ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ)"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
OctraBot (คุย | ส่วนร่วม)
replaceViaLink
Sc190 (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 163: บรรทัด 163:
[[หมวดหมู่:กรรมการมหาเถรสมาคม]]
[[หมวดหมู่:กรรมการมหาเถรสมาคม]]
[[หมวดหมู่:ชาวสมุทรปราการ]]
[[หมวดหมู่:ชาวสมุทรปราการ]]
[[หมวดหมู่:พระสงฆ์ไทย]]
[[หมวดหมู่:ชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธ]]
[[หมวดหมู่:ชาวไทยที่นับถือศาสนาพุทธ]]
[[หมวดหมู่:พระภิกษุในนิกายเถรวาท (มหานิกาย)]]
[[หมวดหมู่:พระภิกษุในนิกายเถรวาท (มหานิกาย)]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:45, 23 กันยายน 2554

สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์

(ช่วง วรปุญฺโญ)
ไฟล์:สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ).jpg
ส่วนบุคคล
เกิด26 สิงหาคม พ.ศ. 2468 (26 สิงหาคม พ.ศ. 2468 (98 ปี) ปี)
นิกายมหานิกาย
การศึกษาป.ธ.๙, น.ธ.เอก
ตำแหน่งชั้นสูง
ที่อยู่วัดปากน้ำ กรุงเทพมหานคร
อุปสมบท1 พฤษภาคม พ.ศ. 2482
พรรษา85
ตำแหน่งกรรมการมหาเถรสมาคม, รองแม่กองงานพระธรรมทูต, ประธานคณะพระธรรมจาริก, และเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ (พระอารามหลวง)

สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) (นามเดิม: ช่วง สุดประเสริฐ) เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม, รองแม่กองงานพระธรรมทูต, ประธานคณะพระธรรมจาริก, และเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ (พระอารามหลวง) ปัจจุบันได้รับพระบัญชาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าคณะใหญ่หนเหนือและแม่กองบาลีสนามหลวง และเป็นคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดฯ สถาปนาขึ้นเป็น สมเด็จพระราชาคณะ ชั้นสุพรรณบัฏ เมื่อปี พ.ศ. 2538 มีนามตามจารึกในสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ไพศาลหิตานุหิตวิธาน ปฏิภาณสุธรรมภาณี ศรีสังฆโสภณ วิมลศีลาจารย์นิวิฐ ตรีปิฏกบัณฑิต มหาคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัญวาสี[1]

ชาติภูมิ

  • นามเดิมว่า ช่วง นามสกุล สุดประเสริฐ
  • เกิดเมื่อ วันพุธที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2468 ขึ้น 9 ค่ำ เดือน 10 ปีฉลู บ้านเลขที่ 32 ตำบลราชาเทวะ อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ
  • นามบิดา นายมิ่ง สุดประเสริฐ
  • นามมารดา นางสำเภา สุดประเสริฐ

บรรพชาและอุปสมบท

บรรพชา

  • เมื่ออายุได้ 14 ปี จึงได้บรรพชาเมื่อวันจันทร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2482 ณ วัดสังฆราชา เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร โดยมี พระครูศีลาภิรัต (ทอง) วัดลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร เป็นพระอุปัชฌาย์

อุปสมบท

  • อุปสมบทเมื่อวันศุกร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2488 ขึ้น 1 ค่ำ เดือน 6 ปีระกา ณ พัทธสีมาวัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร นามฉายา “วรุปุญฺโญ” พระครูบริหารบรมธาตุ (ป่วน เกสโร) วัดนางชี เป็นพระอุปัชฌาย์

พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) หลวงพ่อวัดปากน้ำ เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ ที่ พระครูสมณธรรมสมาทาน เป็นกรรมวาจาจารย์

การศึกษา

งานปกครอง

  • พ.ศ. 2475 เป็นเลขานุการของสมเด็จพระวันรัต (ปลด กิตฺติโสภโณ) สังฆนายก วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม
  • พ.ศ. 2499 เป็นผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ (พระอารามหลวง)
  • พ.ศ. 2500 เป็นพระอุปัชฌาย์
  • พ.ศ. 2507 เป็นรองเจ้าคณะภาค 3
  • พ.ศ. 2508 เป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ (พระอารามหลวง)
  • พ.ศ. 2508-2516 เป็นเจ้าคณะภาค 3 รวม 2 สมัย
  • พ.ศ. 2517-2528 เป็นเจ้าคณะภาค 17 รวม 3 สมัย
  • พ.ศ. 2528-2537 เป็นเจ้าคณะภาค 7
  • พ.ศ. 2532-ปัจจุบัน เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม
  • พ.ศ. 2533-2548 เป็นกรรมการ พ.ศ.ป.
  • พ.ศ. 2533-ปัจจุบัน เป็นกรรมการ ศ.ต.ภ.
  • พ.ศ. 2537-ปัจจุบัน เป็นเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ
  • พ.ศ. 2548 เป็นคณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชฯ

งานศึกษา

ไฟล์:ตราแม่กองบาลี.jpg
ตราแม่กองบาลีสนามหลวง ในประกาศนียบัตรเปรียญธรรม (ประทับลายมือชื่อตำแหน่ง สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ องค์ประธานแม่กองบาลีสนามหลวง)
  • พ.ศ. 2487-2492 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมสำนักเรียนวัดปากน้ำ
  • พ.ศ. 2489 เป็นกรรมการตรวจประโยคธรรมสนามหลวง
  • พ.ศ. 2491 เป็นกรรมการตรวจประโยคบาลีสนามหลวง
  • พ.ศ. 2493-2497 เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมสำนักเรียนวัดเบญจมบพิตร
  • พ.ศ. 2498 เป็นผู้นำประโยคบาลีสนามหลวง ไปทำการเปิดสอบในจังหวัดต่าง ๆ เป็นเวลาหลายปีติดต่อกัน
  • พ.ศ. 2499 เป็นอาจารย์ใหญ่สำนักเรียนวัดปากน้ำ
  • พ.ศ. 2508 เป็นเจ้าสำนักเรียนวัดปากน้ำ
  • พ.ศ. 2528-2537 เป็นผู้อำนวยการตรวจธรรมสนามหลวงชั้นตรี ภาค 7
  • พ.ศ. 2532 เป็นรองแม่กองบาลีสนามหลวง รูปที่ 1
  • พ.ศ. 2537 เป็นแม่กองบาลีสนามหลวง
  • พ.ศ. 2538 เป็นกรรมการการศึกษาของคณะสงฆ์

งานเผยแผ่ในประเทศ

  • พ.ศ. 2537 เป็นรองแม่กองงานพระธรรมทูต รูปที่ 2
  • เป็นรองประธานคณะพระธรรมจาริก รูปที่ 1
  • พ.ศ. 2537 เป็นประธานคณะพระธรรมจาริก

งานเผยแผ่ในต่างประเทศ

  • พ.ศ. 2527 ได้เริ่มสร้างวัดไทยในสหรัฐอเมริกา ตั้งชื่อวัดว่า “วัดมงคลเทพมุนี” เมืองฟิลาเดลเฟีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นที่เผยแผ่และปฏิบัติธรรมของชาวไทยและชาวต่างชาติมาถึงปัจจุบัน สิ้นค่าก่อสร้างประมาณ 50 ล้านบาท
  • พ.ศ. 2540 ได้ริเริ่มก่อสร้างวัดไทยแห่งแรกในประเทศญี่ปุ่นตั้งชื่อว่า “วัดปากน้ำญี่ปุ่น” เมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นที่เผยแผ่และปฏิบัติธรรมของชาวไทยและชาวญี่ปุ่นภายในวัดมีเสนาสนะบริบูรณ์ และได้สร้างอุโบสถสถาปัตยกรรมไทย ประกอบพิธีผูกสีมาฝังลูกนิมิต เมื่อวันที่ 9-10 เมษายน พ.ศ. 2548 สิ้นค่าก่อสร้างประมาณ 300 ล้านบาท
  • พ.ศ. 2545 ได้ริเริ่มก่อสร้างวัดไทยในประเทศนิวซีแลนด์ ตั้งชื่อว่า “วัดปากน้ำนิวซีแลนด์” เมืองทัวรังง่า ประเทศนิวซีแลนด์ เพื่อเป็นที่เผยแผ่และปฏิบัติธรรมของชาวไทยและชาวนิวซีแลนด์ ปัจจุบันกำลังดำเนินการสร้างอุโบสถ และเสนาสนะ สิ้นค่าก่อสร้าง ประมาณ 60 ล้านบาท

งานสาธารณูปการ

  • พ.ศ. 2508 เป็นเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ได้ดำเนินการที่เป็นประโยชน์แก่พระภิกษุ สามเณร แม่ชี ผู้อาศัยอยู่ในวัด และเป็นการอำนวยความสะดวกแก่สาธุชนที่มาทำบุญที่วัดปากน้ำ ตราบถึงปัจจุบันนี้ ในเรื่องหลัก 6 ประการ คือ
  • 1. บูรณปฏิสังขรณ์เสนาสนะเก่า
  • 2. ก่อสร้างเสนาสนะถาวรวัตถุใหม่
  • 3. อนุรักษ์โบราณวัตถุ รักษาให้อยู่ในสภาพดี
  • 4. จัดซื้อที่ดินเพื่อขยายอาณาเขตของวัด
  • 5. สร้างถนนกึ่งสะพานเป็นทางเข้าวัด
  • 6. จัดทำระบบไฟฟ้าและน้ำประปาทั่วทั้งวัด

รวมค่าก่อสร้างภายในวัดเป็นจำนวนเงินประมาณทั้งสิ้น 400,000,000 บาท (สี่ร้อยล้านบาทถ้วน)

งานบำเพ็ญสาธารณประโยชน์

  • พ.ศ. 2524 ได้ก่อตั้ง “มูลนิธิหลวงพ่อวัดปากน้ำ” เพื่อนำดอกผลของมูลนิธิใช้ในการบำเพ็ญกุศลต่าง ๆ และได้ชักชวนสาธุชนร่วมสมทบทุนในโอกาสต่าง ๆ มาถึงปัจจุบัน (พ.ศ. 2548) รวมค่าบริจาคเพื่อสาธารณประโยชน์นอกวัด เป็นเงินจำนวนประมาณทั้งสิ้น 230,000,000 บาท (สองร้อยสามสิบล้านบาทถ้วน)

ประมวลค่าก่อสร้างทั้งสิ้นมีดังนี้ ค่าก่อสร้างภายในวัด เป็นเงินจำนวน 400,000,000 บาท ค่าก่อสร้างภายนอกวัด เป็นเงินจำนวน 230,000,000 บาท รวมทั้งสิ้นประมาณ เป็นเงินจำนวน 630,000,000 บาท (หกร้อยสามสิบล้านบาทถ้วน) พ.ศ. 2529 ได้จัดถวายทุนแก่สำนักศาสนศึกษา 72 แห่งทั่วประเทศ สำนักละ 1 แสนบาท เพื่อนำไปตั้งเป็นทุนมูลนิธิเพื่อการศึกษาพระปริยัติธรรมแผนกบาลี ในนามพระมงคลเทพมุนี (หลวงพ่อวัดปากน้ำ) รวมปัจจัยทั้งสิ้น 7,200,000 บาท (เจ็ดล้านสองแสนบาทถ้วน)

งานประวัติศาสตร์

  • พ.ศ. 2532 ได้ดำเนินการก่อสร้างมหาวิหารประดิษฐานพระไตรปิฎกหินอ่อนและพระเจดีย์ถวายเป็นธรรมานุสรณ์ ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2530 และรัชมังคลาภิเษก ในพระบรมราชูปถัมภ์ ณ พุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ค่าก่อสร้าง จำนวน 200,000,000 บาท (สองร้อยล้านบาทถ้วน)
  • พ.ศ. 2534 ได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารสมุดพระพุทธศาสนา มหาสิรินาถ ในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงเจริญพระชนมพรรษา 5 รอบ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2535 ณ พุทธมณฑล อำเภอพุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม ค่าก่อสร้าง 200,000,000 บาท (สองร้อยล้านบาทถ้วน)
  • พ.ศ. 2542 ได้ดำเนินการก่อสร้างอาคารสำนักหอสมุดและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ ราชวิทยาลัย อำเภอวังน้อย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จนแล้วเสร็จเรียบร้อย และมอบให้มหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2548 ค่าก่อสร้าง จำนวน 75,000,000 บาท (เจ็ดสิบห้าล้านบาทถ้วน)

27 สิงหาคม พ.ศ. 2547 ได้เริ่มก่อสร้างพระเจดีย์มหารัชมงคล ขนาดความสูง 80 เมตร กว้าง 50 เมตร ยาว 50 เมตร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจะทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา วันที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2550 ณ วัดปากน้ำ เขตภาษีเจริญ กรุงเทพมหานคร งบประมาณ 300,000,000 บาท (สามร้อยล้านบาทถ้วน)

งานพิเศษ

  • พ.ศ. 2498 เป็นองค์สังคีติการกคณะสงฆ์ไทย ไปร่วมประชุมปฏิบัติงานสังคายนาพระไตรปิฎก
  • พ.ศ. 2524-ปัจจุบัน เป็นประธานมูลนิธิหลวงพ่อวัดปากน้ำ ม.ส.จ.
  • พ.ศ. 2534 - ประธานคณะอนุกรรมการจัดหาทุนสร้างพุทธมณฑลฝ่าย สงฆ์
  • - เป็นกรรมาธิการแห่งสังคีติการกสงฆ์ในการสังคายนาพระธรรมวินัยตรวจชำระพระไตรปิฎก ฉบับเฉลิมพระเกียรติ
  • - เป็นกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสงฆ์ ฝ่ายบรรพชิต
  • - เป็นคณะอนุกรรมการที่ปรึกษาฝ่ายจัดหาทุนก่อสร้างวัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล

สมณศักดิ์

  • พ.ศ. 2499 ได้รับพระราชทานตั้งสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ "พระศรีวิสุทธิโมลี"
  • พ.ศ. 2505 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ "พระราชเวที"
  • พ.ศ. 2510 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ "พระเทพวรเวที"
  • พ.ศ. 2516 ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ "พระธรรมธีรราชมหามุนี"
  • พ.ศ. 2530 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้นเป็นพระราชาคณะ เจ้าคณะรอง ชั้นหิรัญบัฏ ที่ "พระธรรมปัญญาบดี"
  • พ.ศ. 2538 ได้รับพระราชทานสถาปนาสมณศักดิ์ขึ้นเป็นสมเด็จพระราชาคณะ ชั้นสุพรรณบัฏ ที่ "สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์"

สมณศักดิ์ต่างประเทศ

  • พ.ศ. 2520 ได้รับสมณศักดิ์จากประเทศบังกลาเทศ ที่ พระศาสนธชมหา ปัญญาสาระ
  • พ.ศ. 2524 ได้รับสมณศักดิ์จากประเทศศรีลังกา ฝ่ายอมรปุรนิกาย ที่ พระ ชินวรสาสนโสภณเตปิฏกวิสารทคณะปาโมกขาจริยะ
  • พ.ศ. 2525 ได้รับสมณศักดิ์จากประเทศศรีลังกา สยามวงศ์ ฝ่ายอัสสคิริยะ ที่ พระสาสนโชติกสัทธัมมวิสารทวิมลกิตติสิริ
  • พ.ศ. 2525 ได้รับสมณศักดิ์จากประเทศศรีลังกา สยามวงศ์ ฝ่ายมัลลวัตตะ ที่ พระธรรมกิตติสิรเตปิฏกวิสารโท
  • พ.ศ. 2526 ได้รับสรณศักดิ์จากประเทศศรีลังกา ฝ่ายรามัญวงศ์ ที่ พระ ติปิฏกปัณฑิตธัมมกิติสสิริยติสังฆปติ
  • พ.ศ. 2526 ได้รับแต่งตั้งเป็ฯพระอุปัชฌาย์ของประเทศศรีลังกา สยามวงศ์ ฝ่ายโกฏเฏ ที่ พระอุบาลีวังสาลังการะอุปัชฌายะธรรมธีรมหามุนี เถระ
  • พ.ศ. 2538 ได้รับสมณศักดิ์จากประเทศศรีลังกา ฝ่ายอมรปุรนิกาย ที่ พระเถร วาทะวังสาลังการะสยามเทสะสาสนธชะ

เกียรติคุณ

  • พ.ศ. 2532 ได้รับถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัยมหา จุฬาลงกรณราชวิทยาลัย
  • พ.ศ. 2543 ได้รับถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากมหาวิทยาลัย ประเทศศรีลังกา
  • พ.ศ. 2546 ได้รับถวายปริญญาดุษฎีบัณฑิตกิตติมศักดิ์ จากสังฆสภาอินเดีย ประเทศอินเดีย

อ้างอิง

ก่อนหน้า สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) ถัดไป
สมเด็จพระพุทธชินวงศ์
(สุวรรณ สุวณฺณโชโต)
ไฟล์:ตราบาลี.gif
แม่กองบาลีสนามหลวง
(พ.ศ. 2537 - ปัจจุบัน)
ยังอยู่ในตำแหน่ง