ผลต่างระหว่างรุ่นของ "กลศาสตร์ควอนตัม"
ล โรบอต เพิ่ม: war:Mekanika kwantum แก้ไข: az:Kvant mexanikası |
ล โรบอต เพิ่ม: hi, be-x-old, pnb แก้ไข: an:Mecanica quantica,mr:पुंज यामिकी |
||
บรรทัด 48: | บรรทัด 48: | ||
[[als:Quantenmechanik]] |
[[als:Quantenmechanik]] |
||
[[an:Mecanica |
[[an:Mecanica quantica]] |
||
[[ar:ميكانيكا الكم]] |
[[ar:ميكانيكا الكم]] |
||
[[az:Kvant mexanikası]] |
[[az:Kvant mexanikası]] |
||
[[bat-smg:Kvantėnė mekanėka]] |
[[bat-smg:Kvantėnė mekanėka]] |
||
[[be:Квантавая механіка]] |
[[be:Квантавая механіка]] |
||
[[be-x-old:Квантавая мэханіка]] |
|||
[[bg:Квантова механика]] |
[[bg:Квантова механика]] |
||
[[bn:কোয়ান্টাম বলবিজ্ঞান]] |
[[bn:কোয়ান্টাম বলবিজ্ঞান]] |
||
บรรทัด 74: | บรรทัด 75: | ||
[[gl:Mecánica cuántica]] |
[[gl:Mecánica cuántica]] |
||
[[he:מכניקת הקוונטים]] |
[[he:מכניקת הקוונטים]] |
||
[[hi:क्वाण्टम यान्त्रिकी]] |
|||
[[hr:Kvantna mehanika]] |
[[hr:Kvantna mehanika]] |
||
[[hu:Kvantummechanika]] |
[[hu:Kvantummechanika]] |
||
บรรทัด 91: | บรรทัด 93: | ||
[[mk:Квантна механика]] |
[[mk:Квантна механика]] |
||
[[ml:ക്വാണ്ടം ബലതന്ത്രം]] |
[[ml:ക്വാണ്ടം ബലതന്ത്രം]] |
||
[[mr:पुंज |
[[mr:पुंज यामिकी]] |
||
[[ms:Mekanik kuantum]] |
[[ms:Mekanik kuantum]] |
||
[[mt:Mekkanika kwantistika]] |
[[mt:Mekkanika kwantistika]] |
||
บรรทัด 98: | บรรทัด 100: | ||
[[no:Kvantemekanikk]] |
[[no:Kvantemekanikk]] |
||
[[pl:Mechanika kwantowa]] |
[[pl:Mechanika kwantowa]] |
||
[[pnb:کوانٹم مکینکس]] |
|||
[[pt:Mecânica quântica]] |
[[pt:Mecânica quântica]] |
||
[[ro:Mecanică cuantică]] |
[[ro:Mecanică cuantică]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 04:26, 26 พฤษภาคม 2554
ส่วนหนึ่งของชุดบทความเกี่ยวกับ |
กลศาสตร์ควอนตัม |
---|
กลศาสตร์ควอนตัม (อังกฤษ: quantum mechanics) เป็นสาขาหนึ่งในทฤษฎีรากฐานของฟิสิกส์ ที่มีความสามารถในการอธิบายผลการทดลองต่างๆ และถูกใช้แทนที่กลศาสตร์นิวตัน (หรือกลศาสตร์ดั้งเดิม) และ กลศาสตร์ไฟฟ้าของแม็กซ์เวลล์ (หรือทฤษฎีแม่เหล็กไฟฟ้า) ซึ่งกลศาสตร์ดั้งเดิมเหล่านี้ไม่สามารถใช้อธิบายปรากฏการณ์ในวัตถุที่มีขนาดเล็กกว่าอะตอม แต่กลศาสตร์ควอนตัมนั้นสามารถคำนวณได้แม่นยำมากกว่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อขนาดของวัตถุที่สนใจนั้นเล็กถึงขนาดอะตอม จึงกล่าวได้ว่ากลศาสตร์ควอนตัมนั้นเป็นรากฐานเบื้องต้นของฟิสิกส์ที่มีความสำคัญมากกว่ากลศาสตร์นิวตันและกลศาสตร์ไฟฟ้าของแม็กซ์เวลล์ หรือใกล้เคียงกับความจริงมากกว่านั่นเอง
กลศาสตร์ควอนตัมเริ่มในปี พ.ศ. 2443 เมื่อ มักซ์ พลังค์ ตีพิมพ์ทฤษฎีที่อธิบายถึงการปล่อยสเปกตรัมออกจากวัตถุดำ ซึ่ง 18 ปีต่อมา เขาได้รับรางวัลโนเบลสาขาฟิสิกส์
ข้อแตกต่างของกลศาสตร์ดั้งเดิมและกลศาสตร์ควอนตัม กลายเป็นเรื่องประหลาด จนกระทั่งในปี พ.ศ. 2469 แวร์เนอร์ ไฮเซนแบร์ก แอร์วิน ชเรอดิงเงอร์ และคนอื่นๆ สามารถอธิบายทฤษฎีดังกล่าวทางคณิตศาสตร์ได้
สำหรับความเกี่ยวเนื่องกับทฤษฎีทางฟิสิกส์อื่นๆ นั้น หากรวมสัมพัทธภาพพิเศษลงในกลศาสตร์ควอนตัม จะเรียกว่า พลศาสตร์ไฟฟ้าควอนตัม หรือทฤษฎีสนามควอนตัม
ในปัจจุบัน ถือได้ว่า กลศาสตร์ควอนตัม และ สัมพัทธภาพทั่วไป เป็นเสาหลักของฟิสิกส์ยุคใหม่ ซึ่งยังไม่มีผู้ใดสามารถรวมสองทฤษฎีนี้เข้าด้วยกันได้ แต่ทฤษฎีสตริงอาจเป็นคำตอบสำหรับปัญหานี้
สูตรการแผ่รังสีของวัตถุดำ
เมื่อวัตถุถูกทำให้ร้อน มันจะปล่อยรังสีความร้อน ในรูปแบบของการแผ่รังสีแม่เหล็กย่านอินฟราเรด (ใต้แดง) เมื่อวัตถุกลายเป็นวัตถุแดงร้อน (red-hot) เราจะสามารถเห็นความยาวคลื่นสีแดงได้ แต่รังสีความร้อนส่วนใหญ่ที่แผ่ออกมายังคงเป็นอินฟราเรด จนกระทั่งวัตถุร้อนเท่ากับพื้นผิวของดวงอาทิตย์ (ประมาณ 6000 °C ที่ที่แสงส่วนใหญ่เป็นสีขาว)
สูตรการแผ่รังสีของวัตถุดำ เป็นผลงานแรกๆ ของทฤษฎีควอนตัม ในกลางคืน วันอาทิตย์ที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2443 โดยพลังก์ มันมาจากรายงานของรูเบนส์ (Rubens) จากการค้นพบล่าสุดในการค้นหาอินฟราเรด คืนนั้นเองพลังก์เขียนสูตรลงบนโปสการ์ด รูเบนส์ ได้รับโปสการ์ดนั้นในเช้าวันถัดมา
เมื่อ
- n = เลขควอนตัม
- E = พลังงาน
- f = ความถี่ single mode ที่แผ่รังสี
วันที่มีการค้นพบควอนตัม
จากการทดลอง พลังก์ค้นพบค่าของ h และ k ดังนั้นเขาสามารถรายงานในการประชุม the German Physical Society ในวันที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2443 ที่ซึ่งการแจงหน่วย หรือ quantization (ของพลังงาน) ถูกเปิดเผยเป็นครั้งแรก ค่าของเลขอโวกาโดร (the Avogadro-Loschmidt number) , จำนวนของโมเลกุลในโมล (mole) และหน่วยของประจุไฟฟ้า มีความถูกต้องมากขึ้นหลังจากนั้นจนถึงปัจจุบัน
ควอนตัม เอนแทงเกิลเมนต์
ควอนตัม เอนแทงเกิลเมนต์ ครั้งหนึ่งเคยถูกมองเป็นเรื่องซับซ้อนและลึกลับเกินกว่าจะเป็นจริงได้ มาปัจจุบันกำลังกลายเป็นเรื่องที่ตื่นเต้นมาก และมีแนวโน้มจะเป็นหนึ่งในหลักการสำคัญของเทคโนโลยีแห่งสตวรรษที่ 21 อนุภาคที่พัวพันกัน กำลังจะถูกใช้ในการสร้างระบบการสื่อสารที่เป็นความลับ อาจเป็นพื้นฐานของคอมพิวเตอร์ควอนตัมความเร็วสูงพิเศษ และแม้แต่เครื่อง "Teleportation" ในสไตล์ของภาพยนตร์ชุดสตาร์เทรค นักทฤษฎีในปัจจุบันคิดว่า เอนแทงเกิลเมนต์อาจเป็นปรากฏการณ์ค่อนข้างทั่วไปในธรรมชาติ ความคิดที่นำมาสู่ความเป็นไปได้ว่า เรากำลังอาศัยอยู่ในใยคอสมิกจริงๆ ที่เชื่อมโยงถึงกันและกัน ข้ามมิติของตำแหน่งและเวลา
อ้างอิง
- Speakable and unspeakable in Quantum mechanics by John Bell (Cambridge UP, 1989)
- Quantum: A guide for the perplexed by Jim Al-Khalili ( Weidenfeld & Nicolson, 2003)
- 25 ความคิดพลิกโลก (วี.วิชช์.สำน้กพิมพ์, 2551)