ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คำคล้องจอง"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
MerlIwBot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต เพิ่ม: jv, su, be, uz, sr, fy, oc, be-x-old, et, id, nn, sq, scn, ia, hr, lt, tl
JAnDbot (คุย | ส่วนร่วม)
r2.5.2) (โรบอต ลบ: be, be-x-old, et, fy, hr, ia, id, jv, lt, nn, oc, scn, sq, sr, su, tl, uz
บรรทัด 62: บรรทัด 62:
[[ar:قافية]]
[[ar:قافية]]
[[az:Qafiyə]]
[[az:Qafiyə]]
[[be:Алітэрацыя]]
[[be-x-old:Алітэрацыя]]
[[bg:Рима]]
[[bg:Рима]]
[[br:Klotenn]]
[[br:Klotenn]]
บรรทัด 75: บรรทัด 73:
[[eo:Rimo]]
[[eo:Rimo]]
[[es:Rima]]
[[es:Rima]]
[[et:Alliteratsioon]]
[[fa:قافیه]]
[[fa:قافیه]]
[[fi:Riimit]]
[[fi:Riimit]]
[[fr:Rime]]
[[fr:Rime]]
[[fy:Alliteraasje]]
[[gan:韻]]
[[gan:韻]]
[[gl:Rima]]
[[gl:Rima]]
[[he:חריזה]]
[[he:חריזה]]
[[hr:Aliteracija]]
[[hu:Rím]]
[[hu:Rím]]
[[hy:Հանգ]]
[[hy:Հանգ]]
[[ia:Alitteration]]
[[id:Aliterasi]]
[[io:Rimo]]
[[io:Rimo]]
[[is:Rím]]
[[is:Rím]]
[[it:Rima]]
[[it:Rima]]
[[ja:韻文]]
[[ja:韻文]]
[[jv:Purwakanthi]]
[[ka:რითმა]]
[[ka:რითმა]]
[[lt:Aliteracija]]
[[mk:Рима]]
[[mk:Рима]]
[[nl:Rijm (stijlfiguur)]]
[[nl:Rijm (stijlfiguur)]]
[[nn:Bokstavrim]]
[[no:Rim]]
[[no:Rim]]
[[oc:Alliteracion]]
[[os:Рифмæ]]
[[os:Рифмæ]]
[[pl:Rym]]
[[pl:Rym]]
บรรทัด 105: บรรทัด 94:
[[ro:Rimă]]
[[ro:Rimă]]
[[ru:Рифма]]
[[ru:Рифма]]
[[scn:Allittirazzioni]]
[[simple:Rhyme]]
[[simple:Rhyme]]
[[sk:Rým]]
[[sk:Rým]]
[[sl:Rima]]
[[sl:Rima]]
[[sq:Aliteracioni]]
[[sr:Алитерација]]
[[su:Purwakanti]]
[[sv:Rim]]
[[sv:Rim]]
[[tl:Aliterasyon]]
[[tr:Kafiye]]
[[tr:Kafiye]]
[[uk:Рима]]
[[uk:Рима]]
[[uz:Alliteratsiya]]
[[war:Angay (siday)]]
[[war:Angay (siday)]]
[[yi:גראמען]]
[[yi:גראמען]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 18:36, 21 ตุลาคม 2554

คำคล้องจอง หรือ คำสัมผัส คือลักษณะอย่างหนึ่งของบทกวี มักจะเป็นฉันทลักษณ์ในคำประพันธ์ประเภทต่าง ๆ

ลักษณะ

สัมผัสบังคับ เรียกอีกอย่างว่า สัมผัสนอก หมายถึงสัมผัสที่กำหนดเป็นแบบแผนในคำประพันธ์ เป็นสัมผัสสระ คือมีเสียงสระและตัวสะกดมาตราเดียวกัน เช่นในโคลงสี่สุภาพ บาทแรก คำสุดท้ายของวรรคที่ 2 สัมผัสกับ คำสุดท้ายของวรรคแรก ในบาทที่ 2 และ 3 และบาทที่ 2 คำสุดท้ายของวรรคที่ 2 สัมผัสกับ คำสุดท้ายของวรรคแรก ในบาทที่ 4

ในจินดามณี ฉบับพระโหราธิบดี อธิบายสัมผัสบังคับของโคลงสี่สุภาพไว้ว่า

ให้ปลายบาทเอกนั้น มาฟัด
ห้าที่บทสองวัจน์ ชอบพร้อง
บทสามดุจเดียวทัด ในที่ เบญจนา
ปลายแห่งบทสองต้อง ที่ห้าบทหลัง

สัมผัสไม่บังคับ หรือ สัมผัสใน หมายถึงสัมผัสที่มิได้กำหนดไว้ในบังคับของคำประพันธ์ จะมีหรือไม่มีก็ได้ แต่ถ้ามีจะเพิ่มให้ไพเราะขึ้นตามความเหมาะสม ในคำประพันธ์ประเภทกลอนก็มีศัพท์ที่ใช้เรียกสัมผัสในลักษณะต่างๆ ไว้ ถ้าจะอนุโลมนำมาเทียบเคียงคือ

  • เคียง หมายถึงสัมผัสสระเรียงชิดกัน 2 คำ
"แหกตาหลอกกลอกคางทำหางโก่ง"
  • เทียบเคียง หมายถึงสัมผัสสระเรียงชิดกัน 3 คำ
"เห็นนกหกกกลูกรัญจวนจิต"
  • ทบเคียง หมายถึงสัมผัสสระสองสระเรียงกันสระละ 2 คำ
"เสียงเลื่อนลั่นครั่นครื้นพื้นพิภพ"
  • เทียบแอก หมายถึงสัมผัสสระที่มีสระอื่นคั่น 1 สระ อยู่ปลายวรรค
"ปีบจำปีจำปาและกาหลง"
  • แทรกเคียง หมายถึงมีสระอื่นคั่น 1 สระ อยู่ต้นวรรค
"สิ้นบุญแล้วน้องแก้วจะลาตาย"
  • แทรกแอก เป็นลักษณะเดียวกับเทียบแอกแต่มีสระอื่นคั่น 2 สระ
"แต่เห็นกันยังไม่ทันได้บอกกล่าว"
  • ยมก หมายถึงการซ้ำคำ
"ถึงวัดทองทองทาบอยู่ปลาบเปล่ง"
  • คู่ หมายถึงสัมผัสอักษรชิดกัน 2 คำ
"ที่เภทภัยสารพัดกำจัดแคล้ว"
  • เทียบคู่ หมายถึงสัมผัสอักษรชิดกัน 3 คำ
"มาแปลงเปลี่ยนแปลกไปไม่เหมือนก่อน"
  • เทียมรถ หมายถึงสัมผัสอักษรชิดกัน 4 คำ
"โอ้อกเอ๋ยอาวรณ์ต้องจรจาก"
  • เทียบรถ หมายถึงสัมผัสอักษรชิดกัน 5 คำ
"มาโรยร่วงเรียมรศเรณูนวล"
  • ทบคู่ คือสัมผัสอักษร 2 อักษรเรียงกัน 2 คำ
"จนดาวเดือนเลื่อนลับไปจากฟ้า"
  • แทรกคู่ เป็นสัมผัสอักษรที่มีอักษรอื่นคั่น 1 คำ
"ตัวคนเดียวหลงเดินในดงแดน"
  • นิสสัย หมายถึงสัมผัสอักษรระหว่างปลายวรรคหน้ากับต้นวรรคหลัง
"ฝืนวิโยคโศกเศร้าเข้าในห้อง เห็นแท่นทองที่ประทมภิรมย์สงวน"
  • นิสสิต อักษรปลายวรรคหน้าสัมผัสอักษรที่สองของวรรคหลัง
"ให้ปลาบปลื้มมิได้ลืมละอาลัย คิดแล้วให้หวนช้ำระกำทรวง"

สัมผัสในถือเป็นอลังการทางภาษาที่งดงามของวรรณศิลป์ไทยอย่างหนึ่ง คำประพันธ์ที่แพรวพราวด้วยสัมผัสในย่อมฟังรื่นไหล แต่ทั้งนี้คำที่ใช้ต้องดีทั้งเสียงและความหมาย สัมผัสในของโคลงสี่สุภาพก็จะมีทั้งในวรรคเดียวกัน และระหว่างวรรคของบาทเดียวกัน ทั้งสัมผัสสระ และสัมผัสอักษร หากไม่มีสัมผัสอักษรระหว่างวรรคแรกกับวรรคหลังของแต่ละบาท วรรคหลังควรเป็นคำที่มีสัมผัสอักษร เสียงของโคลงก็จะฟังเลื่อนไหล

อ้างอิง

  • กรมศิลปากร. การประพันธ์โคลงสี่สุภาพ. 2548.


แม่แบบ:Link FA