ผลต่างระหว่างรุ่นของ "บีตรูต"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Octahedron80 (คุย | ส่วนร่วม)
บุษบง นราแก้ว (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 34: บรรทัด 34:
<ref>[http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURONWIzVXdNakkzTURVMU1nPT0=&sectionid=Y25Wd1lXbHRiMlJs&day=TWpBd09TMHdOUzB5Tnc9PQ==].ข่าวสดออนไลน์</ref>
<ref>[http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURONWIzVXdNakkzTURVMU1nPT0=&sectionid=Y25Wd1lXbHRiMlJs&day=TWpBd09TMHdOUzB5Tnc9PQ==].ข่าวสดออนไลน์</ref>


ในหัวบีตรูต มีสารสีแดง เรียกว่า [[เบทานิน]] (betanin) เป็นพวก[[กรดอะมิโน]] ช่วยยับยั้งการเกิดมะเร็ง ลดการเติบโตของเนื้องอก ทำให้เลือดลมและการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น และสารสีม่วง เรียกว่า [[แอนโทไซยานิน]] (anthocyanin) ในสภาพเป็นกลาง มีสีม่วง pH 7-8 สภาพเป็นเบส มีสีแดง pH > 11 และสภาพเป็นกรด มีสีน้ำเงิน pH < 3 ซึ่งแอนโทไซยานิน เป็น[[รงควัตถุ]]ที่ให้สีแดง ม่วง และน้ำเงิน มีสมบัติเป็น[[สารต้านอนุมูลอิสระ]] ช่วยลบล้างสารที่ก่อมะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงของ[[โรคหัวใจ]]และลดอาการอัมพาต <ref>[http://herbal.muasua.com/.html] น้ำสมุนไพร</ref>
ในหัวบีตรูต มีสารสีแดง เรียกว่า เบทานิน ([[:en:betaninlbetanin]]) เป็นพวก[[กรดอะมิโน]] ช่วยยับยั้งการเกิดมะเร็ง ลดการเติบโตของเนื้องอก ทำให้เลือดลมและการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น และสารสีม่วง เรียกว่า แอนโทไซยานิน ([[:en:anthocyaninlanthocyanin]]) ในสภาพเป็นกลาง มีสีม่วง pH 7-8 สภาพเป็นเบส มีสีแดง pH > 11 และสภาพเป็นกรด มีสีน้ำเงิน pH < 3 ซึ่งแอนโทไซยานิน เป็น[[รงควัตถุ]]ที่ให้สีแดง ม่วง และน้ำเงิน มีสมบัติเป็น[[สารต้านอนุมูลอิสระ]] ช่วยลบล้างสารที่ก่อมะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงของ[[โรคหัวใจ]]และลดอาการอัมพาต <ref>[http://herbal.muasua.com/.html] น้ำสมุนไพร</ref>


== งานวิจัย ==
== งานวิจัย ==
บรรทัด 49: บรรทัด 49:


== แหล่งจำหน่าย ==
== แหล่งจำหน่าย ==
มีขายทางภาคเหนือของไทย และขายทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า [[ตลาด อ.ต.ก.]] [[ตลาดสี่มุมเมือง]] [[ตลาดไท]] ราคาประมาณ 50-70 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม
มีขายทางภาคเหนือของไทย และขายทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า ,ตลาด อ.ต.ก., ตลาดสี่มุมเมือง, ตลาดไท ราคาประมาณ 50-70 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม
<ref> [http://vegetableinthailand.igetweb.com/index.php?mo=3&art=133327].ผลไม้ บีตรูตต้านมะเร็ง </ref>
<ref> [http://vegetableinthailand.igetweb.com/index.php?mo=3&art=133327].ผลไม้ บีตรูตต้านมะเร็ง </ref>



รุ่นแก้ไขเมื่อ 11:17, 16 กันยายน 2555

บีตรูต
บีตรูต (Beta vulgaris L.)
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Plantae
ไฟลัม: -
อันดับ: Caryophyllales
วงศ์: Chenopodiaceae
สกุล: Beta
สปีชีส์: B.  Vulgaris
ชื่อทวินาม
Beta vulgaris
(L.)

บีตรูต หรือชื่ออื่นเช่น ผักกาดฝรั่ง ผักกาดแดง เป็นหัวพืชหรือรากที่สะสมอาหารที่อยู่ใต้ดิน เป็นพืชเมืองหนาวและเป็นผักเพื่อสุขภาพ มีวิตามินและสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) หลายชนิด[1]

ลักษณะทั่วไป

หัวบีตรูต
ใบบีตรูต

ราก หรือเรียกว่า หัวใต้ดิน เป็นทรงกลมป้อม มีเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-5 ซม. ใช้รากสะสมอาหาร และมีเนื้อด้านในอวบน้ำ สีแดงเลือดหมู สีม่วงแดง สีเหลือง ใบ ใบเดี่ยวเรียงตัวสลับกัน รูปหัวใจรี มีก้านยาว ดอก ดอกเดี่ยว ออกเป็นช่อสีเขียวอ่อน ขนาดเล็ก ผล ผลขนาดเล็ก

ถิ่นกำเนิด

ในแถบเมดิเตอร์เรเนียน และแถบยุโรป ในประเทศไทย สามารถปลูกได้ทางภาคเหนือ [2]

การเพาะปลูก

บีตรูตต้นอ่อนในไร่

สามารถปลูกได้ตลอดปีในพื้นที่สูงกว่า 1,000 เมตร ควรเป็นดินร่วนปนทราย มีความเป็นกรด-ด่าง ประมาณ 5.5-7.0 มีการระบายน้ำกับอากาศที่ดี โดยอุณหภูมิของดินต่อการงอกเมล็ดประมาณ 20 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่อการเจริญเติบโตประมาณ 15-22 องศาเซลเซียส สามารถเก็บผลผลิตทั้งปีและมีมากในช่วงเดือนธันวาคม ถึง เดือนมีนาคม

คุณค่าทางโภชนาการ

ในรากของบีตรูต มีวิตามินเอ วิตามินบีรวม ซึ่งอุดมไปด้วยโฟเลตเป็นสารประกอบจากกรดโฟลิก เป็นวิตามินบีชนิดหนึ่งทำงานร่วมกับวิตามินบี 12 มีโพแทสเซียม และวิตามินซีสูง ในยอดใบที่มีสีเขียวเข้ม มีสารเบต้าแคโรทีน ซึ่งมีแคลเซียม เหล็ก และโพแทสเซียมกับวิตามินเอสูง ในบีตรูตสุก 100 กรัม ให้พลังงาน 27 กิโลแคลอรี่ ประกอบด้วย โซเดียม 241 มิลลิกรัม คาร์โบไฮเดรต 5.5 กรัม เส้นใย 2.9 กรัม น้ำตาล 0.6 กรัม โปรตีน 2.6 กรัม และโพแทสเซียม 909 มิลลิกรัม [3]

ในหัวบีตรูต มีสารสีแดง เรียกว่า เบทานิน (en:betaninlbetanin) เป็นพวกกรดอะมิโน ช่วยยับยั้งการเกิดมะเร็ง ลดการเติบโตของเนื้องอก ทำให้เลือดลมและการไหลเวียนโลหิตดีขึ้น และสารสีม่วง เรียกว่า แอนโทไซยานิน (en:anthocyaninlanthocyanin) ในสภาพเป็นกลาง มีสีม่วง pH 7-8 สภาพเป็นเบส มีสีแดง pH > 11 และสภาพเป็นกรด มีสีน้ำเงิน pH < 3 ซึ่งแอนโทไซยานิน เป็นรงควัตถุที่ให้สีแดง ม่วง และน้ำเงิน มีสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลบล้างสารที่ก่อมะเร็ง ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจและลดอาการอัมพาต [4]

งานวิจัย

รายงานจากบีบีซีอ้างผลการศึกษาทีมนักวิจัยมหาวิทยาลัยเอ็กซิเตอร์ในอังกฤษพบว่าการดื่มน้ำ ′บีตรูต′เป็นประจำทุกวันจะเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับร่างกาย เกิดขึ้นจากไนเตรตในบีตรูตทำหน้าที่ช่วยการดูดซับออกซิเจนในร่างกาย และลดอาการเหนื่อยเพลียจากการออกกำลังกายลง และมีผลช่วยให้นักกีฬาประเภทที่ต้องใช้ความอดทนและเวลานานในการเล่น เช่น วิ่งระยะไกล หรือปั่นจักรยาน มีความอึด อดทน และความแข็งแกร่งมากขึ้น ศ.แอนดี้ โจนส์ กล่าว [5]

สรรพคุณทางยา

การคั้นน้ำบีตรูต ดื่มในช่วง 06.00-08.00 น. ก่อนรับประทานอาหารช่วยให้การไหลเวียนโลหิตไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายดี เป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ และช่วยให้เจริญอาหาร ดื่มก่อนนอนในช่วง 21.00-22.00 น.ช่วยบำรุงไต ถุงน้ำดี ล้างสารพิษ แก้เจ็บคอ ขับเสมหะ แก้ไอ ลดอาการบวมได้ดี [6]

ประโยชน์อื่นๆ

น้ำบีตรูต

สามารถใช้เป็นสีธรรมชาติผสมอาหาร นำมาดองเป็นน้ำส้มสายชู งานแกะสลักตบแต่งอาหาร การปรุงอาหาร เช่น สาคูไส้บีตรูต สลัดน้ำบีตรูต พาสต้า ทำขนมบีรูท พุดดิ้งนมสดบีตรูต เยลลี่บีตรูต ทำเครื่องดื่มแบบสมูทตี้ หรือปั่นรวมกับผลไม้ชนิดอื่น เช่น องุ่น แครอท เสาวรส เมลอน แตงโม แอปเปิ้ล อื่นๆ [7]

แหล่งจำหน่าย

มีขายทางภาคเหนือของไทย และขายทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า ,ตลาด อ.ต.ก., ตลาดสี่มุมเมือง, ตลาดไท ราคาประมาณ 50-70 บาท ต่อ 1 กิโลกรัม [8]

อ้างอิง

  1. [1].โครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืช
  2. [2].บริษัท เกียรติเฟื่องกิจ เกษตรล้านนาจำกัด
  3. [3].ข่าวสดออนไลน์
  4. [4] น้ำสมุนไพร
  5. [5].บีตรูตช่วยอึด
  6. [6].บีตรูต..น้ำผักรักษามะเร็ง
  7. [7].บ้านสวนพอเพียง
  8. [8].ผลไม้ บีตรูตต้านมะเร็ง

แหล่งข้อมูลอื่น

  • [9].เกษตรพอเพียง.คอม
  • [10].ไร่ยิ้มเขียว เกษตรอินทรีย์