ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร"
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
|||
บรรทัด 22: | บรรทัด 22: | ||
== เมื่อทรงพระเยาว์ == |
== เมื่อทรงพระเยาว์ == |
||
เมื่อพำนักในกรุงเทพฯ พระองค์มีสถานะเป็นพระราชบุตรบุญธรรมของกษัตริย์สยาม ทรงผนวชใน[[ธรรมยุติกนิกาย]] 1 พรรษา เมื่อสมเด็จพระหริรักษ์รามาธิบดีขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้ากรุงกัมพูชาแล้ว พระองค์ได้ส่งพระราชโอรส คือ นักองค์ราชาวดี เข้ามาทำราชการที่[[กรุงเทพมหานคร]]ในรัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ต่อมา ในรัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] สมเด็จพระหริรักษ์รามาธิบดีมีใบบอกเข้ามายังกรุงเทพมหานครว่า "ตนมีชนมายุเจริญล่วงมากไปแล้ว ขอพระราชทานให้พระเจ้าแผ่นดินสยาม ทรงตั้งนักพระองค์ราชาวดี บุตรผู้ใหญ่เป็นมหาอุปราช [[นักพระองค์ศรีสวัสดิ์]]บุตรที่ 2 เป็นพระแก้วฟ้า ออกไปช่วยรักษาเมืองเขมร" ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ทรงแต่งตั้งพระราชบุตรของพระเจ้ากรุงกัมพูชาตามที่ขอมา<ref>ประชุมพงศาวดารภาคที่ ๗๑, สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี โปรดเกล้า ฯ ให้ตีพิมพ์ ในงานพระราชทานเพลิงพระศพ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี ณ เมรุวัดเทพศิรินทราวาส วันที่ ๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๘๑, กรุงเทพบรรณาการ, สี่กั๊กพระยาศรี, พระนคร</ref> เมื่อ พ.ศ. 2400 |
เมื่อพำนักในกรุงเทพฯ พระองค์มีสถานะเป็นพระราชบุตรบุญธรรมของกษัตริย์สยาม ทรงผนวชใน[[ธรรมยุติกนิกาย]] 1 พรรษา เมื่อสมเด็จพระหริรักษ์รามาธิบดีขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้ากรุงกัมพูชาแล้ว พระองค์ได้ส่งพระราชโอรส คือ นักองค์ราชาวดี เข้ามาทำราชการที่[[กรุงเทพมหานคร]]ในรัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว]] ต่อมา ในรัชสมัย[[พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว]] สมเด็จพระหริรักษ์รามาธิบดีมีใบบอกเข้ามายังกรุงเทพมหานครว่า "ตนมีชนมายุเจริญล่วงมากไปแล้ว ขอพระราชทานให้พระเจ้าแผ่นดินสยาม ทรงตั้งนักพระองค์ราชาวดี บุตรผู้ใหญ่เป็นมหาอุปราช [[นักพระองค์ศรีสวัสดิ์]]บุตรที่ 2 เป็นพระแก้วฟ้า ออกไปช่วยรักษาเมืองเขมร" ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ทรงแต่งตั้งพระราชบุตรของพระเจ้ากรุงกัมพูชาตามที่ขอมา<ref>ประชุมพงศาวดารภาคที่ ๗๑, สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี โปรดเกล้า ฯ ให้ตีพิมพ์ ในงานพระราชทานเพลิงพระศพ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี ณ เมรุวัดเทพศิรินทราวาส วันที่ ๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๘๑, กรุงเทพบรรณาการ, สี่กั๊กพระยาศรี, พระนคร</ref> เมื่อ พ.ศ. 2400 |
||
สวัสดีคับ(เติ้ล)จัดทำโดย ด.ช สุรศัดิ์ มัธยมานันท์ |
|||
== ความยุ่งยากก่อนขึ้นครองราชย์ == |
== ความยุ่งยากก่อนขึ้นครองราชย์ == |
||
บรรทัด 31: | บรรทัด 30: | ||
เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นในกัมพูชา สยามได้เรียกตัวพระสีวัตถาเข้ากรุงเทพฯ ในขณะเดียวกัน นักองค์ราชาวดี ก็เดินทางเจชข้าสู่กรุงเทพฯเมื่อ 24 มกราคม พ.ศ. 2405 สยามได้ตัดสินใจสนับสนุนให้นักองค์ราชาวดีขึ้นเป็นกษัตริย์ และจัดทัพทางเรือไปส่งนักองค์ราชาวดีที่เมือง[[กำปอด]] และเดินทัพทางบกไปยังเมืองอุดงมีไชย ในระหว่างนี้ เกิดการกบฏอีก ออกญาสุทศ (บา) ได้รวบรวมกองทัพตั้งมั่นที่[[โพธิสัตว์]] สยามจึงส่งทัพจากเสียมเรียบและ[[จันทบุรี]]ไปปราบ นักองค์ราชาวดีจึงเสด็จขึ้นครองราชย์ มีพระนามว่า "สมเด็จพระนโรดมพรหมบริรักษ์" |
เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นในกัมพูชา สยามได้เรียกตัวพระสีวัตถาเข้ากรุงเทพฯ ในขณะเดียวกัน นักองค์ราชาวดี ก็เดินทางเจชข้าสู่กรุงเทพฯเมื่อ 24 มกราคม พ.ศ. 2405 สยามได้ตัดสินใจสนับสนุนให้นักองค์ราชาวดีขึ้นเป็นกษัตริย์ และจัดทัพทางเรือไปส่งนักองค์ราชาวดีที่เมือง[[กำปอด]] และเดินทัพทางบกไปยังเมืองอุดงมีไชย ในระหว่างนี้ เกิดการกบฏอีก ออกญาสุทศ (บา) ได้รวบรวมกองทัพตั้งมั่นที่[[โพธิสัตว์]] สยามจึงส่งทัพจากเสียมเรียบและ[[จันทบุรี]]ไปปราบ นักองค์ราชาวดีจึงเสด็จขึ้นครองราชย์ มีพระนามว่า "สมเด็จพระนโรดมพรหมบริรักษ์" |
||
สวัสดีคับ(เติ้ล)จัดทำโดย ด.ช สุรศักดิ์ มัธยมานันท์ 704 |
|||
== ความสัมพันธ์กับฝรั่งเศสและการเข้าเป็นรัฐในอารักขา == |
== ความสัมพันธ์กับฝรั่งเศสและการเข้าเป็นรัฐในอารักขา == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:47, 22 กรกฎาคม 2555
พระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร | |
---|---|
พระบาทสมเด็จพระนโรดมพรหมบริรักษ์ พระกรุณา พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม พรหมบริรักษ์ พระเจ้ากรุงกัมพูชาธิบดี | |
พระมหากษัตริย์พระองค์ที่ 2 แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา | |
ครองราชย์ | กันยายน พ.ศ. 2403 - 24 เมษายน พ.ศ. 2447 |
รัชสมัย | 44 ปี |
ราชาภิเษก | ปี พ.ศ. 2498 ณ พระบรมมหาราชวังเขมรินทร์ พระที่นั่งเทวาวินิจฉัย กรุงพนมเปญ |
รัชกาลก่อนหน้า | สมเด็จพระหริรักษ์รามาธิบดี |
รัชกาลถัดไป | พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ |
ประสูติ | กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2377 อังกอร์โบเร เสียมเรียบ |
สวรรคต | 24 เมษายน พ.ศ. 2447 (70 ปี) |
พระราชบุตร | พระองค์ยุคนธร สมเด็จกรมพระนโรดมสุทธารส พระองค์เจ้านโรดมพงางาม |
พระกรุณา พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม พรหมบริรักษ์ พระเจ้ากรุงกัมพูชาธิบดี | |
ราชวงศ์ | ราชวงศ์นโรดม |
พระราชบิดา | สมเด็จพระหริรักษ์รามาธิบดี |
พระราชมารดา | พระปิโยพระบรมท้าวธิดา (นักนางแป้น) |
สมเด็จพระนโรดมพรหมบริรักษ์ หรือ นักองค์ราชาวดี เขมร: ព្រះបាទនរោត្តម เสด็จพระราชสมภพเมี่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2377 ที่อังกอร์โบเร (เสียมราฐ) [1][2] และเสด็จสวรรคตเมี่อวันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2447 [3] ทรงเป็นกษัตริย์แห่งกัมพูชาองค์ที่ 2 แห่งราชอาณาจักรกัมพูชาทรงเป็นพระราชโอรสของ สมเด็จพระหริรักษ์รามาธิบดี (นักองค์ด้วง) กษัตริย์แห่งกัมพูชาองค์ที่ 1 และเป็นพระเชษฐาต่างพระมารดาของ พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ (นักองค์สีสุวัตถิ์) กษัตริย์แห่งกัมพูชาองค์ที่ 3 ซึ่งทรงขึ้นครองราชย์เมี่อ พ.ศ. 2447 สืบต่อจากพระองค์
เมื่อทรงพระเยาว์
เมื่อพำนักในกรุงเทพฯ พระองค์มีสถานะเป็นพระราชบุตรบุญธรรมของกษัตริย์สยาม ทรงผนวชในธรรมยุติกนิกาย 1 พรรษา เมื่อสมเด็จพระหริรักษ์รามาธิบดีขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้ากรุงกัมพูชาแล้ว พระองค์ได้ส่งพระราชโอรส คือ นักองค์ราชาวดี เข้ามาทำราชการที่กรุงเทพมหานครในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ต่อมา ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระหริรักษ์รามาธิบดีมีใบบอกเข้ามายังกรุงเทพมหานครว่า "ตนมีชนมายุเจริญล่วงมากไปแล้ว ขอพระราชทานให้พระเจ้าแผ่นดินสยาม ทรงตั้งนักพระองค์ราชาวดี บุตรผู้ใหญ่เป็นมหาอุปราช นักพระองค์ศรีสวัสดิ์บุตรที่ 2 เป็นพระแก้วฟ้า ออกไปช่วยรักษาเมืองเขมร" ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ทรงแต่งตั้งพระราชบุตรของพระเจ้ากรุงกัมพูชาตามที่ขอมา[4] เมื่อ พ.ศ. 2400
ความยุ่งยากก่อนขึ้นครองราชย์
หลังจากสมเด็จพระหริรักษ์รามาธิบดีเสด็จสวรรคตลง เมื่อ พ.ศ. 2403 ได้เกิดความยุ่งยากในการสืบราชสมบัติของกัมพูชา เมื่อพระสีวัตถา พระอนุชาของนักองค์ราชาวดี พระมหาอุปราช ซึ่งอยู่ที่กรุงเทพฯได้ขอกลับไปถวายบังคมพระบรมศพ เมื่อมาถึงกัมพูชา พระสีวัตถาแสดงความต้องการที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์และได้รับการสนับสนุนจากสนองโสหรือสนองสู ผู้เป็นลุง ทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างฝ่ายของพระสีวัตถากับนักองค์ราชาวดี
ในระหว่างความขัดแย้งนั้น สนองโสได้รวบรวมขุนนางไปตั้งมั่นที่กัมพูชาตะวันออกแล้วยกทัพเข้ามายึดพนมเปญและเมืองอุดงมีไชยได้ นักองค์ราชาวดีหนีไปพระตะบองซึ่งขณะนั้นอยูในพระราชอาณาเขตสยาม ขุนนางฝ่ายตรงข้ามของสนองโสได้รวบรวมกำลังเข้าต่อต้าน และเป็นฝ่ายชนะ จับตัวสนองโสได้ แต่สนองโสหลบหนีไปสู่อินโดจีนฝรั่งเศสได้ในที่สุด
เมื่อเกิดความขัดแย้งขึ้นในกัมพูชา สยามได้เรียกตัวพระสีวัตถาเข้ากรุงเทพฯ ในขณะเดียวกัน นักองค์ราชาวดี ก็เดินทางเจชข้าสู่กรุงเทพฯเมื่อ 24 มกราคม พ.ศ. 2405 สยามได้ตัดสินใจสนับสนุนให้นักองค์ราชาวดีขึ้นเป็นกษัตริย์ และจัดทัพทางเรือไปส่งนักองค์ราชาวดีที่เมืองกำปอด และเดินทัพทางบกไปยังเมืองอุดงมีไชย ในระหว่างนี้ เกิดการกบฏอีก ออกญาสุทศ (บา) ได้รวบรวมกองทัพตั้งมั่นที่โพธิสัตว์ สยามจึงส่งทัพจากเสียมเรียบและจันทบุรีไปปราบ นักองค์ราชาวดีจึงเสด็จขึ้นครองราชย์ มีพระนามว่า "สมเด็จพระนโรดมพรหมบริรักษ์"
ความสัมพันธ์กับฝรั่งเศสและการเข้าเป็นรัฐในอารักขา
หลังจากขึ้นครองราชย์ได้ไม่นาน ฝรั่งเศสได้เข้ามาขอให้ทำสนธิสัญญาเข้าเป็นรัฐในอารักขาของฝรั่งเศส ซึ่งพระนโรดมยินยอมที่จะเข้าเป็นรัฐในอารักขา ปัญหาที่ตามมาคือพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระองค์ซึ่งต้องใช้เครื่องราชกกุธภัณฑ์ที่กรุงเทพฯ สยามกำหนดให้พระองค์ไปทำพิธีบรมราชาภิเษกที่กรุงเทพฯ แต่ฝรั่งเศสไม่ยอม สุดท้ายจึงตกลงกัน โดยสยามอัญเชิญเครื่องราชกกุธภัณฑ์ไปอภิเษกพระนโรดมร่วมกับฝ่ายฝรั่งเศสที่กัมพูชา
ในช่วงแรกของการเข้าเป็นรัฐในอารักขาของฝรั่งเศสค่อนข้างราบรื่น แต่เมื่อฝรั่งเศสเปลี่ยนนโยบายการปกครองให้เข้มงวดขึ้นจึงเกิดปัญหาขัดแย้งกับข้าหลวงฝรั่งเศส พระองค์ถูกบังคับให้ลงนามในการปฏิรูปกัมพูชาเมื่อ พ.ศ. 2427 ทำให้เกิดกบฏชาวนาที่ยืดเยื้อตามมา กบฏยุติลงเมื่อ พ.ศ. 2430 เมื่อฝรั่งเศสเจรจากับพระองค์สำเร็จ พระองค์จึงประกาศให้ยุติการกบฏและประกาศนิรโทษกรรม
ปลายรัชกาล
ในช่วงนี้ ฝรั่งเศสพยายามจะลิดรอนอำนาจของกษัตริย์กัมพูชาและเพิ่มอำนาจให้ผู้ว่าการสูงสุดของฝรั่งเศส แต่พระองค์ไม่ยินยอม พระโอรสของพระองค์คือพระยุคนธรได้เดินทางไปยังฝรั่งเศสเพื่อคัดค้านนโยบายนี้จนถูกถอดจากบรรดาศักดิ์และต้องลี้ภัยไปสยาม พระองค์เสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2447 พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ มีขึ้นที่กรุงพนมเปญ ในเดือนมกราคม พ.ศ. 2449 ปัจจุบันมีพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระองค์ขี่ม้าอยู่ในวัดอุดง
อ้างอิง
- ↑ จาก สกุลไทย ฉบับที่ 2605 ปีที่ 50 21 กันยายน 2547 โดย จุลลดา ภักดีภูมินทร์ ระบุว่าพระราชสมภพที่ กรุงเทพ
- ↑ ธำรงศักดิ์,2552 ระบุว่าพระราชสมภพที่กรุงเทพฯเช่นกัน
- ↑ http://freepages.genealogy.rootsweb.ancestry.com/~royalty/cambodia/i134.html#I134
- ↑ ประชุมพงศาวดารภาคที่ ๗๑, สมเด็จพระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินี โปรดเกล้า ฯ ให้ตีพิมพ์ ในงานพระราชทานเพลิงพระศพ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภาพรรณี ณ เมรุวัดเทพศิรินทราวาส วันที่ ๗ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๘๑, กรุงเทพบรรณาการ, สี่กั๊กพระยาศรี, พระนคร
- ธำรงศักดิ์ เพชรเลิศอนันต์. สยามประเทศไทยกับดินแดนในกัมพูชาและลาว. กทม. มูลนิธิโครงการตำราสังคมศาสตร์. 2552 หน้า 31-38
ก่อนหน้า | พระบาทสมเด็จพระนโรดม บรมรามเทวาวตาร | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
สมเด็จพระหริรักษ์รามาธิบดี | พระมหากษัตริย์แห่งราชอาณาจักรกัมพูชา (2403 - 2447) |
พระบาทสมเด็จพระสีสุวัตถิ์ |