ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ม็อด (วิถีชีวิต)"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
EmausBot (คุย | ส่วนร่วม)
r2.6.4) (โรบอต แก้ไข: nl:Mod (subcultuur)
บรรทัด 44: บรรทัด 44:
[[ja:モッズ]]
[[ja:モッズ]]
[[lt:Modai]]
[[lt:Modai]]
[[nl:Mods]]
[[nl:Mod (subcultuur)]]
[[nn:Mod-kulturen]]
[[nn:Mod-kulturen]]
[[no:Mod (subkultur)]]
[[no:Mod (subkultur)]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 20:20, 10 เมษายน 2554

ไฟล์:Mod vespa.jpg
กลุ่มชาวม็อดและรถ Scooter

ม็อด (Mod) มาจากคำว่า Modernism (สมัยใหม่นิยม) เป็นวัฒนธรรมการใช้ชีวิตของวัยรุ่นที่เกิดขึ้นในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ในยุค 50

ม็อด เรียกว่าเป็นวัฒนธรรมของคนกลุ่มหนึ่ง (วัฒนธรรมย่อย หรือ Subculture) ที่มีฐานะเป็นชนชั้นกลาง ประกอบด้วยคนหนุ่มสาวเป็นหลัก ทั้งคนทำงานระดับมันสมองและระดับปฏิบัติงาน รูปแบบชีวิตในสังคมก็จะเป็นลักษณะคนเมืองที่ใช้ชีวิตกลางคืน โดยคนกลุ่มนี้จะเป็นกลุ่มคนที่นิยมแฟชั่นและดนตรีมาก

แรกเริ่มเดิมที ม็อด ถูกใช้เรียกกลุ่มแฟนเพลงโมเดิร์นแจ๊ส ต่อมาคนกลุ่มนี้ก็เริ่มที่จะแต่งตัวและมีรูปแบบการใช้ชีวิตที่เป็นเอกลักษณ์มากขึ้น ในราวปี ค.ศ. 1960 วิถีการดำเนินชีวิตแบบหนุ่มสาวผู้มั่งคั่งได้เกิดขึ้นในอังกฤษ ซึ่งเป็นช่วงเดียวกันกับยุคเริ่มต้นของการปฏิวัติทางเศรษฐกิจและสังคมในตอนแรก ด้วยภาวะเศรษฐกิจที่มั่นคงและมีงานให้เลือกทำมากมาย ทำให้คนรุ่นหนุ่มสาว มีรายได้มากพอ จนต่อมาได้เกิดคนยุคใหม่ที่สามารถก่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในสื่อหลายสาขาที่คนเหล่านั้นเข้าไปทำงาน

แฟชั้นที่ ม็อด นิยมใส่ก็เช่นพวกสูท โดยจะเป็นเสื้อสูทคล้ายแจ็คเก็ตที่มักทำด้วยขนกระต่าย ซึ่งโดยรวมแล้วลักษณะการแต่งกายจะไปในแนวแฟชั่นสมัยใหม่แบบอิตาลี

สำหรับการแต่งตัวแบบสบาย ๆ แล้ว กลุ่มม็อด จะสวมกางเกงขาตรงเกือบรัดรูป เสื้อโปโล เช่นของ Fred Perry และ Ben Sherman ไว้ทรงผมสไตล์ฝรั่งเศส ส่วนสาวๆ จะใส่เสื้อคลุมหนังสีดำแบบสปอร์ต กระโปรงสั้นรัดรูป หรือ กางเกงรัดรูป และ รองเท้าบู๊ต นอกจากนี้แล้ว เสื้อโค้ดยี่ห้อ Parkas ที่พวกเขาชอบใส่ขี่เล่น Scooter ก็ยังเป็นที่รู้จักกันมาก (เสื้อคลุมตัวใหญ่พร้อมหมวก) ซึ่งเสื้อโค้ดตัวหนักนี้นอกจากเป็นเครื่องบ่งบอกความเป็นชาวม็อด ของพวกเขาแล้ว ยังช่วยป้องกันความหนาวเย็นขณะขี่สกูตเตอร์

การแต่งหน้าของสาว ๆ ม็อดจะเน้นที่ดวงตา โดยเขียนขอบตาและปัดขนตาสีดำ ทรงผมเป็นมันวาวและทำให้ดูพองๆ หนาๆ โดยการยีผมและประโคมเจลแต่งผมเพื่อให้ผมอยู่ทรง บุคลิกสาวๆ จะดูคล่องแคล่วและดูเหมือนผู้ชาย[ต้องการอ้างอิง] ซึ่งแตกต่างอย่างมากกับแฟชั่นของผู้หญิงในยุคนั้น ต่อมาชาวม็อด ก็นิยมใส่เสื้อผ้าที่มีชีวิตชีวาและเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น

ม็อดนิยมที่จะใช้สกูตเตอร์ เป็นยานพาหนะ โดยเฉพาะที่ผลิตจากอิตาลี่ ยี่ห้อ เวสป้า หรือ Lambretta ซึ่งออกแบบให้เหมาะสมกับการขับขี่ในเมือง ด้วยแบบรถที่ดูเรียบๆ แต่มีสีสันเป็นประกาย และท่านั่งขับขี่ที่ตัวตั้งตรง เป็นเสน่ห์ที่ทำให้ชาว Mod เห็นว่าเข้ากันได้กับสไตล์ของพวกเขา พวกเขาจะตกแต่ง Scooter ด้วยกระจกและไฟจำนวนมาก โดยส่วนมากไม่ได้ใช้ไฟและกระจกเหล่านั้น

การที่ม็อดเลือกสกูตเตอร์ เป็นยานพาหนะเหตุผลส่วนนึงก็มาจากที่การเดินทางโดยสาธารณะไม่สะดวกนัก และราคาของสกูตเตอร์ ก็ถูกกว่ารถยนต์ และเหตุผลที่พวกเขาประดับประดารถด้วยกระจกและไฟจำนวนมากก็มีสาเหตุมาจากการประชดกฎหมายอังกฤษ ที่ออกฎหมายใหม่ให้รถมอเตอร์ไซค์ทุกคันต้องมีกระจกอย่างน้อย 1 อัน

ดนตรีที่ชาวม็อดนิยมจะเป็นแนว โมเดิร์นแจ๊ส และ อาร์แอนด์บี หลังจากนั้นเมื่อกลุ่มชาว Mod ขยายใหญ่ขึ้น ก็มีการขยับขยายแนวเพลงไปเป็นเพลง โซล (แนวดนตรี), สกา, และ Bluebeat ด้วย ทำให้เกิดวงดนตรีดังๆหลายต่อหลายวงที่กลายมาเป็นวงระดับตำนาน อาทิเช่น The Who, The Kinks, The Small Faces และ The Jam

Mod ชื่นชอบในศิลปะสมัยใหม่ และมีสถานที่ที่ใช้รวมตัวกันบ่อยๆ เป็นพวกไนท์คลับ ยกตัวอย่างเช่น The Scene หรือ The Flamingo ในลอนดอน หรือจะเป็น Twisted Wheel Club ใน Manchester เพื่อที่จะโชว์เอกลักษณ์ที่กล่าวมา

การเสพยาเป็นเรื่องปกติของชาวม็อด โดยเฉพาะแอมเฟตามีน ยาเหล่านี้เข้ากันได้กับวิถีชีวิตของพวกเขา โดยทำให้พวกเขาทำอะไรๆ ได้นานขึ้น[ต้องการอ้างอิง] เช่น เต้นรำ สังสรรค์ หรือ ขี่ Scooter ยา Purple Hearts หรือ Blues ทำให้หนุ่มสาวชาวม็อด ทำงานได้ทั้งวันและยังมีแรงพอที่จะออกไปสนุกสนานยามค่ำคืนจนเกือบรุ่งเช้า ส่วนวันรุ่งขึ้นพวกเขาก็จะใช้เวลางานในที่ทำงานสำหรับการพักฟื้น ชาวม็อดถูกมองว่าชอบทำสิ่งที่คนรุ่นก่อนไม่เคยได้ทำหรือสัมผัส[ต้องการอ้างอิง] สำหรับคนบางกลุ่มแล้วพฤติกรรมนี้ดูเหมือนขาดความรับผิดชอบ สุดโต่ง และ คุกคาม

การกระทบกระทั่งกันระหว่างสองกลุ่มนี้เกิดขึ้นเป็นประจำเมื่อชาว Rockers ขี่จักรยานยนต์เข้ามาในเมือง ดังเช่นเหตุการณ์ที่ยังเป็นที่จดจำที่เกิดขึ้นในเมือง Brighton ในปี ค.ศ. 1994 ในเหตุการณ์นั้นตำรวจได้เข้าจับกุมผู้ก่อเหตุ ในขณะที่สื่อต่างๆ ได้โหมประโคมข่าวกันอย่างกว้างขวาง สร้างความสลดใจให้แก่ผู้คนที่ได้อ่านหัวข้อข่าวและรูปภาพเหตุการณ์ในหนังสือพิมพ์ ถึงแม้ว่าผู้คนในสังคมจะวิตกเรื่องที่หนุ่มสาวออกนอกลู่นอกทางอยู่นอกเหนือ การควบคุม แต่เบื้องหลังหัวข้อข่าวในหนังสือพิมพ์ ก็ไม่มีอะไรเลวร้ายไปกว่าความเสียหายจากอาชญากรรม และการจู่โจมที่ไม่รุนแรงมากนัก