ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประสงค์ หวลประไพ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Lsd.architecture (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Lsd.architecture (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 24: บรรทัด 24:
'''พลเอกประสงค์ หวลประไพ''' เกิดวันที่ [[11 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2482]] เป็นบุตรของ นายจำเนียร นางหลุย หวลประไพ ที่อยู่เติบโตในชีวิตราชการในเหล่าสารวัตรทหาร(สห.)และใน[[กองทัพภาคที่ 2]] มาโดยตลอด มีบทบาทสำคัญในการจัดตั้งหน่วยงานทหารเพื่อเป็นกำลังหลักในการปราบปรามการทุจจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ และปราบปรามผู้มีอิทธิพลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งยังเป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งกองปฏิบัติการทางกฎหมาย โดยบูรณาการความร่วมมือกับตำรวจกองปราบปรามในขณะนั้น ไปจนถึงการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์โดยใช้นโยบายการเมืองนำการทหาร ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 66/23[http://www.dtic.mil/cgi-bin/GetTRDoc?Location=U2&doc=GetTRDoc.pdf&AD=ADA351333]
'''พลเอกประสงค์ หวลประไพ''' เกิดวันที่ [[11 พฤษภาคม]] [[พ.ศ. 2482]] เป็นบุตรของ นายจำเนียร นางหลุย หวลประไพ ที่อยู่เติบโตในชีวิตราชการในเหล่าสารวัตรทหาร(สห.)และใน[[กองทัพภาคที่ 2]] มาโดยตลอด มีบทบาทสำคัญในการจัดตั้งหน่วยงานทหารเพื่อเป็นกำลังหลักในการปราบปรามการทุจจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ และปราบปรามผู้มีอิทธิพลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งยังเป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งกองปฏิบัติการทางกฎหมาย โดยบูรณาการความร่วมมือกับตำรวจกองปราบปรามในขณะนั้น ไปจนถึงการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์โดยใช้นโยบายการเมืองนำการทหาร ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 66/23[http://www.dtic.mil/cgi-bin/GetTRDoc?Location=U2&doc=GetTRDoc.pdf&AD=ADA351333]


ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นราชองครักษ์เวร เมื่อ 28 มกราคม 2530[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2530/D/102/2.PDF] จนกระทั่งปลดเกษียณ ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นนายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2540 ถึงจะเป็น [[จปร.10]] รุ่นเดียวกับ [[ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา|พลเอกธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา]], [[ปรีชา โรจนเสน|พลเอกปรีชา โรจนเสน]] แต่ก็มีความสนิทสนมกับ[[กลุ่มยังเติร์ก]][[จปร.7]] อาทิ [[มนูญกฤต รูปขจร|พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร]] [[พัลลภ ปิ่นมณี|พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี]] [[ประจักษ์ สว่างจิตร|พ.อ.(พิเศษ) ประจักษ์ สว่างจิตร]] โดยหลังเกษียณราชการ พล.อ.ประสงค์ หวลประไพ ยังได้เคยช่วยปฏิบัติราชการเป็นหัวหน้าสำนักงานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของ[[สนั่น ขจรประศาสน์|พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์]] ในสมัยที่เป็นรัฐมนตรีว่าการ[[กระทรวงมหาดไทย]]อีกด้วย
ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นราชองครักษ์เวร เมื่อ 28 มกราคม 2530[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2530/D/102/2.PDF] จนกระทั่งปลดเกษียณ ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นนายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2540 ถึงจะเป็น [[จปร.10]] รุ่นเดียวกับ [[ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา|พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา]], [[ปรีชา โรจนเสน|พล.อ.ปรีชา โรจนเสน]] แต่ก็มีความสนิทสนมกับกลุ่ม[[จปร.7]](กลุ่มยังเติร์ก) อาทิ [[มนูญกฤต รูปขจร|พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร]], [[พัลลภ ปิ่นมณี|พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี]], [[ประจักษ์ สว่างจิตร|พ.อ.(พิเศษ) ประจักษ์ สว่างจิตร]] โดยหลังเกษียณราชการ พล.อ.ประสงค์ หวลประไพ ยังได้เคยช่วยปฏิบัติราชการเป็นหัวหน้าสำนักงานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของ[[สนั่น ขจรประศาสน์|พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์]] ในสมัยที่เป็นรัฐมนตรีว่าการ[[กระทรวงมหาดไทย]]อีกด้วย


==ประวัติ==
==ประวัติ==
บรรทัด 57: บรรทัด 57:
** มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เป็นราชองครักษ์เวรสืบต่อไป ตั้งแต่ 28 เมษายน พ.ศ. 2536
** มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เป็นราชองครักษ์เวรสืบต่อไป ตั้งแต่ 28 เมษายน พ.ศ. 2536
** มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้เป็นนายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ตั้งแต่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2541
** มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้เป็นนายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ตั้งแต่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2541
** มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้เป็นพลเอก ตั้งแต่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2541[http://www.ratchakitcha.soc.go.th/DATA/PDF/2541/B/020/17.PDF]


==ชีวิตส่วนตัว==
==ชีวิตส่วนตัว==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 22:35, 6 กันยายน 2555

พลเอกประสงค์ หวลประไพ
เกิด11 พฤษภาคม พ.ศ. 2482
นครปฐม
สัญชาติไทย
มีชื่อเสียงจากอดีตผู้อำนวยการกองกิจการพลเรือนกองทัพภาคที่ 2[1]
12 ต.ค. พ.ศ. 2526 - 6 พ.ย. 2529
คู่สมรสผ่องศรี เศวตพันธุ์
บุพการีจำเนียร หวลประไพ
หลุย หวลประไพ

พลเอกประสงค์ หวลประไพ เกิดวันที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2482 เป็นบุตรของ นายจำเนียร นางหลุย หวลประไพ ที่อยู่เติบโตในชีวิตราชการในเหล่าสารวัตรทหาร(สห.)และในกองทัพภาคที่ 2 มาโดยตลอด มีบทบาทสำคัญในการจัดตั้งหน่วยงานทหารเพื่อเป็นกำลังหลักในการปราบปรามการทุจจริตและประพฤติมิชอบในวงราชการ และปราบปรามผู้มีอิทธิพลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งยังเป็นผู้ริเริ่มจัดตั้งกองปฏิบัติการทางกฎหมาย โดยบูรณาการความร่วมมือกับตำรวจกองปราบปรามในขณะนั้น ไปจนถึงการต่อสู้เพื่อเอาชนะคอมมิวนิสต์โดยใช้นโยบายการเมืองนำการทหาร ตามคำสั่งนายกรัฐมนตรีที่ 66/23[2]

ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็นราชองครักษ์เวร เมื่อ 28 มกราคม 2530[3] จนกระทั่งปลดเกษียณ ซึ่งต่อมาได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นนายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2540 ถึงจะเป็น จปร.10 รุ่นเดียวกับ พล.อ.ธรรมรักษ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา, พล.อ.ปรีชา โรจนเสน แต่ก็มีความสนิทสนมกับกลุ่มจปร.7(กลุ่มยังเติร์ก) อาทิ พล.ต.มนูญกฤต รูปขจร, พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี, พ.อ.(พิเศษ) ประจักษ์ สว่างจิตร โดยหลังเกษียณราชการ พล.อ.ประสงค์ หวลประไพ ยังได้เคยช่วยปฏิบัติราชการเป็นหัวหน้าสำนักงานที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ในสมัยที่เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยอีกด้วย

ประวัติ

  • การดำรงตำแหน่งในขณะที่รับราชการ
    • 25 ม.ค.06 เป็น ผู้บังคับหมวดทหารสารวัตร กองร้อยทหารสารวัตรที่ 4
    • 31 ก.ค.10 เป็น รองผู้บังคับกองร้อย โรงเรียนทหารสารวัตร กรมสารวัตรทหารบก
    • 30 มิ.ย.13 เป็น ครูโรงเรียนทหารสารวัตร กรมสารวัตรทหารบก
    • 3 ต.ค.14 เป็น นายทหารฝ่ายเสนาธิการ จังหวัดทหารบกอุดรธานี
    • 21 ก.ค.21 เป็น เสนาธิการจังหวัดทหารบกสุรินทร์
    • 28 ก.พ.23 เป็น รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกสุรินทร์
    • 3 มิ.ย.25 เป็น รองผู้บังคับการจังหวัดทหารบกขอนแก่น
    • 12 ต.ค.26 เป็น หัวหน้ากองกิจการพลเรือน กองทัพภาคที่ 2
    • 7 พ.ย.29 เป็น รองผู้บัญชาการโรงเรียนทหารสารวัตร กรมสารวัตรทหารบก
    • 1 ต.ค.35 เป็น ผู้ช่วยหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจำรองผู้บัญชาการทหารสูงสุด
    • 1 ต.ค.40 เป็น ผู้ช่วยหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการ ประจำปลัดกระทรวงกลาโหมและที่ปรึกษาพิเศษประจำกองบัญชาการทหารสูงสุด
  • การปฏิบัติหน้าที่และราชการพิเศษ
  • การรับราชการสนองพระเดชพระคุณ
    • มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เป็นราชองครักษ์พิเศษและราชองค์รักษ์เวรรับราชการสนองพระเดชพระคุณ ตั้งแต่ 28 เมษายน พ.ศ. 2530
    • มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้เป็นราชองครักษ์เวรสืบต่อไป ตั้งแต่ 28 เมษายน พ.ศ. 2536
    • มีพระราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้เป็นนายทหารพิเศษ ประจำกรมทหารราบที่ 21 รักษาพระองค์ ตั้งแต่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2541
    • มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แต่งตั้งให้เป็นพลเอก ตั้งแต่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2541[6]

ชีวิตส่วนตัว

  • งานถวายผ้าพระกฐิน ระหว่างวันที่17-18 ตุลาคม 2552

เครื่องราชอิสริยาภรณ์

    • เหรียญสหประชาชาติเกาหลี(United Nations Korea Medal) เมื่อ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2512
    • เหรียญชัยสมรภูมิเกาหลี เมื่อ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2512
    • เหรียญจักรมาลา เมื่อ พ.ศ. 2521
    • เหรียญพิทักษ์เสรีชน ชั้นที่ 2 ประเภทที่ 2 เมื่อ 31 มีนาคม พ.ศ. 2523
    • ประถมาภรณ์ช้างเผือก (ป.ช.) เมื่อ พ.ศ. 2535
    • มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.) เมื่อ พ.ศ. 2540
  • ประกาศเกียรติคุณจากหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

อ้างอิง