ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เกรปฟรูต"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Ptbotgourou (คุย | ส่วนร่วม)
r2.7.2) (โรบอต แก้ไข: bn:মাল্টা (ফল)
Azoma (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 18: บรรทัด 18:
}}
}}


'''เกรปฟรุต''' เป็นไม้ผลกึ่งเขตร้อนในสกุล ''Citrus'' ที่เพาะปลูกเพื่อเก็บเกี่ยวผล ซึ่งแต่เดิมเคยเรียกว่า ผลไม้ต้องห้ามแห่งบาร์เบโดส
'''เกรปฟรุต''' เป็นไม้ผลกึ่งเขตร้อนในสกุล ''Citrus'' ที่เพาะปลูกเพื่อเก็บเกี่ยวผล ซึ่งแต่เดิมเคยเรียกว่า ผลไม้ต้องห้ามแห่ง[[ประเทศบาร์เบโดส|บาร์เบโดส]]


ปกติแล้วไม้ไม่ผลัดใบชนิดนี้จะพบว่าสูงประมาณ 5-6 เมตร แต่ความจริงแล้วสามารถสูงได้ถึง 13-15 เมตร ใบมีสีเขียวเข้ม รูปร่างยาว (มากกว่า 15 เซนติเมตร) และผอม ดอกมี 4 กลีบ สีขาว ขนาด 5 เซนติเมตร ผลมีเปลือกสีเหลือง รูปกลมแป้น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10-15 เซนติเมตร เนื้อผลแบ่งเป็นกลีบ สีเหลืองแบบกรด
ปกติแล้วไม้ไม่ผลัดใบชนิดนี้จะพบว่าสูงประมาณ 5-6 เมตร แต่ความจริงแล้วสามารถสูงได้ถึง 13-15 เมตร ใบมีสีเขียวเข้ม รูปร่างยาว (มากกว่า 15 เซนติเมตร) และผอม ดอกมี 4 กลีบ สีขาว ขนาด 5 เซนติเมตร ผลมีเปลือกสีเหลือง รูปกลมแป้น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10-15 เซนติเมตร เนื้อผลแบ่งเป็นกลีบ สีเหลืองแบบกรด
บรรทัด 24: บรรทัด 24:
ผลเป็นที่นิยมตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ก่อนหน้านั้นเพียงแต่ปลูกเป็นไม้ประดับ สหรัฐอเมริกากลายเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ มีสวนอยู่ใน[[ฟลอริดา]] [[เท็กซัส]] [[แอริโซนา]] และ[[แคลิฟอร์เนีย]] ในภาษาสเปน ผลไม้ชนิดนี้รู้จักในชื่อว่า ''Toronja'' หรือ ''Pomelo''
ผลเป็นที่นิยมตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ก่อนหน้านั้นเพียงแต่ปลูกเป็นไม้ประดับ สหรัฐอเมริกากลายเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ มีสวนอยู่ใน[[ฟลอริดา]] [[เท็กซัส]] [[แอริโซนา]] และ[[แคลิฟอร์เนีย]] ในภาษาสเปน ผลไม้ชนิดนี้รู้จักในชื่อว่า ''Toronja'' หรือ ''Pomelo''


== คุณค่าทางโภชนาการ ==
{{เรียงลำดับ|กเรปฟรุต}}
{{คุณค่าทางโภชนาการ
| name=เกรปฟรุต(ผลดิบ เนื้อในสีขาว)
| kJ=138
| protein=0.69 g
| fat=0.10 g
| water=90.48 g
| carbs=8.41 g
| fiber=1.1 g
| sugars=7.31 g
| glucose=
| fructose=
| iron_mg=0.06
| opt1n=[[Manganese]]
| opt1v=0.013 mg
| calcium_mg=12
| magnesium_mg=9
| phosphorus_mg=8
| potassium_mg=148
| zinc_mg=0.07
| vitC_mg=33.3
| pantothenic_mg=0.283
| vitB6_mg=0.043
| folate_ug=10
| thiamin_mg=0.037
| riboflavin_mg=0.020
| niacin_mg=0.269
| right=1
| source_usda=1 }}

== การใช้ประโยชน์อื่น ==
จากการศึกษาทาง[[เภสัชพลศาสตร์]] พบว่าเมื่อใช้เกรปฟรุตควบคู่ไปกับการใช้ยารักษามะเร็ง สามารถช่วยลดตัวยาบางชนิดได้ จึงช่วยทำให้ผู้ป่วยมะเร็งประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษา<ref>{{cite web |url=http://www.medscape.com/viewarticle/560026 |author=Allison Gandey |title=Cut Cancer Drug Costs By Exploring Food Interactions |work=Medscape Medical News |date=18 กรกฎาคม พ.ศ. 2550}}</ref><ref>{{cite web |url=http://abcnews.go.com/blogs/health/2012/08/07/grapefruit-juice-could-help-cancer-patients-save-money/ |author=Sydney Lupkin |title=Grapefruit Juice Could Help Cancer Patients Save Money |work=ABCNews.com |date=7 สิงหาคม พ.ศ. 2555}}</ref>

== อ้างอิง ==
{{รายการอ้างอิง}}

== แหล่งข้อมูลอื่น ==
{{Commons category|Citrus paradisi}}
{{Commons category|Citrus paradisi}}
{{wikispecies|Citrus paradisi}}
{{wikispecies|Citrus paradisi}}

[[หมวดหมู่:ผลไม้]]
[[หมวดหมู่:ผลไม้]]
{{เรียงลำดับ|กเรปฟรุต}}
{{โครงพืช}}
{{โครงพืช}}



รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:59, 17 สิงหาคม 2555

เกรปฟรุต
ต้นเกรปฟรุต
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร: Plantae
หมวด: Magnoliophyta
ชั้น: Magnoliopsida
ชั้นย่อย: Rosidae
อันดับ: Sapindales
วงศ์: Rutaceae
สกุล: Citrus
สปีชีส์: C.  x paradisi
ชื่อทวินาม
Citrus x paradisi
Macfad.

เกรปฟรุต เป็นไม้ผลกึ่งเขตร้อนในสกุล Citrus ที่เพาะปลูกเพื่อเก็บเกี่ยวผล ซึ่งแต่เดิมเคยเรียกว่า ผลไม้ต้องห้ามแห่งบาร์เบโดส

ปกติแล้วไม้ไม่ผลัดใบชนิดนี้จะพบว่าสูงประมาณ 5-6 เมตร แต่ความจริงแล้วสามารถสูงได้ถึง 13-15 เมตร ใบมีสีเขียวเข้ม รูปร่างยาว (มากกว่า 15 เซนติเมตร) และผอม ดอกมี 4 กลีบ สีขาว ขนาด 5 เซนติเมตร ผลมีเปลือกสีเหลือง รูปกลมแป้น ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 10-15 เซนติเมตร เนื้อผลแบ่งเป็นกลีบ สีเหลืองแบบกรด

ผลเป็นที่นิยมตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 ก่อนหน้านั้นเพียงแต่ปลูกเป็นไม้ประดับ สหรัฐอเมริกากลายเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ มีสวนอยู่ในฟลอริดา เท็กซัส แอริโซนา และแคลิฟอร์เนีย ในภาษาสเปน ผลไม้ชนิดนี้รู้จักในชื่อว่า Toronja หรือ Pomelo

คุณค่าทางโภชนาการ

เกรปฟรุต(ผลดิบ เนื้อในสีขาว)
คุณค่าทางโภชนาการต่อ 100 กรัม (3.5 ออนซ์)
พลังงาน138 กิโลจูล (33 กิโลแคลอรี)
8.41 g
น้ำตาล7.31 g
ใยอาหาร1.1 g
0.10 g
0.69 g
วิตามิน
ไทอามีน (บี1)
(3%)
0.037 มก.
ไรโบเฟลวิน (บี2)
(2%)
0.020 มก.
ไนอาซิน (บี3)
(2%)
0.269 มก.
(6%)
0.283 มก.
วิตามินบี6
(3%)
0.043 มก.
โฟเลต (บี9)
(3%)
10 μg
วิตามินซี
(40%)
33.3 มก.
แร่ธาตุ
แคลเซียม
(1%)
12 มก.
เหล็ก
(0%)
0.06 มก.
แมกนีเซียม
(3%)
9 มก.
ฟอสฟอรัส
(1%)
8 มก.
โพแทสเซียม
(3%)
148 มก.
สังกะสี
(1%)
0.07 มก.
องค์ประกอบอื่น
น้ำ90.48 g
Manganese0.013 mg
ประมาณร้อยละคร่าว ๆ โดยใช้การแนะนำของสหรัฐสำหรับผู้ใหญ่
แหล่งที่มา: USDA FoodData Central

การใช้ประโยชน์อื่น

จากการศึกษาทางเภสัชพลศาสตร์ พบว่าเมื่อใช้เกรปฟรุตควบคู่ไปกับการใช้ยารักษามะเร็ง สามารถช่วยลดตัวยาบางชนิดได้ จึงช่วยทำให้ผู้ป่วยมะเร็งประหยัดค่าใช้จ่ายในการรักษา[1][2]

อ้างอิง

  1. Allison Gandey (18 กรกฎาคม พ.ศ. 2550). "Cut Cancer Drug Costs By Exploring Food Interactions". Medscape Medical News. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)
  2. Sydney Lupkin (7 สิงหาคม พ.ศ. 2555). "Grapefruit Juice Could Help Cancer Patients Save Money". ABCNews.com. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |date= (help)

แหล่งข้อมูลอื่น