ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วิกิพีเดีย:ความโดดเด่น"
บรรทัด 14: | บรรทัด 14: | ||
* ในที่นี้ คำว่า "''การกล่าวถึงอย่างสำคัญ''" หมายความว่า แหล่งข้อมูลได้กล่าวถึงหัวเรื่องในรายละเอียดโดยตรง ดังนั้น จึง[[WP:NOR|ไม่จำเป็นต้องมีแหล่งข้อมูลต้นฉบับ]]ในการคัดย่อความเนื้อหา การกล่าวถึงอย่างสำคัญเป็นมากกว่าการกล่าวถึงในเชิงเกร็ด (trivial mention) แต่ไม่ถึงกับต้องเป็นหัวข้อหลักของแหล่งข้อมูลนั้น |
* ในที่นี้ คำว่า "''การกล่าวถึงอย่างสำคัญ''" หมายความว่า แหล่งข้อมูลได้กล่าวถึงหัวเรื่องในรายละเอียดโดยตรง ดังนั้น จึง[[WP:NOR|ไม่จำเป็นต้องมีแหล่งข้อมูลต้นฉบับ]]ในการคัดย่อความเนื้อหา การกล่าวถึงอย่างสำคัญเป็นมากกว่าการกล่าวถึงในเชิงเกร็ด (trivial mention) แต่ไม่ถึงกับต้องเป็นหัวข้อหลักของแหล่งข้อมูลนั้น |
||
* ในที่นี้ คำว่า "''ที่น่าเชื่อถือ''" หมายความว่า แหล่งข้อมูลจะต้องมีความซื่อตรงต่อจรรยาบรรณ (editorial integrity) เพื่อให้การประเมินความโดดเด่นพิสูจน์ยืนยันได้ แหล่งข้อมูลอาจเป็นได้ตั้งแต่งานตีพิมพ์ในทุกรูปแบบ ทุกสื่อ และทุกภาษา การมีแหล่งข้อมูลทุติยภูมิที่ครอบคลุมเนื้อหาเป็นการทดสอบความโดดเด่นได้เป็นอย่างดี |
* ในที่นี้ คำว่า "''ที่น่าเชื่อถือ''" หมายความว่า แหล่งข้อมูลจะต้องมีความซื่อตรงต่อจรรยาบรรณ (editorial integrity) เพื่อให้การประเมินความโดดเด่นพิสูจน์ยืนยันได้ แหล่งข้อมูลอาจเป็นได้ตั้งแต่งานตีพิมพ์ในทุกรูปแบบ ทุกสื่อ และทุกภาษา การมีแหล่งข้อมูลทุติยภูมิที่ครอบคลุมเนื้อหาเป็นการทดสอบความโดดเด่นได้เป็นอย่างดี |
||
* ในที่นี้ "''แหล่งข้อมูล''" ควรเป็นแหล่งข้อมูลทุติยภูมิ เพื่อจุดประสงค์ในการตรวจสอบความโดดเด่นของหัวเรื่อง เพราะแหล่งข้อมูลเหล่านี้มักให้หลักฐานความโดดเด่นโดยอยู่บนพื้นฐานของความจริงมากที่สุด ปริมาณและลักษณะแท้จริงของแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่จำเป็นในการยืนยันความโดดเด่นนั้นต่างกันไปขึ้นอยู่กับความลึกในการลงรายละเอียดและคุณภาพของแหล่งข้อมูล โดยทั่วไปมักคาดว่าหัวเรื่องนั้นจะต้องมีแหล่งข้อมูลหลายแหล่ง แหล่งข้อมูลนั้นไม่จำเป็นต้องเข้าถึงได้ออนไลน์ และไม่จำเป็นต้องเป็นภาษาไทย สิ่งพิมพ์เผยแพร่จากผู้เขียนหรือองค์การเดียวกันมักถือว่า |
* ในที่นี้ "''แหล่งข้อมูล''" ควรเป็นแหล่งข้อมูลทุติยภูมิ เพื่อจุดประสงค์ในการตรวจสอบความโดดเด่นของหัวเรื่อง เพราะแหล่งข้อมูลเหล่านี้มักให้หลักฐานความโดดเด่นโดยอยู่บนพื้นฐานของความจริงมากที่สุด ปริมาณและลักษณะแท้จริงของแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่จำเป็นในการยืนยันความโดดเด่นนั้นต่างกันไปขึ้นอยู่กับความลึกในการลงรายละเอียดและคุณภาพของแหล่งข้อมูล โดยทั่วไปมักคาดว่าหัวเรื่องนั้นจะต้องมีแหล่งข้อมูลหลายแหล่ง แหล่งข้อมูลนั้นไม่จำเป็นต้องเข้าถึงได้ออนไลน์ และไม่จำเป็นต้องเป็นภาษาไทย สิ่งพิมพ์เผยแพร่จากผู้เขียนหรือองค์การเดียวกันมักถือว่าเป็นแหล่งข้อมูลเดียว เพื่อจุดประสงค์ในการพิสูจน์ความโดดเด่น |
||
* ในที่นี้ "''[[WP:COI|ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับหัวเรื่อง]]''" ไม่รวม |
* ในที่นี้ "''[[WP:COI|ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับหัวเรื่อง]]''" ไม่รวมผลงานที่ผลิตขึ้นจากบุคคลหรือองค์การที่เกี่ยวข้องกับหัวเรื่องนั้น ซึ่งมีทั้งการกล่าวถึงตนเอง การโฆษณา ผลงานตีพิมพ์ของตัวเอง อัตชีวประวัติ การแถลงข่าว เป็นต้น |
||
* ในที่นี้ คำว่า "''สันนิษฐาน''" หมายความว่า การกล่าวถึงอย่างสำคัญในแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ทำให้เกิดการสันนิษฐาน แต่มิใช่การรับประกัน ว่าหัวเรื่องนั้น |
* ในที่นี้ คำว่า "''สันนิษฐาน''" หมายความว่า การกล่าวถึงอย่างสำคัญในแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ทำให้เกิดการสันนิษฐาน แต่มิใช่การรับประกัน ว่าหัวเรื่องนั้นเหมาะแก่การเพิ่มเป็นหัวเรื่องในวิกิพีเดีย ผู้เขียนอาจมีมติว่าหัวเรื่องหนึ่งหัวเรื่องใดไม่เหมาะแก่การแยกเป็นบทความใหม่ แม้หัวเรื่องเป็นไปตามเกณฑ์ดังนี้แล้วก็ตาม ซึ่งมีแนวโน้มมากว่าจะละเมิดข้อที่ว่า "วิกิพีเดียไม่ใช่แหล่งข้อมูลจิปาถะ" |
||
หัวเรื่องที่ |
หัวเรื่องที่ชุมชนมีมติเห็นว่าเข้าเกณฑ์ดังนี้โดยทั่วไปมักควรค่าแก่การู้จัก และสอดคล้องกับเกณฑ์ข้อหนึ่งในการมีบทความของตนในสารานุกรม ข้อเท็จจริงและเนื้อหาที่พิสูจน์ยืนยันได้ซึ่งไม่ได้รับการสนับสนุนจากแหล่งข้อมูลไม่มีส่วนได้ส่วนเสียหลายแหล่งอาจเหมาะแก่การรวมเข้าในบทความอื่น |
||
สำหรับ'''ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย''' ผู้เขียนมักปกป้องงานของตนที่ถูกแจ้งลบด้วยเหตุผลดังกล่าวว่า ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับแนวปฏิบัตินี้เลย |
สำหรับ'''ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย''' ผู้เขียนมักปกป้องงานของตนที่ถูกแจ้งลบด้วยเหตุผลดังกล่าวว่า ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับแนวปฏิบัตินี้เลย |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:19, 6 พฤษภาคม 2555
หน้านี้เป็นแนวปฏิบัติว่าด้วยความโดดเด่นของบทความในวิกิพีเดียภาษาไทย เป็นมาตรฐานที่ยอมรับกันทั่วไปว่าผู้เขียนควรพยายามปฏิบัติ แม้ควรปฏิบัติโดยใช้สามัญสำนึกร่วมด้วย และอาจยกเว้นได้ในบางโอกาส การแก้ไขที่เป็นสาระสำคัญควรสะท้อนการเห็นพ้องต้องกัน หากไม่มั่นใจให้อภิปรายก่อน |
สรุปหน้านี้: บทความวิกิพีเดียครอบคลุมเฉพาะหัวเรื่องที่โดดเด่น คือ ได้รับความสนใจอย่างสำคัญเพียงพอโดยคนส่วนใหญ่และเป็นเวลานานพอสมควร และต้องไม่ถูกตัดไปด้วยเหตุผลอื่น เราพิจารณาหลักฐานจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย (reliable independent source) ความโดดเด่นไม่ได้กระทบโดยตรงต่อเนื้อหา (content) ของบทความ เพียงแต่พิจารณาว่าหัวเรื่องนั้นควรมีบทความของตนหรือไม่ |
ในวิกิพีเดีย เงื่อนไขในการนับว่าเป็นสารานุกรม เป็นการตัดสินว่าเรื่องใดควรมีบทความของตนในวิกิพีเดีย สารสนเทศบนวิกิพีเดียต้องพิสูจน์ยืนยันได้ หากไม่สามารถหาแหล่งข้อมูลน่าเชื่อถือและไม่มีส่วนได้ส่วนเสียเกี่ยวกับเนื้อหาได้แล้ว หัวเรื่องนั้นก็ไม่ควรแยกเป็นบทความต่างหาก มโนทัศน์การนับว่าเป็นสารานุกรมของวิกิพีเดียใช้มาตรฐานเบื้องต้นนี้เพื่อป้องกันการเพิ่มหัวเรื่องอย่างขาดการพิจารณา (indiscriminate inclusion) บทความและหัวข้อรายชื่อ (list) จะต้องมีความโดดเด่นหรือ "ควรค่าแก่การรู้จัก" (worthy of notice) การนับว่าเป็นสารานุกรมนั้นไม่จำเป็นจะต้องขึ้นอยู่กับชื่อเสียง ความสำคัญ หรือความเป็นที่นิยม แม้สิ่งเหล่านี้อาจเสริมให้หัวเรื่องเข้ากับแนวปฏิบัติดังที่อธิบายไว้ข้างล่าง
ให้สันนิษฐานว่าหัวเรื่องนั้นควรแก่การเขียนเป็นบทความ หากเป็นไปตามแนวปฏิบัติด้านความโดดเด่นทั่วไปด้านล่าง และต้องไม่ถูกตัดออกภายใต้สิ่งที่ไม่ใช่วิกิพีเดีย นอกจากนี้ เนื้อหาบางประเภทมีหลักเกณฑ์ของแนวปฏิบัติเฉพาะหัวเรื่องตามที่ปรากฏบนกล่องด้านขวามือ ก็ให้ยึดทั้งแนวปฏิบัติในหน้านี้กับแนวปฏิบัติเฉพาะหัวเรื่องควบคู่กันไป หากพิจารณาแล้ว หัวเรื่องนั้นไม่ควรมีบทความของตน ให้รวมเข้ากับบทความอื่นแทน
แนวปฏิบัตินี้เป็นเพียงกรอบพิจารณาว่าหัวเรื่องใดเหมาะแก่การแยกเป็นบทความหรือรายชื่อใหม่ ซึ่งไม่ได้ครอบคลุมเนื้อหาของบทความหรือรายชื่อแต่อย่างใด สำหรับนโยบายวิกิพีเดียด้านเนื้อหานั้น เช่น มุมมองที่เป็นกลาง, งดงานค้นคว้าต้นฉบับ
แนวปฏิบัติด้านความโดดเด่นทั่วไป
หากหัวเรื่องใดได้รับการกล่าวถึงอย่างสำคัญ (significant coverage) ในแหล่งอ้างอิงที่น่าเชื่อถือและไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับหัวเรื่องนั้น ให้สันนิษฐานว่าหัวเรื่องนั้นเป็นไปตามเกณฑ์ในการสร้างเป็นบทความหรือรายชื่อใหม่
- ในที่นี้ คำว่า "การกล่าวถึงอย่างสำคัญ" หมายความว่า แหล่งข้อมูลได้กล่าวถึงหัวเรื่องในรายละเอียดโดยตรง ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องมีแหล่งข้อมูลต้นฉบับในการคัดย่อความเนื้อหา การกล่าวถึงอย่างสำคัญเป็นมากกว่าการกล่าวถึงในเชิงเกร็ด (trivial mention) แต่ไม่ถึงกับต้องเป็นหัวข้อหลักของแหล่งข้อมูลนั้น
- ในที่นี้ คำว่า "ที่น่าเชื่อถือ" หมายความว่า แหล่งข้อมูลจะต้องมีความซื่อตรงต่อจรรยาบรรณ (editorial integrity) เพื่อให้การประเมินความโดดเด่นพิสูจน์ยืนยันได้ แหล่งข้อมูลอาจเป็นได้ตั้งแต่งานตีพิมพ์ในทุกรูปแบบ ทุกสื่อ และทุกภาษา การมีแหล่งข้อมูลทุติยภูมิที่ครอบคลุมเนื้อหาเป็นการทดสอบความโดดเด่นได้เป็นอย่างดี
- ในที่นี้ "แหล่งข้อมูล" ควรเป็นแหล่งข้อมูลทุติยภูมิ เพื่อจุดประสงค์ในการตรวจสอบความโดดเด่นของหัวเรื่อง เพราะแหล่งข้อมูลเหล่านี้มักให้หลักฐานความโดดเด่นโดยอยู่บนพื้นฐานของความจริงมากที่สุด ปริมาณและลักษณะแท้จริงของแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือที่จำเป็นในการยืนยันความโดดเด่นนั้นต่างกันไปขึ้นอยู่กับความลึกในการลงรายละเอียดและคุณภาพของแหล่งข้อมูล โดยทั่วไปมักคาดว่าหัวเรื่องนั้นจะต้องมีแหล่งข้อมูลหลายแหล่ง แหล่งข้อมูลนั้นไม่จำเป็นต้องเข้าถึงได้ออนไลน์ และไม่จำเป็นต้องเป็นภาษาไทย สิ่งพิมพ์เผยแพร่จากผู้เขียนหรือองค์การเดียวกันมักถือว่าเป็นแหล่งข้อมูลเดียว เพื่อจุดประสงค์ในการพิสูจน์ความโดดเด่น
- ในที่นี้ "ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับหัวเรื่อง" ไม่รวมผลงานที่ผลิตขึ้นจากบุคคลหรือองค์การที่เกี่ยวข้องกับหัวเรื่องนั้น ซึ่งมีทั้งการกล่าวถึงตนเอง การโฆษณา ผลงานตีพิมพ์ของตัวเอง อัตชีวประวัติ การแถลงข่าว เป็นต้น
- ในที่นี้ คำว่า "สันนิษฐาน" หมายความว่า การกล่าวถึงอย่างสำคัญในแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือได้ทำให้เกิดการสันนิษฐาน แต่มิใช่การรับประกัน ว่าหัวเรื่องนั้นเหมาะแก่การเพิ่มเป็นหัวเรื่องในวิกิพีเดีย ผู้เขียนอาจมีมติว่าหัวเรื่องหนึ่งหัวเรื่องใดไม่เหมาะแก่การแยกเป็นบทความใหม่ แม้หัวเรื่องเป็นไปตามเกณฑ์ดังนี้แล้วก็ตาม ซึ่งมีแนวโน้มมากว่าจะละเมิดข้อที่ว่า "วิกิพีเดียไม่ใช่แหล่งข้อมูลจิปาถะ"
หัวเรื่องที่ชุมชนมีมติเห็นว่าเข้าเกณฑ์ดังนี้โดยทั่วไปมักควรค่าแก่การู้จัก และสอดคล้องกับเกณฑ์ข้อหนึ่งในการมีบทความของตนในสารานุกรม ข้อเท็จจริงและเนื้อหาที่พิสูจน์ยืนยันได้ซึ่งไม่ได้รับการสนับสนุนจากแหล่งข้อมูลไม่มีส่วนได้ส่วนเสียหลายแหล่งอาจเหมาะแก่การรวมเข้าในบทความอื่น
สำหรับความเข้าใจผิดที่พบบ่อย ผู้เขียนมักปกป้องงานของตนที่ถูกแจ้งลบด้วยเหตุผลดังกล่าวว่า ไม่ละเมิดลิขสิทธิ์ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับแนวปฏิบัตินี้เลย
ความโดดเด่นของบทความต้องอาศัยหลักฐานที่พิสูจน์ยืนยันได้
หัวใจหลักของแนวปฏิบัติด้านความโดดเด่นของบทความ คือ หัวเรื่องจะต้องสามารถพิสูจน์ยืนยันได้จากแหล่งข้อมูลที่ยุติธรรมและสามารถพิสูจน์ยืนยันได้ว่าหัวเรื่องได้รับความสนใจอย่างสำคัญเพื่อสนับสนุนคำกล่าวอ้างที่ว่าหัวเรื่องดังกล่าวมีความโดดเด่นพอที่จะเพิ่มลงในวิกิพีเดีย
หลักฐานนั้นจะต้องแสดงให้เห็นว่าหัวเรื่องได้รับการกล่าวถึงหรือเป็นที่รู้จักอย่างสำคัญและไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย และจะต้องไม่ใช่เป็นเพียงการให้ความสนใจในระยะสั้นเท่านั้น หรือเป็นผลมาจากกิจกรรมส่งเสริมการขายหรือการเผยแพร่อย่างขาดการพิจารณา หรือหัวเรื่องนั้นอาจไม่มีความเหมาะสมเนื่องจากเหตุผลอื่น แหล่งข้อมูลที่ใช้เป็นหลักฐานรวมไปถึง สิ่งตีพิมพ์ที่ได้รับการพิจารณาตรวจสอบจากผู้เชี่ยวชาญและได้รับการยอมรับ หนังสือที่น่าเชื่อถือและมีหลักฐานพิสูจน์ แหล่งสื่อที่มีชื่อเสียง และแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถืออื่นโดยรวม
ผู้เขียนที่กำลังประเมินความโดดเด่นของบทความไม่ควรพิจารณาเฉพาะแต่จากแหล่งข้อมูลใด ๆ ที่ได้รับการกล่าวถึงในบทความเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงความเป็นไปได้ที่ว่าอาจมีแหล่งข้อมูลที่ระบุความโดดเด่นของบทความที่ยังมิได้รวมอยู่ในบทความ ณ ปัจจุบัน ความโดดเด่นของบทความต้องการเพียงการมีอยู่ของแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือและมีความเหมาะสม มิใช่จากการอ้างอิง ณ ปัจจุบัน บทความวิกิพีเดียไม่จำเป็นต้องเป็นร่างฉบับสมบูรณ์ และหัวเรื่องสามารถมีความโดดเด่นได้หากมีแหล่งข้อมูลที่เข้าข่ายอยู่จริง ถึงแม้ว่าแหล่งข้อมูลนั้นอาจมิได้เกิดขึ้นในเวลานี้ก็ตาม อย่างไรก็ตาม เมื่อความโดดเด่นของบทความได้รับการโต้แย้ง การระบุเพียงว่าแหล่งข้อมูลที่ยืนยันความโดดเด่นของบทความมีอยู่โดยไม่ระบุลงไปชัดเจนนั้นเป็นการยากที่จะทำให้ผู้อื่นคล้อยตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเวลาผ่านไปและไม่มีการนำหลักฐานมาแสดง หากพบว่าแหล่งข้อมูลที่ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับหัวเรื่องมีการกล่าวถึงหัวเรื่องอย่างสำคัญ การลบบทความนั้นเพราะขาดความโดดเด่นของบทความเป็นสิ่งที่สมควร
ความโดดเด่นของบทความมิได้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว
ความโดดเด่นของหัวเรื่องมิใช่สิ่งที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว: เมื่อหัวเรื่องได้รับการ "กล่าวถึงอย่างสำคัญ" ตามแนวปฏิบัติด้านความโดดเด่นของบทความโดยทั่วไปแล้วนั้น หัวเรื่องนั้นไม่จำเป็นจะต้องได้รับการกล่าวถึงอยู่ตลอดเวลาอีก
อย่างไรก็ตาม วิกิพีเดียไม่ใช่แหล่งข่าว: หัวเรื่องจะต้องเป็นมากกว่าการรายงานข่าวประจำเกี่ยวกับเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่งหรือหัวเรื่องจึงจะสามารถระบุได้ว่าเป็นการกล่าวถึงอย่างสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น การนำเสนอข่าวในข่าวสำหรับหนังสือพิมพ์ การประกาศสาธารณะ รายงานข่าวกีฬา ไม่ใช่การกล่าวถึงอย่างสำคัญ การรายงานข่าวจำนวนมากที่ไม่ได้มีการวิเคราะห์อย่างสำคัญเกี่ยวกับเหตุการณ์ก็ไม่ได้รับการพิจารณาว่าเป็นการกล่าวถึงอย่างสำคัญทั้งหมด มูลนิธิวิกิมีเดียมีโครงการวิกิข่าว ซึ่งเปิดโอกาสให้คุณนำเสนอหัวเรื่องข่าว
ในขณะที่ความโดดเด่นของบทความมิได้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว ในบางครั้งอาจมีการประเมินหลักฐานยืนยันความโดดเด่นหรือความเหมาะสมของบทความที่มีอยู่แล้วใหม่ ซึ่งอาจมีการร้องขอโดยผู้ใช้รายใดก็ได้ผ่านการอภิปรายให้ลบ หรืออาจมีหลักฐานใหม่ ๆ ปรากฏขึ้นสำหรับบทความที่ในอดีตเคยมีการพิจารณาว่าไม่เหมาะสมก็เป็นได้ ผลที่ตามมาคือ บทความอาจได้รับการเสนอให้ลบหรือสร้างขึ้นใหม่หลังจากที่มีการพิจารณาความโดดเด่นของบทความไปแล้วก่อนหน้านี้ ซึ่งอาจกินระยะเวลานานเป็นเดือนหรือเป็นปี
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หากแหล่งข้อมูลอื่นกล่าวถึงบุคคลเพียงแต่ในบริบทของเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง และถ้าบุคคลนั้นยังคงหรือดูเหมือนว่ายังคงได้รับความสนใจน้อย เราควรหลีกเลี่ยงที่จะมีบทความชีวประวัติเกี่ยวกับบุคคลนั้น
ความโดดเด่นต้องไม่ใช่การส่งเสริมการขายหรือการเผยแพร่ข้อมูลโดยขาดการพิจารณา
แม้ว่าสื่อประเภทสิ่งตีพิมพ์จะถือเป็นแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็ไม่ใช่หลักฐานยืนยันความโดดเด่นของบทความได้เสมอไป:
วิกิพีเดียไม่ใช่สื่อกลางในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ การนำเสนอตัวเอง สื่อที่ได้รับจ้างมา อัตชีวประวัติ และผลิตภัณฑ์วางตลาดไม่ใช่แนวทางที่ดีในการเขียนบทความสารานุกรม การวัดความโดดเด่นคือว่าที่มาของแหล่งอ้างอิงนั้นจะต้องไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับหัวเรื่อง (หรือผู้ผลิต ผู้สร้าง นักประพันธ์ นักประดิษฐ์ หรือผู้ขาย) ซึ่งผู้ที่สร้างสื่อที่ใช้เป็นแหล่งข้อมูลนั้นจะพิจารณาว่าหัวเรื่องนั้นมีความสำคัญพอที่จะกล่าวถึงและตีพิมพ์เป็นผลงานที่ไม่ใช่เกร็ดเกี่ยวกับมุมมองที่พวกเขามีต่อหัวเรื่องนั้น โดยไม่มีสิ่งกระตุ้น การส่งเสริม หรืออิทธิพลจากผู้ที่เชื่อมโยงกับหัวเรื่อง
แหล่งข้อมูลที่เป็นกลางยังจำเป็นในการรับประกันว่าบทความนั้นจะเป็นบทความที่ปราศจากอคติ แหล่งข้อมูลที่ตีพิมพ์ขึ้นเองไม่สามารถสันนิษฐานได้ว่าเป็นกลาง (ดูเพิ่มที่ ผลประโยชน์ทับซ้อน สำหรับแนวปฏิบัติของวิกิพีเดียที่มีต่อความเป็นกลางของแหล่งข้อมูลเช่นนี้) แม้ว่าแหล่งข้อมูลตีพิมพ์เองที่ไม่ใช่การส่งเสริม อย่างเช่น คู่มือทางเทคนิคที่เป็นของผลิตภัณฑ์ดังกล่าว ก็ยังถือว่าไม่ใช่หลักฐานยืนยันความโดดเด่นของหัวเรื่อง เนื่องจากไม่ได้วัดว่าหัวเรื่องดังกล่าวได้รับความสนใจมากน้อยเพียงใด
ความโดดเด่นควรเป็นที่รู้จัก
สำหรับแนวปฏิบัติที่ได้รับการอภิปรายแล้วในวิกิพีเดียภาษาไทย การพิจารณาความโดดเด่นรวมไปถึงการตัดสินว่าหัวเรื่องนั้นมีผู้รู้จักจำนวนหนึ่งหรือไม่ กล่าวคือ ควรจะมีอย่างน้อย 0.01% (ประมาณ 10,000 คนขึ้นไป) ที่รับรู้ถึงหรือได้รับผลกระทบจากหัวเรื่อง กล่าวได้ว่าหัวเรื่องใดที่เป็นที่รู้จักกันในระดับประเทศหรือระดับโลกแล้ว ไม่ว่าในปัจจุบันหรือในอดีต หรือเคยตกเป็นข่าวดังมาก่อน ย่อมมีความเป็นไปได้มากว่าจะสามารถเขียนเป็นบทความบนวิกิพีเดียได้ ทั้งนี้ อาจพิจารณาจากการมีบทความในวิกิพีเดียภาษาอื่นเป็นเกณฑ์ได้ด้วยเช่นกัน
หัวเรื่องที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์หรือวัฒนธรรมมักจะผ่านเกณฑ์ด้านความโดดเด่น แต่ก็จะต้องสามารถพิสูจน์ได้ว่ามีความสำคัญอย่างไร
วิธีแก้ไขบทความที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไข
สำหรับบทความในหัวเรื่องที่ไม่เป็นไปตามเงื่อนไขข้างต้นมักจะถูกลบ ถึงแม้ว่าจะมีทางเลือกอื่นอยู่บ้าง (เช่น อาจจะรวมไว้ในส่วนหนึ่งของบทความอื่นเช่น มือกลองของวงดนตรี เมื่อเขียนแยกบทความอาจจะไม่มีเนื้อหาเพียงพอ อาจจะเขียนรวมไว้ในบทความของวงดนตรีนั้น ๆ แทน) สำหรับบทความที่มีความโดดเด่นของบทความไม่ชัดเจน การลบควรจะเป็นทางเลือกสุดท้ายจริง ๆ
ถ้าบทความนั้นไม่มีแหล่งอ้างอิงแสดงความโดดเด่นของบทความเกี่ยวกับหัวเรื่อง ควรอาจดูแหล่งอ้างอิงด้วยตนเอง หรือ:
- ถามผู้สร้างบทความหรือผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับหัวเรื่อง สำหรับข้อแนะนำว่าควรหาแหล่งอ้างอิงจากที่ใด
- เพิ่มแม่แบบ {{ขาดความสำคัญ}} บนหัวบทความเพื่อเตือนผู้เขียนคนอื่น
- หากบทความนั้นเป็นบทความเฉพาะด้าน อาจใช้แม่แบบ {{โปร}} เพื่อให้ผู้ใช้ที่มีความรู้ลึกในด้านนั้น ผู้ซึ่งอาจมีแหล่งอ้างอิงที่ไม่ได้อยู่บนอินเทอร์เน็ต
หากไม่มีแหล่งข้อมูลที่เหมาะสมหลังจากได้ทำการสืบค้นแล้ว พิจารณารวมบทความเข้ากับเนื้อหาที่พิสูจน์ยืนยันได้ในแง่มุมที่กว้างขึ้นพร้อมกับอธิบายบริบท แต่ถ้าหากจะต้องลบ:
- ถ้าบทความเข้ากับเงื่อนไขการลบทันทีอย่างใดอย่างหนึ่ง คุณสามารถแจ้งลบได้โดยอ้างเหตุผล ผู้ดูแลระบบอาจพิจารณาลบทันทีหรือรอ 7 วันหลังจากที่ได้มีการอภิปรายเกี่ยวกับเนื้อหาสักระยะหนึ่งแล้ว
- หากบทความนั้นถูกติดป้ายเป็นเวลานานกว่า 6 เดือน โดยไม่มีการแก้ไขเพิ่มเติมนับตั้งแต่วันที่ติดป้าย สามารถแจ้งลบหรือผู้ดูแลระบบสามารถลบได้ทันที