ผลต่างระหว่างรุ่นของ "แพราเซลซัส"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 82: | บรรทัด 82: | ||
[[หมวดหมู่:ผู้คิดค้นระบบการเขียน]] |
[[หมวดหมู่:ผู้คิดค้นระบบการเขียน]] |
||
[[af:Paracelsus]] |
|||
[[als:Paracelsus]] |
|||
[[ar:باراسيلسوس]] |
|||
[[az:Parasels]] |
|||
[[be:Парацэльс]] |
|||
[[be-x-old:Парацэльс]] |
|||
[[bg:Парацелз]] |
|||
[[bs:Paracelsus]] |
|||
[[ca:Paracels]] |
|||
[[cs:Paracelsus]] |
|||
[[de:Paracelsus]] |
|||
[[el:Παράκελσος]] |
|||
[[en:Paracelsus]] |
|||
[[eo:Paracelsus]] |
|||
[[es:Paracelso]] |
|||
[[et:Paracelsus]] |
|||
[[eu:Paracelso]] |
|||
[[fa:پاراسلسوس]] |
|||
[[fi:Paracelsus]] |
|||
[[fr:Paracelse]] |
|||
[[ga:Paracelsus]] |
|||
[[gd:Paracelsus]] |
|||
[[gl:Paracelso]] |
|||
[[he:פאראצלסוס]] |
|||
[[hr:Paracelsus]] |
|||
[[hu:Paracelsus]] |
|||
[[id:Paracelsus]] |
|||
[[it:Paracelso]] |
|||
[[ja:パラケルスス]] |
|||
[[ko:파라셀수스]] |
|||
[[la:Paracelsus]] |
|||
[[lt:Paracelsas]] |
|||
[[mdf:Парацельс]] |
|||
[[mk:Парацелзус]] |
|||
[[ms:Paracelsus]] |
|||
[[nl:Paracelsus]] |
|||
[[no:Paracelsus]] |
|||
[[pl:Paracelsus]] |
|||
[[pt:Paracelso]] |
|||
[[qu:Paracelsus]] |
|||
[[ro:Paracelsus]] |
|||
[[ru:Парацельс]] |
|||
[[scn:Paracelsu]] |
|||
[[sh:Paracelsus]] |
|||
[[simple:Paracelsus]] |
|||
[[sk:Paracelsus]] |
|||
[[sl:Paracelzij]] |
|||
[[sq:Paracelsus]] |
|||
[[sr:Парацелзус]] |
|||
[[sv:Paracelsus]] |
|||
[[tl:Paracelsus]] |
|||
[[tr:Paracelsus]] |
|||
[[uk:Теофраст Парацельс]] |
|||
[[zh:帕拉塞尔苏斯]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:11, 7 ตุลาคม 2554
พารารเซลซัส
ชีวประวัติ
- พาราเซลซัส(Paracelsus)มีชื่อเดิมว่า Philippus Areolus Theophrastus Bombastus von Hohenheim เกิดและเติบโตที่หมู่บ้าน Einsiedeln
ประเทศสวิซเซอร์แลนด์ เป็นลูกชายของ วิลฮิม บอมบาสต์ นักเคมีและฟิสิกส์ กับ หญิงชาวสวิส ในตอนเด็กเขาได้ทำงานเป็นนักวิเคราะห์ที่เหมือง จนเมื่ออายุได้ 16 ปี เขาก็ได้เข้าศึกษาต่อด้านการแพทย์ที่มหาวิทยาลัยBasel ภายหลังจากที่ย้ายไปที่ Vienna เขาก็ได้รับปริญญาเอกจากมหาวิทยาลัยFerrara
- จากการเป็นนักฟิสิกส์เร่ร่อนและช่างขุดแร่ทำให้เขาได้เดินทางไปในหลายๆประเทศทั้งเยอรมนี ฝรั่งเศส สเปน ฮังการี เนเธอร์แลนด์ เดนมาร์ก สวีเดน และรัสเซีย
- บรรทัดที่ย่อหน้าพาราเซลซัสศึกษาวิชาหลายแขนง หนึ่งในนั้นคือดาราศาสตร์ ดาราศาสตร์เป็นวิชาที่สำคัญในการพัฒนาวิชาการแพทย์ของเขา หลังจากการศึกษาครั้งนี้เขาได้คิดค้นเครื่องรางของขลังทางดาราศาสตร์สำหรับป้องกันโรคด้วยใช้สัญลักษณ์12นักษัตรโดยแต่สัญลักษณ์ก็จะป้องกันโรคได้แตกต่างกัน และเขายังได้ประดิษฐ์อักษรเวทย์มนตร์เพื่อสลักชื่อเทพลงในเครื่องรางของเขาอีกด้วย
- บรรทัดที่ย่อหน้าพาราเซลซัสเป็นผู้ริเริ่มนำสารเคมีและแร่ธาตุมาใช้เป็นยารักษาโรค เขาใช้คำว่าซิงค์แทนธาตุสังกะสีในปี1526 โดยมาจากศัพท์เยอรมันซิงค์ที่แปลว่าแหลมคมตามรูปร่างของตัวผลึกสังกะสี เขาใช้ในการทดลองเพื่อศึกษาร่างกายมนุษย์ นอกจากนี้เขายังมีส่วนรับผิดชอบในการผลิตทิงเจอร์ฝิ่นอีกด้วย
- บรรทัดที่ย่อหน้าด้วยความหยิ่งยโสของพาราเซลซัสเป็นที่เลื่องลืออย่างมากทำให้นักฟิสิกส์ทั่วทั้งยุโรปโกรธเกลียดเขา นั่นทำให้เขาดำรงตำแหน่งแพทย์ที่มหาวิทยาลัยBaselได้ไม่ถึงปี ในขณะที่มีเพื่อนร่วมงานของเขากล่าวหาว่าเขาเป็นคนเผาตำราแพทย์พื้นเมือง จากนั้นเขาก็ถูกขับไล่ออกจากเมือง
หลังจากถูกขับออกจากเมืองพาราเซลซัสก็ได้ระเหเร่ร่อนไปยัง ยุโรป แอฟริกา และเอเชียบางส่วนเพื่อศึกษาความหาความรู้เพิ่มเติม เขาได้แก้ไขตำราและเขียนขึ้นใหม่ แต่เขาก็ต้องพบกับปัญหาในการหาผู้ผลิต จนกระทั่งปี 1536 หนังสือเรื่อง Die Grosse Wundartznei (การผ่าตัดที่สมบูรณ์) ของเขาได้ตีพิมพ์และกู้เชื่อเสียงของเขาคืนมาได้ ในชีวิตของพาราเซลซัสได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับการกำเนิดลัทธิลูเธอร์รันและความคิดเห็นของเขาในเรื่องธรรมชาติจักรวาลก็มีความเข้าใจมากกว่าคำบรรยายในทางศาสนา
- บรรทัดที่ย่อหน้าพาราเซลซัสเสียชีวิตเมื่อตอนอายุได้ 48ปีตามธรรมชาติ ศพของเขาก็ได้รับการฝังที่ป่าช้าโบสถ์เซบาสเตียนในSalzburgตามปรารถนาของเขา และได้ย้ายมาไว้ในสุสานนอกชานโบสถ์ในปัจจุบัน
หลังจากการตายของพาราเซลซัส ศาสตร์ความรู้ของเขาก็ได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นและถูกนำไปใช้อย่างแพร่หลายโดยผู้ที่ต้องการล้มล้างฟิสิกส์แบบเก่า คติประจำตัวของพาราเซลซัสก็คือ "Alterius non sit qui suus esse potest” หมายความว่า “อย่าปล่อยให้มีใครที่สามารถเป็นตัวของตัวเองได้ไปเป็นของผู้อื่น”
ปรัชญา
- บรรทัดที่ย่อหน้าพาราเซลซัสเชื่อในแนวคิดของชาวกรีกเรื่องธาตุทั้งสี่ แต่เขาก็ได้เสนอแนวคิดเพิ่มเติมในอีกระดับหนึ่งว่า จักรวาลได้ถูกสร้างขึ้นจาก tria prima ซึ่งประกอบด้วย ปรอท กำมะถัน และเกลือ ธาตุทั้งสามนี้ไม่ใช่ธาตุที่เรารู้จักในปัจจุบัน แต่เป็นหลักการกว้างๆ ที่ให้กับทุกวัตถุทั้งแก่นเนื้อภายในและรูปร่างภายนอก ปรอทเป็นตัวทำให้เกิดเปลี่ยนแปลงสถานะ(การหลอมเหลวและการระเหย) กำมะถันเป็นตัวเชื่อมระหว่างวัตถุและการเปลี่ยนแปลงสถานะ(การเผาไหม้) และเกลือเป็นตัวทำให้เกิดการแข็งตัว (การแข็งตัวและการควบแน่น) ยกตัวอย่างเช่น การเผาไม้จะได้ ควันเกิดจากปรอท ไฟเกิดจากกำมะถัน และขี้เถ้าเกิดจากเกลือ
- บรรทัดที่ย่อหน้าแนวคิดคิดนี้ก็ใช้นิยามกับเอกลักษณ์ของมนุษย์ได้เช่นกัน คือกำมะถันปรากฏเป็นจิตวิญญาณ (อารมณ์และความใคร่) เกลือแทนร่างกาย และปรอทเป็นตัวแทนความคิด (จินตนาการ การแยกแยะดีชั่ว และปัญญาระดับสูง) จากการทำความเข้าใจธรรมชาติของ tria prima ในเชิงเคมีทำให้แพทย์สามารถค้นพบวิธีการรักษาโรคติดต่อได้
การสนับสนุนทางการแพทย์
- บรรทัดที่ย่อหน้าพาราเซลซัสเป็นผู้ริเริ่มการใช้แร่ธาตุและสารเคมีในทางการแพทย์ ในทางลึกลับเขามองว่าโรคภัยไข้เจ็บและสุขภาพนั้นขึ้นอยู่กับความลงตัวของมนุษย์และธรรมชาติ เขาใช้วิธีที่แตกต่างไปจากคนอื่นก่อนหน้านี้ การใช้การเปรียบเทียบนี้ไม่ได้อยู่ในลักษณะ ของจิตวิญญาณบริสุทธิ์ แต่อยู่ในลักษณะที่มนุษย์ต้องอยู่ในสมดุลของแร่ธาตุในร่างกาย และอาการเจ็บป่วยบางประการของร่างกายก็สามารถรักษาให้หายได้ด้วยสารเคมี
ผลจากแนวคิดเรื่องความสมดุลนี้ เปรียบมนุษย์ได้กับจักรวาลเล็กๆ ในจักรวาลใหญ่ๆ ด้วยความรู้ภูมิปัญญาในสมัยนั้น ที่รู้จักดาวเคราะห์ 7 ดวง โลหะบนโลก 7 ชนิด และอวัยวะภายใน 7 อย่าง ด้วยความที่ 7 เป็นเลขพิเศษจึงแทนดาวเคราะห์ โลหะ และอวัยวะต่างๆ ตามตารางดังนี้
ดวงดาว | โลหะ | อวัยวะ |
---|---|---|
ดวงอาทิตย์ | ทอง | หัวใจ |
ดวงจันทร์ | เงิน | สมอง |
ดาวพฤหัส | ดีบุก | ตับ |
ดาวศุกร์ | ทองแดง | ไต |
ดาวเสาร์ | ตะกั่ว | ม้าม |
ดาวอังคาร | เหล็ก | ถุงน้ำดี |
ดาวพุธ | ปรอท | ปอด |
- บรรทัดที่ย่อหน้าเชื้อโรคเกิดจากยาพิษจากดวงดาว แต่ยาพิษไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งที่เลวร้ายเสมอไป เพราะสารพิษบางตัวก็สามารถล้างพิษด้วยกันเองได้ ดังสุภาษิตที่ว่า สิ่งชั่วร้ายก็ทำลายกันเองได้ ด้วยเหตุนั้นจึงทำให้สารพิษเป็นผลดีในทางการแพทย์ เพราะทุกอย่างในจักรวาลมีความสัมพันธ์เกี่ยวโยงซึ่งกันและกัน สารที่เป็นประโยชน์ทางการแพทย์สามารถพบได้ในสมุนไพร และสารประกอบทางเคมี ความเห็นของพาราเซลซัสในเรื่องนี้ทำให้เขาถูกขับออกจากคริสตจักร ในฐานะผู้ที่ถามหาความแตกต่างระหว่างผู้สร้างและผู้ถูกสร้าง
- บรรทัดที่ย่อหน้าเขาสรุปแนวความคิดของเขาว่า “คนจำนวนมากได้กล่าวถึงการเล่นแร่แปรธาตุว่าเราศึกษาเพื่อสร้างทองและเงินแต่สำหรับฉัน นั่นไม่ใช่เป้าหมายของการศึกษาเรื่องนี้เพราะเป้าหมายของฉันคือ การวิเคราะห์ฤทธิ์และคุณสมบัติในทางการแพทย์เท่านั้น”
- บรรทัดที่ย่อหน้าHippocrates ได้หยิบยกเรื่องทฤษฏีที่ว่าอาการเจ็บป่วยนั้นเกิดจากความไม่สมดุลของของเหลวสี่อย่างในร่างกายอันได้แก่ เลือด เสมหะ น้ำดีดำ และน้ำดี แนวความคิดนี้ถูกนำไปต่อยอดโดย Galen ซึ่งมีอิทธิพลอย่างมากและถาวรต่อความเชื่อทางการแพทย์ จนกระทั่งช่วงกลางของทศวรรษที่ 185 การรักษาที่มีข้อโดดเด่นคือใช้อาหารเฉพาะที่จะช่วยในการช่วยชะล้างของเสียออกควบคู่กับการถ่ายเลือดออกเพื่อคืนความสมดุลให้กับของเหลวสี่ชนิดในร่างกาย ได้ถูกพาราเซลซัสเสนอแนวคิดใหม่ว่าอาการเจ็บป่วยในคนเรานั้นไม่ได้เกิดจากภายในแต่เกิดจากร่างกายถูกทำลายด้วยปัจจัยภายนอก
ผลงานชิ้นโบว์แดงของพาราเซลซัสคือการรักษาและแนวทางการป้องกันคนงานเหมืองจากเจ็บป่วยและอันตรายจากงานโลหะและเขายังเขียนหนังสือเรื่องร่างกายมนุษย์โต้แนวคิดของ Galen อีกด้วย
พาราเซลซัสกับพิษวิทยา
- บรรทัดที่ย่อหน้าพาราเซลซัสผู้ถูกขนานนามว่าเป็นบิดาแห่งวิชาพิษวิทยากล่าวไว้ว่า “สารทุกชนิดเป็นพิษและไม่มีสารใดที่ไม่เป็นพิษ ยาบางปริมาณเท่านั้นที่จะเป็นพิษ” หรือเรียกง่ายๆว่า “ปริมาณยาทำให้เป็นพิษ” จากคำกล่าวข้างต้นสรุปได้ว่า สารที่พิจารณาว่ามีพิษมากถ้าใช้ในปริมาณน้อยก็จะปลอดภัย แต่ในทางกลับกันสารที่พิจารณาว่าไม่เป็นพิษถ้าใช้มากก็เกิดพิษได้เหมือนกัน
ผลงาน
ผลงานตีพิมพ์ขณะยังมีชีวิตอยู่ • Die große Wundarzney Ulm, 1536 (Hans Varnier); Augsburg (Haynrich Stayner (=Steyner)), 1536; Frankfurt/ M. (Georg Raben/ Weygand Hanen), 1536. • Vom Holz Guaico, 1529. • Vonn dem Bad Pfeffers in Oberschwytz gelegen, 1535. • Prognostications, 1536. ผลงานหลังเสียชีวิต • Wundt unnd Leibartznei. Frankfurt/ M., 1549 (Christian Egenolff); 1555 (Christian Egenolff); 1561 (Chr. Egenolff Erben). • Von der Wundartzney: Ph. Theophrasti von Hohenheim, beyder Artzney Doctoris, 4 Bücher. (Peter Perna), 1577. • Von den Krankheiten so die Vernunfft Berauben. Basel, 1567. • Opus Chirurgicum, Bodenstein, Basel, 1581. • Huser quart edition (medicinal and philosophical treatises), Basel, 1589. • Chirurgical works (Huser), Basel, 1591 und 1605 (Zetzner). • Straßburg edition (medicinal and philosophical treatises), 1603. • Kleine Wund-Artzney. Straßburg (Ledertz) 1608. • Opera omnia medico-chemico-chirurgica, Genevae, Vol3, 1658. • Philosophia magna, tractus aliquot, Cöln, 1567. • Philosophiae et Medicinae utriusque compendium, Basel, 1568. • Liber de Nymphis, sylphis, pygmaeis et salamandris et de caeteris spiritibus