ผลต่างระหว่างรุ่นของ "อ็องตวน อ็องรี แบ็กแรล"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
Potapt (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 1: บรรทัด 1:
<!--ชื่อตัวของเขาอยู่ที่ชื่อกลาง และวิกิพีเดียอังกฤษใช้ชื่อนี้จึงนำมาเป็นชื่อบทความ-->
<!--ชื่อตัวของเขาอยู่ที่ชื่อกลาง และวิกิพีเดียอังกฤษใช้ชื่อนี้จึงนำมาเป็นชื่อบทความ-->
[[ไฟล์:Henri Becquerel.jpg|thumb|right|250px|อ็องรี เบ็กแรล นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศส]]
[[ไฟล์:Henri Becquerel.jpg|thumb|right|250px|อ็องรี แบ็กแรล นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศส]]


'''อ็องตวน อ็องรี เบ็กแรล''' ({{lang-fr|Antoine Henri Becquerel}}, {{IPA|/bekʀɛl/}}<!--จากพจนานุกรม Le Robert-->; [[15 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2395]] – [[25 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2451]]) [[นักฟิสิกส์]][[ชาวฝรั่งเศส]] เกิดในตระกูลที่มีนักวิทยาศาสตร์ถึง 4 รุ่น ตั้งแต่รุ่นปู่จนกระทั่งรุ่นลูก เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี พ.ศ. 2446 ร่วมกับ[[ปีแยร์ กูรี]] และ[[มารี กูรี]] หลังจากที่เขาถึงแก่กรรม ชื่อสกุลของเขาได้กลายเป็นหน่วยวัดกัมมันตภาพ ในระบบหน่วยเอสไอ คือ [[เบ็กเคอเรล|เบ็กแรล]] เขียนด้วยสัญลักษณ์ Bq
'''อ็องตวน อ็องรี แบ็กแรล''' ({{lang-fr|Antoine Henri Becquerel}}, {{IPA|/bɛkʀɛl/}}; [[15 ธันวาคม]] [[พ.ศ. 2395]] – [[25 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2451]]) [[นักฟิสิกส์]][[ชาวฝรั่งเศส]] เกิดในตระกูลที่มีนักวิทยาศาสตร์ถึง 4 รุ่น ตั้งแต่รุ่นปู่จนกระทั่งรุ่นลูก เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี พ.ศ. 2446 ร่วมกับ[[ปีแยร์ กูรี]] และ[[มารี กูรี]] หลังจากที่เขาถึงแก่กรรม ชื่อสกุลของเขาได้กลายเป็นหน่วยวัดกัมมันตภาพ ในระบบหน่วยเอสไอ คือ [[เบ็กเคอเรล|แบ็กแรล]] เขียนด้วยสัญลักษณ์ Bq


== ชีวิตส่วนตัว ==
== ชีวิตส่วนตัว ==
อ็องรี เบ็กแรล เกิดที่กรุงปารีส โดยเป็นบุตรของอาแล็กซ็องดร์-แอดมง เบ็กแรล (Alexandre-Edmond Becquerel) ซึ่งเป็นนักฟิสิกส์ที่ศึกษาเกี่ยวกับทัศนศาสตร์ ไฟฟ้า และแม่เหล็ก อ็องรีได้เข้าเรียนในโรงเรียน ''เอกอลปอลีแต็กนิก'' (École Polytechnique) ซึ่งเป็นโรงเรียนช่างฝีมือทหารของฝรั่งเศส และต่อมาก็เข้าเรียนใน '' เอกอลเดปงเซโชเซ'' (École des Ponts et Chaussées) ซึ่งเป็นโรงเรียนที่สอนวิชาวิศวกรรมศาสตร์ที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง ในด้านชีวิตครอบครัว อ็องรีสมรสกับหลุยส์ เดซีเร ลอรีเยอ (Louise Désirée Lorieux) มีบุตร 1 คน คือ ฌ็อง เบ็กแรล (Jean Becquerel) ซึ่งก็ได้เป็นนักฟิสิกส์เช่นเดียวกับอ็องรี ต่อมา ในปี พ.ศ. 2451 อ็องรีได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งฝรั่งเศส (Académie des Sciences) และถึงแก่กรรมที่เลอครัวซี (Le Croisic) ใน[[แคว้นเบรอตาญ]] ในปีเดียวกันกับที่ได้รับเลือก
อ็องรี แบ็กแรล เกิดที่กรุงปารีส โดยเป็นบุตรของอาแล็กซ็องดร์-แอดมง แบ็กแรล (Alexandre-Edmond Becquerel) ซึ่งเป็นนักฟิสิกส์ที่ศึกษาเกี่ยวกับทัศนศาสตร์ ไฟฟ้า และแม่เหล็ก อ็องรีได้เข้าเรียนในโรงเรียน ''เอกอลปอลีแต็กนิก'' (École Polytechnique) ซึ่งเป็นโรงเรียนช่างฝีมือทหารของฝรั่งเศส และต่อมาก็เข้าเรียนใน '' เอกอลเดปงเซโชเซ'' (École des Ponts et Chaussées) ซึ่งเป็นโรงเรียนที่สอนวิชาวิศวกรรมศาสตร์ที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง ในด้านชีวิตครอบครัว อ็องรีสมรสกับหลุยส์ เดซีเร ลอรีเยอ (Louise Désirée Lorieux) มีบุตร 1 คน คือ ฌ็อง แบ็กแรล (Jean Becquerel) ซึ่งก็ได้เป็นนักฟิสิกส์เช่นเดียวกับอ็องรี ต่อมา ในปี พ.ศ. 2451 อ็องรีได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งฝรั่งเศส (Académie des Sciences) และถึงแก่กรรมที่เลอครัวซี (Le Croisic) ใน[[แคว้นเบรอตาญ]] ในปีเดียวกันกับที่ได้รับเลือก


== ชีวิตการงาน และงานวิจัยที่สำคัญ ==
== ชีวิตการงาน และงานวิจัยที่สำคัญ ==
[[ไฟล์:Becquerel plate.jpg|thumb|left||ภาพหมอกจากแผ่นฟิล์มที่อ็องรี เบ็กแรลได้ทดลองนำกัมมันตภาพรังสีมาวางบนแผ่นฟิล์มที่ปกปิดอย่างดี แต่ก็ไม่อาจต้านทานการทะลุทะลวงได้]]
[[ไฟล์:Becquerel plate.jpg|thumb|left||ภาพหมอกจากแผ่นฟิล์มที่อ็องรี แบ็กแรลได้ทดลองนำกัมมันตภาพรังสีมาวางบนแผ่นฟิล์มที่ปกปิดอย่างดี แต่ก็ไม่อาจต้านทานการทะลุทะลวงได้]]
ในปี พ.ศ. 2435 อ็องรีได้เป็นคนที่สามในตระกูลเบ็กแรล ที่ได้เป็นภัณฑารักษ์ส่วนฟิสิกส์ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติฝรั่งเศส (Muséum National d'Histoire Naturelle) อีกสองปีให้หลัง เขาได้รับตำแหน่งหัวหน้านายช่างประจำกรมการสะพานและทางหลวง
ในปี พ.ศ. 2435 อ็องรีได้เป็นคนที่สามในตระกูลแบ็กแรล ที่ได้เป็นภัณฑารักษ์ส่วนฟิสิกส์ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติฝรั่งเศส (Muséum National d'Histoire Naturelle) อีกสองปีให้หลัง เขาได้รับตำแหน่งหัวหน้านายช่างประจำกรมการสะพานและทางหลวง


นับจากที่ได้รับตำแหน่งหัวหน้านายช่าง 2 ปี อ็องรีได้ศึกษาการเรืองแสงอย่างช้า (phosphorescence) ในเกลือ[[ยูเรเนียม]] จนเขาได้พบ[[กัมมันตรังสี]]เข้าโดยบังเอิญ โดยเขาได้วางโพแทสเซียมยูเรนิลซัลเฟต ซึ่งตกทอดมาจากพ่อของเขา ไว้บนฟิล์มถ่ายรูปและวัสดุดำ จากนั้นนำไปตั้งไว้กลางแดด โดยเขาได้อธิบาย ณ ที่ประชุมวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งฝรั่งเศส มีใจความดังนี้
นับจากที่ได้รับตำแหน่งหัวหน้านายช่าง 2 ปี อ็องรีได้ศึกษาการเรืองแสงอย่างช้า (phosphorescence) ในเกลือ[[ยูเรเนียม]] จนเขาได้พบ[[กัมมันตรังสี]]เข้าโดยบังเอิญ โดยเขาได้วางโพแทสเซียมยูเรนิลซัลเฟต ซึ่งตกทอดมาจากพ่อของเขา ไว้บนฟิล์มถ่ายรูปและวัสดุดำ จากนั้นนำไปตั้งไว้กลางแดด โดยเขาได้อธิบาย ณ ที่ประชุมวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งฝรั่งเศส มีใจความดังนี้
บรรทัด 21: บรรทัด 21:


== แหล่งข้อมูลอื่น ==
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
* [http://www.nobelprize.org/physics/laureates/1903/becquerel-bio.html ประวัติอ็องรี เบ็กแรล จากเว็บรางวัลโนเบล]
* [http://www.nobelprize.org/physics/laureates/1903/becquerel-bio.html ประวัติอ็องรี แบ็กแรล จากเว็บรางวัลโนเบล]
* [http://www1.bipm.org/en/si/history-si/radioactivity/becquerel.html ประวัติย่อ] และการใช้ระบบหน่วย[[เอสไอ]] (เบ็กแรล)
* [http://www1.bipm.org/en/si/history-si/radioactivity/becquerel.html ประวัติย่อ] และการใช้ระบบหน่วย[[เอสไอ]] (แบ็กแรล)
* [http://alsos.wlu.edu/qsearch.aspx?browse=people/Becquerel,+Henri Annotated bibliography for Henri Becquerel from the Alsos Digital Library for Nuclear Issues]
* [http://alsos.wlu.edu/qsearch.aspx?browse=people/Becquerel,+Henri Annotated bibliography for Henri Becquerel from the Alsos Digital Library for Nuclear Issues]


{{รายนามผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์}}
{{รายนามผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์}}
{{เรียงลำดับ|อ็องรี บเบ็กแรล}}
{{เรียงลำดับ|อ็องรี บแบ็กแรล}}


[[หมวดหมู่:นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศส]]
[[หมวดหมู่:นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศส]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:52, 10 ตุลาคม 2555

อ็องรี แบ็กแรล นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศส

อ็องตวน อ็องรี แบ็กแรล (ฝรั่งเศส: Antoine Henri Becquerel, /bɛkʀɛl/; 15 ธันวาคม พ.ศ. 239525 สิงหาคม พ.ศ. 2451) นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศส เกิดในตระกูลที่มีนักวิทยาศาสตร์ถึง 4 รุ่น ตั้งแต่รุ่นปู่จนกระทั่งรุ่นลูก เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ในปี พ.ศ. 2446 ร่วมกับปีแยร์ กูรี และมารี กูรี หลังจากที่เขาถึงแก่กรรม ชื่อสกุลของเขาได้กลายเป็นหน่วยวัดกัมมันตภาพ ในระบบหน่วยเอสไอ คือ แบ็กแรล เขียนด้วยสัญลักษณ์ Bq

ชีวิตส่วนตัว

อ็องรี แบ็กแรล เกิดที่กรุงปารีส โดยเป็นบุตรของอาแล็กซ็องดร์-แอดมง แบ็กแรล (Alexandre-Edmond Becquerel) ซึ่งเป็นนักฟิสิกส์ที่ศึกษาเกี่ยวกับทัศนศาสตร์ ไฟฟ้า และแม่เหล็ก อ็องรีได้เข้าเรียนในโรงเรียน เอกอลปอลีแต็กนิก (École Polytechnique) ซึ่งเป็นโรงเรียนช่างฝีมือทหารของฝรั่งเศส และต่อมาก็เข้าเรียนใน เอกอลเดปงเซโชเซ (École des Ponts et Chaussées) ซึ่งเป็นโรงเรียนที่สอนวิชาวิศวกรรมศาสตร์ที่เก่าแก่แห่งหนึ่ง ในด้านชีวิตครอบครัว อ็องรีสมรสกับหลุยส์ เดซีเร ลอรีเยอ (Louise Désirée Lorieux) มีบุตร 1 คน คือ ฌ็อง แบ็กแรล (Jean Becquerel) ซึ่งก็ได้เป็นนักฟิสิกส์เช่นเดียวกับอ็องรี ต่อมา ในปี พ.ศ. 2451 อ็องรีได้รับเลือกให้เป็นเลขาธิการวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งฝรั่งเศส (Académie des Sciences) และถึงแก่กรรมที่เลอครัวซี (Le Croisic) ในแคว้นเบรอตาญ ในปีเดียวกันกับที่ได้รับเลือก

ชีวิตการงาน และงานวิจัยที่สำคัญ

ภาพหมอกจากแผ่นฟิล์มที่อ็องรี แบ็กแรลได้ทดลองนำกัมมันตภาพรังสีมาวางบนแผ่นฟิล์มที่ปกปิดอย่างดี แต่ก็ไม่อาจต้านทานการทะลุทะลวงได้

ในปี พ.ศ. 2435 อ็องรีได้เป็นคนที่สามในตระกูลแบ็กแรล ที่ได้เป็นภัณฑารักษ์ส่วนฟิสิกส์ที่พิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติฝรั่งเศส (Muséum National d'Histoire Naturelle) อีกสองปีให้หลัง เขาได้รับตำแหน่งหัวหน้านายช่างประจำกรมการสะพานและทางหลวง

นับจากที่ได้รับตำแหน่งหัวหน้านายช่าง 2 ปี อ็องรีได้ศึกษาการเรืองแสงอย่างช้า (phosphorescence) ในเกลือยูเรเนียม จนเขาได้พบกัมมันตรังสีเข้าโดยบังเอิญ โดยเขาได้วางโพแทสเซียมยูเรนิลซัลเฟต ซึ่งตกทอดมาจากพ่อของเขา ไว้บนฟิล์มถ่ายรูปและวัสดุดำ จากนั้นนำไปตั้งไว้กลางแดด โดยเขาได้อธิบาย ณ ที่ประชุมวิทยาลัยวิทยาศาสตร์แห่งฝรั่งเศส มีใจความดังนี้

เมื่อหุ้มฟิล์มถ่ายรูปลูมีแยร์ด้วยกระดาษดำหนา ๆ ซึ่งมีสารพวกโบรไมด์คั่นอยู่ ฟิล์มนั้นจะไม่มีลายหมอก แม้ตั้งไว้กลางแดดจ้า เมื่อวางสารนั้น (โพแทสเซียมยูเรนิลซัลเฟต) บนกระดาษซึ่งทับห่อนั้น จากนั้นนำไปวางไว้กลางแดด แล้วเอาฟิล์มนั้นมาล้าง จะพบว่ามีลายหมอกเป็นสีดำบนภาพเนกะทีฟ (ภาพที่ยังไม่ได้อัด) เมื่อใดที่เอาวัตถุอื่นใดปกปิดสารนั้น แล้วทดลอง ก็ปรากฏรูปวัตถุนั้น ๆ บนฟิล์ม...ดังนั้นจึงสรุปว่า สารนั้นมีกัมมันตรังสีจริง รังสีนั้นผ่านทะลุกระดาษหนา ๆ ได้ และรีดิวซ์เงินได้[1]

จากการค้นพบนี้เอง ทำให้อ็องรีได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์ร่วมกับสองสามีภรรยาตระกูลกูรี ในปี พ.ศ. 2446

อ้างอิง

  1. Comptes Rendus 122, 420 (1896), แปลโดย Carmen Giunta. เข้าถึงเมื่อวันที่ 13 มีนาคม พ.ศ. 2550

แหล่งข้อมูลอื่น