ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ไทยวน"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
RxAlchemiste (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
RxAlchemiste (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 8: บรรทัด 8:
ซึ่งมักจะเข้าใจว่าชาวล้านนามีภาษาและวัฒนธรรมใกล้เคียงกับชาวลาว จึงมีทัศนะว่าชาวล้านนาเป็นคนลาว ดังนั้นการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาลในสมัย[[รัชกาลที่ 5]] จึงจัดให้หัวเมืองล้านนาอยู่ใน [[มณฑลพายัพ]] (เดิมชื่อมณฑลลาวเฉียง) และ [[มณฑลมหาราษฎร์]] จนเมื่อมีการรวมอำนาจเข้าสู่ส่วนกลางแล้ว ชาวไทยจึงได้หล่อหลอมให้ชาวล้านนาเป็นชาวไทย โดยใช้ระบบการศึกษาเข้าช่วยสร้างสามัญสำนึกเป็นคนไทยได้อย่างรวดเร็ว
ซึ่งมักจะเข้าใจว่าชาวล้านนามีภาษาและวัฒนธรรมใกล้เคียงกับชาวลาว จึงมีทัศนะว่าชาวล้านนาเป็นคนลาว ดังนั้นการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาลในสมัย[[รัชกาลที่ 5]] จึงจัดให้หัวเมืองล้านนาอยู่ใน [[มณฑลพายัพ]] (เดิมชื่อมณฑลลาวเฉียง) และ [[มณฑลมหาราษฎร์]] จนเมื่อมีการรวมอำนาจเข้าสู่ส่วนกลางแล้ว ชาวไทยจึงได้หล่อหลอมให้ชาวล้านนาเป็นชาวไทย โดยใช้ระบบการศึกษาเข้าช่วยสร้างสามัญสำนึกเป็นคนไทยได้อย่างรวดเร็ว


ส่วนทางฝรั่งอธิบายว่า พวก[[ล้านนา]] ซึ่งระบุเมือง [[เชียงราย]] [[เชียงของ]] [[เชียงแสน]] รวมความว่าแคว้นโยนกโบราณซึ่งกลายมาเป็นล้านนาในภายหลัง แบ่งกันอีกอย่างหนึ่งว่าพวกอยู่ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงเป็น "ลาวล้านช้าง" ส่วนฝั่งขวาคือ "ไทล้านนา" นอกจากนี้ยังแบ่งอีกว่า ลาวพุงขาว-ลาวพุงดำ พวกล้านช้างเป็น "ลาวพุงขาว" เพราะพวกนี้แม่นิยมสักตามตัว ก็สักแต่ขาตัวตัว ไม่สักที่พุง แต่ไทล้านนา ได้ความว่าชอบสักที่พุง จึงเรียกว่า "ลาวพุงดำ"
ส่วนทางฝรั่งอธิบายว่า พวก[[ล้านนา]]ซึ่งระบุเมือง [[เชียงราย]] [[เชียงของ]] [[เชียงแสน]]รวมความว่าแคว้นโยนกโบราณซึ่งกลายมาเป็นล้านนาในภายหลัง แบ่งกันอีกอย่างหนึ่งว่าพวกอยู่ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงเป็น "ลาวล้านช้าง" ส่วนฝั่งขวาคือ "ไทล้านนา" นอกจากนี้ยังแบ่งอีกว่า "ลาวพุงขาว-ลาวพุงดำ" พวกล้านช้างเป็น "ลาวพุงขาว" เพราะพวกนี้แม่นิยมสักตามตัว ก็สักแต่ขาตัวตัว ไม่สักที่พุง แต่ไทล้านนา ได้ความว่าชอบสักที่พุง จึงเรียกว่า "ลาวพุงดำ"


== ดูเพิ่ม ==
== ดูเพิ่ม ==
* [[คำเมือง]]
* [[คำเมือง]]
* [[ราชวงศ์มังราย]]
* [[อาณาจักรล้านนา]]
* [[อาณาจักรล้านนา]]



รุ่นแก้ไขเมื่อ 06:42, 11 กุมภาพันธ์ 2555

ไทยวน (อ่านว่า ไท-ยวน) เป็นกลุ่มชาติพันธุ์ตระกูลภาษาไท-กะไดกลุ่มหนึ่งที่ตั้งถิ่นฐานทางตอนเหนือของประเทศไทย ในอดีตคนล้านนามีหลายกลุ่มชาติพันธุ์ แต่กลุ่มใหญ่ที่สุดคือ "ไทยวน" ซึ่งมีคำเรียกตนเองหลายอย่าง เช่น "ยวน โยน ไต หรือ ไท" และถึงแม้ในปัจจุบัน ชาวล้านนาจะกลายเป็นพลเมืองของประเทศไทยแล้วก็ตาม แต่ก็มักเรียกตนเองว่า "คนเมือง" ซึ่งเป็นคำเรียกที่เกิดขึ้นในภายหลัง ในยุคเก็บผักใส่ซ้าเก็บข้าใส่เมือง เพื่อฟื้นฟูประชากรในล้านนาหลังสงคราม โดยการกวาดต้อนกลุ่มคนจากที่ต่างๆเข้ามายังเมืองของตน

ในปี พ.ศ. 2454 แดเนียล แม็คกิลวารี ซึ่งทำงานเผยแพร่คริสต์ศาสนาในล้านนา เป็นเวลาเกือบห้าสิบปี (พ.ศ. 2410 - 2453) ได้เขียนหนังสือเรื่อง "กึ่งศตวรรษในหมู่ชาวสยามและชาวลาว" เรียกคนในล้านนาว่า "คนลาว" เรียกตั๋วเมืองว่าเป็น "ภาษาลาว" และเรียกดินแดนแห่งนี้ว่า "ลาว" ในงานเรื่อง "ชนชาติไท" ตีพิมพ์ในปี พ.ศ. 2466 วิลเลียม คลิฟตัน ด็อดด์ มิชชันนารีชาวอเมริกัน ซึ่งทำงานที่เชียงรายนานถึง 32 ปี (พ.ศ. 2429 - 2461) กล่าวถึงคนเขตภาคเหนือตอนบนของไทยว่าเป็น "คนยวน" มิใช่คนลาวดังที่หลายฝ่ายเข้าใจ แต่ความน่าสนใจของแม็คกิลวารี และ ด็อดด์ อยู่ที่ว่าคนทั้งสองได้ทำงานในล้านนาเป็นเวลานานมาก จึงน่าจะมีความรู้ความเข้าใจในท้องถิ่นอย่างมาก แต่คนทั้งสองก็มิได้แตกต่างจากชาวต่างชาติคนอื่น ที่เข้ามาเยือนภาคเหนือเหมือนกัน แต่อยู่ไม่นาน นั่นคือไม่พูดถึงการเมืองท้องถิ่น และมองคนในภาคเหนือในมุมมองที่แทบไม่แตกต่างจากมุมมองของชาวสยามทั่วไป

ซึ่งมักจะเข้าใจว่าชาวล้านนามีภาษาและวัฒนธรรมใกล้เคียงกับชาวลาว จึงมีทัศนะว่าชาวล้านนาเป็นคนลาว ดังนั้นการปกครองแบบมณฑลเทศาภิบาลในสมัยรัชกาลที่ 5 จึงจัดให้หัวเมืองล้านนาอยู่ใน มณฑลพายัพ (เดิมชื่อมณฑลลาวเฉียง) และ มณฑลมหาราษฎร์ จนเมื่อมีการรวมอำนาจเข้าสู่ส่วนกลางแล้ว ชาวไทยจึงได้หล่อหลอมให้ชาวล้านนาเป็นชาวไทย โดยใช้ระบบการศึกษาเข้าช่วยสร้างสามัญสำนึกเป็นคนไทยได้อย่างรวดเร็ว

ส่วนทางฝรั่งอธิบายว่า พวกล้านนาซึ่งระบุเมือง เชียงราย เชียงของ เชียงแสนรวมความว่าแคว้นโยนกโบราณซึ่งกลายมาเป็นล้านนาในภายหลัง แบ่งกันอีกอย่างหนึ่งว่าพวกอยู่ฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงเป็น "ลาวล้านช้าง" ส่วนฝั่งขวาคือ "ไทล้านนา" นอกจากนี้ยังแบ่งอีกว่า "ลาวพุงขาว-ลาวพุงดำ" พวกล้านช้างเป็น "ลาวพุงขาว" เพราะพวกนี้แม่นิยมสักตามตัว ก็สักแต่ขาตัวตัว ไม่สักที่พุง แต่ไทล้านนา ได้ความว่าชอบสักที่พุง จึงเรียกว่า "ลาวพุงดำ"

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  • สุรชัย จงจิตงาม,ท่องเที่ยว-เรียนรู้ ล้านนา เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง ,หน้า16