ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พรรคมหาชน"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Pongsak ksm (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Nullzerobot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต: แทนที่คำ
บรรทัด 84: บรรทัด 84:


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}
<references />


== แหล่งข้อมูลอื่น ==
== แหล่งข้อมูลอื่น ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 06:24, 24 ธันวาคม 2555

พรรคมหาชน
หัวหน้าอภิรัต ศิรินาวิน
เลขาธิการไพศาล เหมือนเงิน
โฆษกธนิต สินศุภสว่าง
ก่อตั้ง10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541
เปลื่ยนชื่อ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2547
ที่ทำการ35,37 ซอยนนทบุรี 32 ถนนนนทบุรี ตำบลท่าทราย อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี 11000
สีสีแดง
สภาผู้แทนราษฎร
1 / 500
เว็บไซต์
http://www.mahachon.or.th
การเมืองไทย
รายชื่อพรรคการเมือง
การเลือกตั้ง

พรรคมหาชน (อังกฤษ: Mahachon Party ตัวย่อ: MCP. พมช.) เป็นพรรคการเมืองไทยที่จดทะเบียนเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2541 โดยใช้ชื่อว่า "พรรคราษฎร"[1] และได้เปลี่ยนมาใช้ชื่อพรรคมหาชน เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2547[2] เป็นพรรคการเมืองที่มีจำนวนสมาชิกมากเป็นลำดับที่ 2 รองจากพรรคประชาธิปัตย์ มีจำนวนสมาชิกกว่า 1.1 ล้านคน[3]

ยุคพรรคราษฎร

พรรคราษฎร จัดตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2541 โดยมีคำขวัญว่า "พรรคราษฎร เพื่อราษฎร" มีนายสมชาย หิรัญพฤกษ์ เป็นหัวหน้าพรรค ต่อมาในปี พ.ศ. 2542 ได้มีการเปลี่ยนแปลงหัวหน้าพรรคเป็น พลอากาศเอก สมบุญ ระหงษ์ มีเลขาธิการพรรค คือ นายมั่น พัธโนทัย[4] และหัวหน้าพรรคคนต่อมา คือ นายวัฒนา อัศวเหม แกนนำกลุ่มปากน้ำ

การเลือกตั้ง พ.ศ. 2544

ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2544 พรรคราษฎร มีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ได้รับเลือกตั้ง จำนวนเพียง 2 คน คือ นางสาวเรวดี รัศมิทัต จากจังหวัดสมุทรปราการ กับ นายชัยวัฒน์ กุลศักดิ์วิมล จากจังหวัดนครพนม และได้รับเลือกตั้งเพิ่มเติมอีกในการเลือกตั้งใหม่ วันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2544 คือ นายวิทยา บันทุปา จากจังหวัดอุบลราชธานี แต่ต่อมาถูก กกต.ตัดสินให้เลือกตั้งใหม่ และไม่ได้รับเลือกตั้งอีก

ยุคพรรคมหาชน

พรรคมหาชน ได้มีการเปลี่ยนชื่อจากเดิม ในปี พ.ศ. 2547 มีพลตรี สนั่น ขจรประศาสน์ เป็นแกนนำ โดยนโยบายพรรคมหาชนในระยะแรก ร่างโดย ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งลาออกจากพรรค มาพร้อมกับพลตรีสนั่น นำเสนอนโยบายว่าเป็นพรรคทางเลือกที่สาม นอกเหนือจาก พรรคไทยรักไทย และ พรรคประชาธิปัตย์ อย่างไรก็ตามมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์โจมตีว่า พรรคตั้งขึ้นมาเพื่อแย่งชิงฐานเสียงของ พรรคไทยรักไทย ในภาคเหนือและภาคอีสาน และจะร่วมมือจัดตั้งรัฐบาลกับ พรรคประชาธิปัตย์ ในภายหลัง[5]

เมื่อแรกก่อตั้งพรรค พลตรีสนั่น ได้เชิญ ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่ขณะนั้นดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการองค์การการค้าโลก และกำลังจะหมดวาระ ให้มาดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคมหาชน แต่ ดร.ศุภชัยปฏิเสธ และต่อมาพิจารณารับตำแหน่งอื่นในสหประชาชาติต่อ พลตรีสนั่นจึงสนับสนุนให้ ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ เป็นหัวหน้าพรรคแทน

วันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2550 พลตรีสนั่น พร้อมด้วยนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ บุตรชาย และสมาชิกพรรคมหาชน เดินทางไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคชาติไทย โดยให้เหตุผลว่ากฎหมายพรรคการเมืองปัจจุบันไม่เอื้อต่อการดำเนินงานของพรรคการเมืองขนาดเล็ก ถือเป็นการสิ้นสุดการดำเนินงานของพรรคมหาชนไปโดยบริยาย [6]

การเลือกตั้ง พ.ศ. 2548

ดร.เอนก เหล่าธรรมทัศน์ ส่งตัวแทนสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในไทย พ.ศ. 2548 นำเสนอนโยบายที่ใช้ชื่อ "สองนคราประชาธิปไตย" และประกาศตัวพร้อมจะเป็นนายกรัฐมนตรี แต่พรรคได้รับเลือกเพียง 2 ที่นั่ง แม้กระทั่งในเขตจังหวัดพิจิตร นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ บุตรชายพลตรีสนั่น ก็ยังไม่ได้รับเลือก ในการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคได้คะแนนเสียงระบบบัญชีรายชื่อไม่ถึง 5% ทำให้ทั้งนายเอนก และพลตรีสนั่น ไม่ได้เป็น ส.ส.

หลังการเลือกตั้ง ดร.เอนก ในฐานะหัวหน้าพรรคมีปัญหากับกรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆ จึงประกาศลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคมหาชนมีมติให้ พลตรีสนั่น รับตำแหน่งหัวหน้าพรรคต่อ

การที่พรรคมี ส.ส. เพียงสองคน โดยที่หัวหน้าพรรค และประธานที่ปรึกษาพรรคเป็น ส.ส.สอบตก ทำให้ ส.ส.ของพรรคคือ นายตุ่น จินตะเวช จากจังหวัดอุบลราชธานี และนางทัศนียา รัตนเศรษฐ จากจังหวัดนครราชสีมา ดำเนินการทางการเมืองเป็นอิสระ และหันไปสนันสนุนพรรคไทยรักไทย โดยที่ทางหัวหน้าพรรคก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ เพราะในระเบียบระบุว่าการประชุมพรรคเพื่อขับสมาชิกพรรค (คือนายตุ่น และนางทัศนียา) ต้องมี ส.ส.ของพรรคร่วมอยู่ด้วย

การเลือกตั้งซ่อมจังหวัดพิจิตร

ผลการเลือกตั้งซ่อมในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2548 พื้นที่เขต 3 จังหวัดพิจิตร นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ผู้สมัครหมายเลข 1 ของพรรคมหาชน บุตรชาย พล.ต.สนั่น มีคะแนนนำห่างนายนาวิน บุญเสรฐ จากพรรคไทยรักไทย กว่า 17,000 คะแนน[7] ได้รับเลือกตั้งเป็น ส.ส. คนที่ 3 ของพรรคมหาชน[8]

การเลือกตั้ง พ.ศ. 2549

ภายหลังการยุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2549 พรรคมหาชนร่วมกับ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทย ทำหนังสือถึงพรรคไทยรักไทย ขอให้ลงนามในสัตยาบันร่วมกันว่าจะจัดให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ หลังการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในไทย เมษายน พ.ศ. 2549 แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง พรรคจึงมีมติไม่ส่งผู้สมัคร

การเลือกตั้ง พ.ศ. 2550

ในปลายเดือนตุลาคม ปี พ.ศ. 2550 พลตรีสนั่น หัวหน้าพรรคได้นำเอาสมาชิกพรรคจำนวน 15 คน ไปสังกัดกับทางพรรคชาติไทย โดยให้เหตุผลว่า พรรคมหาชนเป็นพรรคขนาดเล็กคงไม่ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้ง แต่ถึงอย่างไร พลตรีสนั่นก็ยังคงจะบริหารพรรคมหาชนต่อไป

การเลือกตั้ง 2554

ในการเลือกตั้งปี พ.ศ. 2554 แม้พรรคมหาชนจะไม่ได้เป็นพรรคการเมืองที่เป็นที่จับตามองเหมือนเช่นในอดีต แต่ก็มีสมาชิกพรรคได้รับเลือกตั้งจำนวนหนึ่งคน คือ นายอภิรัต ศิรินาวิน หัวหน้าพรรค และเป็นผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อหมายเลขหนึ่ง โดยได้รับคะแนนไปทั้งหมด 161,251 คะแนน[9]

ประวัติการทำงานในรัฐสภา

ครั้งที่ การเลือกตั้ง จำนวน ส.ส. สถานภาพพรรค นายกรัฐมนตรี หมายเหตุ
1. 2544 2 คน ฝ่ายค้าน ทักษิณ ชินวัตร ได้รับเลือก 2 คน ต่อมาได้รับเลือกตั้งเพิ่ม 1 คน แต่ถูกใบเหลือง
2. 2548 3 คน ฝ่ายค้าน ทักษิณ ชินวัตร เดิมได้รับเลือก 2 คน ต่อมาได้รับเลือกตั้งซ่อม เพิ่ม 1 คน
3. 2549 - - - ไม่ส่งผู้สมัคร
4. 2550 - - สมัคร สุนทรเวช สมชาย วงศ์สวัสดิ์ และอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ได้รับเลือกตั้ง
5. 2554 1 คน ร่วมรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

อ้างอิง

  1. ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง การจดทะเบียนพรรคการเมือง พรรคราษฎร
  2. ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง ตอบรับการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรค นโยบายพรรค และกรรมการบริหารพรรคราษฎร
  3. ข้อมูลพรรคการเมืองที่ยังดำเนินการอยู่ณ วันที่ 6 พฤษภาคม 2554
  4. ประกาศนายทะเบียนพรรคการเมือง เรื่อง ตอบรับการเปลี่ยนแปลงข้อบังคับพรรคราษฎร พ.ศ. 2541 (ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม) (แก้ไขเพิ่มเติม ครั้งที่ 1 พ.ศ. 2542) และคณะกรรมการบริหารพรรคราษฎร
  5. ประชาธิปัตย์ ปราศรัย Democrat Live (กรุงเทพ, พ.ศ. 2548) สำนักพิมพ์ Politic Press
  6. "ชาติไทย-มหาชน" จับขั้วไร้เงื่อนไข
  7. ฝ่ายค้านผลงานเยี่ยมดัน 125 เสียง - ทรท.ได้สิงห์บุรีสนามเดียว
  8. ประกาศคณะกรรมการการเลือกตั้ง เรื่อง ผลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดพิจิตร เขตเลือกตั้งที่ 3 แทนตำแหน่งที่ว่าง (นายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์)
  9. ตามไปดู 1 เสียง "อภิรัต ศิรินาวิน" พรรคมหาชน" ที่มารัฐบาลเลขสวย 299 จากมติชน

แหล่งข้อมูลอื่น