ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แอร์บัส เอ380"
ล r2.7.2) (Robot: Modifying fa:ایرباس آ-۳۸۰ to fa:ایرباس-۳۸۰ |
|||
บรรทัด 336: | บรรทัด 336: | ||
[[et:Airbus A380]] |
[[et:Airbus A380]] |
||
[[eu:Airbus A380]] |
[[eu:Airbus A380]] |
||
[[fa:ایرباس |
[[fa:ایرباس-۳۸۰]] |
||
[[fi:Airbus A380]] |
[[fi:Airbus A380]] |
||
[[fr:Airbus A380]] |
[[fr:Airbus A380]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:20, 1 ธันวาคม 2555
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
Airbus A380-800 | |||
---|---|---|---|
รูปภาพของ Airbus A380 | |||
ชนิด | เครื่องบินพลเรือน | ||
นักบิน | 2 | ||
เที่ยวบินแรก | 27 เมษายน พ.ศ. 2548 | ||
เที่ยวบินทางการพาณิชย์แรก | 25 ตุลาคม พ.ศ. 2550 (โดย สิงคโปร์แอร์ไลน์) | ||
ผู้ผลิต | แอร์บัส | ||
ขนาด | |||
ความยาว | 73 ม. | 239 ฟุต 6 นิ้ว | |
ความกว้างปีก | 79.8 ม. | 261 ฟุต 10 นิ้ว | |
ความสูง | 24.1 ม. | 79 ฟุต 1 นิ้ว | |
ความกว้างปีก | 845 ม.² | 9,100 ฟุต² | |
น้ำหนัก | |||
ว่างเปล่า | 280,000 กก. | 617,300 ปอนด์ | |
เต็มความจุ | 560,000 kg | 1,235,000 ปอนด์ | |
ความจุผู้โดยสาร | สูงสุด 555 คน (3-คลาส) สูงสุด 840 คน (1-คลาส) | ||
ความจุสินค้า | 38 LD3s or 13 pallets | ||
กำลังเครื่องยนต์ | |||
เครื่องยนต์ | Four Rolls-Royce Trent 900 หรือ Engine Alliance GP7200 turbofans | ||
แรงดัน | 1,208 kN | 271,560 lbf | |
สมรรถนะ | |||
ความเร็วปกติ | 0.85 มัค (ประมาณ 902 กม./ชม.) | ประมาณ 561 ไมล์/ชม. | |
ความเร็วสูงสุด | 0.89 มัค (ประมาณ 945 กม./ชม.) | ประมาณ 587 ไมล์/ชม. | |
ขอบเขตการบิน | 15,100 กม. | 9,383 ไมล์ | |
เพดานบิน | 13,100 ม. | 43,000 ฟุต | |
อัตราการไต่ระดับ | ม./วินาที | ฟุต/วินาที |
เครื่องบิน แอร์บัส A380 เป็นเครื่องบินห้องโดยสารสองชั้นขนาดใหญ่ ผลิตโดยแอร์บัสแอสอาแอส เครื่องบินสี่เครื่องยนต์ลำนี้สามารถบรรทุกผู้โดยสารได้สูงสุดถึง 800 คน หรือ 500 คนถ้าวางที่นั่งแบบ 3 ชั้นผู้โดยสารตามเครื่องบินพาณิชย์ปกติ เครื่องบินรุ่นนี้ได้ผ่านกำหนดการทดสอบการบินเที่ยวแรกในวันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2548 โดยบินขึ้นจากเมืองตูลูส ประเทศฝรั่งเศส และได้ส่งมอบให้สิงคโปร์แอร์ไลน์เป็นสายการบินแรกเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2550
แนะนำ
A380 รู้จักมาเป็นเวลาหลายปีในขณะที่มีแอร์บัสมีแผนการผลิต แอร์บัส A3XX โดยจะเป็นเครื่องบินพาณิชย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อเริ่มให้บริการ ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2550
A380 ได้เปิดตัวในงานของเมืองตูลูสในฝรั่งเศสในวันที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2548 หมายเลขอนุกรมของผู้ผลิต (MSN - Manufacturer's serial number) คือ 001 และรหัสทะเบียน F-WWOW.
ข้อมูลทั่วไป
เครื่องบินแอร์บัสรุ่นใหม่นี้ ในเบื้องต้นจะผลิตขาย 2 แบบด้วยกัน คือA380-800 เป็นแบบ 2 ชั้นสมบูรณ์แบบ สามารถจุผู้โดยสารได้ 555 คน ในชั้นหนึ่งและชั้นธุรกิจ หรือถึง 800 คน ในชั้นประหยัด ในระยะการบิน 8,000 ไมล์ทะเล (14,800 กิโลเมตร) และแบบA380-800F เป็นเครื่องบินสำหรับบรรทุกโดยเฉพาะ บรรทุกสัมภาระได้ 150 ตัน สำหรับพิสัยการบินระยะ 5,600 ไมล์ (10,400 กิโลเมตร)
การผลิต
เครื่องบิน A380 สร้างขึ้นจากหลายๆ ประเทศใน ยุโรปได้แก่ Aeroapatiale-Matra ที่ Toulouse จะทำการประกอบส่วนต่างๆ ของเครื่องบินในช่วงสุดท้าย การสร้างภายในลำตัว ดำเนินการ โดย DASA ที่ Hamburg ทั้ง Aerospatiale และ DASA สร้างส่วนต่างๆของโครงสร้างลำตัวด้วย, บริษัท BAE Systems สร้างส่วนของปีก, บริษัท CASA ของสเปน สร้างส่วนของแพนหาง, เครื่องยนต์ก็มีความก้าวหน้าในโครงการค้นคว้า บริษัท Rolls-Royce ก็ดำเนินการเองโดยลำพัง โดยพัฒนาจากเครื่องยนต์ตระกูล Trent
สิงคโปร์แอร์ไลน์เลือกเครื่องยนต์ Rolls-Royce Trent 900 ส่วนบริษัท Pratt และบริษัท GE ได้ร่วมมือกันพัฒนาเครื่องยนต์ จากตระกูล GE90 และ PW4000 โดยให้ชื่อว่า GP7200 ซึ่งแผนการปัจจุบันจะมีใบพัด (fan blade) ที่มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 110 นิ้ว มีอัตราส่วนของอากาศที่ผ่านเครื่องยนต์เท่ากับ 8:1 สำหรับใช้กับเครื่องบิน A380 ซึ่งมีแรงขับดันระหว่าง 67,000-80,000 ปอนด์ เพื่อใช้กับโครงการ A380 (B747X จะใช้เครื่องยนต์รุ่น GP 7100 ซึ่งใบพัดมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 101 นิ้ว อัตราส่วนของอากาศที่ผ่าน เครื่องยนต์เท่ากับ 7:1) ราคาของเครื่องบินลำนี้ประมาณ 220 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ระบบไฮดรอลิก
ระบบไฮดรอลิกของ A380 จะใช้ระบบที่มีแรงดัน 5000 psi. (ปอนด์ต่อตารางนิ้ว) แทนการใช้ระบบ 3000 psi. (ปัจจุบัน เครื่องบินพาณิชย์ใช้อยู่คือ 3000 psi.) เพื่อใช้ในการควบคุมส่วนของโครงสร้างที่ใช้บังคับการบิน และทำให้อุปกรณ์ไฮดรอลิกที่ใช้เล็กลง ( แรง = แรงดัน x พื้นที่) และ สามารถลดน้ำหนักของเครื่องบินได้ประมาณถึงตัน
- บริษัท Airbus ได้ประกาศ บริษัทที่ได้รับคัดเลือกให้ ผลิตอุปกรณ์บางชนิดเพื่อมาใช้กับเครื่อง A380 ดังนี้:
- บริษัท Parker Hannifin Corp.แผนก Electronic Systems Division ได้รับคัดเลือกให้ผลิตระบบเครื่องวัด และระบบบริหารการใช้เชื้อเพลิง
- บริษัท TRW / Thales ได้รับการคัดเลือกให้ร่วมกัน พัฒนาระบบไฟฟ้าแบบความถี่ไม่คงที่
- บริษัท Goodrich Corp. ได้รับการคัดเลือก ให้ผลิตระบบการออกฉุกเฉิน (evacuation systems) และระบบล้อประธาน (main landing gear) สำหรับ A380
- บริษัท Rolls-Royce ได้รับให้ผลิตระบบการจ่ายเชื้อเพลิงเข้าเครื่องยนต์ Trent 900 ของตัวเอง
การสั่งซื้อและการส่งมอบ
การสั่งซื้อ
จนถึง ณ วันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 มีลูกค้าที่สั่งจองเครื่องบินแอร์บัส เอ 380 จำนวน 196 ลำ จากลูกค้า 18 ราย คือ
สายการบิน | A380-800 | A380-800F | Options | ส่งมอบแล้ว | เครื่องยนต์ |
---|---|---|---|---|---|
แอโรลิเนียส์ อาร์เจนตินา | 2* | - | 2* | - | TBD |
แอร์โคเม็ต | 2* | - | - | - | TBD |
แอร์ฟรานซ์ | 12 | - | 2 | 6 | GP7200 |
บริติช แอร์เวย์ | 12 | - | 7 | - | Trent 900 |
ไชน่าเซาเทิร์นแอร์ไลน์ | 5 | - | - | 2 | Trent 900 |
เอมิเรตส์แอร์ไลน์ | 58 | - | - | 15 | GP7200 |
เอทิฮัดแอร์เวย์ | 4 | - | - | - | Trent 900 |
ILFC | 10 | - | 4 | - | GP7200 |
คิงฟิชเชอร์แอร์ไลน์ | 5 | - | 5 | - | TBC |
โคเรียนแอร์ | 5 + 3* | - | - | 2 | GP7200 |
ลุฟต์ฮันซา | 15 | - | 10 | 8 | Trent 900 |
มาเลเซียแอร์ไลน์ | 6 | - | - | 1 | Trent 900 |
แควนตัส | 20 | - | 4 | 10 | Trent 900 |
กาตาร์แอร์เวย์ | 5 | - | 2 | - | TBC |
สิงคโปร์แอร์ไลน์ | 19 + 6 | - | 6 | 12 | Trent 900 |
การบินไทย | 6 | - | 2 | 2 | Trent 900 |
เวอร์จิ้น แอตแลนติก แอร์เวย์ | - | - | 6 | - | Trent 900 |
เจ้าชายอัล-วาลีด บิน ทาลาล[1] | 1 | - | - | - | Trent 900 |
รวมทั้งหมด | 196 | 0 | 48 | 53 |
ราคา
ยังไม่มีการประกาศราคาอย่างเป็นทางการ แต่มีการประเมินราคาไว้ที่ 296 - 316 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อาจจะมีส่วนลดหากมีการสั่งซื้อเป็นจำนวนมาก
การส่งมอบ
การกำหนดการเดิมนั้น สิงคโปร์แอร์ไลน์จะได้รับเครื่องบินแอร์บัส เอ380 เครื่องแรก ในช่วงปลายปีพ.ศ. 2549 แควนตัสจะได้รับในช่วงต้นปีพ.ศ. 2550 และเอมิเรตส์จะได้รับก่อนปีพ.ศ. 2551 แต่เนื่องจากไม่สามารถผลิตได้ทันตามกำหนดการ ทำให้แอร์บัสต้องเลื่อนวันส่งมอบออกไป
จนในวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2549 แอร์บัสก็ประกาศเลื่อนการส่งมอบเป็นครั้งที่ 3 ทำให้คาดว่าจะสามารถส่งมองเครื่องบินแอร์บัส เอ 380 ให้กับสิงคโปร์แอร์ไลน์ ในช่วงเดือนตุลาคม พ.ศ. 2550 และจะเพิ่มอัตราการผลิตให้ได้ 13 ลำในปีพ.ศ. 2551, 25 ลำ ในปีพ.ศ. 2552 และเต็มอัตราการผลิตที่ 45 ลำ ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2553 เป็นต้นไป ส่วนเอมิเรตส์ ซึ่งเป็นลูกค้าใหญ่ที่สุดของ เอ380 จะได้รับเครื่องบินลำแรกในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2551 และผลจากการล่าช้าทำให้หลายสายการบินยกเลิกคำสั่งซื้อ และหันไปเลือกคู่แข่งโบอิง 747-8 สำหรับเครื่องบินโดยสาร และโบอิง 777F สำหรับเครื่องบินขนส่งสินค้า
สำหรับเครื่องบินลำแรกที่จะส่งมอบให้สิงคโปร์แอร์ไลน์นั้นได้ลงสีเป็นลายเครื่องของสิงคโปร์แอร์ไลน์เรียบร้อยแล้ว[2] ซึ่งสิงคโปร์แอร์ไลน์ประกาศว่าจะใช้ในเส้นทางบินระหว่างลอนดอน และซิดนีย์ โดยผ่าน สิงคโปร์ เส้นทางการบินย่อของสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ อาจครอบคลุม เส้นทาง สิงคโปร์ - ซานฟรานซิสโก โดยผ่าน ฮ่องกง และบินตรงไปยังปารีส และแฟรงค์เฟิร์ต ส่วนแควนตัส ก็ได้ประกาศเช่นกัน ว่าในตอนแรกจะใช้เครื่องบินนี้ บินในเส้นทางบิน ลอสแองเจิลลิส ไปซิดนีย์
แอร์บัสแถลงว่า ในที่สุดแล้ว ตนจะสามารถผลิตและส่งมอบเครื่องบินได้เดือนละ 4 ลำ[3]
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2550 เวลา 10.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นของเมืองตูลูซ แอร์บัสได้ส่งมอบเครื่องบินแอร์บัส เอ 380-800 ลำแรก ให้กับสิงคโปร์แอร์ไลน์ ซึ่งจะเริ่มให้บริการเที่ยวบินพาณิชย์เที่ยวแรกในวันที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2550 เส้นทาง สิงคโปร์-ซิดนีย์
การบินทดสอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2549 เครื่องบินแอร์บัส เอ 380 ลำทดสอบหมายเลข F-WXXL เที่ยวบินที่ AIB 002 มีกำหนดมาบินทดสอบที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเป็นครั้งแรก ลงจอดเวลาประมาณ 13:00 น. และเดินทางออกจากสนามบินสุวรรณภูมิในวันที่ 7 ธันวาคม เวลาประมาณ 12:00 น
วันที่ 1 กันยายน พ.ศ. 2550 เครื่องบินแอร์บัส เอ 380 เที่ยวบินพิเศษ AIB-701 เดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิ-ท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ พร้อมด้วยผู้โดยสารประกอบด้วยสื่อมวลชนและแขกรับเชิญเพื่อสาธิตการบินในทวีปเอเชียและประเทศไทย ในขณะใช้รถลากจูงออกจากอาคารจอดเครื่องบิน ปลายปีกของเครื่องบินได้เกิดอุบัติเหตุเฉี่ยวกับประตูโรงจอดเสียหายเล็กน้อย บริเวณใบส่งตัวรับลมปลายปีก หรือ วิงเล็ต วิศวกรตรวจสอบแล้วเห็นว่าอาจทำให้อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงสูงขึ้น แต่ไม่มีผลต่อความปลอดภัยระหว่างการบิน จึงถอดชิ้นส่วนนั้นออก และทำการบินไปจังหวัดเชียงใหม่ตามปกติ [4][5]
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
- English (ภาษาอังกฤษ)
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง | |
---|---|
Related development | |
เครื่องบินที่คล้ายกัน | |
รุ่นในซีรีส์เดียวกัน |
แอร์บัส เอ 300 - แอร์บัส เอ 310 - แอร์บัส เอ 318 - แอร์บัส เอ 319 - แอร์บัส เอ 320 - แอร์บัส เอ 321 - แอร์บัส เอ 330 - แอร์บัส เอ 340 - แอร์บัส เอ 350 - แอร์บัส เอ 380 |
หัวข้อเดียวกัน |
แม่แบบ:หัวข้ออากาศยาน แม่แบบ:Link FA
แม่แบบ:Link FA แม่แบบ:Link FA แม่แบบ:Link GA แม่แบบ:Link GA แม่แบบ:Link GA แม่แบบ:Link FA