ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปลาช่อนเอเชีย"
DSisyphBot (คุย | ส่วนร่วม) ล r2.5.1) (โรบอต เพิ่ม: sv:Channa |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 12: | บรรทัด 12: | ||
| subdivision_ranks = [[Species|ชนิด]] |
| subdivision_ranks = [[Species|ชนิด]] |
||
| subdivision = <center>28 โดยประมาณ</center> |
| subdivision = <center>28 โดยประมาณ</center> |
||
| synonyms = *''Ophicephalus'' Bloch, [[ค.ศ. 1793|1793]] |
| synonyms = *''Ophicephalus'' <small>Bloch, [[ค.ศ. 1793|1793]]</small> |
||
*''Bostrychoides'' Lacépède, [[ค.ศ. 1801|1801]] |
*''Bostrychoides'' <small>Lacépède, [[ค.ศ. 1801|1801]]</small> |
||
*''Philypnoides'' Bleeker, [[ค.ศ. 1849|1849]] |
*''Philypnoides'' <small>Bleeker, [[ค.ศ. 1849|1849]] </small> |
||
| range_map = Channa distribution.gif |
| range_map = Channa distribution.gif |
||
| range_map_caption = [[แผนที่]]แสดงการกระจายพันธุ์ของปลาช่อนในสกุล ''Channa'' |
| range_map_caption = [[แผนที่]]แสดงการกระจายพันธุ์ของปลาช่อนในสกุล ''Channa'' |
||
}} |
}} |
||
'''สกุลปลาช่อนเอเชีย''' ({{ชื่อวิทยาศาสตร์|Channa}}) [[สกุล (ชีววิทยา)|สกุล]]ปลาน้ำจืดจำพวกหนึ่ง ใน[[วงศ์ปลาช่อน]] (Channidae) ปลาในสกุลนี้ มีรูปร่างโดยรวมคือ รูปร่างเรียว[[ทรงกระบอก]] ส่วนหัวโตจะงอยปากยื่น ปากกว้าง ตาโต มีฟันเป็นเขี้ยวบนขากรรไกร หัวด้านบนราบ ถ้าดูจากตอนบนจะโค้งมนคล้าย[[งู]] ลำตัวค่อนข้างกลม ครีบหลังและครีบก้นยาว ครีบหางปลายมน ครีบอกใหญ่ ครีบท้องเล็ก เกล็ดใหญ่มีขอบเรียบ มีอวัยวะช่วยหายใจเป็นหลืบเนื้อสีแดงอยู่ในคอหอย เรียกว่า suprabranchia จึงสามารถอยู่ในแหล่งน้ำที่มี[[ออกซิเจน]]ต่ำได้ ลำตัวมีลวดลายและสีสันแตกต่างกันออกไปตามแต่ละชนิด |
'''สกุลปลาช่อนเอเชีย''' ({{ชื่อวิทยาศาสตร์|Channa}}; {{lang-en|Asiatic snakehead}}) [[สกุล (ชีววิทยา)|สกุล]]ปลาน้ำจืดจำพวกหนึ่ง ใน[[วงศ์ปลาช่อน]] (Channidae) ปลาในสกุลนี้ มีรูปร่างโดยรวมคือ รูปร่างเรียว[[ทรงกระบอก]] ส่วนหัวโตจะงอยปากยื่น ปากกว้าง ตาโต มีฟันเป็นเขี้ยวบนขากรรไกร หัวด้านบนราบ ถ้าดูจากตอนบนจะโค้งมนคล้าย[[งู]] ลำตัวค่อนข้างกลม ครีบหลังและครีบก้นยาว ครีบหางปลายมน ครีบอกใหญ่ ครีบท้องเล็ก เกล็ดใหญ่มีขอบเรียบ มีอวัยวะช่วยหายใจเป็นหลืบเนื้อสีแดงอยู่ในคอหอย เรียกว่า suprabranchia จึงสามารถอยู่ในแหล่งน้ำที่มี[[ออกซิเจน]]ต่ำได้ ลำตัวมีลวดลายและสีสันแตกต่างกันออกไปตามแต่ละชนิด |
||
แพร่พันธุ์โดยการวางไข่โดยตัวผู้และตัวเมียช่วยกันปรับพื้นที่น้ำตื้น ๆ ให้เป็นแปลงกลม แล้ววางไข่ลอยเป็นแพ ตัวผู้เป็นผู้ดูแลไข่จนไข่ฟักเป็นตัวแล้วเลี้ยงลูกปลาจนโต เรียกว่า "ลูกครอก" ซึ่งมีสีแดงหรือส้ม รูปร่างคล้ายพ่อแม่ จากนั้นจึงปล่อยให้หากินเอง |
แพร่พันธุ์โดยการวางไข่โดยตัวผู้และตัวเมียช่วยกันปรับพื้นที่น้ำตื้น ๆ ให้เป็นแปลงกลม แล้ววางไข่ลอยเป็นแพ ตัวผู้เป็นผู้ดูแลไข่จนไข่ฟักเป็นตัวแล้วเลี้ยงลูกปลาจนโต เรียกว่า "ลูกครอก" ซึ่งมีสีแดงหรือส้ม รูปร่างคล้ายพ่อแม่ จากนั้นจึงปล่อยให้หากินเอง |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 05:50, 11 พฤษภาคม 2555
ปลาช่อนเอเชีย | |
---|---|
ปลาช่อนเจ็ดสี (Channa bleheri) | |
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Actinopterygii |
อันดับ: | Perciformes |
วงศ์: | Channidae |
สกุล: | Channa Scopoli, 1777 |
ชนิด | |
| |
แผนที่แสดงการกระจายพันธุ์ของปลาช่อนในสกุล Channa | |
ชื่อพ้อง | |
สกุลปลาช่อนเอเชีย (ชื่อวิทยาศาสตร์: Channa; อังกฤษ: Asiatic snakehead) สกุลปลาน้ำจืดจำพวกหนึ่ง ในวงศ์ปลาช่อน (Channidae) ปลาในสกุลนี้ มีรูปร่างโดยรวมคือ รูปร่างเรียวทรงกระบอก ส่วนหัวโตจะงอยปากยื่น ปากกว้าง ตาโต มีฟันเป็นเขี้ยวบนขากรรไกร หัวด้านบนราบ ถ้าดูจากตอนบนจะโค้งมนคล้ายงู ลำตัวค่อนข้างกลม ครีบหลังและครีบก้นยาว ครีบหางปลายมน ครีบอกใหญ่ ครีบท้องเล็ก เกล็ดใหญ่มีขอบเรียบ มีอวัยวะช่วยหายใจเป็นหลืบเนื้อสีแดงอยู่ในคอหอย เรียกว่า suprabranchia จึงสามารถอยู่ในแหล่งน้ำที่มีออกซิเจนต่ำได้ ลำตัวมีลวดลายและสีสันแตกต่างกันออกไปตามแต่ละชนิด
แพร่พันธุ์โดยการวางไข่โดยตัวผู้และตัวเมียช่วยกันปรับพื้นที่น้ำตื้น ๆ ให้เป็นแปลงกลม แล้ววางไข่ลอยเป็นแพ ตัวผู้เป็นผู้ดูแลไข่จนไข่ฟักเป็นตัวแล้วเลี้ยงลูกปลาจนโต เรียกว่า "ลูกครอก" ซึ่งมีสีแดงหรือส้ม รูปร่างคล้ายพ่อแม่ จากนั้นจึงปล่อยให้หากินเอง
แพร่กระจายพันธุ์ในทวีปเอเชีย พบได้ในภูมิภาคเอเชียใต้, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ไปจนถึงเอเชียตะวันออก
มีขนาดรูปร่างแตกต่างกันอย่างมากตามแต่ละชนิด โดยพบมีความยาวตั้งแต่ 1.5 เมตร เช่น Channa micropeltes หรือ C. aurolineatus ไปจนถึงไม่ถึงหนึ่งฟุต
ปัจจุบันพบแล้วประมาณ 28 ชนิด[1]
มีความสำคัญในฐานะเป็นปลาเศรษฐกิจที่บริโภคกันเป็นอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในชนิด C. striata[2] และก็มีหลายชนิดที่นิยมเลี้ยงกันเป็นปลาสวยงาม เช่น C. limbata, C. bleheri, C. stewartii เป็นต้น
อ้างอิง
- ↑ Fishbase
- ↑ หนังสือปลาน้ำจืดไทย โดย ดร.ชวลิต วิทยานนท์ (กรุงเทพ, พ.ศ. 2544) ISBN 974-475-655-5