ผลต่างระหว่างรุ่นของ "นกปากห่าง"
ล โรบอต เพิ่ม: bn:এশীয় শামুকখোল |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{Taxobox |
{{Taxobox |
||
| name = |
| name = |
||
บรรทัด 6: | บรรทัด 5: | ||
| status_ref = <ref name=IUCN2012>{{IUCN|id=106003828 |title=''Anastomus oscitans'' | assessors=[[BirdLife International]] |version=2012.1 |year=2012 |accessdate=16 July 2012}}</ref> |
| status_ref = <ref name=IUCN2012>{{IUCN|id=106003828 |title=''Anastomus oscitans'' | assessors=[[BirdLife International]] |version=2012.1 |year=2012 |accessdate=16 July 2012}}</ref> |
||
| image = Anastomus oscitans - Bueng Boraphet.jpg |
| image = Anastomus oscitans - Bueng Boraphet.jpg |
||
| image_caption = นกปากห่างที่[[บึงบอระเพ็ด]] |
|||
| image_caption = |
|||
| regnum = [[Animal]]ia |
| regnum = [[Animal]]ia |
||
| phylum = [[Chordate|Chordata]] |
| phylum = [[Chordate|Chordata]] |
||
บรรทัด 17: | บรรทัด 16: | ||
| binomial_authority = [[Pieter Boddaert|Boddaert]], 1783 |
| binomial_authority = [[Pieter Boddaert|Boddaert]], 1783 |
||
| range_map = Asian Openbill.JPG |
| range_map = Asian Openbill.JPG |
||
| range_map_caption = แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ |
|||
}} |
}} |
||
'''นกปากห่าง''' |
'''นกปากห่าง''' ({{lang-en|Open-billed stork, Asian openbill}}; {{ชื่อวิทยาศาสตร์|Anastomus oscitans}})<ref>http://www.oknation.net/blog/plains-wanderer/2012/01/15/entry-1</ref> จัดอยู่ใน[[วงศ์นกกระสา]] (Ciconiidae) จัดเป็นนกในวงศ์นี้ขนาดเล็ก แต่จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครก็คือปากที่ยามหุบจะเหลือช่องตรงกลาง ทำให้มันคาบเปลือกหอยโข่งและหอยเชอรี่ที่ทั้งกลมทั้งลื่นได้อย่างช่ำชอง เมื่อจับหอยได้แล้วมันจะคาบไปหาทำเลเหมาะ ๆ เพื่อใช้จะงอยปากทำหน้าที่เหมือนแหนบจิกเนื้อหอยออกมากิน |
||
== ลักษณะทั่วไป == |
== ลักษณะทั่วไป == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 15:02, 9 พฤศจิกายน 2555
นกปากห่าง | |
---|---|
นกปากห่างที่บึงบอระเพ็ด | |
สถานะการอนุรักษ์ | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Aves |
อันดับ: | Ciconiiformes |
วงศ์: | Ciconiidae |
สกุล: | Anastomus |
สปีชีส์: | A. oscitans |
ชื่อทวินาม | |
Anastomus oscitans Boddaert, 1783 | |
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ |
นกปากห่าง (อังกฤษ: Open-billed stork, Asian openbill; ชื่อวิทยาศาสตร์: Anastomus oscitans)[2] จัดอยู่ในวงศ์นกกระสา (Ciconiidae) จัดเป็นนกในวงศ์นี้ขนาดเล็ก แต่จุดเด่นที่ไม่เหมือนใครก็คือปากที่ยามหุบจะเหลือช่องตรงกลาง ทำให้มันคาบเปลือกหอยโข่งและหอยเชอรี่ที่ทั้งกลมทั้งลื่นได้อย่างช่ำชอง เมื่อจับหอยได้แล้วมันจะคาบไปหาทำเลเหมาะ ๆ เพื่อใช้จะงอยปากทำหน้าที่เหมือนแหนบจิกเนื้อหอยออกมากิน
ลักษณะทั่วไป
ตัวผู้และตัวเมียคล้ายกัน มีขายาว คอยาว ปากใหญ่ส่วนกลางของปากห่างออกเพื่อคาบหอยโข่งซึ่งกลมลื่นได้ ขนตามตัวมีสีขาวมอ ๆ หางมีสีดำแกมน้ำเงิน ขนปลายปีกมีสีเหมือนและเป็นแถบสีดำ นกปากห่างมีลำตัวยาว 32 นิ้ว ชอบอยู่เป็นฝูง ทำรังบนต้นไม้ ทำรังด้วยเรียวไม้แบบนกยางหรือรังกา ออกไข่ครั้งละ 2 - 4 ฟอง ตัวผู้และตัวเมียจะผลัดกันกกไข่ ในการผสมพันธุ์ เวลาตัวผู้ขึ้นทับตัวเมียนั้น นกตัวผู้จะใช้เท้าจับขอบปีกหน้าของตัวเมียไว้แน่น ทั้งสองตัวจะกระพือปีกช่วยการทรงตัว ตัวผู้จะแกว่งปากของมันให้กระทบกับปากของตัวเมียอยู่ตลอดเวลาที่ทำการทับ ลูกนกเมื่อออกจากไข่ใหม่ๆจะไม่มีขน หลังจากนั้นไม่กี่วันก็มีขนปุยขาวๆคลุม อีกราวเกือบ 2 เดือนก็มีปีกหางแข็งแรงแล้วก็เริ่มหัดบิน [3]
พฤติกรรม
นกปากห่างนับว่าเป็นนกที่บินได้เก่ง เวลาบินจะโบกปีกเป็นจังหวะสลับกับการร่อน และจะเหยียดหัวทำคอตรงออกไปทางด้านหน้า ส่วนเท้าเหยียดตรงไปทางด้านหลัง นกปากห่างถ้าพวกมันไม่บิน เราจะสังเกตเห็นพฤติกรรมของพวกมันได้ว่า พวกมันจะเดินท่องไปบนผิวน้ำอย่างช้าๆ เพื่อที่หาหอยโข่งกิน ซึ่งเป็นอาหารสุดโปรดโดยพวกมันจะใช้ปากที่แยกห่างออกจากกันช่วยจับหอยโข่งอาหารโปรดไม่ให้ลื่นหลุด แล้วจึงดึงเนื้อหอยที่อยู่ภายในเปลือกออกมากิน[4]
ถิ่นอาศัย
ประชากรนกปากห่างในประเทศไทยมีประมาณ 300,000-400,000 ตัว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น มักพบในภาคกลางและอีสาน แต่เนื่องจากเป็นนกที่อพยพย้ายถิ่นหากินตามฤดูกาล ทำให้พบได้ในหลายประเทศ ซึ่งในประเทศไทยในเดือนมิถุนายนจะพบเห็นได้มากที่สุด เนื่องจากนกชนิดนี้ได้อพยพกลับมา โดยประเทศไทยเป็นพื้นที่แหล่งทำรังวางไข่ที่สำคัญที่สุดของนกปากห่าง และเป็นพื้นที่อาศัยที่รองรับประชากรของนกปากห่างมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งโลก[5]
แหล่งอาหาร
พบทุกภาคในประเทศไทย แต่มักพบมากที่ภาคกลาง บริเวณนาข้าว นกชนิดนี้มักชอบกินหอยเชอร์รี่และหอยโข่ง
การแพร่กระจายพันธุ์
นกปากห่างแพร่กระจายพันธุ์ อยู่ในทวีปเอเซียตอนใต้ตั้งแต่ปากีสถาน อินเดีย เนปาล ศรีลังกา บังคลาเทศ พม่า ไทย ประเทศแถบอินโดจีน จำนวนในแต่ละประเทศไม่สม่ำเสมอตลอดทั้งปี เพราะนกปากห่างมีการอพยพย้ายถิ่นไปๆมาๆระหว่างประเทศเหล่านี้ ตลอดทั้งปี เพื่อหาแหล่งหากินและทำรังวางไข่[6]
อ้างอิง
- ↑ BirdLife International (2012). "Anastomus oscitans". IUCN Red List of Threatened Species. Version 2012.1. สืบค้นเมื่อ 16 July 2012.
- ↑ http://www.oknation.net/blog/plains-wanderer/2012/01/15/entry-1
- ↑ http://www.thaigoodview.com/library/teachershow/poonsak/bird/sec02p30.html
- ↑ http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9470000022533
- ↑ กลุ่มงานวิจัยสัตว์ป่า สำนักอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช
- ↑ http://www.kmitl.ac.th/agritech/ac/spproject/2552/bird2009/popup1.html