ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร)"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 18: | บรรทัด 18: | ||
สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ รูปที่ ๗ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระสุปฏิปันโน ผู้ปักธงกรรมฐานกลางมหานคร |
สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ รูปที่ ๗ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระสุปฏิปันโน ผู้ปักธงกรรมฐานกลางมหานคร |
||
เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวรเถระ ป.ธ.๙) เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ (วัดสัมพันธวงศาราม [[พระอารามหลวง]]ชั้นตรี ชนิดวรวิหาร), [[กรรมการมหาเถรสมาคม]], [[คณะผู้ |
เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวรเถระ ป.ธ.๙) เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ (วัดสัมพันธวงศาราม [[พระอารามหลวง]]ชั้นตรี ชนิดวรวิหาร), [[กรรมการมหาเถรสมาคม]], [[คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช]] <ref>ฉลองอายุวัฒนมงคล ๙๐ ปี สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (ถาวรมหาเถระ), [[http://www.watsamphan.com/oldpic/somdej90/]]</ref> มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย งดงาม น่าเลื่อมใส ดุจเดียวกับพระกัมมัฏฐาน ที่ครั้งหนึ่งเคยเดินธุดงค์ไปบนเส้นทางเดียวกับพระกัมมัฏฐานสาย[[หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต]] เน้นการปฏิบัติภาวนาพร้อมกับการปฏิบัติเคร่งครัดตามพระธรรมวินัย ก่อนจะหันเหชีวิตมุ่งหน้าสู่การเรียนพระปริยัติธรรมตามแนวทาง “คันถธุระ” จนประสบผลส่าเร็จสูงสุด ได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค และได้น้อมน่าหลักธรรมค่าสอนของพระพุทธองค์มาสู่การปฏิบัติ อบรมสั่งสอนพุทธบริษัท บริหารการคณะสงฆ์ น่าความเจริญรุ่งเรืองให้กับพระพุทธศาสนาโดยรวม<ref>สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร ป.ธ.๙), [[http://www.lib.ubu.ac.th/monkubon/file/MO54.pdf]]</ref> |
||
== ชาตภูมิ == |
== ชาตภูมิ == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:18, 23 กันยายน 2554
สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร) | |
---|---|
ส่วนบุคคล | |
เกิด | 29 ธันวาคม 2460 (106 ปี) |
นิกาย | ธรรมยุติกนิกาย |
การศึกษา | ป.ธ.9 |
ตำแหน่งชั้นสูง | |
ที่อยู่ | วัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร |
อุปสมบท | 8 พฤษภาคม 2480 |
พรรษา | 86 |
ตำแหน่ง | เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์, กรรมการมหาเถรสมาคม |
สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ รูปที่ ๗ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ พระสุปฏิปันโน ผู้ปักธงกรรมฐานกลางมหานคร
เจ้าประคุณสมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวรเถระ ป.ธ.๙) เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ (วัดสัมพันธวงศาราม พระอารามหลวงชั้นตรี ชนิดวรวิหาร), กรรมการมหาเถรสมาคม, คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช [1] มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย งดงาม น่าเลื่อมใส ดุจเดียวกับพระกัมมัฏฐาน ที่ครั้งหนึ่งเคยเดินธุดงค์ไปบนเส้นทางเดียวกับพระกัมมัฏฐานสายหลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต เน้นการปฏิบัติภาวนาพร้อมกับการปฏิบัติเคร่งครัดตามพระธรรมวินัย ก่อนจะหันเหชีวิตมุ่งหน้าสู่การเรียนพระปริยัติธรรมตามแนวทาง “คันถธุระ” จนประสบผลส่าเร็จสูงสุด ได้เปรียญธรรม ๙ ประโยค และได้น้อมน่าหลักธรรมค่าสอนของพระพุทธองค์มาสู่การปฏิบัติ อบรมสั่งสอนพุทธบริษัท บริหารการคณะสงฆ์ น่าความเจริญรุ่งเรืองให้กับพระพุทธศาสนาโดยรวม[2]
ชาตภูมิ
สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (มานิต ถาวโร) เกิด ณ วันที่ ๒๙ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๐ ที่บ้านบ่อชะเนง ตำบลหนองแก้ว อำเภออำนาจเจริญ จังหวัดอุบลราชธานี (ปัจจุบันเป็นจังหวัดอำนาจเจริญ) โยมบิดาชื่อช่วย โยมมารดาชื่อกา สกุล ก่อบุญ เป็นบุตรคนที่ ๔ ในจำนวนพี่น้อง ๑๑ คน [3] นอกจากเจ้าประคุณสมเด็จฯ แล้วยังมีผลผลิตทางธรรมจากบ้านบ่อชะเนงและเป็นญาติกับเจ้าประคุณสมเด็จฯ อีก ๒ รูป คือ หลวงปู่ขาว อนาลโย และพระราชปรีชาญาณมุนี (หลอม มหาวิริโย ป.ธ.๗) เจ้าอาวาสวัดบ่อชะเนง และเจ้าคณะจังหวัดอำนาจเจริญ (รูปปัจจุบัน) [4]
บรรพชาและอุปสมบท
- บรรพชา พ.ศ. ๒๔๗๒ ที่วัดบ้านบ่อชะเนง ซึ่งเป็นวัดประจ่าหมู่บ้าน โดยมีเจ้าอาวาสชื่อ ญาคูโม้ เป็นพระอุปัชฌาย์
- อุปสมบท พ.ศ. ๒๔๘๐ อายุ ๒๐ ปี ณ พระอุโบสถวัดสัมพันธวงศ์ วันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๐ โดยมีท่านเจ้าคุณพระมหารัชชมังคลาจารย์ (เทศ นิทฺเทสโก) ขณะดำรงสมณศักดิ์เป็นที่ พระรัชชมงคลมุนี เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูสุวรรณรังษี (สุวรรณ ชุตินฺธโร) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูปลัดเส็ง ทินฺนวโร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ (ภายหลังรับพระราชทานสมณศักดิ์ที่ พระเนกขัมมมุนี)
การศึกษาพระปริยัติธรรม
ช่วงแรก
พ.ศ. ๒๔๗๕ สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ได้เริ่มศึกษาพระปริยัติธรรมที่วัดอรัญญิกาวาส (วัดโพนแก้ว) อ่าเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม หลังจากที่บรรพชาเป็นสามเณรมาแล้ว ๓ ปี สอบได้ ดังนี้
- พ.ศ. ๒๔๗๖ นักธรรมชั้นตรี
- พ.ศ. ๒๔๗๘ นักธรรมชั้นโท
ช่วงที่สอง
พ.ศ. ๒๔๗๔ เดินทางไปศึกษาเล่าเรียนต่อที่กรุงเทพมหานครและจำพรรษาที่วัดสัมพันธวงศ์ตลอดมา โดยส่าเร็จการศึกษาปริยัติธรรมทั้งแผนกธรรมและแผนกบาลี ดังนี้
- พ.ศ. ๒๔๘๐ เปรียญธรรม ๓ ประโยค
- พ.ศ. ๒๔๘๑ เปรียญธรรม ๔ ประโยคและนักธรรมชั้นเอก
- พ.ศ. ๒๔๘๔ เปรียญธรรม ๕ ประโยค
- พ.ศ. ๒๔๘๖ เปรียญธรรม ๖ ประโยค
- พ.ศ. ๒๔๘๘ เปรียญธรรม ๗ ประโยค
- พ.ศ. ๒๔๙๒ เปรียญธรรม ๘ ประโยค
- พ.ศ. ๒๔๙๙ เปรียญธรรม ๙ ประโยค
สมณศักดิ์
- ๕ ธันวาคม ๒๔๙๙ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญ ที่ พระอริยเมธี
- ๕ ธันวาคม ๒๕๐๗ เป็นพระราชาคณะชั้นราช ที่ พระราชกวี
- ๕ ธันวาคม ๒๕๑๔ เป็นพระราชาคณะชั้นเทพ ที่ พระเทพปัญญามุนี
- ๕ ธันวาคม ๒๕๑๙ เป็นพระราชาคณะชั้นธรรม ที่ พระธรรมบัณฑิต
- ๕ ธันวาคม ๒๕๓๒ได้รับการสถาปนาเป็นรองสมเด็จพระราชาคณะที่ "พระอุดมญาณโมลี"
- ๕ ธันวาคม ๒๕๔๔ ได้รับการสถาปนาเป็นสมเด็จพระราชาคณะ มีราชทินนามตามจารึกในสุพรรณบัฏว่า "สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ จาตุรงคประธานวิสุต พุทธพจนมธุรธรรมวาที ตรีปิฎกปริยัติโกศล วิมลศีลาจารวัตร พุทธบริษัทปสาทกร ธรรมยุตติกคณิสสร บวรสังฆาราม คามวาสี อรัณยวาสี สมเด็จพระราชาคณะ"
ตำแหน่งปัจจุบัน
- เจ้าอาวาสวัดสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร
- ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค ๑๑ (ธรรมยุต)
- กรรมการมหาเถรสมาคม[5]
- กรรมการสภามหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย
- คณะผู้ปฎิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช [6]