ผลต่างระหว่างรุ่นของ "รัฐสุลต่านรูม"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 31: บรรทัด 31:
'''รัฐสุลต่านรูม''' ({{lang-en|Sultanate of Rûm}}, {{lang-ar|سلاجقة الروم}}) เป็น[[รัฐสุลต่าน]][[เซลจุคตุรกี]]<ref>[http://books.google.de/books?q=seljuk+turks&lr=&sa=N&start=0 "Seljuq Turks" in various scholastic sources]</ref> ที่ปกครองอาณาบริเวณส่วนใหญ่ของ[[อานาโตเลีย]]ระหว่างปี [[ค.ศ. 1077]] จนถึงปี [[ค.ศ. 1307]] โดยมี[[เมืองหลวง]]อยู่ที่[[อิซนิค]]และต่อมา[[คอนยา]] เนื่องจากอาณาจักรสุลต่านเป็นอาณาจักรที่มีการเคลื่อนย้ายอยู่เสมอฉะนั้นเมืองอื่นเช่น[[เคย์เซรี]]และ[[ซิวาส]]ต่างก็ได้เป็น[[เมืองหลวง]]อยู่ระยะหนึ่ง ในสมัยที่รุ่งเรืองที่สุดอาณาจักรสุลต่านแห่งรัมมีอาณาบริเวณครอบคลุมกลาง[[ตุรกี]]ตั้งแต่เมืองท่า[[อันทาลยา]]-[[อลันยา]]บนฝั่ง[[ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน]]ไปจนถึง[[ไซนอพ (ตุรกี)|ไซนอพ]]บนฝั่ง[[ทะเลดำ]] ทางตะวันออกอาณาจักรสุลต่านก็ผนวกรัฐต่างๆ ของตุรกีไปจนถึง[[ทะเลสาบวาน]] ทางด้านตะวันตกสุดก็มีอาณาบริเวณไปจรดบริเวณ[[เดนิซลิ]]และบริเวณ[[ทะเลอีเจียน]]
'''รัฐสุลต่านรูม''' ({{lang-en|Sultanate of Rûm}}, {{lang-ar|سلاجقة الروم}}) เป็น[[รัฐสุลต่าน]][[เซลจุคตุรกี]]<ref>[http://books.google.de/books?q=seljuk+turks&lr=&sa=N&start=0 "Seljuq Turks" in various scholastic sources]</ref> ที่ปกครองอาณาบริเวณส่วนใหญ่ของ[[อานาโตเลีย]]ระหว่างปี [[ค.ศ. 1077]] จนถึงปี [[ค.ศ. 1307]] โดยมี[[เมืองหลวง]]อยู่ที่[[อิซนิค]]และต่อมา[[คอนยา]] เนื่องจากอาณาจักรสุลต่านเป็นอาณาจักรที่มีการเคลื่อนย้ายอยู่เสมอฉะนั้นเมืองอื่นเช่น[[เคย์เซรี]]และ[[ซิวาส]]ต่างก็ได้เป็น[[เมืองหลวง]]อยู่ระยะหนึ่ง ในสมัยที่รุ่งเรืองที่สุดอาณาจักรสุลต่านแห่งรัมมีอาณาบริเวณครอบคลุมกลาง[[ตุรกี]]ตั้งแต่เมืองท่า[[อันทาลยา]]-[[อลันยา]]บนฝั่ง[[ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน]]ไปจนถึง[[ไซนอพ (ตุรกี)|ไซนอพ]]บนฝั่ง[[ทะเลดำ]] ทางตะวันออกอาณาจักรสุลต่านก็ผนวกรัฐต่างๆ ของตุรกีไปจนถึง[[ทะเลสาบวาน]] ทางด้านตะวันตกสุดก็มีอาณาบริเวณไปจรดบริเวณ[[เดนิซลิ]]และบริเวณ[[ทะเลอีเจียน]]


คำว่า “Rûm” [[ภาษาอาหรับ|อาหรับ]]ที่ใช้เรียก[[จักรวรรดิโรมัน|โรมัน]] เซลจุคเรียกอาณาจักรของตนเองว่า “รูม” เพราะกองทัพมุสลิมต่างๆ ถือว่าบริเวณนี้เคยเป็นดินแดนที่ถือว่าเป็นดินแดน “โรมัน” มาแต่โบราณหรือของ[[จักรวรรดิไบแซนไทน์|จักรวรรดิโรมันตะวันออก]]<ref>Alexander Kazhdan, “Rūm” ''The Oxford Dictionary of Byzantium'' (Oxford University Press, 1991), vol. 3, p. 1816.</ref> นักประวัติศาสตร์ตุรกีสมัยปัจจุบันเรียกอาณาจักรนี้ว่า “รัฐสุลต่านอานาโตเลีย” (“Anadolu Selçukluları”) หรือเมื่อไม่นานมานี้ก็เรียกว่า “เซลจุคแห่งตุรกี” (“Türkiye Selçukluları”) หรือบางครั้งก็มีบ้างที่เรียกว่า “รัฐสุลต่านคอนยา” หรือ “รัฐสุลต่านไอโคเนียม” ในบันทึกที่เขียนในตะวันตก ส่วนใน[[ประเทศไทย]]ช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เรียกอาณาจักรว่า หรุ่ม หรือ หรุ่มโต้ระกี่<ref>สุจิตต์ วงษ์เทศ. ''กรุงเทพฯ มาจากไหน?.'' กรุงเทพฯ:มติชน, 2548. หน้า 194</ref> ตามที่ปรากฏในโคลงภาพคนต่างภาษาช่วงรัชสมัยของ[[พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว]]<ref>สุจิตต์ วงษ์เทศ. ''กรุงเทพฯ มาจากไหน?.'' กรุงเทพฯ:มติชน, 2548. หน้า 192</ref>
คำว่า “Rûm” [[ภาษาอาหรับ|อาหรับ]]ที่ใช้เรียก[[จักรวรรดิโรมัน|โรมัน]] เซลจุคเรียกอาณาจักรของตนเองว่า “รูม” เพราะกองทัพมุสลิมต่างๆ ถือว่าบริเวณนี้เคยเป็นดินแดนที่ถือว่าเป็นดินแดน “โรมัน” มาแต่โบราณหรือของ[[จักรวรรดิไบแซนไทน์|จักรวรรดิโรมันตะวันออก]]<ref>Alexander Kazhdan, “Rūm” ''The Oxford Dictionary of Byzantium'' (Oxford University Press, 1991), vol. 3, p. 1816.</ref> นักประวัติศาสตร์ตุรกีสมัยปัจจุบันเรียกอาณาจักรนี้ว่า “รัฐสุลต่านอานาโตเลีย” (“Anadolu Selçukluları”) หรือเมื่อไม่นานมานี้ก็เรียกว่า “เซลจุคแห่งตุรกี” (“Türkiye Selçukluları”) หรือบางครั้งก็มีบ้างที่เรียกว่า “รัฐสุลต่านคอนยา” หรือ “รัฐสุลต่านไอโคเนียม” ในบันทึกที่เขียนในตะวันตก ส่วนใน[[ประเทศไทย]]ช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เรียกอาณาจักรนี้ว่า หรุ่ม หรือ หรุ่มโต้ระกี่<ref>สุจิตต์ วงษ์เทศ. ''กรุงเทพฯ มาจากไหน?.'' กรุงเทพฯ:มติชน, 2548. หน้า 194</ref> ตามที่ปรากฏในโคลงภาพคนต่างภาษาช่วงรัชสมัยของ[[พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว]]<ref>สุจิตต์ วงษ์เทศ. ''กรุงเทพฯ มาจากไหน?.'' กรุงเทพฯ:มติชน, 2548. หน้า 192</ref>


รัฐสุลต่านรูมมีความรุ่งเรืองที่สุดในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12 ถึงต้น คริสต์ศตวรรษที่ 13 เมื่อยึดเมืองท่าสำคัญบนฝั่ง[[ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน]]และบนฝั่ง[[ทะเลดำ]]จาก[[จักรวรรดิไบแซนไทน์]]ได้ ภายในอานาโตเลียเซลจุคก็ทำการค้าขายโดยใช้ระบบ[[สถานีคาราวาน]] (caravanserai) โดยการตั้งที่พักผู้ขนย้ายสินค้าเป็นระยะๆ ที่เป็นการช่วยให้ความสะดวกแก่การขนย้ายสินค้าจาก[[อิหร่าน]]และ[[เอเชียกลาง]]ไปยังเมืองท่าต่างๆ รัฐสุลต่านรูมมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่แน่นหนากับ[[สาธารณรัฐเจนัว]]ก็ก่อตั้งขึ้นในสมัยนี้ ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นทำให้เซลจุคสามารถผนวกรัฐต่างๆ ในตุรกีที่ก่อตั้งขึ้นทางตะวันออกได้หลังจาก[[ยุทธการมันซิเคิร์ต]] (Battle of Manzikert) ที่รวมทั้งดินแดนของ[[ดานิชเมนด์ส]] (Danishmends), [[เมงกือเซ็ค]] (Mengücek), [[ซัลตุคลุ]] (Saltuklu) และ [[อาร์ตูคลุ]] (Artuklu) สุลต่านเซลจุคสามารถต่อต้าน[[นักรบครูเสด]] แต่ในปี ค.ศ. 1243 ก็มาเพลี่ยงพล้ำต่อ[[จักรวรรดิมองโกล]]ที่เข้ามารุกราน ในที่สุดเซลจุคก็กลายเป็นเมืองขึ้นของมองโกล และแม้ว่าชนชั้นบริหารจะพยายามรักษาความเป็นรัฐสุลต่านไว้แต่ในที่สุดอำนาจของอาณาจักรสุลต่านก็เสื่อมโทรมลงในราวครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 13 และสลายตัวไปในสิบปีแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 14
รัฐสุลต่านรูมมีความรุ่งเรืองที่สุดในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12 ถึงต้น คริสต์ศตวรรษที่ 13 เมื่อยึดเมืองท่าสำคัญบนฝั่ง[[ทะเลเมดิเตอร์เรเนียน]]และบนฝั่ง[[ทะเลดำ]]จาก[[จักรวรรดิไบแซนไทน์]]ได้ ภายในอานาโตเลียเซลจุคก็ทำการค้าขายโดยใช้ระบบ[[สถานีคาราวาน]] (caravanserai) โดยการตั้งที่พักผู้ขนย้ายสินค้าเป็นระยะๆ ที่เป็นการช่วยให้ความสะดวกแก่การขนย้ายสินค้าจาก[[อิหร่าน]]และ[[เอเชียกลาง]]ไปยังเมืองท่าต่างๆ รัฐสุลต่านรูมมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่แน่นหนากับ[[สาธารณรัฐเจนัว]]ก็ก่อตั้งขึ้นในสมัยนี้ ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นทำให้เซลจุคสามารถผนวกรัฐต่างๆ ในตุรกีที่ก่อตั้งขึ้นทางตะวันออกได้หลังจาก[[ยุทธการมันซิเคิร์ต]] (Battle of Manzikert) ที่รวมทั้งดินแดนของ[[ดานิชเมนด์ส]] (Danishmends), [[เมงกือเซ็ค]] (Mengücek), [[ซัลตุคลุ]] (Saltuklu) และ [[อาร์ตูคลุ]] (Artuklu) สุลต่านเซลจุคสามารถต่อต้าน[[นักรบครูเสด]] แต่ในปี ค.ศ. 1243 ก็มาเพลี่ยงพล้ำต่อ[[จักรวรรดิมองโกล]]ที่เข้ามารุกราน ในที่สุดเซลจุคก็กลายเป็นเมืองขึ้นของมองโกล และแม้ว่าชนชั้นบริหารจะพยายามรักษาความเป็นรัฐสุลต่านไว้แต่ในที่สุดอำนาจของอาณาจักรสุลต่านก็เสื่อมโทรมลงในราวครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 13 และสลายตัวไปในสิบปีแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 14

รุ่นแก้ไขเมื่อ 21:01, 26 พฤศจิกายน 2554

รัฐสุลต่านรูม
سلاجقة الروم
Anadolu Selçuklu Devleti
Sultanate of Rûm

ค.ศ. 1077–ค.ศ. 1307
ธงชาติ
แผนที่อาณาจักรสุลต่านแห่งรัม ในปี ค.ศ. 1190
แผนที่อาณาจักรสุลต่านแห่งรัม ในปี ค.ศ. 1190
สถานะรัฐสุลต่าน
เมืองหลวงนิชาเพอร์
เรย์
สุลต่าน 
• ค.ศ. 1060-1077
Kutalmish (คนแรก)
• ค.ศ. 1303-1308
เมสุดที่ 2 (สุดท้าย)
ประวัติศาสตร์ 
• แยกตัวออกจากจักรวรรดิเซลจุค
ค.ศ. 1077
• ล่มสลาย
ค.ศ. 1307 ค.ศ. 1307
ก่อนหน้า
ถัดไป
จักรวรรดิเซลจุค
จักรวรรดิออตโตมัน

รัฐสุลต่านรูม (อังกฤษ: Sultanate of Rûm, อาหรับ: سلاجقة الروم) เป็นรัฐสุลต่านเซลจุคตุรกี[1] ที่ปกครองอาณาบริเวณส่วนใหญ่ของอานาโตเลียระหว่างปี ค.ศ. 1077 จนถึงปี ค.ศ. 1307 โดยมีเมืองหลวงอยู่ที่อิซนิคและต่อมาคอนยา เนื่องจากอาณาจักรสุลต่านเป็นอาณาจักรที่มีการเคลื่อนย้ายอยู่เสมอฉะนั้นเมืองอื่นเช่นเคย์เซรีและซิวาสต่างก็ได้เป็นเมืองหลวงอยู่ระยะหนึ่ง ในสมัยที่รุ่งเรืองที่สุดอาณาจักรสุลต่านแห่งรัมมีอาณาบริเวณครอบคลุมกลางตุรกีตั้งแต่เมืองท่าอันทาลยา-อลันยาบนฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนไปจนถึงไซนอพบนฝั่งทะเลดำ ทางตะวันออกอาณาจักรสุลต่านก็ผนวกรัฐต่างๆ ของตุรกีไปจนถึงทะเลสาบวาน ทางด้านตะวันตกสุดก็มีอาณาบริเวณไปจรดบริเวณเดนิซลิและบริเวณทะเลอีเจียน

คำว่า “Rûm” อาหรับที่ใช้เรียกโรมัน เซลจุคเรียกอาณาจักรของตนเองว่า “รูม” เพราะกองทัพมุสลิมต่างๆ ถือว่าบริเวณนี้เคยเป็นดินแดนที่ถือว่าเป็นดินแดน “โรมัน” มาแต่โบราณหรือของจักรวรรดิโรมันตะวันออก[2] นักประวัติศาสตร์ตุรกีสมัยปัจจุบันเรียกอาณาจักรนี้ว่า “รัฐสุลต่านอานาโตเลีย” (“Anadolu Selçukluları”) หรือเมื่อไม่นานมานี้ก็เรียกว่า “เซลจุคแห่งตุรกี” (“Türkiye Selçukluları”) หรือบางครั้งก็มีบ้างที่เรียกว่า “รัฐสุลต่านคอนยา” หรือ “รัฐสุลต่านไอโคเนียม” ในบันทึกที่เขียนในตะวันตก ส่วนในประเทศไทยช่วงต้นกรุงรัตนโกสินทร์ เรียกอาณาจักรนี้ว่า หรุ่ม หรือ หรุ่มโต้ระกี่[3] ตามที่ปรากฏในโคลงภาพคนต่างภาษาช่วงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว[4]

รัฐสุลต่านรูมมีความรุ่งเรืองที่สุดในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12 ถึงต้น คริสต์ศตวรรษที่ 13 เมื่อยึดเมืองท่าสำคัญบนฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและบนฝั่งทะเลดำจากจักรวรรดิไบแซนไทน์ได้ ภายในอานาโตเลียเซลจุคก็ทำการค้าขายโดยใช้ระบบสถานีคาราวาน (caravanserai) โดยการตั้งที่พักผู้ขนย้ายสินค้าเป็นระยะๆ ที่เป็นการช่วยให้ความสะดวกแก่การขนย้ายสินค้าจากอิหร่านและเอเชียกลางไปยังเมืองท่าต่างๆ รัฐสุลต่านรูมมีความสัมพันธ์ทางการค้าที่แน่นหนากับสาธารณรัฐเจนัวก็ก่อตั้งขึ้นในสมัยนี้ ความมั่งคั่งที่เพิ่มขึ้นทำให้เซลจุคสามารถผนวกรัฐต่างๆ ในตุรกีที่ก่อตั้งขึ้นทางตะวันออกได้หลังจากยุทธการมันซิเคิร์ต (Battle of Manzikert) ที่รวมทั้งดินแดนของดานิชเมนด์ส (Danishmends), เมงกือเซ็ค (Mengücek), ซัลตุคลุ (Saltuklu) และ อาร์ตูคลุ (Artuklu) สุลต่านเซลจุคสามารถต่อต้านนักรบครูเสด แต่ในปี ค.ศ. 1243 ก็มาเพลี่ยงพล้ำต่อจักรวรรดิมองโกลที่เข้ามารุกราน ในที่สุดเซลจุคก็กลายเป็นเมืองขึ้นของมองโกล และแม้ว่าชนชั้นบริหารจะพยายามรักษาความเป็นรัฐสุลต่านไว้แต่ในที่สุดอำนาจของอาณาจักรสุลต่านก็เสื่อมโทรมลงในราวครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 13 และสลายตัวไปในสิบปีแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 14

ในช่วงสิบปีสุดท้ายบริเวณรัฐสุลต่านรูมก็เป็นบ่อเกิดของราชรัฐเล็กๆ น้อยๆ ที่ก่อตัวขึ้น (Beyliks) ที่รวมทั้งออสมันกลู (Osmanoğlu) ที่รุ่งเรืองขึ้นมาแทนที่เป็นจักรวรรดิออตโตมัน

อ้างอิง

  1. "Seljuq Turks" in various scholastic sources
  2. Alexander Kazhdan, “Rūm” The Oxford Dictionary of Byzantium (Oxford University Press, 1991), vol. 3, p. 1816.
  3. สุจิตต์ วงษ์เทศ. กรุงเทพฯ มาจากไหน?. กรุงเทพฯ:มติชน, 2548. หน้า 194
  4. สุจิตต์ วงษ์เทศ. กรุงเทพฯ มาจากไหน?. กรุงเทพฯ:มติชน, 2548. หน้า 192

ดูเพิ่ม