ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เซบาสเตียน"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
MerlIwBot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต เพิ่ม: scn:San Bastianu
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 6: บรรทัด 6:
| ขนาดภาพ = 250px
| ขนาดภาพ = 250px
| คำบรรยายภาพ =
| คำบรรยายภาพ =
| หัวข้อ = [[มรณสักขีในศาสนาคริสต์|มรณสักขี]]
| หัวข้อ = ผู้พลีชีพ
| วันเกิด = ไม่ทราบแน่นอน
| วันเกิด = ไม่ทราบแน่นอน
| เกิดที่ =
| เกิดที่ =
| วันเสียชีวิต = 20 มกราคม ค.ศ. 287
| วันเสียชีวิต = 20 มกราคม ค.ศ. 287
| เสียชีวิตที่ =
| เสียชีวิตที่ =
| นิกาย = [[นิกายโรมันคาทอลิก]]<br>
| นิกาย = [[โรมันคาทอลิก]]<br>
[[อีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์]]<br>
[[นิกายอีสเติร์นออร์โธด็อกซ์]]<br>
[[นิกายโอเรียนทัลออร์โธด็อกซ์]]
[[ออเรียนทัลออร์ทอดอกซ์]]
| วันประกาศ =
| วันประกาศ =
| ที่ประกาศ =
| ที่ประกาศ =
| ประกาศโดย =
| ประกาศโดย =
| วันสมโภช = 20 มกราคม (โรมันคาทอลิก)<br>18 ธันวาคม (อีสเติร์นออร์โธด็อกซ์)
| วันสมโภช = 20 มกราคม (โรมันคาทอลิก)<br>18 ธันวาคม (อีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์)
| สัญลักษณ์ = ลูกศร
| สัญลักษณ์ = ลูกศร
| ผู้พิทักษ์ =ทหาร, โรคติดต่อ, ลูกศร, นักกีฬา, วัยรุ่น
| ผู้พิทักษ์ =ทหาร, โรคติดต่อ, ลูกศร, นักกีฬา, วัยรุ่น
}}
}}


'''นักบุญเซบาสเตียน''' ([[ภาษาอังกฤษ]]: St. Sebastian) เสียชืวิตเมื่อวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 287 เป็น[[นักบุญ]]ใน[[คริสต์ศาสนา]]ผู้พลีชีพในสมัย[[จักรพรรดิไดโอคลีเชียน]] (Diocletian) แห่ง[[จักรวรรดิโรมัน]] รูปปั้นหรือรูปเขียนของนักบุญเซบาสเตียนจะเป็นรูปคนถูกมัดกับต้นไม้มีลูกศรปัก
'''นักบุญเซบาสเตียน''' ({{lang-en|St. Sebastian}}) เสียชืวิตเมื่อวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 287 เป็น[[นักบุญ]][[มรณสักขีในศาสนาคริสต์]]สมัย[[จักรพรรดิไดโอคลีเชียน]]แห่ง[[จักรวรรดิโรมัน]] รูปปั้นหรือรูปเขียนของนักบุญเซบาสเตียนจะเป็นรูปคนถูกมัดกับต้นไม้มีลูกศรปัก


==ชีวิต==
== ชีวิต ==
รายละเอียดชีวิตของนักบุญเซบาสเตียนเขียนไว้เป็นครั้งแรกโดย[[นักบุญแอมโบรสแห่งมิลาน ]]ในบทเทศนาหมายเลข 20 ของ[[เพลงสดุดี]]ที่ 118 แอมโบรสกล่าวว่าเซบาสเตียนมาจาก[[มิลาน ]]และเป็นที่นับถือกันแล้วเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 4
รายละเอียดชีวิตของนักบุญเซบาสเตียนเขียนไว้เป็นครั้งแรกโดยนักบุญ[[แอมโบรสแห่งมิลาน ]]ในบทเทศนาหมายเลข 20 ของ[[เพลงสดุดี]]ที่ 118 แอมโบรสกล่าวว่าเซบาสเตียนมาจาก[[มิลาน ]]และเป็นที่นับถือกันแล้วเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 4


จากเอกสาร “[[กิจการของนักบุญ]]” (Acta Sanctorum) ที่เขียนเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 5
จากเอกสาร “[[กิจการของนักบุญ]]” (Acta Sanctorum) ที่เขียนเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 5
<ref>''Acta S. Sebastiani Martyris'', in J.P. Migne, ''Patrologiae Cursus Completus Accurante'' (Paris 1845), XVII, 1021-1058; the details given here follow the abbreviated account in Jacob de Voragine, ''[[:en:Legenda Aurea|Legenda Aurea]]''.</ref>ซึ่งยังอ้างข้อเขียนของนักบุญแอมโบรสโดยจีน บอลแลนด์ (Jean Bolland) นักเขียน[[วรรณกรรมนักบุญ]]และจาก[[ตำนานทอง]]กล่าวว่านักบุญเซบาสเตียนเป็นชาวแกลเลีย นาร์โบเนนซิส (Gallia Narbonensis) และมาศึกษาที่เมืองมิลานจนได้รับแต่งตั้งให้เป็นราชองครักษ์ของจักรพรรดิไดโอคลีเชียนและจักรพรรดิแม็กซิมิลเลียนผู้ซึ่งไม่ทราบว่าเซบาสเตียนนับถือศาสนาคริสต์
<ref>''Acta S. Sebastiani Martyris'', in J.P. Migne, ''Patrologiae Cursus Completus Accurante'' (Paris 1845), XVII, 1021-1058; the details given here follow the abbreviated account in Jacob de Voragine, ''[[:en:Legenda Aurea|Legenda Aurea]]''.</ref>ซึ่งยังอ้างข้อเขียนของนักบุญแอมโบรสโดยจีน บอลแลนด์ (Jean Bolland) นักเขียน[[ชีวประวัตินักบุญ]]และจาก[[ตำนานทอง]]กล่าวว่านักบุญเซบาสเตียนเป็นชาวแกลเลีย นาร์โบเนนซิส (Gallia Narbonensis) และมาศึกษาที่เมืองมิลานจนได้รับแต่งตั้งให้เป็นราชองครักษ์ของจักรพรรดิไดโอคลีเชียนและจักรพรรดิแม็กซิมิลเลียนผู้ซึ่งไม่ทราบว่าเซบาสเตียนนับถือศาสนาคริสต์


เล่ากันว่าเซบาสเตียนย้ำความเชื่อมั่นในศาสนากับมาร์ค และ มาร์เซลเลียนสองนักโทษที่กำลังจะถูกฆ่าพลีชีพ ขณะที่ญาติพี่น้องที่มีความเศร้าโศกพยายามอ้อนวอนให้นักโทษทั้งสองคนเลิกยอมรับ[[พระเยซู]] นอกจากนั้นเซบาสเตียนก็ยังรักษาหญิงไบ้และเหตุอัศจรรย์นี้ทำให้มีคน 78 คนหันมานับถือคริสต์ศาสนา
เล่ากันว่าเซบาสเตียนย้ำความเชื่อมั่นในศาสนากับมาร์คและมาร์เซลเลียนสองนักโทษที่กำลังจะถูกฆ่าพลีชีพ ขณะที่ญาติพี่น้องที่มีความเศร้าโศกพยายามอ้อนวอนให้นักโทษทั้งสองคนเลิกยอมรับ[[พระเยซู]] นอกจากนั้นเซบาสเตียนก็ยังรักษาหญิงไบ้และเหตุอัศจรรย์นี้ทำให้มีคน 78 คนหันมานับถือคริสต์ศาสนา


มาร์ค และ มาร์เซลเป็นฝาแฝดเกิดในครอบครัวที่มั่งคั่ง ทั้งสองคนมีภรรยาและมีครอบครัวที่เป็นหลักเป็นฐานอยู่ที่[[โรม]]กับบุตรและภรรยา สองพึ่น้องปฏิเสธไม่ยอมทำพิธีบูชาเทพเจ้าโรมันจึงถูกโดนจับ ทรานควิลลินุสและมาชาผู้เป็นพ่อและแม่มาเยื่ยมในคุกและพยายามเกลี้ยกล่อมให้ลูกเลิกนับถือคริสต์ศาสนา เซบาสเตียนกลับเปลี่ยนใจให้ทั้งทรานควิลลินุสและมาชามานับถือคริสต์ศาสนา พร้อมกับนักบุญไทเบอร์เทียสผู้เป็นลูกของโครมาเทียสผู้เป็นนายทหารที่นั่น นิโคสตราตัสเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งและโซอีผู้ภรรยาก็ทำตาม ตามตำนานโซอีเป็นไบ้มา 6 ปึแต่นางก็บอกความประสงค์แก่เซบาสเตียนว่าต้องการจะนับถือคริสต์ศาสนา และทันที่ที่มานับถือโซอีก็พูดได้ นิโคสตราตัสจึงนำนักโทษที่เหลืออีก 16 คนมาให้เซบาสเตียนเปลี่ยนให้นับถือคริสต์ศาสนา<ref>Ebenezer Cobham Brewer, ''A Dictionary of Miracles: Imitative, Realistic, and Dogmatic'' (Chatto and Windus, 1901), 11.</ref>
มาร์คและมาร์เซลเป็นฝาแฝดเกิดในครอบครัวที่มั่งคั่ง ทั้งสองคนมีภรรยาและมีครอบครัวที่เป็นหลักเป็นฐานอยู่ที่[[โรม]]กับบุตรและภรรยา สองพึ่น้องปฏิเสธไม่ยอมทำพิธีบูชาเทพเจ้าโรมันจึงถูกโดนจับ ทรานควิลลินุสและมาชาผู้เป็นพ่อและแม่มาเยื่ยมในคุกและพยายามเกลี้ยกล่อมให้ลูกเลิกนับถือคริสต์ศาสนา เซบาสเตียนกลับเปลี่ยนใจให้ทั้งทรานควิลลินุสและมาชามานับถือคริสต์ศาสนา พร้อมกับนักบุญไทเบอร์เทียสผู้เป็นลูกของโครมาเทียสผู้เป็นนายทหารที่นั่น นิโคสตราตัสเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งและโซอีผู้ภรรยาก็ทำตาม ตามตำนานโซอีเป็นไบ้มา 6 ปึแต่นางก็บอกความประสงค์แก่เซบาสเตียนว่าต้องการจะนับถือคริสต์ศาสนา และทันที่ที่มานับถือโซอีก็พูดได้ นิโคสตราตัสจึงนำนักโทษที่เหลืออีก 16 คนมาให้เซบาสเตียนเปลี่ยนให้นับถือคริสต์ศาสนา<ref>Ebenezer Cobham Brewer, ''A Dictionary of Miracles: Imitative, Realistic, and Dogmatic'' (Chatto and Windus, 1901), 11.</ref>


โครมาเทียสและไทเบอร์เทียสเมื่อเปลี่ยนศาสนาแล้วก็ปล่อยนักโทษหมดและตนเองก็ลาออกจากราชการไปอยู่ที่บริเวณแคมพานยา มาร์ค และ มาร์เซลเลียนเมื่อแรกก็ซ่อนตัวกับ[[นักบุญแคสตูลุส|แคสตูลุส]] (Castulus) ผู้นับถือศาสนาคริสต์ แต่ต่อมาก็ถูกฆ่าพลีชีพพร้อมด้วยนิโคสตราตัส, โซอี และไทเบอร์เทียส
โครมาเทียสและไทเบอร์เทียสเมื่อเปลี่ยนศาสนาแล้วก็ปล่อยนักโทษหมดและตนเองก็ลาออกจากราชการไปอยู่ที่บริเวณแคมพานยา มาร์ค และ มาร์เซลเลียนเมื่อแรกก็ซ่อนตัวกับนักบุญ[[กัสตูลุส]] (Castulus) ผู้นับถือศาสนาคริสต์ แต่ต่อมาก็ถูกฆ่าพลีชีพพร้อมด้วยนิโคสตราตัส, โซอี และไทเบอร์เทียส


==การพลีชีพ==
== การพลีชีพ ==
จักรพรรดิไดโอคลีเชียนมึความรู้สึกว่าเซบาสเตียนทรยศต่อพระองค์จึงทรงสั่งให้เอาตัวไปผูกไว้กับตอไม้และยิงให้ตาย นักยิงธนูก็ยิงเซบาสเตียนจนปรุราวกับเม่นที่เต็มไปด้วยขนแข็ง<ref>''Legenda Aurea''</ref>และปล่อยให้ตาย แต่ด้วยความมหัศจรรย์เซบาสเตียนก็ไม่ตาย นักบุญไอรีนแห่งโรมผู้เป็นแม่หม้ายของนักบุญแคสตูลุสจะนำร่างของเซบาสเตียนไปฝังแต่กลับพบว่าเซบาสเตียนยังมีลมหายใจอยู่ นักบุญไอรีนจึงนำเซบาสเตียนกลับมาที่บ้านและรักษาจนหาย ผู้อาศัยอยู่ในบ้านก็มีความเคลือบแคลงในความเป็นผู้นับถือคริสต์ศาสนาของเซบาสเตียน ในบรรดาผู้มีความสงสัยก็มีเด็กหญิงที่หูหนวกและตาบอด เซบาสเตียนก็ถามว่าเด็กว่าอยากจะไปอยู่กับพระเป็นเจ้าหรือไม่และทำเครื่องหมายกางเขนบนหน้าผากของเด็กหญิงๆ ก็ตอบตกลง ในทันทีที่ตอบเด็กหญิงคนนั้นก็สามารถมองเห็น แล้วเซบาสเตียนก็ยืนขึ้นกล่าวเยาะเย้ยจักรพรรดิไดโอคลีเชียนขณะที่ทรงผ่าน พระองค์จึงสั่งให้เอาเซบาสเตียนไปทุบตีจนตายแล้วเอาร่างโยนลงไปในส้วม แต่เซบาสเตียนมาปรากฏตัวต่อนักบุญไอรีนบอกที่ที่จะพบร่างของท่านที่ไม่มีรอยเปื้อนสิ่งโสโครกและสั่งให้เอาร่างไปฝังไว้ที่สุสานรังผึ้งใกล้กับที่ฝัง[[อัครสาวกสิบสององค์|อัครสาวก]]
จักรพรรดิไดโอคลีเชียนมึความรู้สึกว่าเซบาสเตียนทรยศต่อพระองค์จึงทรงสั่งให้เอาตัวไปผูกไว้กับตอไม้และยิงให้ตาย นักยิงธนูก็ยิงเซบาสเตียนจนปรุราวกับเม่นที่เต็มไปด้วยขนแข็ง<ref>''Legenda Aurea''</ref>และปล่อยให้ตาย แต่ด้วยความมหัศจรรย์เซบาสเตียนก็ไม่ตาย นักบุญไอรีนแห่งโรมผู้เป็นแม่หม้ายของนักบุญแคสตูลุสจะนำร่างของเซบาสเตียนไปฝังแต่กลับพบว่าเซบาสเตียนยังมีลมหายใจอยู่ นักบุญไอรีนจึงนำเซบาสเตียนกลับมาที่บ้านและรักษาจนหาย ผู้อาศัยอยู่ในบ้านก็มีความเคลือบแคลงในความเป็นผู้นับถือคริสต์ศาสนาของเซบาสเตียน ในบรรดาผู้มีความสงสัยก็มีเด็กหญิงที่หูหนวกและตาบอด เซบาสเตียนก็ถามว่าเด็กว่าอยากจะไปอยู่กับพระเป็นเจ้าหรือไม่และทำเครื่องหมายกางเขนบนหน้าผากของเด็กหญิง ๆ ก็ตอบตกลง ในทันทีที่ตอบเด็กหญิงคนนั้นก็สามารถมองเห็น แล้วเซบาสเตียนก็ยืนขึ้นกล่าวเยาะเย้ยจักรพรรดิไดโอคลีเชียนขณะที่ทรงผ่าน พระองค์จึงสั่งให้เอาเซบาสเตียนไปทุบตีจนตายแล้วเอาร่างโยนลงไปในส้วม แต่เซบาสเตียนมาปรากฏตัวต่อนักบุญไอรีนบอกที่ที่จะพบร่างของท่านที่ไม่มีรอยเปื้อนสิ่งโสโครกและสั่งให้เอาร่างไปฝังไว้ที่สุสานรังผึ้งใกล้กับที่ฝัง[[อัครทูต]]


== ร่างของนักบุญเซบาสเตียน==
== ร่างของนักบุญเซบาสเตียน==
กล่าวกันว่าร่างของนักบุญเซบาสเตียนอยู่ที่โรมที่มหาวิหารอโพสโตโลรุมที่สร้างโดย[[สมเด็จพระสันตะปาปาดามาซุสที่ 1]]เมื่อ ค.ศ. 367 บนที่ที่เป็นที่ฝังศพของ[[นักบุญปีเตอร์]] และ [[นักบุญพอล]] ปัจจุบันมหาวิหารนี้ชื่อว่า “San Sebastiano fuori le mura” สร้างใหม่เมื่อราว ค.ศ. 1610 โดยทุนจาก[[สคิปิโอเน บอร์เกเซ]]
กล่าวกันว่าร่างของนักบุญเซบาสเตียนอยู่ที่โรมที่มหาวิหารอโพสโตโลรุมที่สร้างโดย[[สมเด็จพระสันตะปาปาดามาซุสที่ 1]] เมื่อ ค.ศ. 367 บนที่ที่เป็นที่ฝังศพของนักบุญ[[ซีโมนเปโตร]]และนักบุญ[[เปาโลอัครทูต]] ปัจจุบันมหาวิหารนี้ชื่อว่า “San Sebastiano fuori le mura” สร้างใหม่เมื่อราว ค.ศ. 1610 โดยทุนจาก[[ชีปีโอเน บอร์เกเซ]]


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==
บรรทัด 46: บรรทัด 46:


== ดูเพิ่ม ==
== ดูเพิ่ม ==
* [[นิกายโรมันคาทอลิก]]
* [[โรมันคาทอลิก]]
* [[อีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์]]
* [[นิกายอีสเติร์นออร์โธด็อกซ์]]
* [[นิกายโอเรียนทัลออร์โธด็อกซ์]]
* [[ออเรียนทัลออร์ทอดอกซ์]]


{{commonscat|Saint Sebastian|นักบุญเซบาสเตียน}}
{{commonscat|Saint Sebastian|นักบุญเซบาสเตียน}}



{{เรียงลำดับ|ซบาสเตียน}}
{{death|287}}
{{death|287}}
[[หมวดหมู่:นักบุญในคริสต์ศตวรรษที่ 3]]

[[หมวดหมู่:นักบุญ|ซเบาสเตียน]]
[[หมวดหมู่:มรณสักขีในศาสนาคริสต์]]
{{โครงศาสนาคริสต์}}
[[หมวดหมู่:นักบุญในคริสต์ศตวรรษที่ 3|ซเบาสเตียน]]
[[หมวดหมู่:มรณสักขีในศาสนาคริสต์|ซเบาสเตียน]]

{{โครงศาสนา}}


[[an:Sant Sabastián mártir]]
[[an:Sant Sabastián mártir]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:02, 6 กันยายน 2555

เซบาสเตียน
มรณสักขี
เกิดไม่ทราบแน่นอน
เสียชีวิต20 มกราคม ค.ศ. 287
นิกายโรมันคาทอลิก

อีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์

ออเรียนทัลออร์ทอดอกซ์
วันฉลอง20 มกราคม (โรมันคาทอลิก)
18 ธันวาคม (อีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์)
สัญลักษณ์ลูกศร
องค์อุปถัมภ์ทหาร, โรคติดต่อ, ลูกศร, นักกีฬา, วัยรุ่น

นักบุญเซบาสเตียน (อังกฤษ: St. Sebastian) เสียชืวิตเมื่อวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 287 เป็นนักบุญมรณสักขีในศาสนาคริสต์สมัยจักรพรรดิไดโอคลีเชียนแห่งจักรวรรดิโรมัน รูปปั้นหรือรูปเขียนของนักบุญเซบาสเตียนจะเป็นรูปคนถูกมัดกับต้นไม้มีลูกศรปัก

ชีวิต

รายละเอียดชีวิตของนักบุญเซบาสเตียนเขียนไว้เป็นครั้งแรกโดยนักบุญแอมโบรสแห่งมิลาน ในบทเทศนาหมายเลข 20 ของเพลงสดุดีที่ 118 แอมโบรสกล่าวว่าเซบาสเตียนมาจากมิลาน และเป็นที่นับถือกันแล้วเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 4

จากเอกสาร “กิจการของนักบุญ” (Acta Sanctorum) ที่เขียนเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 5 [1]ซึ่งยังอ้างข้อเขียนของนักบุญแอมโบรสโดยจีน บอลแลนด์ (Jean Bolland) นักเขียนชีวประวัตินักบุญและจากตำนานทองกล่าวว่านักบุญเซบาสเตียนเป็นชาวแกลเลีย นาร์โบเนนซิส (Gallia Narbonensis) และมาศึกษาที่เมืองมิลานจนได้รับแต่งตั้งให้เป็นราชองครักษ์ของจักรพรรดิไดโอคลีเชียนและจักรพรรดิแม็กซิมิลเลียนผู้ซึ่งไม่ทราบว่าเซบาสเตียนนับถือศาสนาคริสต์

เล่ากันว่าเซบาสเตียนย้ำความเชื่อมั่นในศาสนากับมาร์คและมาร์เซลเลียนสองนักโทษที่กำลังจะถูกฆ่าพลีชีพ ขณะที่ญาติพี่น้องที่มีความเศร้าโศกพยายามอ้อนวอนให้นักโทษทั้งสองคนเลิกยอมรับพระเยซู นอกจากนั้นเซบาสเตียนก็ยังรักษาหญิงไบ้และเหตุอัศจรรย์นี้ทำให้มีคน 78 คนหันมานับถือคริสต์ศาสนา

มาร์คและมาร์เซลเป็นฝาแฝดเกิดในครอบครัวที่มั่งคั่ง ทั้งสองคนมีภรรยาและมีครอบครัวที่เป็นหลักเป็นฐานอยู่ที่โรมกับบุตรและภรรยา สองพึ่น้องปฏิเสธไม่ยอมทำพิธีบูชาเทพเจ้าโรมันจึงถูกโดนจับ ทรานควิลลินุสและมาชาผู้เป็นพ่อและแม่มาเยื่ยมในคุกและพยายามเกลี้ยกล่อมให้ลูกเลิกนับถือคริสต์ศาสนา เซบาสเตียนกลับเปลี่ยนใจให้ทั้งทรานควิลลินุสและมาชามานับถือคริสต์ศาสนา พร้อมกับนักบุญไทเบอร์เทียสผู้เป็นลูกของโครมาเทียสผู้เป็นนายทหารที่นั่น นิโคสตราตัสเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งและโซอีผู้ภรรยาก็ทำตาม ตามตำนานโซอีเป็นไบ้มา 6 ปึแต่นางก็บอกความประสงค์แก่เซบาสเตียนว่าต้องการจะนับถือคริสต์ศาสนา และทันที่ที่มานับถือโซอีก็พูดได้ นิโคสตราตัสจึงนำนักโทษที่เหลืออีก 16 คนมาให้เซบาสเตียนเปลี่ยนให้นับถือคริสต์ศาสนา[2]

โครมาเทียสและไทเบอร์เทียสเมื่อเปลี่ยนศาสนาแล้วก็ปล่อยนักโทษหมดและตนเองก็ลาออกจากราชการไปอยู่ที่บริเวณแคมพานยา มาร์ค และ มาร์เซลเลียนเมื่อแรกก็ซ่อนตัวกับนักบุญกัสตูลุส (Castulus) ผู้นับถือศาสนาคริสต์ แต่ต่อมาก็ถูกฆ่าพลีชีพพร้อมด้วยนิโคสตราตัส, โซอี และไทเบอร์เทียส

การพลีชีพ

จักรพรรดิไดโอคลีเชียนมึความรู้สึกว่าเซบาสเตียนทรยศต่อพระองค์จึงทรงสั่งให้เอาตัวไปผูกไว้กับตอไม้และยิงให้ตาย นักยิงธนูก็ยิงเซบาสเตียนจนปรุราวกับเม่นที่เต็มไปด้วยขนแข็ง[3]และปล่อยให้ตาย แต่ด้วยความมหัศจรรย์เซบาสเตียนก็ไม่ตาย นักบุญไอรีนแห่งโรมผู้เป็นแม่หม้ายของนักบุญแคสตูลุสจะนำร่างของเซบาสเตียนไปฝังแต่กลับพบว่าเซบาสเตียนยังมีลมหายใจอยู่ นักบุญไอรีนจึงนำเซบาสเตียนกลับมาที่บ้านและรักษาจนหาย ผู้อาศัยอยู่ในบ้านก็มีความเคลือบแคลงในความเป็นผู้นับถือคริสต์ศาสนาของเซบาสเตียน ในบรรดาผู้มีความสงสัยก็มีเด็กหญิงที่หูหนวกและตาบอด เซบาสเตียนก็ถามว่าเด็กว่าอยากจะไปอยู่กับพระเป็นเจ้าหรือไม่และทำเครื่องหมายกางเขนบนหน้าผากของเด็กหญิง ๆ ก็ตอบตกลง ในทันทีที่ตอบเด็กหญิงคนนั้นก็สามารถมองเห็น แล้วเซบาสเตียนก็ยืนขึ้นกล่าวเยาะเย้ยจักรพรรดิไดโอคลีเชียนขณะที่ทรงผ่าน พระองค์จึงสั่งให้เอาเซบาสเตียนไปทุบตีจนตายแล้วเอาร่างโยนลงไปในส้วม แต่เซบาสเตียนมาปรากฏตัวต่อนักบุญไอรีนบอกที่ที่จะพบร่างของท่านที่ไม่มีรอยเปื้อนสิ่งโสโครกและสั่งให้เอาร่างไปฝังไว้ที่สุสานรังผึ้งใกล้กับที่ฝังอัครทูต

ร่างของนักบุญเซบาสเตียน

กล่าวกันว่าร่างของนักบุญเซบาสเตียนอยู่ที่โรมที่มหาวิหารอโพสโตโลรุมที่สร้างโดยสมเด็จพระสันตะปาปาดามาซุสที่ 1 เมื่อ ค.ศ. 367 บนที่ที่เป็นที่ฝังศพของนักบุญซีโมนเปโตรและนักบุญเปาโลอัครทูต ปัจจุบันมหาวิหารนี้ชื่อว่า “San Sebastiano fuori le mura” สร้างใหม่เมื่อราว ค.ศ. 1610 โดยทุนจากชีปีโอเน บอร์เกเซ

อ้างอิง

  1. Acta S. Sebastiani Martyris, in J.P. Migne, Patrologiae Cursus Completus Accurante (Paris 1845), XVII, 1021-1058; the details given here follow the abbreviated account in Jacob de Voragine, Legenda Aurea.
  2. Ebenezer Cobham Brewer, A Dictionary of Miracles: Imitative, Realistic, and Dogmatic (Chatto and Windus, 1901), 11.
  3. Legenda Aurea

ดูเพิ่ม