พระเป็นเจ้า

พระเจ้า (อังกฤษ: God) หมายถึง พระผู้เป็นเจ้าสูงสุด คือ ผู้สร้างและบรรดาลสรรพสิ่ง ตามความเชื่อของศาสนาประเภทเอกเทวนิยม อันเป็นที่สักการะบูชาของศาสนาต่างๆ เช่น พระอัลลอหฺของศาสนาอิสลาม พระยาห์เวห์ของศาสนาคริสต์ และอื่น ๆ ระวังสับสนกับคำว่า "เทวดา" หรือ "เทพเจ้า" (อังกฤษ: deity หรือ gods) ซึ่งมีความหมายในเชิงปกรณัมแบบพหุเทวนิยม

  พระเจ้า ในความหมายของ ยูดายห์ คือเทพผู้สูงสุด(เรียกตามท่านอับราฮัม)พระองค์เป็นผู้สร้างสรรพสิ่ง ซึ่งในที่นี้ขอเรียกว่า สิ่งที่มีตัวตน ขอบเขตของสิ่งที่มีตัวตนอันได้แก่ สิ่งที่กินที่ ความคิดมนุษย์ก็กินที่

(หมายถึงตัวความคิดเอง)มนุษย์จะไม่มีทางรู้ได้เลยถ้ามนุษย์ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน การเรียนรู้ของมนุษย์เริ่มจากประสาทสัมผัสทั้ง 5 อันได้แก่ หู ตา จมูก ลิ้น กาย สัมผัส ได้สัมผัสมาก่อน แล้วมันสมองจะเกิดขบวนการประมวลผลและสุดท้าย ทำให้เกิด มโนภาพ จินตภาพ ตามมา ในที่สุดสิ่งที่อยากจะกล่าวคือ หากมนุษย์ไม่เคยพบเห็นมาก่อน มนุษย์ก็จะไม่มีทางคิดออกมาได้เลย มีแต่ความน่าจะเป็นเท่านั้น ยกตัวอย่างเช่น สมมุติว่า มีชาวเขากลุ่มหนึ่งอยู่บนภูเขาและพวกเขาไม่เคยเห็นนก แพนกวิ้นมาก่อน พอมีคนไปเล่าให้ฟังว่านกแพนกวิ้นมีลักษณะอย่างไร ในที่นี้สมมุติว่าเราเล่าว่า นกแพนกวิ้นมีลักษณะตัวกลมอ้วน มีปีก พวกเขาก็จะมีจินตภาพออกไปต่างๆนาๆ ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่าจะมี กี่จินตภาพ หรือ กี่มโนภาพ ที่สร้างขึ้นมาโดยแต่ละคน ที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงการนำเข้าสู่การอธิบายเพื่อจะได้ให้เห็นว่าการสร้างโลกมีจริงอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมในการเรียนรู้ว่ามีพระเจ้าเป็นพระผู้สร้างจริงๆ คือ 1.ถังเปล่า 2.นาฬิกา 3.อะไรก็ได้ที่เราจะทิ้งลงไปในถัง

อันดับแรกเราต้องนิยามคำว่าเวลาเสียก่อน สิ่งที่มีเวลาคืออะไร เป็นคำถามแรกที่เราควรจะรู้ สิ่งที่มีเวลาได้แก่สิ่งที่กินที่ ยกตัวอย่าง คือ

1.เอาถังเปล่ามาวางไว้ตรงหน้า 2.ทิ้งอะไรก็ได้ลงในถัง และก็เริ่มจับเวลา 3.จับเวลาว่า สิ่งที่ทิ้งลงไปในถังนั้นมีอยู่ในถังกี่วินาทีแล้ว นั่นแหละคือการสร้างโลกของพระเจ้า โดยที่เราสมมุติว่า บริเวณถังเปล่านั้นเป็นดินแดนของพระองค์เมื่อเราทิ้งวัสดุหรือสิ่งของลงไปนั่นหมายถึงว่าพระองค์ได้สร้างสรรพสิ่งขึ้นมาแล้ว บางคนอาจถามว่าแล้วสิ่งที่เห็นคือความว่างเปล่านั่นคืออะไร ก็บอกแล้วว่าเราแค่สมมุติว่ามันเป็นดินแดนของพระองค์ซึ่งโดยปกติธรรมดานั้น เราไม่สามารถรับรู้ได้เลย ส่วนคำถามว่าทำไมเราถึงเห็นเราถึงรับรู้ได้ ก็ได้อธิบายไว้แต่เริ่มแรกแล้ว