ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ภาษาสเปน"
ล r2.7.2) (โรบอต แก้ไข: lez:Испан чIал |
ล r2.7.3) (โรบอต เพิ่ม: diq:İspanyolki |
||
บรรทัด 829: | บรรทัด 829: | ||
[[da:Spansk (sprog)]] |
[[da:Spansk (sprog)]] |
||
[[de:Spanische Sprache]] |
[[de:Spanische Sprache]] |
||
[[diq:İspanyolki]] |
|||
[[dsb:Špańšćina]] |
[[dsb:Špańšćina]] |
||
[[dv:އިސްޕެނިޝް]] |
[[dv:އިސްޕެނިޝް]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:21, 24 ตุลาคม 2555
ภาษาสเปน / ภาษาคาสตีล | |
---|---|
español / castellano | |
ออกเสียง | /espa'ɲol/ เอสปาโญล /kaste'ʎano/ กัสเตลยาโน /kaste'ɟ͡ʝano/ กัสเตยาโน |
ภูมิภาค | อาร์เจนตินา,[1] เบลีซ,[2] โบลิเวีย,[3] ชิลี,[4] โคลอมเบีย,[5] คอสตาริกา,[6] คิวบา,[7] เอกวาดอร์, เอลซัลวาดอร์, สเปน, ยิบรอลตาร์ (อังกฤษ), กัวเตมาลา, อิเควทอเรียลกินี,[8][9] ฮอนดูรัส, เม็กซิโก, นิการากัว, ปานามา, ปารากวัย, เปรู, เปอร์โตริโก (สหรัฐฯ), สาธารณรัฐโดมินิกัน, อุรุกวัย และเวเนซุเอลา ในกลุ่มคนส่วนน้อย: |
จำนวนผู้พูด | ผู้พูดเป็นภาษาที่หนึ่ง: 329 ล้านคน[14][15] ผู้พูดเป็นภาษาที่หนึ่งหรือสอง: 500 ล้านคน[16][17] (ไม่พบวันที่) |
ตระกูลภาษา | |
ระบบการเขียน | อักษรละติน |
สถานภาพทางการ | |
ภาษาทางการ | 20 ประเทศกับ 1 ดินแดน องค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ
|
ผู้วางระเบียบ | สมาคมบัณฑิตยสถานภาษาสเปน (ราชบัณฑิตยสถานสเปนและบัณฑิตยสถานภาษาสเปนในประเทศอื่น ๆ อีก 21 ประเทศ) |
รหัสภาษา | |
ISO 639-1 | es |
ISO 639-2 | spa |
ISO 639-3 | spa |
Linguasphere | 51-AAA-b |
[[File: สัญลักษณ์สี: ประเทศหรือดินแดนที่ภาษาสเปนมีสถานะทางการ รัฐในสหรัฐอเมริกาที่ประชากรมากกว่าร้อยละ 25 ใช้ภาษาสเปน รัฐในสหรัฐอเมริกาที่ประชากรร้อยละ 10-20 ใช้ภาษาสเปน รัฐในสหรัฐอเมริกาที่ประชากรร้อยละ 5-9.9 ใช้ภาษาสเปน |300px]] |
ภาษาสเปน (อังกฤษ: Spanish; สเปน: [español] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) หรือ ภาษาคาสตีล (อังกฤษ: Castilian; สเปน: [castellano] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) เป็นภาษาในกลุ่มภาษาไอบีเรียนโรมานซ์ หนึ่งในภาษาทางการ 6 ภาษาขององค์การสหประชาชาติ[19] และภาษาที่มีผู้พูดเป็นภาษาแม่มากที่สุดในโลกรองจากภาษาจีนกลาง[20][21] รวมทั้งยังเป็นภาษาราชการขององค์การระหว่างประเทศทางเศรษฐกิจและการเมืองที่สำคัญอีกหลายองค์การอีกด้วย เช่น สหภาพยุโรป[22] สหภาพแอฟริกา[23] องค์การรัฐอเมริกา[24] องค์การรัฐไอบีเรียอเมริกา[25] ข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ[26] และสหภาพชาติอเมริกาใต้[27] เป็นต้น
มีผู้พูดภาษาสเปนเป็นภาษาที่หนึ่งและภาษาที่สองเป็นจำนวนระหว่าง 450-500 ล้านคน[16][28][29] โดยเม็กซิโกเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้พูดภาษานี้มากที่สุด นอกจากนี้ ภาษาสเปนยังเป็นภาษาที่มีผู้เรียนมากเป็นอันดับที่ 2 ของโลกรองจากภาษาอังกฤษ[28] มีผู้เรียนภาษานี้อย่างน้อย 17.8 ล้านคน[30][31][32] ขณะที่แหล่งข้อมูลบางแห่งกล่าวว่า มีผู้เรียนภาษานี้กว่า 46 ล้านคนกระจายอยู่ใน 90 ประเทศ[33]
ภาษาสเปนมีต้นกำเนิดจากภาษาละตินชาวบ้านที่พัฒนามาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 3 (เช่นเดียวกับภาษาอื่นในกลุ่มภาษาโรมานซ์) หลังจากจักรวรรดิโรมันล่มสลายลง ดินแดนที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิต่างแยกไปอยู่ใต้การปกครองของชนกลุ่มต่าง ๆ กัน ภาษานี้จึงถูกตัดขาดออกจากภาษาถิ่นของภาษาละตินในดินแดนอื่น ๆ และมีวิวัฒนาการอย่างช้า ๆ จนเกิดเป็นภาษาละตินใหม่ต่างหากอีกภาษาหนึ่ง แต่เนื่องจากได้รับการเผยแพร่ทั้งในทวีปอเมริกาเหนือและทวีปอเมริกาใต้เป็นเวลาที่ต่อเนื่องยาวนาน ภาษาสเปนจึงกลายเป็นภาษาละตินใหม่ที่ใช้กันแพร่หลายมากที่สุดในปัจจุบัน
ชื่อภาษาและที่มา
ชาวสเปนมักเรียกภาษาของตนว่า ภาษาสเปน (español) เมื่อนำภาษานี้ไปเปรียบเทียบกับภาษาของชาติอื่น เช่น ภาษาฝรั่งเศสและภาษาอังกฤษ แต่จะเรียกว่า ภาษาคาสตีล (castellano) [= ภาษาของแคว้นคาสตีล] เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับภาษาในประเทศสเปนภาษาอื่น ๆ (เช่น ภาษากาลิเซีย ภาษาบาสก์ และภาษาคาตาลัน) หรือแม้กระทั่งการนำไปเทียบกับบรรดาภาษาพื้นเมืองของประเทศในลาตินอเมริกาบางประเทศ ด้วยวิธีนี้ รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสเปน ค.ศ. 1978 จึงใช้คำว่า "ภาษาคาสตีล" (castellano) เพื่อนิยามภาษาราชการของประเทศ ซึ่งตรงข้ามกับ "ภาษาของสเปนภาษาอื่น ๆ" (las demás lenguas españolas) ตามมาตรา 3 ดังนี้
- El castellano es la lengua española oficial del Estado. (…) Las demás lenguas españolas serán también oficiales en las respectivas Comunidades Autónomas…
- ภาษาคาสตีลเป็นภาษาสเปนทางการของทั้งรัฐ (…) ภาษาสเปนภาษาอื่น ๆ จะมีสถานะทางการเช่นกันในแคว้นปกครองตนเองตามลำดับ (ต่อไปนี้…)
นักนิรุกติศาสตร์บางคนใช้ชื่อ "Castilian" เมื่อกล่าวถึงภาษาที่ใช้กันในภูมิภาคคาสตีลสมัยกลางเท่านั้น โดยเห็นว่า "Spanish" ควรนำมาใช้เรียกภาษานี้ในสมัยใหม่จะดีกว่า ภาษาถิ่นย่อยของภาษาสเปนที่พูดกันทางตอนเหนือของแคว้นคาสตีลในปัจจุบันเอง บางครั้งก็ยังเรียกว่า "Castilian" ภาษาถิ่นนี้แตกต่างจากภาษาถิ่นในภูมิภาคอื่น ๆ ของประเทศสเปน (เช่นในแคว้นอันดาลูเซียหรือกรุงมาดริดเป็นต้น) โดยในประเทศสเปนถือว่าเป็นภาษาเดียวกับภาษาสเปนมาตรฐานอย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม คำ castellano ยังใช้กันเป็นวงกว้างเพื่อเรียกภาษาสเปนทั้งหมดในลาตินอเมริกา เนื่องจากผู้พูดภาษาสเปนบางคนจัดว่า castellano เป็นคำกลาง ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับการเมืองหรือลัทธิใด (เหมือนกับ "Spanish" ในฐานะคำหนึ่งของภาษาอังกฤษ) ชาวลาตินอเมริกาจึงมักใช้คำนี้ในการแบ่งแยกความหลากหลายของภาษาสเปนในแบบของพวกเขาว่า ไม่เหมือนกันกับความหลากหลายของภาษาสเปนที่ใช้กันในประเทศสเปนเอง
คำว่า español ที่ถูกนำมาเปลี่ยนแปลงรูปตามกฎทางไวยากรณ์และสัทวิทยา (การศึกษาเกี่ยวกับเสียงในภาษา) ของแต่ภาษาเพื่อใช้เรียกชาวสเปนและภาษาของพวกเขานั้น มีรากศัพท์มาจากคำในภาษาละตินว่า "ฮิสปานีโอลุส" (Hispaniolus) [= ชาวฮิสปาเนียน้อย] รูปคำดังกล่าวได้วิวัฒนาการมาเป็น Spaniolus (ในช่วงเวลานั้น ตัว H ในภาษาละตินจะหายไปในการสนทนาปกติ คำนี้จึงออกเสียงว่า "อิสปานีโอลู" [ispa'niolu]) และสระ [i] (ใช้ในภาษาพูดของละตินเพื่อความรื่นหู) ก็ถูกเปิดเป็นสระ [e] จึงทำให้คำนี้มีรูปเขียนอย่างที่เห็นในปัจจุบัน[34]
ประวัติ
ชาวโรมันจากคาบสมุทรอิตาลีได้นำภาษาละตินเข้ามาใช้บนคาบสมุทรไอบีเรียนับตั้งแต่สมัยสงครามพิวนิกครั้งที่ 2 เมื่อ 218 ปีก่อนคริสต์ศักราช[35] ภาษานี้ได้รับอิทธิพลจากภาษาของชนพื้นเมืองที่อาศัยอยู่ก่อนแล้ว ได้แก่ ภาษาเคลติเบเรียน ภาษาบาสก์ และภาษาโบราณอื่น ๆ บนคาบสมุทร เมื่อจักรวรรดิโรมันล่มสลายลงในคริสต์ศตวรรษที่ 5 การติดต่อระหว่างภูมิภาคต่าง ๆ ในจักรวรรดิจึงถูกตัดขาดออกจากกัน ส่งผลให้อิทธิพลของภาษาละตินชั้นสูงที่มีต่อชาวบ้านทั่วไปค่อย ๆ ลดลง จนเหลือเพียงภาษาละตินสามัญซึ่งเป็นภาษาพูดเท่านั้นที่ทหารและชาวบ้านทั่วไปยังคงใช้สื่อสารในชีวิตประจำวันอยู่
ในคริสต์ศตวรรษที่ 8 ชาวมัวร์จากแอฟริกาเหนือได้เข้ารุกรานและครอบครองคาบสมุทรไอบีเรียต่อจากชาววิซิกอท การทำสงครามเพื่อผนวกและยึดดินแดนคืนดำเนินไปอย่างยาวนาน พื้นที่บนคาบสมุทรจึงถูกแบ่งออกเป็นสองส่วนโดยปริยาย ในเขตอัลอันดะลุสใช้ภาษาอาหรับและภาษาเบอร์เบอร์ แต่ก็มีผู้ใช้ภาษาโมซาราบิก (เป็นภาษาโรมานซ์ภาษาหนึ่ง แต่ได้รับอิทธิพลจากภาษาอาหรับ) อยู่ด้วย ส่วนพื้นที่ทางตอนเหนือที่ยังคงเป็นเขตอิทธิพลของชาวคริสต์นั้น ภาษาพูดละตินในท้องถิ่นต่าง ๆ ได้มีพัฒนาการทางโครงสร้างที่แตกต่างจากกันมากขึ้นเรื่อย ๆ และเริ่มกลายเป็นภาษาถิ่นที่มีลักษณะเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นคาตาลัน, นาวาร์-อารากอน, คาสตีล, อัสตูร์-เลออน หรือกาลิเซีย-โปรตุเกส โดยภาษาเหล่านี้มีชื่อเรียกโดยรวมว่า "โรมานซ์"
ภาษาโรมานซ์คาสตีลซึ่งเป็นหนึ่งในบรรพบุรุษของภาษาสเปนนั้นถือกำเนิดจากภาษาละตินสามัญที่ใช้กันในแถบทิวเขากันตาเบรีย (พื้นที่คาบเกี่ยวระหว่างจังหวัดอาลาบา, กันตาเบรีย, บูร์โกส, โซเรีย และลารีโอคา ทางตอนเหนือของสเปนปัจจุบัน ขณะนั้นเป็นเขตของแคว้นคาสตีล) โดยรับอิทธิพลบางอย่างจากภาษาบาสก์และภาษาของชาววิซิกอท หลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรเก่าแก่ที่สุดมีชื่อว่า จดหมายเหตุบัลปูเอสตา ([Cartularios de Valpuesta] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) พบที่โบสถ์แห่งหนึ่งในจังหวัดบูร์โกส เป็นเอกสารที่บันทึกลักษณะและศัพท์ของภาษาโรมานซ์ (ที่จะพัฒนามาเป็นภาษาคาสตีล) ในราวคริสต์ศตวรรษที่ 9 ไว้[36]
ตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 11 เป็นต้นมา ได้เกิดกระบวนการกลมกลืนและปรับระดับทางภาษาขึ้นระหว่างภาษาโรมานซ์ที่ใช้กันในตอนกลางของคาบสมุทร ได้แก่ อัสตูร์-เลออน, คาสตีล และนาวาร์-อารากอน นำไปสู่การก่อรูปแบบของภาษาที่ผู้คนบนคาบสมุทรนี้จะใช้ร่วมกันต่อไป นั่นคือ ภาษาสเปน[37] อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้เห็นด้วยกับข้อสันนิษฐานที่มีมาแต่เดิมว่า ภาษาสเปนพัฒนามาจากภาษาคาสตีลเป็นหลักและอาจจะได้รับอิทธิพลจากภาษาข้างเคียงมาบ้างเท่านั้น[37]
เมื่อการพิชิตดินแดนคืนจากชาวมุสลิม (ที่เริ่มมาตั้งแต่ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 8) มีความคืบหน้าไปมากในยุคกลางตอนปลาย ภาษาโรมานซ์ต่าง ๆ จากทางเหนือก็ถูกนำลงมาเผยแพร่ทางตอนกลางและตอนล่างของคาบสมุทรไปพร้อม ๆ กัน โดยเฉพาะภาษาคาสตีลซึ่งเข้าไปแทนที่หรือส่งอิทธิพลต่อภาษาในท้องถิ่นต่าง ๆ และในขณะเดียวกันก็ได้ยืมศัพท์เป็นจำนวนมากจากภาษาอาหรับ และจากภาษาโมซาราบิกของชาวคริสต์และชาวยิวที่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของชาวมัวร์ด้วย (แต่ภาษาเหล่านี้ได้สูญไปจากคาบสมุทรไอบีเรียตั้งแต่ปลายคริสต์ศตวรรษที่ 16)
ในคริสต์ศตวรรษที่ 12 และ 13 อาณาจักรคาสตีลได้กลายเป็นผู้นำทางการเมืองและวัฒนธรรมเหนืออาณาจักรอื่น ๆ บนคาบสมุทร สถานการณ์นี้ช่วยกระตุ้นให้เกิดการวางมาตรฐานภาษาคาสตีลเป็นภาษาเขียนอีกทางหนึ่ง[38] เห็นได้ชัดในรัชสมัยของพระเจ้าอัลฟอนโซที่ 10 พระองค์ทรงรวบรวมนักเขียนและปราชญ์จากเมืองต่าง ๆ มาประชุมกันในราชสำนักเพื่อเขียนและแปลเอกสารที่เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ ดาราศาสตร์ และกฎหมาย โดยผลงานต่าง ๆ ได้รับการบันทึกลงเป็นภาษาคาสตีลแทนภาษาละติน เพื่อให้ประชาชนทั่วไปสามารถเข้าถึงและใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้เหล่านั้นได้มากขึ้น[39]
ต่อมาในปี ค.ศ. 1492 เอเลียว อันโตเนียว เด เนบรีคา ได้แต่งตำราอธิบายโครงสร้าง คำศัพท์ และวิธีการสอนภาษาคาสตีลที่เมืองซาลามังกา มีชื่อว่า ไวยากรณ์ภาษาคาสตีล ([Gramática de la Lengua Castellana] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) นับว่าเป็นตำราไวยากรณ์ภาษาแรกในยุโรป[40] เกร็ดที่มีชื่อเสียงเรื่องหนึ่งมีอยู่ว่า เมื่อเนบรีคาเสนอตำราดังกล่าวแด่สมเด็จพระราชินีนาถอิซาเบลลาที่ 1 พระองค์มีพระราชดำรัสถามว่าผลงานชิ้นนี้มีประโยชน์อย่างไร เขาได้ทูลตอบว่า ภาษาถือเป็นเครื่องมือของจักรวรรดิ[41]
ระหว่างปลายคริสต์ศตวรรษที่ 15 จนถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 17 ได้เกิดกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางเสียงขนานใหญ่ในภาษาสเปนเช่นเดียวกับภาษาอื่นในกลุ่มโรมานซ์ กล่าวคือ เสียงพยัญชนะบางเสียงได้สูญหายไป มีเสียงพยัญชนะใหม่ปรากฏขึ้น ส่วนเสียงพยัญชนะเสียดแทรกที่มีฐานอยู่ที่ปุ่มเหงือก ฟัน และเพดานแข็ง (ส่วนหน้า) บางเสียงได้ถูกกลืนเข้ากับเสียงอื่น การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้เป็นผลให้ภาษาสเปนมีระบบเสียงพยัญชนะใกล้เคียงกับที่ปรากฏในปัจจุบัน
ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 16 นักสำรวจและนักล่าอาณานิคมได้นำภาษาสเปนเข้าไปเผยแพร่และใช้ในดินแดนทวีปอเมริกาและสแปนิชอีสต์อินดีสอย่างต่อเนื่องนานนับร้อยปี จนภาษานี้ได้กลายเป็นหนึ่งในภาษาหลักที่ใช้ผู้คนในทวีปดังกล่าวใช้สื่อสารกันมาจนถึงทุกวันนี้ และในเวลาต่อมา ภาษาสเปนก็ถูกนำไปใช้เป็นครั้งแรกในอิเควทอเรียลกินี เวสเทิร์นสะฮารา รวมไปถึงพื้นที่หลายแห่งในสหรัฐอเมริกาซึ่งไม่เคยเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิสเปนมาก่อนเลย เช่น ในย่านสแปนิชฮาร์เล็มของนครนิวยอร์ก
ปัจจุบันภาษาสเปนที่ใช้กันในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกมีความหลากหลายอย่างมากทั้งในด้านการออกเสียงและด้านคำศัพท์ แม้ว่าจะมีโครงสร้างหลักร่วมกันเป็นภาษาละตินก็ตาม ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการติดต่อกับภาษาพื้นเมืองของแต่ละท้องที่เป็นเวลานาน เช่น ภาษาไอย์มารา, ชิบชา, กวารานี, มาปูเช, มายา, นาอวตล์, เคชวา, ตาอีโน และตากาล็อก ทำให้ผู้ใช้ภาษาสเปนมีแนวโน้มที่จะรับเอาชุดความคิดและลักษณะที่ปรากฏในภาษาเหล่านั้นเข้ามาใช้ โดยเฉพาะคำศัพท์ ซึ่งหลายครั้งไม่เพียงมีอิทธิพลต่อภาษาสเปนในพื้นที่ที่สัมผัสภาษานั้นโดยตรงเท่านั้น แต่ยังส่งอิทธิพลต่อวงคำศัพท์ภาษาสเปนทั่วโลกด้วย
ลักษณะเฉพาะ
สิ่งบ่งชี้ลักษณะเฉพาะอย่างหนึ่งของภาษาสเปนก็คือ การเปลี่ยนเสียงสระเดี่ยวที่มาจากภาษาละติน ได้แก่ สระ ‹e› และสระ ‹o› ให้กลายเป็นเสียงสระประสมสองเสียง (diphthong) คือสระ ‹ie› และสระ ‹ue› ตามลำดับเมื่อสระทั้งสองอยู่ในตำแหน่งที่ลงเสียงหนักภายในคำ การกลายเสียงที่คล้ายกันนี้ยังสามารถพบได้ในภาษาโรมานซ์อื่น ๆ แต่สำหรับภาษาสเปน ลักษณะเหล่านี้มีความสำคัญเป็นพิเศษ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
- ละติน petra > สเปน [piedra] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); อิตาลี [pietra] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); ฝรั่งเศส [pierre] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); โรมาเนีย [piatrǎ] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); โปรตุเกส/กาลิเซีย [pedra] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); คาตาลัน [pedra] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ‘ก้อนหิน’
- ละติน moritur > สเปน [muere] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); อิตาลี [muore] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); ฝรั่งเศส [meurt] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) / [muert] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); โรมาเนีย [moare] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); โปรตุเกส/กาลิเซีย [morre] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); คาตาลัน [mor] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ‘เขาตาย’
ลักษณะแปลกอีกอย่างหนึ่งของภาษาสเปนยุคแรกที่ไม่พบในภาษาอื่นที่พัฒนามาจากภาษาละติน (ยกเว้นภาษาถิ่นแกสกันของภาษาอ็อกซิตัน ซึ่งเป็นไปได้ว่าภาษาทั้งสองได้รับอิทธิพลมาจากภาษาบาสก์ซึ่งเป็นภาษาพื้นเดิมและมีเขตผู้ใช้ภาษาอยู่ติดต่อกัน)[42] คือการกลายรูปพยัญชนะจาก ‹f› ต้นคำ เป็น ‹h› เมื่อใดก็ตามที่ ‹f› ตัวนั้นนำหน้าสระเดี่ยวที่จะไม่พัฒนามาเป็นสระประสมในภาษาสเปน ดังตัวอย่างต่อไปนี้
- ละติน fīlium > อิตาลี [figlio] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); โปรตุเกส [filho] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); ฝรั่งเศส [fils] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); อ็อกซิตัน [filh] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (แต่ แกสกัน [hilh] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)); สเปน [hijo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (แต่ ลาดิโน [fijo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) ‘ลูกชาย’
- ละติน fābulārī > ลาดิโน [favlar] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); โปรตุเกส [falar] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); สเปน [hablar] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ‘พูด’
- แต่ ละติน focum > อิตาลี [fuoco] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); โปรตุเกส [fogo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); สเปน/ลาดิโน [fuego] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ‘ไฟ’
พยัญชนะควบกล้ำบางตัวในภาษาละติน เช่น ‹cl›, ‹fl›, ‹pl›, ‹ct› เมื่อมีวิวัฒนาการไปเป็นส่วนหนึ่งของภาษาต่าง ๆ ในกลุ่มโรมานซ์ยังเกิดผลแตกต่างกันอย่างเป็นเอกลักษณ์ในภาษาเหล่านี้ด้วย ดังตัวอย่างต่อไปนี้
- ละติน clāmāre, flammam (รูปกรรม), plēnum > ลาดิโน [lyamar] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [flama] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [pleno] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); สเปน [llamar] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [llama] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [lleno] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (แต่ภาษาสเปนก็มีรูป [clamar] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [flama] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [pleno] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ด้วย); โปรตุเกส [chamar] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [chama] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [cheio] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)
- ละติน octō (รูปกรรม), noctem, multum > ลาดิโน [ocho] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [noche] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [muncho] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); สเปน [ocho] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [noche] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [mucho] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); โปรตุเกส [oito] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [noite] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [muito] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); กาลิเซีย [oito] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [noite] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [moito] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)
การจำแนกและภาษาร่วมตระกูล
ภาษาสเปนมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับภาษาอื่น ๆ ในกลุ่มไอบีเรียตะวันตก ได้แก่ ภาษาอัสตูเรียส ภาษากาลิเซีย ภาษาลาดิโน ภาษาเลออน และภาษาโปรตุเกส ส่วนภาษาคาตาลันแม้จะมีเขตผู้ใช้ภาษาอยู่ในประเทศสเปน แต่เนื่องจากเป็นภาษาในกลุ่มไอบีเรียตะวันออกและแสดงลักษณะหลายประการของกลุ่มภาษากัลโล-โรมานซ์ จึงมีความใกล้เคียงกับภาษาอ็อกซิตันมากกว่ากับภาษาสเปน หรือกล่าวอีกอย่างหนึ่งก็คือมากกว่าที่ภาษาสเปนและภาษาโปรตุเกสใกล้เคียงกันเสียอีก
ภาษาสเปนและภาษาโปรตุเกสมีระบบไวยากรณ์และคำศัพท์คล้ายคลึงกัน และยังมีประวัติความเป็นมาร่วมกันในด้านอิทธิพลจากภาษาอาหรับในยุคที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของคาบสมุทรไอบีเรียตกอยู่ภายใต้อำนาจปกครองของชาวมุสลิมอีกด้วย โดยความใกล้เคียงของศัพท์ของภาษาทั้งสองอยู่ที่ประมาณร้อยละ 89[10]
ภาษาลาดิโน
ภาษาลาดิโน (Ladino) เป็นภาษายิว-สเปน (Judaeo-Spanish) ที่ได้รับอิทธิพลมาจากภาษาสเปนโบราณและมีความใกล้เคียงกับภาษาสเปนสมัยใหม่มากกว่าภาษาอื่น ผู้พูดภาษานี้เป็นผู้ที่สืบทอดเชื้อสายมาจากชาวยิวเซฟาร์ดี (Sephardic Jews) ที่ถูกขับไล่ออกไปจากสเปนในคริสต์ศตวรรษที่ 15 ทุกวันนี้ผู้พูดภาษาลาดิโนแทบจะเหลือเพียงชาวยิวเซฟาร์ดีที่ตั้งรกรากอยู่ในประเทศตุรกี กรีซ คาบสมุทรบอลข่าน และลาตินอเมริกา ภาษานี้ไม่มีคำศัพท์อเมริกันพื้นเมืองซึ่งส่งอิทธิพลต่อภาษาสเปนในสมัยที่สเปนยังมีอาณานิคมที่ทวีปนั้นและยังรักษาคำศัพท์โบราณที่สูญหายไปแล้วจากภาษาสเปนมาตรฐาน อย่างไรก็ตามในภาษานี้ยังปรากฏคำศัพท์ที่ไม่พบในภาษาคาสตีลมาตรฐาน ได้แก่ คำศัพท์จากภาษาฮีบรู ภาษาตุรกี และจากภาษาอื่น ๆ ในที่ที่ชาวยิวเซฟาร์ดีเข้าไปตั้งถิ่นฐานปะปนอยู่ด้วย
ภาษาลาดิโนอยู่ในภาวะเสี่ยงต่อการสูญสิ้นไป เพราะผู้ใช้ภาษานี้ในปัจจุบันเป็นผู้สูงอายุซึ่งไม่ได้ถ่ายทอดภาษานี้ไปสู่รุ่นลูกหลาน ส่วนชุมชนเซฟาร์ดีในลาตินอเมริกา ความเสี่ยงที่จะภาษานี้จะสูญไปยังมีเหตุผลมาจากการถูกกลืนเข้ากับภาษาสเปนสมัยใหม่อีกด้วย
ภาษาถิ่นที่มีความเกี่ยวข้องกับภาษาลาดิโนคือภาษาฮาเกเตีย (Haketia) ซึ่งเป็นภาษายิว-สเปนทางภาคเหนือของประเทศโมร็อกโก ภาษานี้ก็มีแนวโน้มที่จะถูกกลืนเข้ากับภาษาสเปนสมัยใหม่เช่นกันในสมัยที่สเปนเข้าครอบครองบริเวณดังกล่าว
การเปรียบเทียบคำศัพท์
ภาษาสเปนและภาษาอิตาลีมีระบบสัทวิทยา (เสียงในภาษา) ที่คล้ายคลึงกันมากและไม่มีความแตกต่างกันนักในระบบไวยากรณ์ อีกทั้งในปัจจุบันภาษาที่สองยังมีความใกล้เคียงของศัพท์อยู่ที่ประมาณร้อยละ 82[10] ดังนั้น ผู้ใช้ภาษาสเปนและผู้ใช้ภาษาอิตาลีจึงสามารถสื่อสารกันเข้าใจได้ในระดับที่ต่างกันออกไป ความใกล้เคียงของศัพท์ระหว่างภาษาสเปนกับภาษาโปรตุเกสนั้นอยู่ที่ร้อยละ 89 แต่ความไม่แน่นอนของกฎการออกเสียงในภาษาโปรตุเกสทำให้ผู้ใช้ภาษาสเปนเข้าใจภาษานี้ได้น้อยกว่าที่เข้าใจภาษาอิตาลี ส่วนความเข้าใจกันได้ระหว่างภาษาสเปนกับภาษาฝรั่งเศสและภาษาโรมาเนียมีน้อยกว่า (มีความใกล้เคียงของศัพท์อยู่ที่ร้อยละ 75 และร้อยละ 71[10] ตามลำดับ) ความเข้าใจภาษาสเปนของผู้ใช้ภาษาฝรั่งเศสที่ไม่เคยเรียนภาษาสเปนมาก่อนอยู่ที่ประมาณร้อยละ 45 อย่างไรก็ตาม ระบบการเขียนที่มีลักษณะร่วมกันของภาษาในกลุ่มโรมานซ์ทำให้ผู้ใช้ภาษาของแต่ละภาษาในกลุ่มนี้นิยมสื่อสารกับผู้ใช้ภาษาอื่น ๆ (ในกลุ่มเดียวกัน) ด้วยการอ่านเอาความมากกว่าการใช้คำพูดสนทนา
ละติน | สเปน | โปรตุเกส | คาตาลัน | อิตาลี | ฝรั่งเศส | โรมาเนีย | ความหมาย |
---|---|---|---|---|---|---|---|
nōs | [nosotros] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [nós] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)¹ | [nosaltres] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [noi] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)² | [nous] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)³ | [noi] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | พวกเรา |
frātrem germānum ("พี่ชาย, น้องชายแท้") |
[hermano] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [irmão] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [germà] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [fratello] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [frère] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [frate] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | พี่ชาย, น้องชาย |
diēs Martis (ภาษาชั้นสูง)
fēria tertia (ภาษาพระ) |
[martes] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [terça-feira] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [dimarts] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [martedì] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [mardi] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [marți] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | วันอังคาร |
cantiō, canticum | [canción] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [canção] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [cançó] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [canzone] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [chanson] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [cântec] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | เพลง |
magis หรือ plūs | [más] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (คำโบราณ: [plus] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
[mais] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (คำโบราณ: [chus] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
[més] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (คำโบราณ: [pus] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
[più] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [plus] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [mai] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | มากกว่า, อีก |
manum sinistram | [mano izquierda] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)
หรือ ([mano siniestra] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
[mão esquerda] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (คำโบราณ: [sẽestra] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
[mà esquerra] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [mano sinistra] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [main gauche] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [mâna stângă] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | มือซ้าย |
nihil หรือ nūllam rem nātam ("ไม่มีอะไรเกิดขึ้น") |
[nada] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [nada] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (คำโบราณ: [rem] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
[res] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [niente] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)/[nulla] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [rien] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)/[nul] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [nimic] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | ไม่มีอะไร |
1. หรือ [nós outros] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในภาษาโปรตุเกสสมัยใหม่ (ยุคต้น)
2. [noi altri] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในภาษาถิ่นใต้ของอิตาลี
3. หรือ [nous autres] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)
ความแพร่หลายในพื้นที่ต่าง ๆ
ทุกวันนี้ ภาษาสเปนเป็นภาษาราชการภาษาหนึ่งของประเทศสเปน เกือบทุกประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกา รวมทั้งประเทศอิเควทอเรียลกินีในทวีปแอฟริกาด้วย สรุปแล้วมี 20 ประเทศกับอีก 1 ดินแดนที่มีประชากรส่วนใหญ่ใช้ภาษานี้เป็นภาษาหลัก ซึ่งเกือบทั้งหมดตั้งอยู่ในภูมิภาคฮิสแปนิกอเมริกา ปัจจุบันประเทศเม็กซิโกเป็นประเทศที่มีจำนวนผู้ใช้ภาษาสเปนมากที่สุดในโลก[43] คิดเป็นเกือบหนึ่งในสามของจำนวนผู้ใช้ภาษาสเปนทั้งหมดบนโลก[43]
จากสถิติการใช้อินเทอร์เน็ตทั่วโลกในปี ค.ศ. 2007 ปรากฏว่าภาษาสเปนเป็นภาษาที่ใช้กันในอินเทอร์เน็ตมากเป็นอันดับที่สามรองจากภาษาอังกฤษและภาษาจีน[44]
ประเทศ | จำนวนประชากร[45] | จำนวนผู้พูดภาษาสเปนเป็นภาษาแม่[46] | จำนวนผู้พูดสองภาษาและผู้พูดภาษาสเปนเป็นภาษาที่สอง (ในประเทศที่ใช้ภาษานี้เป็นภาษาทางการ)[47] หรือจำนวนผู้พูดภาษาสเปนเป็นภาษาต่างประเทศ (ในประเทศที่ไม่ใช้ภาษานี้เป็นภาษาทางการ)[48] | จำนวนผู้พูดภาษาสเปนคิดเป็นร้อยละของจำนวนประชากรทั้งประเทศ[49] | จำนวนผู้พูดภาษาสเปนรวมทั้งหมด |
---|---|---|---|---|---|
เม็กซิโก | 112,336,538 [50] | 104,135,971 [51] | 6,515,519 | 98.5% [49] | 110,651,490 |
สหรัฐอเมริกา | 307,006,550 [52] | 35,468,501 [53] | 14,531,499 | 16.3% | 50,000,000[54][55] |
สเปน | 47,150,819 [56] | 41,964,229 [57] | 4,620,780 | 98.8% [49] | 46,585,009 |
โคลอมเบีย | 46,240,000 [58] | 45,740,000 [59] | 130,080 | 99.2% [49] | 45,870,080 |
อาร์เจนตินา | 40,900,496 [60] | 36,333,605 [61] | 4,321,488 | 99.4% [49] | 40,655,093 |
ระบบการเขียน
ตัวอักษร
ภาษาสเปนใช้อักษรละตินในการเขียนเช่นเดียวกับภาษาส่วนใหญ่ในยุโรป แต่จะมีอักขระเพิ่มขึ้นมาหนึ่งตัวคือ ‹ñ› หรือเรียกว่า "เอเญ" นอกจากนี้ยังมีทวิอักษร ‹ch› "เช" และ ‹ll› "เอเย" โดยถือว่าทั้งสองเป็นตัวอักษรในชุดตัวอักษรสเปนอย่างเป็นทางการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1803[62][63] เนื่องจากใช้แทนเสียงที่ไม่ใช่เสียงเดียวกับเสียงตัวอักษรที่ประกอบขึ้นเป็นตัวมันเอง กล่าวคือ ‹ñ› แทนหน่วยเสียง /ɲ/, ‹ch› แทนหน่วยเสียง /t͡ʃ/ และ ‹ll› แทนหน่วยเสียง /ʎ/ หรือ /ɟ͡ʝ/ ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม แม้ทวิอักษร ‹rr› "เอเรโดเบล" หรือเรียกอย่างง่ายว่า "เอร์เร" (คนละตัวกับ ‹r› "เอเร") จะแทนหน่วยเสียงต่างหากเช่นกันคือ /r/ แต่ก็ไม่ถือว่าเป็นตัวอักษรต่างหากเหมือน ‹ch› และ ‹ll›
ในการประชุมครั้งที่ 10 ของสมาคมบัณฑิตยสถานภาษาสเปนซึ่งจัดขึ้นที่กรุงมาดริดเมื่อปี ค.ศ. 1994 ที่ประชุมมีมติเห็นชอบในหลักการใช้ชุดตัวอักษรละตินแบบสากลตามที่องค์กรระหว่างประเทศหลายองค์กรร้องขอ ส่งผลให้ทวิอักษร ‹ch› และ ‹ll› ไม่ถือเป็นตัวอักษรโดด ๆ แต่ถือเป็นพยัญชนะซ้อน เพื่อให้ง่ายต่อการสืบค้นและการเรียงลำดับคำในพจนานุกรม คำต่าง ๆ ที่ขึ้นต้นด้วย ‹ch› จึงถูกนำไปจัดเรียงอยู่ระหว่างคำที่ขึ้นต้นด้วย ‹ce› และ ‹ci› แทน ต่างจากเดิมที่ถูกจัดไว้ต่อจากคำที่ขึ้นต้นด้วย ‹cz› ส่วนคำที่ขึ้นต้นด้วย ‹ll› ก็ถูกจัดอยู่ระหว่างคำที่ขึ้นต้นด้วย ‹li› และ ‹lo› เช่นกัน อย่างไรก็ตาม การปฏิรูปครั้งนั้นมีผลเฉพาะต่อการเรียงลำดับคำตามตัวอักษรเท่านั้น ไม่มีผลต่อชุดตัวอักษรสเปนซึ่งทวิอักษร ‹ch› และ ‹ll› ยังคงเป็นส่วนหนึ่งในนั้นอยู่[64] จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2010 หนังสือคู่มืออักขรวิธีภาษาสเปน ([Ortografía de la lengua española] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) ซึ่งจัดทำโดยราชบัณฑิตยสถานสเปนร่วมกับสมาคมบัณฑิตยสถานภาษาสเปนได้ตัด ‹ch› และ ‹ll› ออกจากชุดตัวอักษรอย่างสมบูรณ์[65]
ดังนั้น ชุดตัวอักษรสเปนในปัจจุบันจึงประกอบด้วยตัวอักษร 27 ตัว[66] ได้แก่
- a, b, c, d, e, f, g, h, i, j, k, l, m, n, ñ, o, p, q, r, s, t, u, v, w, x, y, z
เครื่องหมายอื่น ๆ
คำสเปนแท้จะมีการลงน้ำหนักที่พยางค์ก่อนพยางค์สุดท้ายของคำ หากคำนั้นลงท้ายด้วยสระ (ไม่รวม ‹y›) หรือลงท้ายด้วยพยัญชนะ ‹n› หรือ ‹s› นอกนั้นจะลงน้ำหนักที่พยางค์สุดท้าย แต่ถ้าตำแหน่งที่ลงน้ำหนักในคำไม่เป็นไปตามกฎดังกล่าว สระในพยางค์ที่ถูกเน้นก็จะมีเครื่องหมายลงน้ำหนักเด่นชัด (acute accent) กำกับไว้ข้างบน เช่น [página] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [décimo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [jamón] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [tailandés] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) และ [árbol] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) แต่เครื่องหมายลงน้ำหนักมักจะถูกละบ่อยครั้งเมื่อสระที่มันกำกับเสียงหนักอยู่เป็นตัวพิมพ์ใหญ่ (ในยุคแรก ๆ คอมพิวเตอร์บางเครื่องสามารถพิมพ์ได้เฉพาะตัวพิมพ์เล็กที่มีเครื่องหมายนี้กำกับเท่านั้น) ซึ่งราชบัณฑิตยสถานสเปนก็แนะนำไม่ให้ทำเช่นนั้น[67][68]
นอกจากนี้ ยังมีการใช้เครื่องหมายลงน้ำหนักเด่นชัดเพื่อแยกความแตกต่างระหว่างคำพ้องเสียง เช่น ระหว่าง [el] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (คำกำกับนามเพศชาย ชี้เฉพาะ) กับ [él] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘เขา’ สรรพนามบุรุษที่ 3 เอกพจน์ รูปประธาน) หรือระหว่าง [te] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘เธอ’ สรรพนามบุรุษที่ 2 เอกพจน์ รูปกรรม) [de] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘แห่ง’ หรือ ‘จาก’) และ [se] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (สรรพนามสะท้อน) กับ [té] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘น้ำชา’) [dé] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘ให้’) และ [sé] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘ฉันรู้’ หรือ ‘จงเป็น...’)
ในภาษาสเปน จะมีการลงน้ำหนักสรรพนามคำถามต่าง ๆ เช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น [qué] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘อะไร’), [cuál] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘อันไหน’), [dónde] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘ที่ไหน’), [quién] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘ใคร’) ทั้งที่อยู่ในประโยคคำถามตรง (direct questions) และประโยคคำถามอ้อม (indirect questions) ส่วนคำระบุเฉพาะ (demonstratives) เช่น [ése] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [éste] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [aquél] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) และอื่น ๆ จะลงน้ำหนักเมื่อใช้เป็นสรรพนาม
คำสันธาน [o] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘หรือ’) แต่เดิมจะเขียนโดยใส่เครื่องหมายลงน้ำหนักเมื่ออยู่ระหว่างจำนวนที่เป็นตัวเลข เพื่อไม่ให้สับสนกับเลขศูนย์ เช่น [10 ó 20] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) จะอ่านว่า [diez o veinte] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘10 หรือ 20’) ไม่ใช่ [diez mil veinte] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘10,020’) จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2010 ราชบัณฑิตยสถานสเปนและสมาคมบัณฑิตยสถานภาษาสเปนได้กำหนดว่าไม่ต้องใส่เครื่องหมายลงน้ำหนักบนคำสันธานนี้แล้ว เนื่องจากเห็นว่าไม่ใช่พยางค์ที่ลงน้ำหนักในประโยค และในทางปฏิบัติก็ไม่พบว่าเกิดความเข้าใจสับสนระหว่างตัว [o] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) กับเลขศูนย์ในบริบทนี้แต่อย่างใด[69]
ในบางกรณี เมื่อตัวอักษร ‹u› อยู่ระหว่างพยัญชนะ ‹g› กับสระหน้า (‹e, i›) จะต้องใส่เครื่องหมายเสริมสัทอักษรกำกับเป็น ‹ü› เพื่อบอกว่าเราต้องออกเสียง u ตัวนี้ด้วย (ปกติตัว ‹u› จะทำหน้าที่กันไม่ให้ ‹g› ที่จะประกอบขึ้นเป็นพยางค์กับสระ ‹e› หรือ ‹i› ออกเสียงเป็น /x/ เราจึงไม่ออกเสียงสระ ‹u› ในตำแหน่งนี้) เช่น [cigüeña] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘นกกระสา’) จะออกเสียงว่า /θiˈɡweɲa/ [ซี.กฺเว.ญา] แต่ถ้าสะกดว่า *cigueña จะต้องออกเสียงเป็น /θiˈɡeɲa/ [ซี.เก.ญา] นอกจากนี้ เรายังอาจพบเครื่องหมายเสริมสัทอักษรดังกล่าวบนสระ ‹i› และ ‹u› ได้ในกวีนิพนธ์ต่าง ๆ เนื่องจากผู้แต่งต้องการแยกสระประสม (ซึ่งปกตินับเป็นหนึ่งพยางค์) ออกเป็นสองพยางค์ เพื่อให้มีจำนวนพยางค์ในวรรคตรงตามที่ฉันทลักษณ์ของคำประพันธ์ชนิดนั้น ๆ บังคับไว้พอดี เช่น [ruido] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) มีสองพยางค์คือ rui-do [รุยโด] แต่ [ruïdo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) มีสามพยางค์คือ ru-ï-do [รูอีโด]
อีกประการหนึ่ง การเขียนประโยคคำถามจะขึ้นต้นด้วยปรัศนีหัวกลับ ‹¿› ส่วนประโยคอุทานก็จะขึ้นต้นด้วยอัศเจรีย์หัวกลับ ‹¡› เครื่องหมายพิเศษสองตัวนี้ช่วยให้เราอ่านประโยคคำถามและประโยคอุทาน (ซึ่งจะแสดงออกให้ทราบได้ด้วยการใช้ทำนองเสียงแบบต่าง ๆ เมื่อสนทนาเท่านั้น) ได้ง่ายขึ้น โดยเราจะทราบได้ตั้งแต่แรกว่าประโยคยาว ๆ ที่อ่านอยู่เป็นประโยคแบบใด (บอกเล่า คำถาม หรืออุทาน) ในภาษาอื่นไม่จำเป็นต้องใช้ ‹¿› และ ‹¡› เนื่องจากมีระบบวากยสัมพันธ์ที่ไม่ก่อให้เกิดความกำกวมในการอ่าน เพราะโดยทั่วไปแล้ว การสร้างประโยคบอกเล่ามักจะนำประธานมาไว้ต้นประโยคแล้วจึงตามด้วยกริยา เราจะย้ายกริยามาไว้ต้นประโยคแล้วตามด้วยประธานก็ต่อเมื่อทำเป็นประโยคคำถาม แต่ในภาษาสเปน เราสามารถเรียงลำดับโดยให้กริยามาก่อนประธานได้เป็นปกติ ไม่ว่าในประโยคบอกเล่าหรือประโยคคำถาม และมักจะละประธานออกไปด้วย (เช่น [Is he coming tomorrow?] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [Vient-il demain?] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [Kommt er morgen?] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) และ [¿Viene mañana?] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ))
สัทวิทยา
การออกเสียงคำส่วนใหญ่ในภาษาสเปนจะสามารถทราบได้จากตัวสะกดอยู่แล้ว เนื่องจากพยัญชนะ/สระหนึ่งตัวส่วนใหญ่จะแทนเสียงเพียงเสียงเดียว ไม่ว่าจะปรากฏอยู่ในตำแหน่งใดหรือกับพยัญชนะ/สระใดก็ตาม ยกเว้นบางหน่วยเสียง (phoneme) ที่หากปรากฏในตำแหน่งที่ต่างกันจะมีเสียงแปร (allophone) เกิดขึ้น ซึ่งยังมีลักษณะการออกเสียงใกล้เคียงกับหน่วยเสียงหลัก แต่นอกจากเสียงสระและพยัญชนะแล้ว การลงน้ำหนักพยางค์ (accentuation) และการใช้ทำนองเสียง (intonation) แบบต่าง ๆ ให้เหมาะสมก็เป็นสิ่งจำเป็นต่อการออกเสียงเพื่อสื่อสาร ในภาษาสเปนมีจำนวนคำที่ต้องลงน้ำหนักที่พยางค์รองสุดท้ายมากที่สุด[70] รองลงมาเป็นคำที่ต้องลงน้ำหนักที่พยางค์สุดท้ายและคำที่ต้องลงน้ำหนักที่พยางค์ที่สาม (นับจากพยางค์สุดท้าย) ตามลำดับ
ลักษณะเฉพาะตัวทางสัทวิทยาของภาษาสเปนที่เปลี่ยนแปลงไปจากภาษาละตินได้แก่ การกลายเสียงพยัญชนะไม่ก้องระหว่างสระเป็นเสียงก้อง[71] (เช่น ละติน vīta > สเปน [vida] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); ละติน lupus > สเปน [lobo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); ละติน lacus > สเปน [lago] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)), การกลายเสียงสระเดี่ยว e และ o ในพยางค์เน้นเป็นสระประสม[72] (เช่น ละติน terra > สเปน [tierra] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ); ละติน novus > สเปน [nuevo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) และการกลายเสียงพยัญชนะที่ซ้ำเสียงกันต่อเนื่องเป็นเสียงพยัญชนะเพดานแข็ง[71] (เช่น ละติน annus > สเปน [año] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) /ˈaɲo/; ละติน caballus > สเปน [caballo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) /kaˈbaʎo/) เป็นต้น การเปลี่ยนแปลงทางเสียงทำนองนี้ก็เกิดขึ้นเช่นกันในภาษากลุ่มโรมานซ์ภาษาอื่น ๆ หลังจากการสถาปนาราชบัณฑิตยสถานสเปนขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 18 ระบบการเขียนของภาษาสเปนจึงได้รับการดัดแปลงให้ง่ายขึ้นโดยอิงรูปแบบทางสัทศาสตร์เป็นหลัก
เสียงสระ
หน่วยเสียงสระสเปน[73]
ประเภท | สระหน้า | สระ กลางลิ้น |
สระหลัง |
---|---|---|---|
สระลิ้นยกสูง (ปิด) | i | u | |
สระลิ้นระดับกลาง | e | o | |
สระลิ้นลดต่ำ (เปิด) | a |
ภาษาสเปนมีหน่วยเสียงสระ 5 หน่วยเสียง ได้แก่ /i/, /u/, /e/, /o/ และ /a/ สระทุกตัวสามารถปรากฏทั้งในตำแหน่งที่รับและไม่ได้รับการลงเสียงหนักในพยางค์[73] โดยปกติเสียงสระ /e/ และ /o/ เป็นสระลิ้นระดับกลาง (mid vowel) กล่าวคือ ลิ้นไม่ยกสูงขึ้นไปใกล้เพดานปากและไม่ลดต่ำลงจนห่างจากเพดานปากมากเกินไป แต่ในการออกเสียงจริง บางครั้งลิ้นอาจลดต่ำลงอีกจากตำแหน่งปกติจนทำให้สระทั้งสองเกือบกลายเป็นสระ [ɛ] [เอะ+แอะ] และ [ɔ] [เอาะ] ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของสระรวมทั้งพยัญชนะที่นำหน้าและ/หรือตามหลังมันในคำต่าง ๆ [74] แต่เราไม่ถือว่าเสียงสระเหล่านี้เป็นหน่วยเสียงหลักต่างหากในภาษาสเปน เนื่องจากไม่ทำให้ความหมายของคำแตกต่างไปจากหน่วยเสียงสระเดิม นั่นหมายความว่าเสียงเหล่านี้ยังคงเป็นเสียงย่อย (allophone) ของหน่วยเสียง /e/ และ /o/ ตามลำดับ ต่างจากภาษาพี่น้องอย่างคาตาลัน โปรตุเกส ฝรั่งเศส และอิตาลีที่มี /ɛ/ และ /ɔ/ เป็นหน่วยเสียงเอกเทศ[74][75][76] เพราะทั้งหมดมีความสำคัญต่อการจำแนกความหมายของคำ
เสียงพยัญชนะ
ปัจจุบันระบบเสียงในหลายสำเนียงของภาษาสเปนประกอบด้วยหน่วยเสียงพยัญชนะอย่างน้อย 17 หน่วยเสียง ได้แก่ /m, n, ɲ, p, b, t̪, d̪, k, ɡ, t͡ʃ, ɟ͡ʝ, f, s, x, ɾ, r, l/ แต่ในแถบเทือกเขาแอนดีสในทวีปอเมริกาใต้จะปรากฏหน่วยเสียง /ʎ/[77] เพิ่มขึ้นเป็น 18 หน่วยเสียง และในหลายพื้นที่ของประเทศสเปนจะปรากฏหน่วยเสียง /ʎ/ และ /θ/[77][78] เพิ่มขึ้นอีกรวมเป็น 19 หน่วยเสียง รายการหน่วยเสียงพยัญชนะสเปนในตารางข้างล่างนี้แสดงหน่วยเสียงที่ปรากฏเฉพาะในสำเนียงดังกล่าวไว้ด้วยโดยมีเครื่องหมายดอกจันกำกับอยู่ ตัวสัทอักษรที่ปรากฏในวงเล็บคือเสียงย่อยที่สำคัญ ส่วนตัวสัทอักษรที่ปรากฏเป็นคู่ในช่องเดียวกันแสดงว่า ทั้งสองมีตำแหน่งเกิดเสียงและลักษณะการออกเสียงร่วมกัน แต่ตัวซ้ายจะเป็นเสียงไม่ก้อง ตัวขวาจะเป็นเสียงก้อง
ริมฝีปาก | ริมฝีปาก กับฟัน |
ลิ้น ระหว่างฟัน |
ฟัน | ปุ่มเหงือก | เพดานแข็ง | เพดานอ่อน | |
---|---|---|---|---|---|---|---|
เสียงนาสิก | m | n | ɲ | (ŋ) | |||
เสียงกัก | p b | t̪ d̪ | k ɡ | ||||
เสียงกักเสียดแทรก | t͡ʃ ɟ͡ʝ | ||||||
เสียงเสียดแทรก | f | θ* | s | x | |||
เสียงเปิด | (β̞) | (ð̞) | ( ʝ̞ ) | (ɣ̞) | |||
เสียงลิ้นกระทบ | ɾ | ||||||
เสียงรัว | r | ||||||
เสียงข้างลิ้น | l | ʎ* |
การลงน้ำหนักพยางค์
ภาษาสเปนเป็นภาษาหนึ่งที่มีการลงน้ำหนักพยางค์และการใช้ทำนองเสียง ในคำสเปนส่วนใหญ่ น้ำหนักจะตกอยู่ที่พยางค์ใดพยางค์หนึ่งในสามพยางค์สุดท้ายของคำ แต่มีข้อยกเว้นคืออาจจะตกที่พยางค์ที่สี่หรือห้านับจากพยางค์สุดท้ายซึ่งเป็นกรณีพบไม่บ่อยนัก โดยแนวโน้มในการลงน้ำหนักพยางค์ของคำสเปนมีดังต่อไปนี้[80] (ลงน้ำหนักที่พยางค์ที่เป็นตัวหนา)
- คำที่ลงน้ำหนักที่พยางค์รองสุดท้าย ได้แก่ คำที่ลงท้ายด้วยสระหรือพยัญชนะ ‹n› และ ‹s›[81] เช่น [copa] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [cine] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [todo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [luchan] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [gracias] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เป็นต้น ทั้งนี้ ยกเว้นในกรณีที่ ‹s› มีพยัญชนะอื่นนำหน้าอยู่ คำนั้นจะลงน้ำหนักที่พยางค์สุดท้าย[82]
- คำที่ลงน้ำหนักที่พยางค์สุดท้าย ได้แก่ คำที่ลงท้ายด้วยพยัญชนะตัวอื่น ๆ นอกเหนือจาก ‹n› และ ‹s›[81] เช่น [Madrid] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [igual] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [llamar] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [virrey] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [veraz] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เป็นต้น นอกจากนี้ยังรวมถึงคำที่ลงท้ายด้วย ‹s› แต่มีพยัญชนะอื่นนำหน้า ‹s› ตัวนั้นอยู่ด้วย เช่น [robots] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [zigzags] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เป็นต้น[82]
คำที่มีการลงน้ำหนักที่พยางค์อื่น ๆ นอกเหนือจากสองพยางค์สุดท้าย หรือมีการลงน้ำหนักที่พยางค์ใดพยางค์หนึ่งในสองพยางค์นี้แต่ไม่เป็นไปตามกฎข้างบน จะมีเครื่องหมายลงน้ำหนักเด่นชัด (acute accent) กำกับไว้บนสระของพยางค์นั้น[83] เช่น [café] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [clímax] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [débil] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [fórceps] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [razón] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [yóquey] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [veintitrés] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [sábado] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เป็นต้น
- คำที่ลงน้ำหนักที่พยางค์ที่สามจากท้ายคำ เช่น [dígame] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [párrafo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [helicóptero] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เป็นต้น
- คำที่ลงน้ำหนักที่พยางค์ที่สี่หรือห้าจากท้ายคำ มักจะเป็นคำที่ในรูปประโยคคำสั่ง (imperative) หรือรูปกริยาเป็นนาม (gerund) ที่สร้างขึ้นโดยนำรูปติด (clitic) ซึ่งเป็นสรรพนามกรรมตรงและกรรมรองมาต่อท้ายรูปกริยาแท้โดยไม่เว้นวรรค แต่ตำแหน่งลงเสียงหนักจะอยู่ในคำกริยาเหมือนเดิม ไม่เลื่อนไปอยู่ที่กรรมตรงหรือกรรมรองไม่ว่าจะลงท้ายด้วยสระหรือพยัญชนะตัวใดก็ตาม เช่น [cómetelo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [guardándoselos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [llévesemela] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เป็นต้น หรือเกิดกับคำกริยาวิเศษณ์บางคำที่สร้างขึ้นโดยใช้หน่วยคำเติมหลัง [-mente] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ต่อท้ายคำคุณศัพท์ที่มีตำแหน่งลงเสียงหนักผิดปกติอยู่แล้ว เช่น [difícil] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) > [difícilmente] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [rápido] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) > [rápidamente] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เป็นต้น
นอกจากข้อยกเว้นต่าง ๆ ของแนวโน้มในการลงน้ำหนักพยางค์แล้ว ยังมีคู่เทียบเสียง (minimal pair) อีกเป็นจำนวนมากที่มีความแตกต่างกันในเรื่องการลงน้ำหนักพยางค์เท่านั้น เช่น [sábana] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘ผ้าปูที่นอน’) และ [sabana] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘ทุ่งหญ้าสะวันนา’) หรือ [límite] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘เขตแดน’), [limite] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘[ที่] เขา/เธอจำกัด’) และ [limité] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘ฉันจำกัด’) เป็นต้น
ไวยากรณ์
ภาษาสเปนจะจัดอยู่ในกลุ่มภาษาวิภัตติปัจจัย (inflected language) กล่าวคือ ในการสร้างประโยคหนึ่ง ๆ จะนิยมใช้การผันคำเพื่อบ่งชี้ความสัมพันธ์ระหว่างหน่วยต่าง ๆ ภายในประโยคนั้น
อย่างไรก็ตาม นอกจากจะใช้การผันคำซึ่งเป็นลักษณะสำคัญของภาษากลุ่มนี้แล้ว ในภาษาสเปนยังมีการใช้คำบุพบทซึ่งเป็นคำนามธรรมที่ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมและไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรูปได้เพื่อบ่งชี้ความสัมพันธ์ดังกล่าวอีกด้วย และเนื่องจากภาษานี้มีระบบการจำแนกรูปกรรมของสกรรมกริยา (ซึ่งจะใช้รูปการกกรรม) ให้แตกต่างจากรูปประธานทั้งของสกรรมกริยาและของอกรรมกริยา (ซึ่งจะใช้รูปการกประธานทั้งคู่) จึงจัดเป็นภาษาหนึ่งในกลุ่มภาษากรรมการก (nominative–accusative language) เช่นเดียวกับภาษาส่วนใหญ่ของตระกูลอินโด-ยุโรเปียน
ระบบหน่วยคำ
การผันคำ
ตามที่กล่าวแล้วว่าภาษาสเปนเป็นภาษาวิภัตติปัจจัย คำต่าง ๆ ในภาษานี้จึงประกอบขึ้นจากการเพิ่มหน่วยคำวิภัตติปัจจัยหรือหน่วยคำผัน (inflectional morpheme) เข้าไปที่รากศัพท์ (root) [หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าหน่วยศัพท์ (lexeme)] หน่วยคำผันเป็นหน่วยคำที่ทำหน้าที่แสดงลักษณะทางไวยากรณ์ของรากศัพท์เท่านั้น ไม่ทำให้ความหมายของรากศัพท์เปลี่ยนไป โดยหน่วยคำผันสำหรับการกระจายคำกริยา ได้แก่ หน่วยคำที่แสดงมาลา (mood) กาล (tense) วาจก (voice) การณ์ลักษณะ (aspect) บุรุษ (person) และพจน์ (number) เป็นต้น และหน่วยคำผันสำหรับการผันคำนาม คำสรรพนาม คำคุณศัพท์ และตัวกำหนด (determiner) ได้แก่ หน่วยคำที่แสดงเพศ (gender) และพจน์ เป็นต้น
จากภาพทางขวามือ รากศัพท์ gat- ซึ่งมีความหมายว่าแมว เมื่อเติมหน่วยคำผันต่อท้าย รากศัพท์นี้จึงมีความหมายชัดเจนยิ่งขึ้น แต่ก็ยังคงแปลว่าแมวเช่นเดิม ไม่เปลี่ยนเป็นอย่างอื่น หน่วยคำผันเหล่านั้นได้แก่ -o (หน่วยคำแสดงเพศชาย), -a (หน่วยคำแสดงเพศหญิง), -s (หน่วยคำแสดงพหูพจน์) และ -Ø (หน่วยคำแสดงเอกพจน์ ซึ่งแม้เราจะมองไม่เห็นแต่ก็ถือว่ามีส่วนในการแสดงความหมาย)
ชนิดของคำในภาษาสเปนที่มีรูปผันหลากหลาย ได้แก่ สรรพนามและกริยา
สรรพนาม
สรรพนามสำคัญในภาษาสเปน ได้แก่ [yo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (ฉัน), [tú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (เธอ), [usted] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (คุณ), [él] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (เขา), [ella] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (หล่อน), [ello] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (มัน/สิ่งนั้น), [nosotros] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (พวกเรา), [vosotros] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (พวกเธอ), [ustedes] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (พวกคุณ), [ellos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (พวกเขา), [ellas] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (พวกหล่อน), [esto] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (สิ่งนี้), [eso] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (สิ่งนั้น), [aquello] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (สิ่งโน้น) เป็นต้น จะเห็นได้ว่า สรรพนามหลายตัวมีพิสัยในการใช้งานค่อนข้างแตกต่างจากสรรพนามในภาษาอังกฤษ โดยปกติแล้วบุรุษสรรพนามจะถูกละไปเนื่องจากรูปการผันของคำกริยาที่แตกต่างกันสามารถบอกให้ทราบได้อยู่แล้วว่ากำลังสื่อถึงประธานตัวใด แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกหากเราพบบุรุษสรรพนามตัวใดก็ตามปรากฏในภาษาเขียนหรือแม้กระทั่งในภาษาพูด ส่วนใหญ่เป็นเพราะผู้ส่งสารต้องการเน้นสรรพนามตัวนั้นหรือกันไม่ให้ผู้รับสารสับสนจากรูปผันกริยาที่ซ้ำกันในบางกรณี
พจน์ ([Número] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
บุรุษ ([Persona] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
การก ([Caso] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) | ||||
ประธาน / เรียกขาน ([nominativo / vocativo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
กรรมตรง ([acusativo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
กรรมรอง ([dativo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
กรรมของบุพบท ([preposicional] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
ผู้ร่วม ([comitativo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
||
เอกพจน์ | ที่ 1 | yo | me | me | mí | conmigo |
ที่ 2 | tú | te | te | ti | contigo | |
vos | te/os/vos | te/os/vos | vos | con vos | ||
ที่ 3 | él, ella, ello, usted* | se, lo, la | le | sí**, él, ella, ello | con él/ella/usted* | |
พหูพจน์ | ที่ 1 | nosotros, nosotras | nos | nos | nosotros, nosotras | con nosotros/nosotras |
ที่ 2 | vosotros, vosotras*** | os/vos | os/vos | vosotros, vosotras*** | con vosotros/vosotras*** | |
ที่ 3 | ellos, ellas, ustedes* | se, los, las | les | sí, ellos, ellas | con ellos/ellas/ustedes* |
- หมายเหตุ
*รูปย่อของสรรพนาม [usted] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) คือ [Ud.] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [Vd.] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [U.] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) หรือ [V.] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ส่วนรูปย่อของสรรพนาม [ustedes] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) คือ [Uds.] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) หรือ [Vds.] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ทั้งหมดต้องขึ้นต้นด้วยตัวอักษรพิมพ์ใหญ่เสมอ
**สรรพนาม [sí] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในการกกรรมของบุพบทเป็นสรรพนามสะท้อน (reflexive pronoun) เสมอ แต่จะมีรูปไม่สอดคล้องกับรูปสรรพนามเดียวกันในการกประธาน กล่าวคือ ประธาน [él mismo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [ella misma] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) และ [ellos mismos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("ตัวเขาเอง", "ตัวเธอเอง", "ตัวพวกเขาเอง") เมื่อตามหลังบุพบท [en] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [para] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เป็นต้น ก็จะเปลี่ยนรูปเป็น [en sí] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [para sí] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ยกเว้นตามหลังบุพบท [con] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) จะเปลี่ยนรูปเป็น [consigo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (ไม่เกี่ยวข้องกับการกผู้ร่วม)
***สรรพนาม [vosotros/-as] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("พวกเธอ") มีที่ใช้เฉพาะในประเทศสเปนเท่านั้น ส่วนในทวีปอเมริกา รวมทั้งบางส่วนของแคว้นอันดาลูเซียและหมู่เกาะคะเนรีจะใช้สรรพนาม [ustedes] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ทั้งในความหมายว่า "พวกคุณ" และ "พวกเธอ"[84][85]
กริยา
การใช้คำกริยาสเปนเป็นเรื่องที่ซับซ้อนที่สุดเรื่องหนึ่งของไวยากรณ์สเปน ระบบกริยาจะแบ่งออกเป็น 14 กาลแตกต่างกัน (กาลในที่นี้เป็นคำรวมหมายถึงทั้งกาลและมาลา) ซึ่งยังแบ่งออกเป็นสองกลุ่มย่อยได้แก่ กาลเดี่ยว (simple tense) 7 กาล และกาลประสมหรือกาลสมบูรณ์ (compound tense; perfect tense) 7 กาล โดยในกาลประสมจำเป็นต้องใช้คำกริยาช่วย [haber] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ร่วมกับรูปกริยาขยายแบบอดีต (past participle)
กริยาสเปนจะผันไปในหมวดหมู่ต่าง ๆ ซึ่งแบ่งตามลักษณะการแสดงเนื้อความของตัวกริยาเอง หมวดหมู่เหล่านั้นเรียกว่ามาลา ในภาษาสเปนได้แก่ นิเทศมาลาหรือมาลาบอกเล่า (indicative), ปริกัลปมาลาหรือสมมุติมาลา (subjunctive) และอาณัติมาลาหรือมาลาคำสั่ง (imperative) ส่วนรูปกริยาไม่ระบุประธาน ([formas no personales] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) ที่ตำราไวยากรณ์เก่าจัดเป็นอีกมาลาหนึ่งนั้นประกอบด้วยรูปกริยาไม่แท้ 3 รูป ซึ่งกริยาทุกตัวจะมีรูปกริยาเหล่านี้ ได้แก่ รูปกริยากลาง (infinitive), รูปกริยาเป็นนาม (gerund) และรูปกริยาขยายแบบอดีต (past participle) รูปกริยาไม่แท้ตัวหลังสุดนี้สามารถผันตามเพศและพจน์ของคำนามได้เหมือนกับคำคุณศัพท์ ดังนั้นมันจึงมีรูปผันที่เป็นไปได้อีก 4 รูป คือ เพศชาย เอกพจน์, เพศหญิง เอกพจน์, เพศชาย พหูพจน์ และเพศหญิง พหูพจน์ นอกจากนี้ยังมีรูปผันอีกรูปหนึ่งที่เรียกกันมาตั้งแต่อดีตว่า รูปกริยาขยายแบบปัจจุบัน (present participle) แต่โดยทั่วไปจะถือว่ารูปนี้เป็นคำคุณศัพท์ที่ถูกแปลงมาจากคำกริยามากกว่าจะเป็นรูปหนึ่งของคำกริยา
กริยาจำนวนมากที่ใช้ในชีวิตประจำวันเป็นกริยาที่ผันแบบผิดปกติ ส่วนกริยาที่เหลือจะจัดอยู่ในกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งในสามกลุ่มซึ่งมีรูปกริยากลางลงท้ายด้วย -ar, -er และ -ir ตามลำดับ ทั้งนี้ กริยาในแต่ละกลุ่มจะมีรูปแบบการผันแบบเดียวกัน กริยาที่ลงท้ายด้วย -ar เป็นรูปแบบที่พบได้มากที่สุด และกริยาที่เกิดขึ้นใหม่ในภาษาสเปนก็มักจะมีส่วนท้ายเป็น -ar ด้วย ส่วนกลุ่มกริยาที่ลงท้ายด้วย -er และ -ir จะมีคำกริยาในกลุ่มของตัวเองน้อยกว่าและการผันกริยามักจะมีลักษณะผิดปกติมากกว่ากริยาในกลุ่มที่ลงท้ายด้วย -ar
ในมาลาบอกเล่าจะมีกาลทั้งหมด 7 กาลซึ่งพอจะเทียบกับกาลที่มีอยู่ในภาษาอังกฤษได้บ้างไม่มากก็น้อย เช่น ปัจจุบันกาล (I walk, I do walk), อดีตกาล (-ed หรือ did), กาลไม่สมบูรณ์ (was, were, หรือ used to), กาลสมบูรณ์ (I have _____), อนาคตกาล (will) และประโยคเงื่อนไข (would) เป็นต้น สิ่งที่ยากก็คือ แต่ละกาลจะมีรูปผันกริยาที่แตกต่างกันไปตามประธาน ซึ่งไวยากรณ์ภาษาอังกฤษจะง่ายกว่าในเรื่องนี้ ยกตัวอย่างเช่น กริยา eat เมื่อผันตามปัจจุบันกาลจะมีรูปที่เป็นไปได้อยู่ 2 รูป นั่นคือ eat และ eats ขณะที่ภาษาสเปน กริยา [comer] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("กิน") ในกาลเดียวกันจะมีรูปผันที่เป็นไปได้ถึง 6 รูป
มาลาบอกเล่า ([MODO INDICATIVO] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ปัจจุบันกาล ([Presente] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
อดีตกาลสมบูรณ์ (กาลเดี่ยว) ([Pretérito perfecto simple] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
อดีตกาลไม่สมบูรณ์ ([Pretérito imperfecto] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
อนาคตกาล (กาลเดี่ยว) ([Futuro simple] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
ประโยคเงื่อนไข (เดี่ยว) ([Condicional simple] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) | |||||||||||||||||
กลุ่ม 1 | กลุ่ม 2 | กลุ่ม 3 | กลุ่ม 1 | กลุ่ม 2 | กลุ่ม 3 | กลุ่ม 1 | กลุ่ม 2 | กลุ่ม 3 | กลุ่ม 1 | กลุ่ม 2 | กลุ่ม 3 | กลุ่ม 1 | กลุ่ม 2 | กลุ่ม 3 | |||||||
‑o | ‑o | ‑o | ‑é | ‑í | ‑í | ‑aba | ‑ía | ‑ía | ‑aré | ‑eré | ‑iré | ‑aría | ‑ería | ‑iría | |||||||
‑as | ‑ás | ‑es | ‑és | ‑es | ‑ís | ‑aste | ‑iste | ‑iste | ‑abas | ‑ías | ‑ías | ‑arás | ‑erás | ‑irás | ‑arías | ‑erías | ‑irías | ||||
‑a | ‑e | ‑e | ‑ó | ‑ió | ‑ió | ‑aba | ‑ía | ‑ía | ‑ará | ‑erá | ‑irá | ‑aría | ‑ería | ‑iría | |||||||
‑amos | ‑emos | ‑imos | ‑amos | ‑imos | ‑imos | ‑ábamos | ‑íamos | ‑íamos | ‑aremos | ‑eremos | ‑iremos | ‑aríamos | ‑eríamos | ‑iríamos | |||||||
‑áis | ‑éis | ‑ís | ‑asteis | ‑isteis | ‑isteis | ‑abais | ‑íais | ‑íais | ‑aréis | ‑eréis | ‑iréis | ‑aríais | ‑eríais | ‑iríais | |||||||
‑an | ‑en | ‑en | ‑aron | ‑ieron | ‑ieron | ‑aban | ‑ían | ‑ían | ‑arán | ‑erán | ‑irán | ‑arían | ‑erían | ‑irían | |||||||
สมมุติมาลา ([MODO SUBJUNTIVO] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
มาลาคำสั่ง ([MODO IMPERATIVO] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) | ||||||||||||||||||||
ปัจจุบันกาล ([Presente] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
อดีตกาลไม่สมบูรณ์ แบบที่ 1 ([Pretérito imperfecto I] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
อดีตกาลไม่สมบูรณ์ แบบที่ 2 ([Pretérito imperfecto II] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
อนาคตกาล (กาลเดี่ยว) ([Futuro simple] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
คำสั่งให้ทำ ([Imperativo positivo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) | |||||||||||||||||
กลุ่ม 1 | กลุ่ม 2 | กลุ่ม 3 | กลุ่ม 1 | กลุ่ม 2 | กลุ่ม 3 | กลุ่ม 1 | กลุ่ม 2 | กลุ่ม 3 | กลุ่ม 1 | กลุ่ม 2 | กลุ่ม 3 | กลุ่ม 1 | กลุ่ม 2 | กลุ่ม 3 | |||||||
‑e | ‑a | ‑a | ‑ara | ‑iera | ‑iera | ‑ase | ‑iese | ‑iese | ‑are | ‑iere | ‑iere | — | — | — | |||||||
‑es | ‑as | ‑as | ‑aras | ‑ieras | ‑ieras | ‑ases | ‑ieses | ‑ieses | ‑ares | ‑ieres | ‑ieres | ‑a | ‑á | ‑e | ‑é | ‑e | ‑í | ||||
‑e | ‑a | ‑a | ‑ara | ‑iera | ‑iera | ‑ase | ‑iese | ‑iese | ‑are | ‑iere | ‑iere | ‑e | ‑a | ‑a | |||||||
‑emos | ‑amos | ‑amos | ‑áramos | ‑iéramos | ‑iéramos | ‑ásemos | ‑iésemos | ‑iésemos | ‑áremos | ‑iéremos | ‑iéremos | ‑emos | ‑amos | ‑amos | |||||||
‑éis | ‑áis | ‑áis | ‑arais | ‑ierais | ‑ierais | ‑aseis | ‑ieseis | ‑ieseis | ‑areis | ‑iereis | ‑iereis | ‑ad | ‑ed | ‑id | |||||||
‑en | ‑an | ‑an | ‑aran | ‑ieran | ‑ieran | ‑asen | ‑iesen | ‑iesen | ‑aren | ‑ieren | ‑ieren | ‑en | ‑an | ‑an | |||||||
รูปกริยาที่ไม่ระบุประธาน ([FORMAS NO PERSONALES] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
* การใช้กาลประสม จำเป็นต้องผันคำกริยาช่วย haber ไปตามช่วงเวลา (ปัจจุบัน อดีต หรืออนาคต) ก่อน แล้วจึงตามด้วยรูปกริยาขยายแบบอดีต (participio pasado) * -ante และ -iente ในวงเล็บเป็นส่วนเติมท้ายของรูปที่เรียกว่า "กริยาขยายแบบปัจจุบัน" (participio de presente) ในภาษาละติน รูปกริยาขยายชนิดนี้ยังคงมีค่าความหมายที่แสดงการกระทำจึงจัดเป็นรูปหนึ่งของคำกริยา แต่สำหรับภาษาสเปนสมัยใหม่ รูปนี้ถือเป็นคำคุณศัพท์เนื่องจากสูญเสียค่าความหมายเช่นนั้นไปแล้ว | ||||||||||||||||||||
รูปกริยากลาง ([Infinitivo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
รูปกริยาขยาย ([Participio] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) |
รูปกริยาเป็นนาม ([Gerundio] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) | |||||||||||||||||||
กลุ่ม 1 | กลุ่ม 2 | กลุ่ม 3 | กลุ่ม 1 | กลุ่ม 2 | กลุ่ม 3 | กลุ่ม 1 | กลุ่ม 2 | กลุ่ม 3 | |||||||||||||
‑ar | ‑er | ‑ir | ‑ado/a (-ante) |
‑ido/a (-iente) |
‑ido/a (-iente) |
‑ando | ‑iendo | ‑iendo |
วากยสัมพันธ์
ลักษณะทางวากยสัมพันธ์ของภาษาสเปนโดยรวมเป็นแบบประธาน-กริยา-กรรม มีโครงสร้างแตกกิ่งไปทางขวา มีการใช้คำบุพบท ในประโยคหนึ่ง ๆ มักจะวางคำคุณศัพท์ไว้หลังคำนาม (แต่ไม่เสมอไป) นอกจากนี้ ภาษาสเปนยังเป็นภาษาละสรรพนาม (pro-drop language) กล่าวคือสามารถละประธานของประโยคได้เมื่อไม่จำเป็นทั้งในการสนทนาและการเขียน
คำศัพท์
คำสเปน | คำอาหรับ | ความหมาย |
---|---|---|
[aceite] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | azzayt[86] | น้ำมัน |
[aceituna] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | zaytūnah[87] | มะกอก |
[alcalde] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | qāḍī ("ผู้พิพากษา")[88] | นายกเทศมนตรี |
[alcohol] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | kuḥl[89] | แอลกอฮอล์ |
[aldea] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | ḍay‘ah[90] | หมู่บ้าน |
[almohada] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | miẖaddah[91] | หมอน |
[alquiler] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | kirā'[92] | การเช่า |
[asesino] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | ḥaššāšīn ("คนติดกัญชา")[93] |
ผู้ลอบสังหาร |
[azafrán] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | za‘farān[94] | หญ้าฝรั่น |
[espinaca] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | isbānaẖ[95] | ผักโขม |
[hasta] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | ḥattá[96] | จนกระทั่ง |
[jazmín] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | yāsamīn[97] | มะลิ |
[marfil] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | ‘aẓm alfíl[98] | งาช้าง |
[rehén] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | rihān[99] | ตัวประกัน, เชลย |
[zanahoria] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | safunnárya[100] | แครอต |
คำศัพท์ภาษาสเปนที่ใช้ในชีวิตประจำวันประมาณร้อยละ 94 มีที่มาจากภาษาละติน ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องปกติและไม่น่าแปลกใจเนื่องจากภาษานี้เป็นภาษาหนึ่งในกลุ่มภาษาโรมานซ์ อย่างไรก็ตาม เช่นเดียวกับภาษาอื่น ภาษาสเปนยังมีคำยืมจากภาษาของชนชาติต่าง ๆ ที่ผู้ใช้ภาษาสเปนและบรรพบุรุษของผู้ใช้ภาษาสเปนได้เข้าไปมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องด้วยอย่างใกล้ชิดตลอดระยะเวลากว่าพันปี
ในภาษาสเปน ปรากฏคำศัพท์จำนวนหนึ่งที่ได้รับอิทธิพลมาจากภาษาของกลุ่มคนสมัยก่อนโรมันบนคาบสมุทรไอบีเรีย (ภาษาไอบีเรีย, บาสก์, เคลต์ หรือตาร์เตสโซส) เช่น [gordo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("อ้วน"), [izquierdo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("ซ้าย"),[101] [nava] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("ที่ราบลุ่มระหว่างภูเขา"),[102] [conejo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("กระต่าย")[103]
ภาษาของชาววิซิกอท (ชนเผ่าเยอรมันที่ปกครองคาบสมุทรไอบีเรียต่อจากจักรวรรดิโรมัน) ก็มีอิทธิพลต่อคลังคำศัพท์ภาษาสเปนอยู่ไม่น้อย ตัวอย่างได้แก่ ชื่อแรกเกิดทางศาสนาคริสต์ เช่น [Enrique] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [Gonzalo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [Rodrigo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เป็นต้น นามสกุลที่มาจากชื่อเหล่านั้น คือ [Enríquez] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [González] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)
และ [Rodríguez] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) คำศัพท์บางคำที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น [brotar] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("งอก/ออกดอก"),[104] [ganar] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("ชนะ"),[105] [ganso] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("ห่าน"),[106] [ropa] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("เสื้อผ้า")[107] คำศัพท์ที่เกี่ยวข้องกับการทหาร เช่น [yelmo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("หมวกเหล็กที่ใส่กับชุดเกราะ"),[108] [espía] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("สายลับ"),[109] [guerra] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("สงคราม")[110] เป็นต้น รวมทั้งหน่วยคำเติมหลัง -engo เช่นในคำว่า [realengo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("ของรัฐ") เป็นต้น
นอกจากนี้ การครอบครองคาบสมุทรไอบีเรียเป็นเวลาเกือบ 800 ปีของชาวมุสลิมยังเปิดโอกาสให้ภาษาสเปนรับคำศัพท์จำนวนมากจากภาษาอาหรับเข้ามาใช้ โดยเฉพาะคำที่ขึ้นต้นด้วย al- แม้กระทั่งหน่วยคำเติมหลัง -í ที่ใช้แสดงสัญชาติของประเทศหรือดินแดนบางแห่งก็มีที่มาจากภาษานี้เช่นกัน ตัวอย่างได้แก่ [ceutí] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("ชาวเซวตา"), [iraquí] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("ชาวอิรัก"), [israelí] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("ชาวอิสราเอล") เป็นต้น
ในคริสต์ศตวรรษที่ 16 เริ่มมีการยืมคำศัพท์ในแวดวงศิลปะจากภาษาอิตาลีมาใช้ในภาษาสเปน รวมทั้งมีการยืมคำศัพท์จากภาษาชนพื้นเมืองในทวีปอเมริกาอีกด้วย เช่น ภาษานาอวตล์ ภาษาอาราวัก และภาษาเกชัว เป็นต้น ซึ่งส่วนมากเป็นคำที่เกี่ยวข้องกับพืช ประเพณี หรือปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกิดขึ้นกับดินแดนนั้น ได้แก่ [batata] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("มันเทศ"),[111] [papa] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("มันฝรั่ง"),[112] [yuca] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("มันสำปะหลัง"),[113] [cacique] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("ผู้มีอำนาจในท้องถิ่น"),[114] [huracán] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("เฮอร์ริเคน"),[115] [cacao] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("โกโก้"),[116] [chocolate] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("ช็อกโกแลต") เป็นต้น
ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 เริ่มมีความนิยมในการใช้ศัพท์สูงและสำนวนโวหารที่มีความหมายและโครงสร้างไวยากรณ์ซับซ้อน เนื่องจากได้รับอิทธิพลจากงานเขียนในรูปแบบดังกล่าวของลุยส์ เด กองโกรา กวียุคบารอกของสเปน จนกระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 18 จึงมีการยืมคำศัพท์จากภาษาฝรั่งเศสมาใช้ โดยเฉพาะคำที่เกี่ยวข้องกับแฟชั่น การทำอาหาร และการปกครองของชนชั้นขุนนาง เช่น [pantalón] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("กางเกงขายาว"),[117] [puré] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("ซุปเคี่ยวเปื่อยแล้วกรอง"),[118] [tisú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("ผ้าเส้นทองหรือเงิน"),[119] [menú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("รายการอาหาร"),[120] [maniquí] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("หุ่น"),[121] [restorán/restaurante] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("ภัตตาคาร"),[122] [buró] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("โต๊ะทำงาน/คณะกรรมการบริหาร"),[123] [carné] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("บัตรประจำตัว"),[124] [gala] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("ชุดหรูหรา"),[125] [bricolaje] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("งานช่างในบ้านที่ทำได้ด้วยตัวเอง")[126] เป็นต้น
ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ยังคงมีการนำคำศัพท์ใหม่ ๆ เข้ามาใช้ในภาษาสเปนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะคำศัพท์จากภาษาอังกฤษและภาษาเยอรมัน แต่ก็มีคำศัพท์จากภาษาอิตาลีเข้ามาอีกครั้งเช่นกันในสาขาการทำอาหารและการดนตรี (โดยเฉพาะการแสดงอุปรากร) เช่น [batuta] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("ไม้บาตอง"),[127] [soprano] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ("โซปราโน"),[128] [piano] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)[129][130] เป็นต้น และตั้งแต่เริ่มคริสต์ศตวรรษที่ 20 เป็นต้นมา คลังคำศัพท์ของภาษาสเปนได้รับอิทธิพลจากภาษาอังกฤษอย่างมากในทุกสาขา โดยเฉพาะด้านธุรกิจ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี ดนตรี และการกีฬา เช่น [marketing] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ),[131] [quasar] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ),[132] [Internet] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ),[133] [software] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ),[134] [rock] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ),[135] [reggae] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ),[136] [set] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ),[137] [penalti] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ),[138] [fútbol] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ),[139] [windsurf] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)[140] เป็นต้น
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ ราชบัณฑิตยสถานสเปนได้พยายามหลีกเลี่ยงการใช้คำยืมและคำทับศัพท์โดยใช้ตัวสะกดตามภาษาต้นฉบับ แต่กำหนดให้ใช้คำแปลตรงตัวของคำที่ยืมมานั้น หรือใช้ตัวสะกดที่สอดคล้องกับอักขรวิธีดั้งเดิมของภาษาสเปนและยังออกเสียงได้ใกล้เคียงกับเสียงในภาษาต้นฉบับแทน เช่น [zum] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) แทน zoom,[141] [correo electrónico] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) แทน e-mail,[142] [fútbol] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) แทน football,[139] [escáner] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) แทน scanner,[143] [mercadotecnia] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) แทน marketing[144] เป็นต้น แม้ว่าข้อเสนอดังกล่าวนั้นส่วนใหญ่จะได้รับการตอบรับอย่างดีจากสังคม แต่บางคำที่เคยเสนอให้ใช้ เช่น "cadi" แทน [caddie] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), "best-séller" แทน [best seller] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), "yaz" แทน [jazz] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เป็นต้น กลับไม่ได้รับการยอมรับและหายไปจากพจนานุกรมในที่สุด[145][146]
โดยทั่วไปในปัจจุบัน ภาษาสเปนในทวีปอเมริกา (โดยเฉพาะประเทศเม็กซิโก) มักมีการยืมคำศัพท์หรือรูปแบบโครงสร้างของคำศัพท์และสำนวนต่าง ๆ มาจากภาษาอังกฤษเข้ามาใช้ เนื่องจากมีความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ภาษาสเปนในประเทศสเปน จะนิยมโครงสร้างคำศัพท์จากภาษาของประเทศเพื่อนบ้านอย่างฝรั่งเศสมากกว่า ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้ภาษาสเปนบนคาบสมุทรไอบีเรียจะเรียกคอมพิวเตอร์ว่า [ordenador] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) โดยยืมรูปคำ [ordinateur] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) จากภาษาฝรั่งเศสมาปรับใช้ ตรงข้ามกับผู้ใช้ภาษาสเปนในทวีปอเมริกา กล่าวคือ จะใช้คำว่า [computadora] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) หรือ [computador] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ซึ่งเป็นการดัดแปลงรูปคำของคำว่า computer นั่นเอง
การแปร
สัทวิทยา
ภาษาสเปนที่ใช้ในภาคเหนือและภาคกลางของประเทศสเปนประกอบด้วยหน่วยเสียงพยัญชนะ 19 ตัว (ตามที่กล่าวไปแล้ว) แต่ภาษาสเปนที่ใช้ในประเทศอื่น ๆ จะมีหน่วยเสียงพยัญชนะเพียง 17 หน่วยเสียง และบางแห่งมี 18 หน่วยเสียง นอกจากนี้ยังประกอบด้วยเสียงแปรอีกเป็นจำนวนมาก ความแตกต่างที่สำคัญในด้านสัทวิทยาระหว่างภาษาสเปนในภูมิภาคต่าง ๆ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากความแตกต่างเรื่องเสียงพยัญชนะนั้นมีดังต่อไปนี้
- การแทนเสียง [m] หรือ [n] ท้ายพยางค์ด้วยเสียง [ŋ] ในภาษาสเปนมาตรฐานของประเทศสเปน อาร์เจนตินา โคลอมเบีย และเม็กซิโก พยัญชนะ ‹n› ท้ายพยางค์จะออกเสียงเป็นเสียงนาสิก ปุ่มเหงือก [n][147][148] เช่น [pan] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ออกเสียง ปัน [pãn], [bien] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ออกเสียง เบียน [bjẽn] เป็นต้น แต่ในสำเนียงอื่น ๆ จะออกเสียงเป็นเสียงนาสิก เพดานอ่อน [ŋ] ดังนั้นคำว่า [pan] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) จึงออกเสียงเป็น ปัง [pãŋ] และ [bien] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ออกเสียงเป็น เบียง [bjẽŋ] การออกเสียง ‹n› ท้ายพยางค์เป็นเสียงเพดานอ่อนนี้พบได้ทั่วไปในพื้นที่หลายส่วนของสเปน (กาลิเซีย เลออน อัสตูเรียส มูร์เซีย เอกซ์เตรมาดูรา และอันดาลูเซีย) และยังเป็นลักษณะเด่นของภาษาสเปนในหลายพื้นที่ของทวีปอเมริกา ตั้งแต่ภูมิภาคแคริบเบียนทั้งหมด อเมริกากลาง พื้นที่ชายฝั่งของโคลอมเบีย เวเนซุเอลา พื้นที่ส่วนใหญ่ของเอกวาดอร์ เปรู ไปจนถึงภาคเหนือของชิลี นอกจากนี้ในเอกวาดอร์ เปรู เวเนซุเอลา (ยกเว้นแถบเทือกเขาแอนดีส) และสาธารณรัฐโดมินิกัน ไม่ว่า /n/ หรือ /m/ ที่อยู่ท้ายพยางค์และ/หรือนำหน้าพยัญชนะตัวอื่นจะออกเสียงเป็น [ŋ] เช่นกัน ดังนั้นคำว่า [ambientación] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) จึงออกเสียง อังเบียงตาสิย็อง [ãŋbjẽŋtäˈsjõ̞ŋ] ในพื้นที่ดังกล่าว
- การแทนที่เสียง [θ] ด้วยเสียง [s] ในประเทศสเปน (ยกเว้นหมู่เกาะคะเนรีและแคว้นอันดาลูเซีย) จะแยกความแตกต่างระหว่างเสียง [θ] (เขียนแทนด้วย ‹z› หรือ ‹c› เมื่ออยู่หน้า ‹e› และ ‹i›) กับเสียง [s] เช่น [casa] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘บ้าน’) ออกเสียง [ˈkäsä], [caza] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘การล่าสัตว์’) ออกเสียง [ˈkäθä] ขณะที่ในหมู่เกาะคะเนรี แคว้นอันดาลูเซีย และทวีปอเมริกาจะไม่มีความแตกต่างดังกล่าว เช่น [casa] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) และ [caza] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) จะออกเสียงว่า [ˈkäsä] ทั้งคู่
- การออกเสียง /s/ โดยใช้ฐานกรณ์ที่แตกต่างกัน ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของทวีปอเมริกาและภาคใต้ของประเทศสเปน หน่วยเสียงพยัญชนะ /s/ จะเป็นเสียงจากฐานปุ่มเหงือกกับปลายลิ้น (lamino-alveolar) [s̻] ขณะที่ในภาคเหนือและภาคกลางของสเปนรวมทั้งแถบเทือกเขาแอนดีสในโคลอมเบีย เปรู และโบลิเวีย /s/ จะเป็นเสียงจากฐานปุ่มเหงือกกับปลายสุดลิ้น (apico-alveolar) [s̺][149][150]
- การสูญเสียง /s/ ท้ายพยางค์ การไม่ออกเสียง /s/ ท้ายพยางค์ (คล้ายกับกระบวนการที่เกิดกับภาษาฝรั่งเศสในยุคกลาง) เป็นปรากฏการณ์ที่พบทั่วไปในพื้นที่ราบแทบทุกแห่งของประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกา พื้นที่ที่ไม่เกิดปรากฏการณ์นี้ได้แก่ ประเทศเม็กซิโก (ยกเว้นพื้นที่ชายฝั่งทะเลแคริบเบียนบางแห่ง) ภาคเหนือของสเปน (แต่เริ่มจะพบมากขึ้นแล้ว) และบริเวณแนวเทือกเขาแอนดีส (โดยเฉพาะในโคลอมเบีย เอกวาดอร์ แถบชายฝั่งของเปรู และโบลิเวีย)
- การแทนเสียง [x] ด้วยเสียง [h], [ç] หรือ [χ] ในอดีต ‹j› และ ‹g› (เมื่ออยู่หน้า ‹e› และ ‹i›) เคยใช้เป็นรูปพยัญชนะแทนเสียงเสียดแทรก หลังปุ่มเหงือก ไม่ก้อง /ʃ/ จนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 15 เมื่อชาวสเปนกลุ่มแรกมาถึงโลกใหม่ ตำแหน่งเกิดเสียงพยัญชนะเสียงนี้จึงเริ่มเปลี่ยนจากปุ่มเหงือก-เพดานแข็งไปสู่เพดานอ่อนเป็นเสียง [x] อย่างไรก็ตาม ในสำเนียงทางภาคใต้ของประเทศรวมทั้งสำเนียงแคริบเบียน (ซึ่งได้รับอิทธิพลจากผู้ตั้งถิ่นฐานที่มาจากภาคใต้ของสเปน) หน่วยเสียง /ʃ/ ไม่ได้มีวิวัฒนาการเป็นเสียง [x] แต่กลับมีวิวัฒนาการไปเป็นเสียงเสียดแทรก เส้นเสียง ไม่ก้อง [h] แทน ทุกวันนี้การออกเสียง ‹j› และ ‹g› (เมื่ออยู่หน้า ‹e› และ ‹i›) เป็น [h] ถือเป็นมาตรฐานสำหรับภาษาสเปนในภูมิภาคแคริบเบียน[151] (คิวบา สาธารณรัฐโดมินิกัน และเปอร์โตริโก) เช่นเดียวกับบนแผ่นดินใหญ่ของเวเนซุเอลา[149] โคลอมเบีย[149] อเมริกากลาง[152] ไปจนถึงแถบชายฝั่งทะเลแคริบเบียนของเม็กซิโก[147] แต่ในส่วนอื่น ๆ ของทวีปอเมริกาจะพบการออกเสียงเป็น [x] มากกว่า นอกจากนี้ ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของอาร์เจนตินา (บริเวณแม่น้ำลาปลาตา) และชิลี การออกเสียง [x] จะเลื่อนตำแหน่งไปข้างหน้าจนกลายเป็นเสียงเพดานแข็ง [ç] (เสียงเดียวกับเสียง ‹ch› จากคำว่า [ich] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในภาษาเยอรมัน) เมื่อเสียงนี้อยู่หน้าสระลิ้นส่วนหน้า [i, e] เช่น [gente] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) [ˈçẽnte], [jinete] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) [çiˈnete] เป็นต้น ในสเปน การออกเสียง [h] จะพบได้ทั่วไปในหมู่เกาะคะเนรีและภาคตะวันตกของแคว้นอันดาลูเซีย ส่วนในพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ จะพบการออกเสียง [x] สลับกับการออกเสียงเสียดแทรก ลิ้นไก่ ไม่ก้อง [χ] ในบางตำแหน่งภายในคำ
- การแทนเสียง [ʎ] ด้วยเสียง [ʝ] หรือ [ɟʝ] เดิม ‹ll› ออกเสียงเป็น [ʎ] แต่ปัจจุบันเสียงนี้ถูกกลืนเข้ากับเสียงของ ‹y› กล่าวคือ พยัญชนะทั้งสองตัวจะออกเสียงเดียวกันเป็น [ʝ ~ ɟʝ] ทำให้เกิดความสับสนระหว่างการใช้พยัญชนะทั้งสองตัวนี้ เช่น คำว่า [yendo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) บางครั้งมีผู้สะกดผิดเป็น [*llendo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เป็นต้น ปรากฏการณ์นี้เรียกว่า "เยอิสโม" ([yeísmo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) เกิดในพื้นที่ส่วนใหญ่ของโลกที่ใช้ภาษาสเปน ยกเว้นในพื้นที่บางแห่งของทวีปอเมริกาซึ่งใช้ภาษานี้ร่วมกับภาษาอื่นที่มีการแยกความแตกต่างทางเสียงระหว่างพยัญชนะสองตัวนี้ เช่น พื้นที่สองภาษาอย่างเขตภาษาสเปน-เกชัวหรือเขตภาษาสเปน-กวารานีในประเทศโบลิเวียและปารากวัย เป็นต้น รวมทั้งในพื้นที่หลายแห่งของสเปนซึ่งยังคงมีการแยกความแตกต่างของเสียงพยัญชนะทั้งสองตัวอยู่ แต่ก็เริ่มลดลงแล้ว
- การแทนเสียง [ʎ] ด้วยเสียง [dʒ], [ʒ] หรือ [ʃ] หน่วยเสียง /ʎ ~ ʝ/ ซึ่งเกิดจากปรากฏการณ์เยอิสโมยังออกเสียงได้อีกหลายแบบนอกจาก [ʝ] หรือ [ɟʝ] เช่น ในประเทศเม็กซิโกโดยทั่วไปออกเสียงนี้เป็น [dʒ] (เหมือนเสียงของ ‹j› ในภาษาอังกฤษ) ส่วนในพื้นที่บริเวณแม่น้ำลาปลาตาของอาร์เจนตินาและอุรุกวัยจะออกเสียงเป็นเสียงเสียดแทรก หลังปุ่มเหงือก ก้อง [ʒ][148] หรือเสียงเสียดแทรก หลังปุ่มเหงือก ไม่ก้อง [ʃ] ปรากฏการณ์เยอิสโมในพื้นที่นี้จึงมีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า "เชอิสโม" ([žeísmo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) / [šeísmo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ))
- หน่วยเสียงสระที่เกิดจากการสูญเสียง /s/ ท้ายพยางค์ ทางภาคใต้ของประเทศสเปน โดยเฉพาะในแคว้นมูร์เซียและภาคตะวันออกของแคว้นอันดาลูเซีย เสียงพยัญชนะ /s/ ที่อยู่ท้ายคำจะออกเสียงเบาลงเป็น [h] หรืออาจไม่ออกเสียงเลย ดังนั้น ในการออกเสียงสระที่ปรากฏหน้าหน่วยเสียงพยัญชนะนี้ ระดับของลิ้นจึงลดต่ำลงจากตำแหน่งปกติ[153] เกิดเป็นเสียงสระเพิ่มขึ้นจากที่มีอยู่เดิม 5 ตัวในภาษาสเปนถิ่นเหนือ ดังต่อไปนี้
- /as/ > [æ̞] เช่น [más] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) [mæ̞] (‘อีก’)
- /es/ > [ɛ] เช่น [mes] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) [mɛ] (‘เดือน’)
- /is/ > [i̞] เช่น [mis] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) [mi̞] (‘ของฉัน พหูพจน์’)
- /os/ > [ɔ] เช่น [tos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) [tɔ] (‘ไอ’)
- /us/ > [u̞] เช่น [tus] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) [tu̞] (‘ของเธอ พหูพจน์’)
ไวยากรณ์
การใช้สรรพนาม [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)
ภาษาสเปนมีสรรพนามบุรุษที่ 2 เอกพจน์ 3 ตัว ได้แก่ [usted] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [tú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) และอีกตัวหนึ่งซึ่งใช้กันแพร่หลายในทวีปอเมริกา คือ [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) โดยทั่วไปนั้น [tú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) และ [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เป็นสรรพนามที่ไม่เป็นทางการ (‘เธอ’) คือผู้พูดจะใช้กับเพื่อนหรือคนในครอบครัว ส่วน [usted] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘คุณ, ท่าน’) เป็นสรรพนามที่ถือว่าเป็นทางการในทุกแห่ง โดยใช้ในทำนองแสดงความนับถือเมื่อพูดกับคนที่มีอายุมากกว่าหรือคนที่ไม่สนิท
โบเซโอ ([voseo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) หมายถึงการใช้ [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เป็นสรรพนามบุรุษที่ 2 เอกพจน์แทน [tú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) นอกจากนี้ยังมีความหมายครอบคลุมถึงการใช้รูปผันกริยาของ [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) กับสรรพนาม [tú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในการกประธานอีกด้วย[154] เช่น ภาษาสเปนในประเทศชิลี[155] เป็นต้น
รูปกรรมตามหลังบุพบทของสรรพนาม [tú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) คือ [ti] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) จะถูกแทนที่ด้วย [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เช่นกัน กล่าวคือ [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) จะเป็นได้ทั้งรูปประธานและรูปกรรมตามหลังบุพบท ดังนั้น [para ti] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘เพื่อเธอ’) จึงกลายเป็น [para vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ส่วนรูปประสมบุพบท-สรรพนามอย่าง [contigo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘กับเธอ’) จะกลายเป็น [con vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) แต่รูปกรรมตรงและกรรมรอง [te] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ยังคงรูปเดิม ไม่เหมือนกรณี [vosotros] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘พวกเธอ’) ที่ใช้รูปกรรมตรงและกรรมรอง [os] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) นอกจากนี้ รูปสรรพนามแสดงความเป็นเจ้าของของ [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ก็ใช้รูปเดียวกับ [tú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) คือ ‹[tu(s)] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [tuyo(s)] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) และ [tuya(s)] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)› แทนที่จะใช้ร่วมกับ [vosotros] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เป็น ‹[vuestro(s)] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) และ [vuestra(s)] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)›
ตารางข้างล่างนี้แสดงการเปรียบเทียบรูปคำกริยาหลายตัวที่ผันกับประธาน [tú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) และประธาน [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ส่วนแถวสุดท้ายคือรูปคำกริยาที่ผันกับประธาน [vosotros] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ซึ่งเป็นรูปสรรพนามบุรุษที่ 2 พหูพจน์ที่ปัจจุบันใช้ในประเทศสเปนเท่านั้น รูปผันที่มีเครื่องหมายลงน้ำหนักเด่นชัดกำกับอยู่ (คือรูปผันของ [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) และ [vosotros] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) และรูปกริยากลาง เมื่อออกเสียงจะลงน้ำหนักที่พยางค์สุดท้าย ส่วนรูปผันของกริยากับประธาน [tú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) จะลงน้ำหนักที่พยางค์รองสุดท้าย
รูปกริยากลาง | ความหมาย | [Tú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [Vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (ทั่วไป) |
[Vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (เวเนซุเอลา) |
[Vos/Tú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (ชิลี) |
[Vosotros] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) |
---|---|---|---|---|---|---|
[hablar] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | ‘พูด’ | [hablas] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [hablás] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [habláis] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [hablái] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [habláis] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) |
[comer] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | ‘กิน’ | [comes] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [comés] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [coméis] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [comís] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [coméis] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) |
[poder] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | ‘สามารถ’ | [puedes] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [podés] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [podéis] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [podís] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [podéis] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) |
[vivir] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | ‘อยู่อาศัย’ | [vives] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [vivís] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [vivís] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [vivís] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [vivís] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) |
[ser] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | ‘เป็น, อยู่’ | [eres] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [sos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [sois] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [soi/erís] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [sois] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) |
[haber] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | ‘มี’ | [has] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [has/habés] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [habéis] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [habís/hai] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [habéis] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) |
[venir] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | ‘มา’ | [vienes] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [venís] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [venís] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [venís] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) | [venís] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) |
รูปผันกริยาทั่วไปของประธาน [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) หมายถึงรูปผันที่ได้รับการยอมรับโดยทั่วไปและใช้กันในหลายประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา อุรุกวัย ปารากวัย พื้นที่หลายแห่งในโบลิเวีย เอกวาดอร์ โคลอมเบีย อเมริกากลาง ไปจนถึงรัฐทางภาคใต้ของเม็กซิโก
ในทางกลับกัน ภาษาสเปนที่ใช้กันในรัฐซูเลีย ซึ่งเป็นพื้นที่รอบทะเลสาบมาราไกโบทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเวเนซุเอลา มีลักษณะเด่นคือ ในการผันกริยากับประธาน [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) จะยังคงรักษารูปผันที่มีมาแต่เดิมเอาไว้ ซึ่งรูปผันดังกล่าวในปัจจุบันยังคงใช้ผันกับประธาน [vosotros] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในประเทศสเปน
รูปผันกริยาของประธาน [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในภาษาสเปนของประเทศชิลียังมีความแตกต่างออกไปอีก กล่าวคือ แทนที่จะตัด [-i-] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ออกจากรูปสระประสม [-áis] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (และ [-ois] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) ที่อยู่ท้ายคำเหมือนกับการผันทั่วไป แต่กลับตัดตัว [-s] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ท้ายคำออกไปแทน (เช่น [vos/tú soi/erís] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [vos/tú estái] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) และในกรณีที่รูปผัน
นั้นลงท้ายด้วย [-ís] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) จะยังคงตัว [-s] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ไว้เหมือนเดิม (เช่น [comís] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), podís, vivís, erís, [venís] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) โดยที่พยัญชนะ ‹s› จะไม่ถูกละไปเสียทีเดียวในการออกเสียง แต่จะได้ยินเป็นเสียง [h][156]
เป็นที่น่าสังเกตว่า ลักษณะของโบเซโอสำหรับภาษาสเปนในประเทศชิลีจะเป็นการใช้ประธาน [tú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ตามด้วยรูปผันกริยาของ [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ([voseo verbal] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ))[156] เช่น [tú sabís] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) มากกว่าจะใช้ประธาน [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ตามด้วยรูปผันกริยาของ [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ([voseo pronominal] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) เช่น [vos sabís] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ทั้งนี้เนื่องจากโบเซโอในลักษณะหลังจะปรากฏในสถานการณ์ที่ไม่เป็นทางการอย่างมากและอาจถือว่าหยาบคายได้ในบางกรณี[156]
ความแพร่หลายในลาตินอเมริกา
สรรพนาม [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ใช้เป็นสรรพนามบุรุษที่ 2 เอกพจน์ อย่างกว้างขวางในภาษาสเปนสำเนียงรีโอเดลาปลาตา (ประเทศอาร์เจนตินาและอุรุกวัย) ในปารากวัย กัวเตมาลา นิการากัว และคอสตาริกา ผู้คนในโบลิเวีย ฮอนดูรัส และเอลซัลวาดอร์ก็ใช้สรรพนามตัวนี้ในชีวิตประจำวันเช่นกัน แต่ในสามประเทศนี้ สื่อยังคงนิยมใช้สรรพนาม [tú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)
โดยทั่วไป [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) จะไม่ใช้ในงานเขียนที่เป็นทางการ (ยกเว้นในอาร์เจนตินาและอุรุกวัย) ในเอลซัลวาดอร์ การ์ตูนในหนังสือพิมพ์มักจะใช้สรรพนาม [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) โดยแทบจะไม่พบการใช้สรรพนามตัวนี้ในบทความอื่นเลย นอกจากในข้อความที่ผู้เขียนยกมากล่าวอ้าง (quotation) แต่สื่อต่าง ๆ (โดยเฉพาะป้ายประกาศและสื่อโฆษณา) เริ่มหันมาใช้สรรพนามตัวนี้แทนที่ [tú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) มากขึ้นในอเมริกากลาง เช่น นิการากัวและฮอนดูรัส ส่วนอาร์เจนตินาและอุรุกวัยยังใช้ [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เป็นรูปสรรพนามมาตรฐานในสื่อโทรทัศน์อีกด้วย
ในประเทศโบลิเวีย ภาคเหนือและภาคใต้ของเปรู เอกวาดอร์ พื้นที่บางแห่งแถบเทือกเขาแอนดีสในเวเนซุเอลา พื้นที่ส่วนใหญ่ของโคลอมเบีย และภาคตะวันออกของคิวบา ถือว่า [tú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เป็นรูปสรรพนามที่ใช้ในภาษาระดับทางการ โดย [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) จะเป็นรูปสรรพนามที่ผู้คนทั่วไปใช้กันมากกว่า[156] ส่วนในประเทศชิลี รัฐซูเลียของเวเนซุเอลา ชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิกของโคลอมเบีย อเมริกากลาง ไปจนถึงรัฐตาบัสโกและรัฐเชียปัสทางภาคใต้ของเม็กซิโก จะใช้สรรพนาม [tú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในระดับกึ่งทางการ และใช้สรรพนาม [vos] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในระดับกันเอง[156]
อย่างไรก็ตาม ในลาตินอเมริกาก็ยังมีพื้นที่ที่ใช้สรรพนาม [tú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในฐานะสรรพนามบุรุษที่ 2 เอกพจน์เป็นหลักอยู่เช่นกัน ได้แก่ ประเทศคิวบา สาธารณรัฐโดมินิกัน เปอร์โตริโก พื้นที่เกือบทั้งหมดของเม็กซิโกและปานามา พื้นที่ส่วนใหญ่ของเปรูและเวเนซุเอลา และชายฝั่งทะเลแคริบเบียนของโคลอมเบีย[156]
การใช้สรรพนาม [ustedes] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)
ในภาษาสเปนยังมีความแตกต่างในเรื่องการใช้สรรพนามบุรุษที่ 2 พหูพจน์ ในลาตินอเมริกามีสรรพนามดังกล่าวเพียงรูปเดียวที่ใช้ในชีวิตประจำวัน คือ [ustedes] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ซึ่งใช้ทั้งในเชิงทางการและไม่ทางการ (= ‘พวกคุณหรือพวกเธอ’) ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ แต่บางครั้งอาจพบ [vosotros] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (= ‘พวกเธอ’) ในบทร้อยกรองหรือวรรณกรรมที่ใช้สำนวนโวหารต่าง ๆ เช่นกัน
ในสเปน การใช้สรรพนามบุรุษที่ 2 พหูพจน์จะแบ่งออกเป็น [ustedes] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (ทางการ) และ [vosotros] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (กันเอง) โดยสรรพนาม [vosotros] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เป็นรูปพหูพจน์ของสรรพนาม [tú] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) นั่นเอง แต่ในทวีปอเมริกา รวมทั้งบางเมืองทางภาคใต้ของสเปน (เช่น กาดิซหรือเซบียา) และหมู่เกาะคะเนรี สรรพนาม [vosotros] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) จะถูกแทนด้วย [ustedes] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เป็นที่น่าสังเกตว่าการใช้ [ustedes] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในความหมายว่า ‘พวกเธอ’ ทางภาคใต้ของสเปนนั้นไม่เป็นไปตามกฎการผันกริยา (ซึ่งแสดงความสอดคล้องระหว่างสรรพนามกับกริยา) เช่น ขณะที่ประโยค [ustedes van] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘พวกคุณไป’) ใช้รูปผันกริยาสำหรับประธานสรรพนามบุรุษที่ 3 พหูพจน์ (เป็นกฎการผันกริยาตามปกติ) แต่ในเมืองกาดิซและเซบียาเมื่อพูดว่า ‘พวกเธอไป’ จะใช้ [ustedes vais] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ซึ่งเป็นรูปผันกริยาที่ตามกฎแล้วจะใช้กับ [vosotros] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) เท่านั้น ส่วนในหมู่เกาะคะเนรี การผันกริยาจะเป็นไปตามปกติคือ [ustedes van] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ไม่ว่าจะหมายถึง ‘พวกเธอไป’ หรือ ‘พวกคุณไป’
คำศัพท์
มีคำภาษาสเปนเป็นจำนวนมากที่มีความหมายและรูปแบบการใช้แตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ ผู้พูดภาษาสเปนส่วนใหญ่จะรู้จักคำที่มีความหมายอย่างเดียวกันในรูปเขียนอื่น แม้จะเป็นคำที่ไม่ได้ใช้กันทั่วไปก็ตาม แต่ชาวสเปนส่วนใหญ่มักไม่เข้าใจการใช้คำที่มีรูปเขียนเดียวกันในความหมายอื่น ๆ ของผู้พูดภาษาสเปนในทวีปอเมริกา เช่น คำว่า [mantequilla] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [aguacate] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) และ [albaricoque] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในประเทศสเปน (แปลว่า ‘เนย’, ‘อะโวคาโด’ และ ‘แอพริคอต’ ตามลำดับ) มีความหมายตรงกับคำว่า [manteca] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [palta] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) และ [damasco] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในประเทศอาร์เจนตินา ชิลี เปรู ปารากวัย และอุรุกวัย[157][158][159] คำที่ใช้กันตามปกติในสเปนอย่าง [coger] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘เก็บ, หยิบ’) และ [concha] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (‘เปลือกหอย’) กลายเป็นคำที่มีความหมายหยาบโลนในลาตินอเมริกา เพราะที่นั่น [coger] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) จะหมายถึง ‘มีเพศสัมพันธ์’[160] ส่วน [concha] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) หมายถึง ‘อวัยวะเพศหญิง’[161]
ตัวอย่างอื่น ๆ ได้แก่ คำว่า ตาโก [taco] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ซึ่งมีความหมายหนึ่งแปลว่า ‘คำสบถ’ ในสเปน[162] แต่ทั่วโลกรู้จักคำนี้ในฐานะชื่ออาหารเม็กซิโกชนิดหนึ่ง คำว่า [pinche] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ซึ่งในเปอร์โตริโกแปลว่า ‘กิ๊บติดผม’ ถือเป็นคำไม่สุภาพในเม็กซิโก (ความหมายทำนองเดียวกับ ‘damn’ ในภาษาอังกฤษ) ส่วนในเอลซัลวาดอร์ นิการากัว และคอสตาริกาแปลว่า ‘ขี้เหนียว’[163] คำว่า [coche] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ซึ่งในสเปนหมายถึง ‘รถยนต์’ นั้น ในกัวเตมาลาจะหมายถึง ‘หมู’ หรือ ‘สกปรก’[164] ขณะที่ [carro] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ซึ่งหมายถึง ‘รถยนต์’ ในลาตินอเมริกาบางประเทศ[165] กลับหมายถึง ‘เกวียน’ ในประเทศอื่น ๆ รวมทั้งสเปน และคำว่า [papaya] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ซึ่งโดยทั่วไปแปลว่า ‘มะละกอ’ แต่ในคิวบา คำนี้เป็นสแลงแปลว่า ‘ช่องคลอด’[166] ดังนั้นเมื่อต้องการจะพูดถึงผลไม้จริง ๆ ชาวคิวบาจะเรียกว่า [frutabomba] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)[167]
นอกจากนี้ วัยรุ่นในประเทศที่พูดภาษาสเปนก็มีคำสแลงสำหรับใช้เรียกเพื่อนสนิท (ในทำนองเดียวกับที่วัยรุ่นอเมริกันนิยมใช้คำว่า ‘dude’) แต่คำที่ใช้เรียกนั้นแตกต่างกันออกไปในแต่ละประเทศ เช่น [güey] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), [mano] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ), หรือ [carnal] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในเม็กซิโก,[168] [cuate] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในกัวเตมาลาและฮอนดูรัส,[169] [mae] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในคอสตาริกา,[170] [tío] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในสเปน, [tipo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในโคลอมเบีย, [huevón] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในชิลี[171] และ [chabón] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) ในอาร์เจนตินา คำเหล่านี้จะใช้ในวงจำกัดกับเพื่อนที่สนิทจริง ๆ เท่านั้น เพราะค่อนข้างหยาบคายและบางคำมีความหมายดั้งเดิมในเชิงดูหมิ่น
หน่วยงานควบคุมการใช้ภาษา
ราชบัณฑิตยสถานสเปน ([Real Academia Española] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)) ร่วมกับบัณฑิตยสถานภาษาสเปนในชาติที่ใช้ภาษานี้เป็นหลักอีก 21 แห่ง (รวมทั้งในสหรัฐอเมริกา) ใช้อำนาจที่มีในการสร้างมาตรฐานทางภาษาผ่านสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ ทั้งพจนานุกรม ตำราไวยากรณ์ และหลักเกณฑ์การใช้ภาษา เนื่องจากอิทธิพลดังกล่าวประกอบกับเหตุผลทางสังคมวิทยาและประวัติศาสตร์ จึงทำให้ภาษาสเปนมาตรฐาน (Standard Spanish; Neutral Spanish) ได้รับการยอมรับอย่างเป็นวงกว้างทั้งในการผลิตงานวรรณกรรม บทความวิชาการ และสื่อหลายแขนง
เกร็ดความรู้
- ในภาษาเขียนสเปน สระที่พบบ่อยที่สุดคือ e[172] ส่วนพยัญชนะที่พบบ่อยที่สุด คือ s[172]
- ตำราไวยากรณ์ภาษาปัจจุบันเล่มแรกของยุโรปคือตำราไวยากรณ์สเปน เขียนโดยเอเลียว อันโตเนียว เด เนบรีคา เมื่อปี ค.ศ. 1492
- คำที่ยาวที่สุดในภาษาสเปน ได้แก่ "[esternocleidooccipitomastoideo] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)" (ชื่อกล้ามเนื้อคอด้านหลัง), "[anticonstitucionalmente] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)" (อย่างไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ), "[electroencefalografista] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)" (ผู้เชี่ยวชาญการบันทึกคลื่นไฟฟ้าสมอง) และ "[otorrinolaringológicamente] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ) (ในทางโสต นาสิก ลาริงซ์วิทยา)"
- คำในภาษาสเปนที่ปรากฏสระครบทุกตัวภายในคำ ได้แก่ "[arquitecto] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)" (สถาปนิก), "[eucalipto] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)" (ยูคาลิปตัส), "[murciélago] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)" (ค้างคาว), "[abuelito] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)" (คุณปู่/คุณตา), "[orquídea] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)" (กล้วยไม้) และ "[alucinógeno] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)" (สารก่อประสาทหลอน) รวมทั้งชื่อเฉพาะอีกสี่ชื่อ ได้แก่ "[Aurelio] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)" (เอาเรเลียว), "[Aureliano] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)" (เอาเรเลียโน), "[Eustaquio] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)" (เออุสตากีโอ) และ "[Venustiano] ข้อผิดพลาด: {{Lang}}: ข้อความมีมาร์กอัปตัวเอียง (ช่วยเหลือ)" (เบนุสเตียโน)
ภาษาสเปนในประเทศไทย
การเรียนการสอนภาษาสเปนในหลักสูตรระดับมัธยมศึกษา - ปัจจุบันภาษาสเปนถูกบรรจุในโรงเรียนต่างๆดังนี้
- แผนการเรียนสาย ภาษา สเปน โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา (ศิลป์-สเปน)
- โรงเรียนมัธยมประชานิเวศน์
- โรงเรียนมัธยมบ้านบางกะปิ
- โรงเรียนมัธยมสุวิทย์เสรีอนุสรณ์
- โรงเรียนมัธยมนาคนาวาอุปถัมภ์
- โรงเรียนพระยามนธาตุราชศรีพิจิตร์
- โรงเรียนสตรีศึกษาจ.ร้อยเอ็ด
- โรงเรียนวัฒนาวิทยาลัย (เปิดเป็นวิชาเลือกเสรี)
การเรียนการสอนภาษาสเปนในหลักสูตรระดับปริญญาตรี ปัจจุบันสามารถเรียนได้ที่
- คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
- คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง
- คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
- คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
- คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
- สำนักวิชาศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง
- วิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยบูรพา
การเรียนการสอนภาษาสเปนนอกจากระดับปริญญาตรี ปัจจุบันสามารถเรียนได้ที่
ดูเพิ่ม
อ้างอิง
- ↑ Argentina.gov.ar. Acerca de la Argentina: Idioma. (สเปน)
- ↑ GovernmentOfBelize.gov.bz. Languages. (อังกฤษ)
- ↑ TurismoBolivia.bo. Idiomas en Bolivia. (สเปน)
- ↑ Servicio Nacional de Turismo. Población e idioma en Chile. (สเปน)
- ↑ Artículo 10.º de la Constitución política de Colombia (1991): «El castellano es el idioma oficial de Colombia. Las lenguas y dialectos de los grupos étnicos son también oficiales en sus territorios. La enseñanza que se imparta en las comunidades con tradiciones lingüísticas propias será bilingüe».(สเปน)
- ↑ VisitCostaRica.com. Idioma oficial de Costa Rica. (สเปน)
- ↑ Portal Cuba. Constitución de la República de Cuba, artículo 2.º: «El nombre del Estado cubano es República de Cuba, el idioma oficial es el español y su capital es la ciudad de La Habana». (สเปน)
- ↑ Espanol.Guinea-Equatorial.com. País y Clima. (สเปน)
- ↑ Constitución de Guinea Ecuatorial (de 1995), artículo 4.º: «La lengua oficial de la República de Guinea Ecuatorial es el español. Se reconoce las lenguas aborígenes como integrantes de la cultura nacional». (สเปน)
- ↑ 10.0 10.1 10.2 10.3 Ethnologue.com. Spanish. A language of Spain. (อังกฤษ)
- ↑ de 2006 Statistique Canada. (ฝรั่งเศส)
- ↑ 2006 American Community Survey. (อังกฤษ)
- ↑ Instituto Cervantes. (สเปน)
- ↑ Spanish language total. Ethnologue. Retrieved 14 August 2009.
- ↑ Demografía de la lengua española (p. 38).
- ↑ 16.0 16.1 Acta Internacional de la Lengua Española. IV Acta Internacional de la Lengua Española, Un idioma vivo para el mundo. (สเปน)
- ↑ krysstal.com / elpais.com / 5th International Congress on Spanish Language (la-moncloa.es) / toplanguagecommunity.co.uk / uis.edu / Antonio Molina, director of the Instituto Cervantes in 2006 (terranoticias.es, elmundo.es) / Luis María Anson of the Real Academia Española (elcultural.es) / International Congress about Spanish, 2008 / Mario Melgar of the México University (lllf.uam.es), / Enrique Díaz de Liaño Argüelles, director of Celer Solutions multilingual translation network (elintercultural.net) / Feu Rosa - Spanish in Mercosur (congresosdelalengua.es) / elpais.com / eumed.net / efeamerica.com / babel-linguistics.com.
- ↑ Protocol on amendments to the constitutive act of the African Union. (อังกฤษ)
- ↑ Las Naciones Unidas. Carta de las Naciones Unidas: Artículo 111 (สเปน)
- ↑ Ethnologue.com, 1999, Top 100 Languages by Population. (อังกฤษ)
- ↑ CIA - The World Factbook. Field Listing - Languages. (อังกฤษ) (ดูข้อมูลที่ World)
- ↑ EUR-Lex. Tratado de Lisboa, Artículo 7. (สเปน)
- ↑ Union Africaine. Protocole sur les Amendements a l´Acte Constitutif de l´Union Africaine, Article 11 Langues officielles. (ฝรั่งเศส)
- ↑ Organization of American States. Carta de la Organización de los Estados Americanos: Capítulo XXI Ratificación y Vigencia, Artículo 139. (สเปน)
- ↑ Organización de Estados Iberoamericanos para la Educación, la Ciencia y la Cultura. Estatutos de la Organización de Estados Iberoamericanos para la Educación, la Ciencia y la Cultura: Capítulo I Naturaleza y Fines, Artículo 1. (สเปน)
- ↑ El Secretariado del Tratado de Libre Comercio de América del Norte. Capítulo XXII del TLCAN, Artículo 2206. (สเปน)
- ↑ Ministério das Relações Exteriores. Tratado Constitutivo da União de Nações Sul-Americanas, Artigo Transitório. (โปรตุเกส) (สเปน) (อังกฤษ) (ดัตช์)
- ↑ 28.0 28.1 El País. El español es el segundo idioma que más se estudia en el mundo, según el Instituto Cervantes. (สเปน)
- ↑ Terra. La presencia del español en la Comunidad Europea y la expansión en Asia, retos inmediatos del Instituto Cervantes. (สเปน)
- ↑ Junta de Castilla y León. Plan del Español para Extranjeros 2005/2009. (สเปน)
- ↑ Fundéu BBVA. Carmen Caffarel valora la influencia del español, que en el 2050 hablarán 600 millones. (สเปน)
- ↑ CincoDías.com. El español es un buen negocio. (สเปน)
- ↑ Universpain. ¿Por qué es importante aprender el español?. (สเปน)
- ↑ Rafael Cano (coord.). Historia de la lengua española Barcelona: Ariel Lingüística, 2005.
- ↑ Penny, Ralph. A History of the Spanish Language. Cambridge: Cambridge University Press, 1991, p. 5 (อังกฤษ)
- ↑ 20 minutos - Descubren que las palabras más antiguas escritas en Español son del siglo IX
- ↑ 37.0 37.1 Fernández-Ordóñez, Inés. Los orígenes de la dialectología hispánica y Ramón Menéndez Pidal. (สเปน)
- ↑ Cano Aguilar, Rafael. El español a través de los tiempos. 4ª ed. Madrid: ARCO/LIBROS, S.L., 1999, p. 63. (สเปน)
- ↑ Obediente Sosa, Enrique. Biografía de una lengua. Nacimiento, desarrollo y expansión del español. Mérida, Venezuela: Universidad de Los Andes, 2007, pp. 244-248. ISBN 978-980-11-1026-2 (สเปน)
- ↑ "Spanish Language Facts". Encyclopedia.com. สืบค้นเมื่อ 2010-11-06.
- ↑ Crow, John A. (2005). Spain: the root and the flower. University of California Press. p. 151. ISBN 9780520244962.
- ↑ Klein-Andreu, Flora. Spanish through Time. An Introduction. Munich: LINCOM GmbH, 2010, p. 19. (อังกฤษ)
- ↑ 43.0 43.1 "Spanish Language History". Today Translations. สืบค้นเมื่อ 2007-10-01.
- ↑ "Internet World Users by Language". Miniwatts Marketing Group. 2008. (อังกฤษ)
- ↑ "UN 2009 estimate" (PDF). สืบค้นเมื่อ 2010-04-21.
- ↑ จากหนังสือบริตานิกาแห่งปี พ.ศ. 2546-2552 es:Anexo:Hablantes de español como lengua materna en el 2003 (según el Britannica Book). แหล่งอ้างอิงถูกใช้โดยสารานุกรมบริตานิกา (Ethnologue -14th edition, Joshua Project 2000 —People’s List, U.S. Census Bureau.)
- ↑ eurobarometer (2006), es:Anexo:Hablantes de español en la U.E. según el Eurobarómetro (2006) สำหรับประเทศในทวีปยุโรป
- ↑ นักเรียนภาษาสเปนสำหรับประเทศนอกทวีปยุโรป ดู Instituto Cervantes 06-07 (ไม่มีแหล่งอ้างอิงที่ปรากฏชัดเจนเกี่ยวกับผู้พูดภาษาสเปนเป็นภาษาที่สอง นอกเหนือจากประเทศยุโรปและลาตินอเมริกา)
- ↑ 49.0 49.1 49.2 49.3 49.4 Demografía de la lengua española (หน้า 28) สำหรับประเทศที่ใช้ภาษาสเปนเป็นภาษาทางการ
- ↑ CONAPO (2010).
- ↑ cia.gov: มีผู้ใช้ภาษาสเปนร้อยละ 92.7
- ↑ จำนวนประชากรปี ค.ศ. 2009 จาก U.S. Population in 1990, 2000, and 2009, U.S. Census Bureau
- ↑ ผู้สืบเชื้อสายจากชาวลาตินอเมริกาอายุตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป (US Census Bureau 2009)
- ↑ Academia Norteamericana de la Lengua Española: elcastellano.org, José Ma. Ansón: noticias elcastellano.org, Jorge Ramos Avalos: univision.com, Elbio Rodríguez Barilari: congresosdelalengua.es , III Acta Internacional de la Lengua Española, nytimes.com
- ↑ มีประชากรผู้สืบเชื้อสายจากชาวลาตินอเมริกาทั้งหมด 50,477,594 คนจากประชากรอเมริกันทั้งหมดกว่า 308 ล้านคน (ข้อมูลจาก สำนักงานสำมะโนประชากร ค.ศ. 2010) ประชากรผู้สืบเชื้อสายจากชาวลาตินอเมริกาที่มีอายุมากกว่า 5 ปีขึ้นไปจำนวน 35,468,501 คนใช้ภาษาสเปนในครอบครัว ดังนั้นจึงน่าจะยังมีผู้พูดภาษาสเปนเป็นภาษาที่สองในระดับต่าง ๆ กันอีกประมาณ 15 ล้านคน นอกจากนี้ มีผู้เรียนภาษาสเปน 6 (cervantes.es) หรือ 7.8 (fundacionsiglo.com) ล้านคนในสหรัฐอเมริกา ซึ่งส่วนมากไม่ใช่ผู้สืบเชื้อสายจากชาวลาตินอเมริกา และยังมีผู้สืบเชื้อสายจากชาวลาตินอเมริกาซึ่งอพยพเข้าสหรัฐอเมริกาโดยผิดกฎหมายอีก 9 ล้านคน บางส่วนตกสำรวจสำมะโนประชากร (impre.com).
- ↑ "INE Datos básicos ... acceso directo (1/1/2010)". Ine.es. 2001-05-28. สืบค้นเมื่อ 2011-02-05.
- ↑ ร้อยละ 89.0 พูดภาษาสเปนเป็นภาษาแรก (eurobarometer (2006))
- ↑ "DANE". DANE. สืบค้นเมื่อ 2010-09-01.
- ↑ มีประชากร 500,000 คนใช้ภาษาพื้นเมืองกลุ่มต่าง ๆ (Ethnologue)
- ↑ "SINTITUL-7" (PDF). สืบค้นเมื่อ 2011-02-05.
- ↑ มีประชากรอีก 4,566,891 คนที่พูดภาษาอื่นเป็นภาษาแม่ (ภาษาหลัก ๆ ได้แก่ ภาษาอิตาลี 1,500,000 คน, ภาษาอาหรับ 1,000,000 คน, ภาษาเคชวา 855,000 คน, ภาษาเยอรมัน 400,000 คน, ภาษากวารานีปารากวัย 200,000 คน, ภาษายิดดิชตะวันออก 200,000 คน): Ethnologue.
- ↑ Diccionario panhispánico de dudas. ch. (สเปน)
- ↑ Diccionario panhispánico de dudas. ll. (สเปน)
- ↑ Explanation at http://www.spanishpronto.com/ (อังกฤษ) (สเปน)
- ↑ Exclusión de los dígrafos ch y ll del abecedario. (สเปน)
- ↑ Real Academia Española y Asociación de Academias de la Lengua Española. Ortografía de la lengua española. Madrid: Espasa Libros, 2010, p. 63. (สเปน)
- ↑ Real Academia Española. Ortografía de la lengua española. 1999. (สเปน)
- ↑ Real Academia Española y Asociación de Academias de la Lengua Española. Ortografía de la lengua española. Madrid: Espasa Libros, 2010, p. 448. (สเปน)
- ↑ Gómez Torrego, Leonardo. Las normas académicas: últimos cambios. Madrid: Ediciones SM, 2011, pág 62. (สเปน)
- ↑ Martínez-Celdrán, Eugenio; Fernández-Planas, Ana Ma.; and Carrera-Sabaté, Josefina. "Castilian Spanish." Journal of the International Phonetic Association 33, 2 (2003): 257, doi: 10.1017/S0025100303001373 (อังกฤษ)
- ↑ 71.0 71.1 Hualde, José Ignacio; Olarrea, Antxon; y Escobar, Anna María. Introducción a la lingüística hispánica. Cambridge: Cambridge University Press, 2001, pág. 298. (สเปน)
- ↑ Hualde, José Ignacio; Olarrea, Antxon; y Escobar, Anna María. Introducción a la lingüística hispánica. Cambridge: Cambridge University Press, 2001, pág. 296. (สเปน)
- ↑ 73.0 73.1 Martínez-Celdrán, Eugenio; Fernández-Planas, Ana Ma.; and Carrera-Sabaté, Josefina. "Castilian Spanish." Journal of the International Phonetic Association 33, 2 (2003): 256, doi: 10.1017/S0025100303001373 (อังกฤษ)
- ↑ 74.0 74.1 Hualde, José Ignacio; Olarrea, Antxon; y Escobar, Anna María. Introducción a la lingüística hispánica. Cambridge: Cambridge University Press, 2001, pág. 89. (สเปน)
- ↑ Fougeron, Cecile, and Smith, Caroline L. "French." Journal of the International Phonetic Association 23, 2 (1993): 73.
- ↑ Rogers, Derek, and d'Arcangeli, Luciana. "Italian." Journal of the International Phonetic Association 34, 1 (2004): 119, doi: 10.1017/S0025100304001628 (อังกฤษ)
- ↑ 77.0 77.1 Hualde, José Ignacio; Olarrea, Antxon; y Escobar, Anna María. Introducción a la lingüística hispánica. Cambridge: Cambridge University Press, 2001, pág. 81.(สเปน)
- ↑ Hualde, José Ignacio; Olarrea, Antxon; y Escobar, Anna María. Introducción a la lingüística hispánica. Cambridge: Cambridge University Press, 2001, pág. 75.(สเปน)
- ↑ Martínez-Celdrán, Eugenio; Fernández-Planas, Ana Ma.; and Carrera-Sabaté, Josefina. "Castilian Spanish." Journal of the International Phonetic Association 33, 2 (2003): 255, doi: 10.1017/S0025100303001373 (อังกฤษ)
- ↑ Diccionario panhispánico de dudas. acento. (สเปน)
- ↑ 81.0 81.1 Kattán-Ibarra, Juan, and Pountain, Christopher J. Modern Spanish Grammar: A Practical Guide. 2nd ed. London: Routledge, 2003, p.7. (อังกฤษ)
- ↑ 82.0 82.1 Diccionario panhispánico de dudas. tilde 2. (สเปน)
- ↑ Kattán-Ibarra, Juan, and Pountain, Christopher J. Modern Spanish Grammar: A Practical Guide. 2nd ed. London: Routledge, 2003, p.8. (อังกฤษ)
- ↑ Colegio de México, 2006, Diccionario del español usual en México, ISBN 968-12-0704-1 (สเปน)
- ↑ Diccionario panhispánico de dudas. usted. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. aceite. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. aceituna. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. alcalde. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. alcohol. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. aldea. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. almohada. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. alquiler. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. asesino. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. azafrán. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. espinaca. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. hasta. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. jazmín. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. marfil. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. rehén. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. zanahoria. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. izquierdo. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. nava. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. conejo. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. brotar. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. ganar. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. ganso. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. ropa. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. yelmo. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. espía. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. guerra. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. batata. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. papa. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. yuca. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. cacique. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. huracán. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. cacao. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. pantalón. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. puré. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. tisú. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. menú. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. maniquí. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. restorán. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. buró. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. carné. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. gala. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. bricolaje. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. batuta. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. soprano. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. piano. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. pianoforte. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. marketing. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. quasar. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. Internet. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. software. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. rock. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. reggae. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. set. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. penalti. (สเปน)
- ↑ 139.0 139.1 Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. fútbol. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. windsurf. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. zum. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. correo. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. escáner. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. mercadotecnia. (สเปน)
- ↑ Academia Colombiana de la Lengua, por Cleóbulo Sabogal Cárdenas. Extranjerismos en el Diccionario de la Lengua Española. (สเปน)
- ↑ Academia Dominicana de la Lengua. JUGAR - (HACER) SEGUIMIENTO - ROL. (สเปน)
- ↑ 147.0 147.1 Nibert, Holly et al. "Área 1: Fonología y fonética." in Spanish Dialectology. (สเปน)
- ↑ 148.0 148.1 Nibert, Holly et al. "Área 5: Fonología y fonética." in Spanish Dialectology. (สเปน)
- ↑ 149.0 149.1 149.2 Nibert, Holly et al. "Área 4: Fonología y fonética." in Spanish Dialectology. (สเปน)
- ↑ Nibert, Holly et al. "Área 6: Fonología y fonética." in Spanish Dialectology. (สเปน)
- ↑ Nibert, Holly et al. "Área 3: Fonología y fonética." in Spanish Dialectology. (สเปน)
- ↑ Nibert, Holly et al. "Área 2: Fonología y fonética." in Spanish Dialectology. (สเปน)
- ↑ Lloret, Maria-Rosa (2007), "On the Nature of Vowel Harmony: Spreading with a Purpose", in Bisetto, Antonietta; Barbieri, Francesco, Proceedings of the XXXIII Incontro di Grammatica Generativa, pp. 24-25.
- ↑ Miranda, Stewart (1999). The Spanish Language Today. Routledge. p. 125. ISBN 041514258X. (อังกฤษ)
- ↑ Lipski, John M. (1994). Latin American Spanish. Essex, England: Longman Group Limited, 201-202. (อังกฤษ)
- ↑ 156.0 156.1 156.2 156.3 156.4 156.5 Diccionario panhispánico de dudas. voseo.
- ↑ WordReference.com. manteca. (อังกฤษ)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española del Real Academia Española. palta. (สเปน)
- ↑ WordReference.com. damasco. (อังกฤษ)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. coger. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. concha. (สเปน)
- ↑ WordReference.com. taco. (อังกฤษ)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. pinche. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. coche. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. carro. (สเปน)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. papaya. (สเปน)
- ↑ 3 Guys From Miami. Fruta Bomba (อังกฤษ)
- ↑ Urban Diccionary. carnal. (อังกฤษ)
- ↑ Diccionario de la Lengua Española de la Real Academia Española. cuate. (สเปน)
- ↑ Diccionario Tico, asi hablamos en Costa Rica. mae. (สเปน)
- ↑ Diccionario de Modismos Chilenos. huevón. (สเปน)
- ↑ 172.0 172.1 Fletcher Pratt, Secret and Urgent: the Story of Codes and Ciphers Blue Ribbon Books, 1939, pp. 254-255. (อังกฤษ)
แหล่งข้อมูลอื่น
- ข้อมูลภาษาสเปนจาก Ethnologue (อังกฤษ)
- พจนานุกรมของราชบัณฑิตยสถานสเปน (สเปน)
- Spanish phrasebook ใน WikiTravel (อังกฤษ)
- หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ภาษาสเปน เรื่อง A First Spanish Reader (สเปน)
- เว็บไซต์ทางการของ ¡Colorin Colorado! (อังกฤษ) (สเปน)
- Spanish – BBC Languages (อังกฤษ)
- ฝึกภาษาสเปน (อังกฤษ)
- เรียนภาษาสเปน (อังกฤษ)
- ช่วยเหลือเกี่ยวกับภาษาสเปน (อังกฤษ)
- เรียนไวยากรณ์สเปนออนไลน์ (อังกฤษ)
- Ill-formatted infobox-language images
- ภาษาสเปน
- ภาษาในประเทศกัวเตมาลา
- ภาษาในประเทศคอสตาริกา
- ภาษาในประเทศโคลอมเบีย
- ภาษาในประเทศชิลี
- ภาษาในประเทศนิการากัว
- ภาษาในประเทศเบลีซ
- ภาษาในประเทศโบลิเวีย
- ภาษาในประเทศปานามา
- ภาษาในประเทศปารากวัย
- ภาษาในประเทศเปรู
- ภาษาในประเทศฟิลิปปินส์
- ภาษาในประเทศเม็กซิโก
- ภาษาในประเทศโมร็อกโก
- ภาษาในประเทศเวเนซุเอลา
- ภาษาในประเทศสเปน
- ภาษาในประเทศสหรัฐอเมริกา
- ภาษาในสาธารณรัฐโดมินิกัน
- ภาษาในประเทศอันดอร์รา
- ภาษาในประเทศอาร์เจนตินา
- ภาษาในประเทศอิเควทอเรียลกินี
- ภาษาในประเทศอุรุกวัย
- ภาษาในประเทศเอกวาดอร์
- ภาษาในประเทศเอลซัลวาดอร์
- ภาษาในประเทศฮอนดูรัส