ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระวรสารนักบุญมาระโก"
ล r2.5.5) (โรบอต เพิ่ม: mk:Евангелие според Марко |
Link GA |
||
บรรทัด 48: | บรรทัด 48: | ||
[[หมวดหมู่:พันธสัญญาใหม่|ม]] |
[[หมวดหมู่:พันธสัญญาใหม่|ม]] |
||
{{โครงศาสนาคริสต์}} |
{{โครงศาสนาคริสต์}} |
||
{{Link GA|pl}} |
|||
[[af:Evangelie volgens Markus]] |
[[af:Evangelie volgens Markus]] |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:54, 26 เมษายน 2554
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
พระวรสารนักบุญมาระโก (อังกฤษ: Gospel of Mark) เป็นเอกสารในชุด พระวรสาร ของพระคริสตธรรมคัมภีร์ ภาคพันธสัญญาใหม่
เป็นหนึ่งในสี่ของ “พระวรสาร” และเป็นพระวรสารหนึ่งในสามของ “พระวรสารสหทรรศน์”
เขียนโดยผู้ไม่บอกนาม [1] แต่เชื่อกันทั่วไปว่าเขียนโดย มาระโกผู้ประกาศข่าวประเสริฐ ซึ่งเป็นบุตรชายของมารี[2] (ที่ไม่ใช่พระแม่มารีย์) และเป็นลูกพี่ลูกน้องกับบารนาบัส [3] มาระโกผู้ประกาศข่าวประเสริฐได้ร่วมเดินทางกับเปาโลและบารนาบัสในการเดินทาง เพื่อประกาศข่าวประเสริฐครั้งแรก เปาโลกล่าวถึงมาระโกผู้ประกาศข่าวประเสริฐในฐานะของเพื่อนในกรุงโรมและยกย่องการรับใช้ของเขาเป็นอย่างสูง เชื่อกันว่า ในสี่ของ “พระวรสาร” พระวรสารนักบุญมาระโก ถูกเขียนขึ้นเป็นพระวรสารแรก ในช่วงก่อนสงครามกลางเมืองในกรุงโรม เพราะฉะนั้นพระธรรมเล่มนี้น่าจะถูกเขียนในราวค.ศ.55
คริสตจักรในยุคแรกมีความเห็นตรงกันว่า เนื้อหาในพระธรรมเล่มนี้ถอดแบบมาจากคำสอนของเปโตร โดยเน้นที่การบันทึกข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จากลีลาการเขียนแสดงถึงการเขียนขึ้นอย่างเร่งรีบ ไม่ถูกผ่านการขัดเกลาให้สละสลวย ทำให้ผู้อ่านรู้สึกว่า หลายเหตุการณ์เกิดขึ้นอย่างฉับพลันทันที การกระทำต่างๆที่ได้บันทึกไว้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งสังเกตได้จากคำว่า "ในทันใดนั้น" ถูกใช้มากกว่า 40 ครั้ง แม้ว่า พระวรสารนักบุญมาระโก จะมีความยาวน้อยที่สุดในบรรดาพระวรสารทั้งสี่เล่ม แต่ในบางเหตุการณ์กลับถูกบันทึกไว้โดยละเอียด นอกจากนี้ ยังมีบางบทที่ได้อธิบายถึงขนบธรรมเนียมของชาวยิวไว้ด้วย เพื่อให้ผู้อ่านชาวโรมันจะเข้าใจได้
วัตถุประสงค์ของ พระวรสารนักบุญมาระโก มีอยู่ 4 ประการ โดยประการแรกสำคัญที่สุดคือ มาระโกผู้ประกาศข่าวประเสริฐต้องการให้ผู้อ่านทราบว่า พระกิตติคุณคืออะไร นั่นคือการที่พระเยซูสิ้นพระชนม์เพื่อไถ่บาปของเรา ถูกฝังไว้แล้วเป็นขึ้นมาอีกครั้ง ดังนั้นมาระโกผู้ประกาศข่าวประเสริฐจึงให้ความสำคัญของเรื่องราวตั้งแต่การสิ้นพระชนม์ จนถึงการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูมากกว่าเรื่องอื่น พระธรรมเล่มนี้มีทั้งหมด 16 บท ใน 10 บทแรก บันทึกเรื่องราวตั้งแต่พระเยซูรับบัพติศมา จนถึงเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็ม ซึ่งเป็นระยะเวลาประมาณ 3 ปี ในขณะที่อีก 6 บทที่เหลือ เป็นการบันทึกเรื่องราวช่วงสุดท้ายของชีวิตพระเยซู ซึ่งเป็นระยะเวลาเพียงแค่สัปดาห์เดียว แสดงให้เห็นว่ามาระโกผู้ประกาศข่าวประเสริฐต้องการเน้นว่า พระกิตติคุณคือหัวใจของพระธรรมเล่มนี้
ประการที่สองที่มาระโกผู้ประกาศข่าวประเสริฐต้องการกล่าวคือ แม้ว่าพระเยซูเป็นพระบุตรของพระเจ้า แต่พระเยซูทรงเป็นมนุษย์ พระองค์มีความรู้สึกเหน็ดเหนื่อย หิวโหย อ่อนล้า ฯลฯ เหมือนกับมนุษย์ พระเยซูจึงทรงเป็นแบบอย่างในการตอบสนองต่อความรู้สึกต่างๆ ดังนั้นในฐานะของคริสเตียน ทุกคนควรเรียนรู้จากพระองค์และตอบสนองด้วยท่าทีอย่างเดียวกัน
ประการที่สาม มาระโกผู้ประกาศข่าวประเสริฐเขียนเพื่อหนุนใจคริสเตียนที่ถูกกดขี่ข่มเหง เมื่อพระเยซูทรงยืนหยัดในขณะที่ถูกต่อต้าน จะเป็นกำลังใจให้กับคริสเตียนที่อยู่ในภาวะเดียวกันได้
ประการสุดท้าย มาระโกผู้ประกาศข่าวประเสริฐต้องการให้ผู้อ่านทราบถึงฤทธิ์อำนาจของพระเยซู ซึ่งมีชัยชนะเหนือผี โรคร้าย และความตายได้
พระวรสารนักบุญมาระโก ใช้ “มาระโก” หรือ “มก” ในการอ้างอิง
โครงร่าง
1. บทนำเรื่อง 1:1 - 13
2. การปรนนิบัติของพระเยซู 1:14 - 9:1
3. การจำแลงพระกายและไปเยรูซาเล็ม 9:2 - 10:52
4. สัปดาห์สุดท้ายของพระเยซู 11:1 - 15:47
5. การคืนพระชนม์ของพระเยซู 16:1 - 20
อ้างอิง
Thai Holy Bible, Thailand Bible Society, 1998
Walter A. Elwell, The Pocket Bible Handbook, Harold Shaw Publisher, 1997