณ 730,000 เที่ยว/ปี และมีผู้โดยสารหมุนเวียนเข้าใช้บริการเฉลี่ย 50,000 คน/วัน หรือประมาณ 18,000,000 ล้านคน/ปี

สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 2 ตั้งอยู่ที่ ถนนมิตรภาพ-หนองคาย ตำบลในเมือง อำเภอเมืองฯ มีเนื้อที่ 29 ไร่ 50 ตารางวา เป็นสถานีขนส่งฯที่ใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดในจังหวัดนครราชสีมาและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง และดำเนินการสถานีขนส่ง คือ บริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด ใช้เป็นสถานีขนส่งผู้โดยสารระหว่างจังหวัดเป็นหลักเส้นทางที่สำคัญคือ สายที่ 21 กรุงเทพฯ – นครราชสีมา ประกอบด้วย

  • ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 111 ช่องจอด พื้นที่ 17,760 ตารางเมตร
  • พื้นที่อาคารผู้โดยสาร 28,416 ตารางเมตร
  • ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 250 คัน และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 1,100 คัน

ปัจจุบันสถานีขนส่งฯ แห่งที่ 2 มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการเฉลี่ยวันละ 1,300 เที่ยว /วัน หรือประมาณ 470,000 เที่ยว/ปี และมีผู้โดยสารหมุนเวียนเข้าใช้บริการเฉลี่ย 30,000 คน/วัน หรือประมาณ 11,000,000 ล้านคน/ปี

สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอโชคชัย ตั้งอยู่เลขที่ 1 หมู่ที่ 12 ตำบลโชคชัย อำเภอโชคชัย มีเนื้อที่ 7 ไร่ บริหารจัดการโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา เปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2539 ประกอบด้วย

  • ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 16 ช่องจอด พื้นที่ 3,280 ตารางเมตร
  • ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 40 คัน และรถจักรยานยนต์ ประมาณ 50 คัน

สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอโชคชัย มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการวันละประมาณ 210 เที่ยว สถานีขนส่งฯ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณวันละ 2,000 คน /วัน

สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอพิมาย ตั้งอยู่บริเวณตำบลในเมือง อำเภอพิมาย มีเนื้อที่ 6 ไร่ 54 ตารางวา ผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้ง และดำเนินการสถานีขนส่งคือ บริษัท ไทยสงวนบริการ จำกัด เปิดดำเนินการเมื่อปี พ.ศ. 2538 ประกอบด้วย

  • ชานชาลาจอดรถโดยสาร จำนวน 18 ช่องจอด พื้นที่ 3,840 ตารางเมตร
  • ที่จอดรถส่วนบุคคลประมาณ 15 คัน และ รถจักรยานยนต์ ประมาณ 25 คัน

สถานีขนส่งผู้โดยสารอำเภอพิมาย มีรถโดยสารประจำทางเข้าใช้บริการวันละประมาณ 230 เที่ยว สถานีขนส่งฯ สามารถรองรับผู้โดยสารได้ประมาณวันละ 2,000 คน / วัน

รถไฟ

สถานีรถไฟนครราชสีมา

มีรถไฟสายภาคตะวันออกเฉียงเหนือกรุงเทพ - อุบลราชธานีและกรุงเทพ - หนองคายทั้งขบวนรถด่วนพิเศษ รถด่วน รถเร็วและรถธรรมดาวิ่งให้บริการจากสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) ผ่านจังหวัดนครราชสีมาทุกวัน นอกจากนี้ยังมีขบวนรถท้องถิ่นวิ่งให้บริการระหว่างสถานีรถไฟนครราชสีมาไปยังสถานีรถไฟจังหวัดอื่นๆ เช่น สุรินทร์ อุบลราชธานี อุดรธานี หนองคาย และอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรีอีกด้วย

สถานีรถไฟนครราชสีมาสร้างขึ้นในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เป็นสถานีรถไฟที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนครราชสีมาและในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นสถานีรถไฟชั้น 1 ตั้งอยู่ที่ถนนมุขมนตรี อำเภอเมืองนครราชสีมา จังหวัดนครราชสีมา อยู่ห่างจากสถานีรถไฟกรุงเทพเป็นระยะทาง 264 กิโลเมตร [10]

ตารางเวลาเดินรถเที่ยวขึ้น

แม่แบบ:เริ่มตารางเวลารถไฟ แม่แบบ:ดพ21 แม่แบบ:ร135 แม่แบบ:ท427 แม่แบบ:ด71 แม่แบบ:ธ233 แม่แบบ:ร145 แม่แบบ:ท421 แม่แบบ:ร139 แม่แบบ:ด67 แม่แบบ:ด73 แม่แบบ:ร141 แม่แบบ:ท419 แม่แบบ:ท415 แม่แบบ:ท431 แม่แบบ:ท417 แม่แบบ:ท429 แม่แบบ:ด77 แม่แบบ:ด69 แม่แบบ:จบตารางเวลารถไฟ

ตารางเวลาเดินรถเที่ยวล่อง

แม่แบบ:เริ่มตารางเวลารถไฟ แม่แบบ:ท424 แม่แบบ:ท428 แม่แบบ:ธ234 แม่แบบ:ด72 แม่แบบ:ร136 แม่แบบ:ร146 แม่แบบ:ท426 แม่แบบ:ดพ22 แม่แบบ:ร142 แม่แบบ:ด74 แม่แบบ:ด68 แม่แบบ:ร140 แม่แบบ:ท430 แม่แบบ:ท416 แม่แบบ:ท432 แม่แบบ:ท418 แม่แบบ:ด78 แม่แบบ:ด70 แม่แบบ:จบตารางเวลารถไฟ

ไฟล์:Sea24-001.jpg
สนามกีฬาเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา
5 ธันวาคม 2550

กีฬา

จังหวัดนครราชสีมา เป็นรับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติหลายครั้ง

จังหวัดนครราชสีมา มีการพัฒนาด้านกีฬาอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้จาก

  • นักมวยโคราช ได้สร้างชื่อจนเป็นที่ยอมรับในวงการมวยไทย และมวยสากล มาเป็นระยะเวลายาวนาน
  • ทีมวอลเลย์บอลของโรงเรียนในจังหวัดนครราชสีมา ได้ผลิตนักกีฬาที่มีชื่อเสียงหลายคนเข้าสู่ทีมชาติอย่างต่อเนื่อง
  • ทีมฟุตบอลประจำจังหวัดคือ สโมสรฟุตบอลนครราชสีมา (Korat F.C.) เคยชนะเลิศกีฬาเขต และชนะเลิศไทยแลนด์คัพ
  • ทีมเซปัคตะกร้อประจำจังหวัด ทำการแข่งขันในตะกร้อไทยแลนด์ลีก

ด้านการทหาร

บุคคลที่มีชื่อเสียงจากนครราชสีมา

ไฟล์:วังหลัง.jpg
สมเด็จเจ้าฟ้ากรมพระอนุรักษ์เทเวศร์


บุคคลในประวัติศาสตร์

พระสงฆ์

นายกรัฐมนตรี

ผู้บัญชาการทหาร/ตำรวจ

ไฟล์:Chatchai.jpg
พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ

นักการเมือง

ไฟล์:Surayut.JPG
พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์

นักมวยไทย/นักมวยสากลอาชีพ

ไฟล์:Imageกร.jpg
พงษ์ศักดิ์เล็ก ศิษย์คนองศักดิ์

นักกีฬา

อุดมพร พลศักดิ์

นักวิชาการ


ผู้กำกับการแสดง

ปรัชญา ปิ่นแก้ว

นักเขียน

นักแสดง / นางงาม

ไฟล์:Janet Khiew.jpg
เจเนต เขียว

นักร้อง/นักดนตรี

เพลงไทยสากล

ศิริศักดิ์ นันทเสน
ไฟล์:R52-2.jpg
พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ

เพลงลูกกรุง, ลูกทุ่ง และ เพื่อชีวิต

สุเทพ วงศ์กำแหง

สถานที่ท่องเที่ยว

อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย
น้ำตกเหวนรก อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
  • อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง
  • พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ มหาวีรวงศ์ อ.เมือง
  • วัดสุทธจินดา อ.เมือง
  • วัดศาลาลอย อ.เมือง
  • ประตูชุมพล อ.เมือง
  • ประพลแสน อ.เมือง
  • ประตูพลล้าน อ.เมือง
  • ประตูไชยณรงค์ หรือประตูผี อ.เมือง
  • ตลาดแม่กิมเฮง อ.เมือง
  • อุโมงค์ต้นไม้ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อ.เมือง
  • วัดพระนารายณ์ อ.เมือง
  • ตลาดหนองไผ่ล้อม อ.เมือง
  • บุ่งตาหลั่ว อ.เมือง
  • สวนสาธารณะแม่น้ำมูล อ.เฉลิมพระเกียรติ
  • วัดป่าหลักร้อย อ.โนนไทย
  • หม่บ้านด่านเกวียน อ.โชคชัย
  • ปรางค์พะโค อ.โชคชัย
  • ปราสาทสระเพลง อ.โชคชัย
  • วัดโบสถ์คงคาล้อม อ.โชคชัย
  • หมู่บ้านศิลปะหินทรายบ้านหนองโสน อ.โชคชัย
  • หมู่บ้านหัถกรรมทองเหลืองบ้านบิง อ.โชคชัย
  • บึงกระโทกอ.โชคชัย
  • ไทรทองเทพนิมิตร อ.โชคชัย
  • สวนมะนาวด่านกวียน อ.โชคชัย
  • หลวงพ่อใหญ่ วัดนอก อ.โชคชัย
  • มัชาดาไหมไทย อ.ปักธงชัย
  • วัดหน้าพระธาตุ อ.ปักธงชัย
  • กู่เกษม อ.ปักธงชัย
  • อ่างเก็บน้ำลำสำลาย อ.ปักธงชัย
  • จิมทอมสันฟาร์ม อ.ปักธงชัย
  • เขื่อนลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย
  • ปราสาทเมืองเก่า อ.สูงเนิน
  • ปราสาทโนนกู่ อ.สูงเนิน
  • ปราสาทเมืองแขก อ.สูงเนิน
  • วัดธรรมจักรเสมาราม อ.สูงเนิน
  • น้ำตกวะภูแก้ว อ.สูงเนิน
  • สวนป่าริมทางบ้านคลองหลวง อ.โนนสูง
  • แหล่งโบราณคดีบ้านปราสาท อ.โนนสูง
  • วิหารหลวงพ่อโต อ.สีคิ้ว
  • แหล่มหินตัด อ.สีคิ้ว
  • อ่างเก็บน้ำซับประดู่ อ.สีคิ้ว
  • วัดเขาจันทน์งาม อ.สีคิ้ว
  • เขื่อนลำตะคอง อ.สีค้ว
  • สวนน้าชาติ อ.สีค้ว
  • ศูนย์บริการทางหลวงลำตะคอง อ.สีคิ้ว
  • ปราสาทบ้านถนนหัก อ.หนองบุญมาก
  • สวนเฟื่องฟ้า อ.หนองบุญมาก
  • ปรางค์ครบุรี อ.ครบุรี
  • เขาถ้ำวัวแดง อ.ครบุรี
  • แก่งวังวน/เขื่อนลำแซะ อ.ครบุรี
  • น้ำตกวังเต่า อ.ครบุรี
  • วัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด
  • สวนป่าสมเด็จย่า 90 พรรษา อ.ด่านขุนทด
  • โบราณสถานยอดปราสาทโนนหนึ่ง อ.ด่านขุนทด
  • อนุสรณ์สถานวีรกรรมทุ่งสัมฤทธิ์ อ.พิมาย
  • ปราสาทหินพิมาย อ.พิมาย
  • ไทรงาม อ.พิมาย
  • พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ พิมาย
  • ปราสาทนางรำ อ.ประทาย
  • หมู่บ้านหลุ่งประดู่สามัคคี อ.ห้วยแถลง
  • น้ำตกคลองกุ่ม อ.วังน้ำเขียว
  • น้ำตกคลองดินดำ อ.วังน้ำเขียว
  • สถานที่วิจัยสิ่งแวดล้อมสะแกราช อ.วังน้ำเขียว
  • โครงการกสิกรรมไร้สารพิษอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ.วังน้ำเขียว
  • เขาแผงม้า อ.วังน้ำเขียว
  • คลองปลากั้ง อ.วังน้ำเขียว
  • วิลเลจฟาร์ม อ.วังน้ำเขียว
  • แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร อ.วังน้ำเขียว
  • น้ำตกห้วยใหญ่ อ.วังน้ำเขียว
  • ผาชมตะวัน อ.วังน้ำเขียว
  • น้ำตกผาห้อม อ.วังน้ำเขียว
  • บ้านผางาม อ.วังน้ำเขียว
  • ทองสมบูรณ์คลับ อ.ปากช่อง
  • ตลาดป่าสน อ.ปากช่อง
  • สวนนก อ.ปากช่อง
  • ปาลิโอเขาใหญ่ อ.ปากช่อง
  • ปางช้างเขาใหญ่ อ.ปากช่อง
  • น้ำตกกองแก้ว อ.ปากช่อง
  • น้ำตกเหวสุวัต อ.ปากช่อง
  • ถ้ำผาหลวง อ.ปากช่อง
  • ไร่องุ่นกราน - มอนเต้ อ.ปากช่อง
  • พีบีวัลเลย์ อ.ปากช่อง
  • ฟาร์มโชคชัย อ.ปากช่อง
  • ศูนย์วิจัยข้าวโพดและข้าวฟ่างแห่งชาติ อ.ปากช่อง
  • หาดชมตะวัน อ.เสิงสาง

ประเพณี

  • งานฉลองวันแห่งชัยชนะของท้าวสุรนารี กำหนดจัดระหว่างวันที่ 23 มีนาคม - 3 เมษายน ของทุกปี ซึ่งถือเป็นวันที่คุณหญิงโมได้รับชัยชนะจากข้าศึก จัดบริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี
  • งานประเพณีแห่เทียนพรรษาโคราชกำหนดจัดงานประเพณีแห่เทียนพรรษาณ บริเวณลานอนุสาวรีย์ ท้าวสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งมีความตระการตา และจำนวนนักท่องเที่ยวจำนวนมาก
  • Korat Countdown คนร่วมนับถอยหลังสู่ปีใหม่ร่วมกัน นับแต่ปีเป็นการตอกย้ำที่สำคัญว่าเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เป็นเทศกาลสากลที่ประชาชนให้ความสำคัญ และเป็นศูนย์กลางแห่งการเฉลิมฉลอง ส่งท้ายปีของชาวโคราช และนักท่องเที่ยวจากต่างจังหวัดอีกครั้งเพราะเราเชื่อมั่นว่าโคราชเป็นเมืองซึ่งเป็นศูนย์รวมการท่องเที่ยวเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์แห่งรอยยิ้ม และความสวยงามที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวด้วยสีสัน
  • งานตรุษจีนนครราชสีมา งานตรุษจีนนครราชสีมา กิจกรรมที่เป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีต่อกันระหว่างชาวไทยและชาวจีน ซึ่งถือว่าเป็นงานที่มีความยิ่งใหญ่ภายใต้ความเชื่อที่มีมานาน และเป็นการฉลองวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีนสุดยิ่งใหญ่อลังการ ณ บริเวณอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี และบริเวณสวนอนุสรณ์สถาน อำเภอเมือง จังหวัดนครราชสีมา
  • สงกรานต์โคราชเทศกาลสงกรานต์ที่โคราชจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีแต่ละปีจะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆใครสนใจมาเที่ยวสงกรานต์ที่โคราชก็มาได้เลยครับชาวโคราชยินดีต้อนรับ
  • BBQ FESTIVAL @ KORATสถานที่จัด กว้างใหญ่ให้คาวบอยทั่วไทยได้โชว์ ชิม เต็มที่ ระบบเมืองเครื่องแต่งกาย เครื่องหนังให้ ชม ดู แล้วซื้ออย่างเต็มที่ ยกให้เคาบอยตี๋โคราชเป็นผู้ประสานงานแล้วสุดกับอาหารย่างทั่วไทยและจากต่างประเทศโดยหอการค้าจังหวัดนครราชสีมา
  • งานเบญจมาศบาน ในม่านหมอกจัดขึ้นในช่วงฤดูหนาวของทุกปี ณ หน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลไทยสามัคคี มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการส่งเสริมการสร้างงาน สร้างรายได้ให้กับคนในท้องถิ่น อีกทั้งเป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของอำเภอวังน้ำเขียวซึ่งมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การประกวดและจำหน่าย “ดอกเบญจมาศ” แปลงสาธิตดอกเบญจมาศหลากสายพันธุ์ หลากการแสดงและจำหน่ายสินค้าผักเมืองหนาวและกิจกรรมการขี่จักรยานท่องเที่ยวรับสายหมอกและลมหนาวของอำเภอวังน้ำเขียว
  • การแข่งเรือพิมายการแข่งเรือเป็นรูปแบบของการเล่นในฤดูน้ำหลากที่สร้างความสามัคคีของคนใน หมู่บ้าน และคนต่างหมู่บ้านได้พบปะกัน เป็นการสร้างความสมานสามัคคีของสังคมได้ทางหนึ่งช่วงเวลา จัดหลังวันออกพรรษา แต่ไม่เกินวันเพ็ญเดือนสิบสอง
  • งานเทศกาลเที่ยวพิมาย จัดในวันเสาร์-อาทิตย์ สัปดาห์ที่ 2 ของเดือนพฤศจิกายน จัดขึ้นเพื่อเป็นการสร้างสรรค์กิจกรรมส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยวหลักของ จังหวัดนครราชสีมา คือ อุทยานประวัติศาสตร์พิมาย ซึ่งจะจัดขึ้นในช่วงเดียวกับงานประเพณีแข่งเรือพิมาย ภายในงานมีกิจกรรมหลายอย่าง เช่น การแข่งเรือยาวประเพณี การแสดงทางวัฒนธรรม ขบวนแห่พุทธราชาและพุทธประวัติ ขบวนแห่พุทธประทีปและการแสดงประกอบแสง เสียง
  • งานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในเทศกาลวิสาขบูชาคณะสงฆ์อำเภอเสิงสางโดยความร่วมมือของเทศบาลตำบลเสิงสาง/วัฒนธรรมอำเภอเสิงสางและพุทธสมาคมอำเภอเสิงสางได้ร่วมกันจัดกิจกรรมสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนาเนื่องในวันวิสาขบูชาอำเภอเสิงสางประจำปี จัดที่เทศบาลตำบลเสิงสาง
  • ไม้ชวนชมประจำอำเภอคง
  • เทศกาลประเพณีของดีเมืองคง
  • ประเพณีบุญบั้งไฟตำบลหนองมะนาว อ.คง
  • งานเห็ดเมืองคง
  • งานผ้าไหมและของดีเมืองปักธงชัย เป็นงานที่ชาวอำเภอปักธงชัย ได้จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมผ้าไหม และสินค้าต่างๆ ของอำเภอปักธงชัย จัดในวันที่ 9-15 ธันวาคม ของทุกปี ที่สนามหน้าที่ว่าการอำเภอปักธงชัย
  • Pakchong Cowboy Festivalทองสมบูรณ์ คลับ
  • Pakchong Cowboy City ริมถนนมิตรภาพสายเก่า บริเวณสวนสาธารณะเขาแคน อำเภอปากช่อง เทศกาลที่ชาวอำเภอปากช่องต่างแต้มสีสันในสไตล์ที่เป็นเอกลักษณ์ การนิมิตเมืองปากช่องให้เป็นเมืองคาวบอยตะวันตก
  • เทศกาลกินหมี่ ประเพณีแห่เทียนพรรษา อำเภอโชคชัย
  • แข่งเรือพาย ตำบลท่าลาดขาว อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา เดือนพฤศจิกายน ของทุกปี
  • แข่งเรือ ตำบลละลมใหม่พัฒนา อำเภอโชคชัย จังหวัดนครราชสีมา
  • งานสมโภชพระบรมสารีริกธาตุ วัดบ้านไร่วัดบ้านไร่ตำบลกุดพิมานอำเภอด่านขุนทด วันที่ 11 มกราคมของทุกปี
  • งานของดีอำเภอขามสะแกแสงบริเวณสนามหน้าที่ว่าการอ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา เพื่อประชาสัมพันธ์ผลผลิตจากเกษตรกรโดยเฉพาะพริก ถือเป็นของดีของอำเภอ เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับรู้ พร้อมส่งเสริมให้เกษตรกรตระหนักถึงความสำคัญในอาชีพเกษตรกร ได้รับความรู้เชิงวิชาการและความรู้ใหม่ในการเพิ่มผลผลิต อีกทั้งการสร้างเสริมการตลาด ส่งเสริมความสามัคคี และอนุรักษ์วัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่นของอำเภอ
  • ประเพณีกินเข่าค่ำของดีเมืองสูงเนิน9-11มีนาคม ที่ปราสาทเมืองแขก ตำบลโคราช
  • เทศกาลกวนข้าวทิพยืออกพรรา
  • เทศกาลน้อยหน่า ของดีปากช่อง และงานกาชาด
  • เทศกาลเฟื้องฟ้างามอ.หนองบุญมาก
  • งานเทศกาล มหัศจรรย์ทุ่งดอกจานบานสะพรั่ง อ.แก้งสนามนาง
  • งานบุญข้าวจี่ อ.แก้งสนามนาง
  • งานทอดผ้าไหมอ.แก้งสนามนาง
  • งานบุญบั้งไฟตำบลดอนยาวใหญ่ อ.โนนแดง
  • วังน้ำเขียวฟลอร่าแฟนตาเซียณ บริเวณแยกวัดโพธิ์เฉลิมพระเกียรติ อำเภอวังน้ำเขียว นครราชสีมา
  • งานเทศกาลชมพระอาทิตย์ตกดินดอยเจดีย์ อ.เทพารักษ์
  • พิธีสักการะรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทฺโธ ตำบลบึงปรือ อำเภอเทพารักษ์
  • ประเพณีงานข้าวใหม่ปลามันจัดขึ้นในช่วงเดือนธันวาคของทุกปีซึ่งเป็นระยะเวลาที่การเก็บเกี่ยวเสร็จสิ้นแล้วและเชื่อกันว่าหากได้ข้าวและปลาในช่วงดังกล่าวจะมีรสชาติดีเป็นเลิศ อ.เมืองยาง
  • การแข่งขันพายเรืออีโปงในเทศกาลวันสงกรานต์อ.ลำทะเมนชัย
  • งานงิ้วประจำปี ประจำปีของชาวตลาดหนองบัวลายเป็นการบูชาและบวงสรวงแก่เจ้าพ่อที่เป็นที่เคารพของอำเภอบัวลายถือเป็นงานประเพณีที่จัดกันเป็นประจำทุกปีกว่า30ปีโดยจะจัดในช่วงเดือนตุลาคมหรือเดือนพฤศจิกายนของทุกปี
  • งานท้องถิ่นอำเภอสีดา
  • การจัดงานเฉลิมพระชนมพรรษา 5 ธันวามหาราช และวันครบรอบการเปิดที่ว่าการอำเภอหน้าที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ 5ธันวาคมของทุกปี
  • การจัดงานวันสงกรานต์และวันผู้สูงอายุ หน้าที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ วันที่ 13 เมษายน ทุกปี
  • เทศกาลกินหมี่ประเพณีแห่เทียนพรรษา อ.โชคชัย

เมืองพี่น้อง

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. ศูนย์สารสนเทศเพื่อการบริหารและงานปกครอง. กรมการปกครอง. กระทรวงมหาดไทย. "ข้อมูลการปกครอง." [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: http://www.dopa.go.th/padmic/jungwad76/jungwad76.htm [ม.ป.ป.]. สืบค้น 18 เมษายน 2553.
  2. ประกาศสานักทะเบียนกลาง กรมการปกครอง เรื่อง จำนวนราษฎรทั่วราชอาณาจักร แยกเป็นกรุงเทพมหานครและจังหวัดต่าง ๆ ตามหลักฐานการทะเบียนราษฎร ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2555กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย
  3. ที่ตั้งและอาณาเขต สำนักงานจังหวัดนครราชสีมา สืบค้นวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555
  4. 4.0 4.1 4.2 ภาวะเศรษฐกิจ สำนักงานจังหวัดนครราชสีมา สืบค้นวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2555
  5. สรุปภาวะเศรษฐกิจการคลังจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานคลังจังหวัดนครราชสีมา
  6. ผลิตภัณฑ์ภาคและจังหวัด แบบปริมาณลูกโซ่ ฉบับ พ.ศ. 2538 - 2553 (ปรับปรุง ปี 2555), สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ.
  7. ยอดเงินรับฝากและเงินให้สินเชื่อจำแนกตามจังหวัด, สถิติการเงินและการธนาคารของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ธนาคารแห่งประเทศไทย.
  8. http://203.113.86.149/xstat/pop53_1.html รายงานสถิติจำนวนประชากร และบ้าน ทั่วประเทศ และรายจังหวัด ณ เดือน ธันวาคม พ.ศ. 2553
  9. ข้อมูลความจำเป็นพื้นฐาน พ.ศ. 2553, กองสวัสดิการสังคม
  10. รายชื่อสถานีรถไฟและที่หยุดรถ สายตะวันออกเฉียงเหนือ

แหล่งข้อมูลอื่น

14°58′28″N 102°05′53″E / 14.974444°N 102.098055°E / 14.974444; 102.098055