ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สถานีรถไฟธนบุรี"
Rattakorn c (คุย | ส่วนร่วม) ล ตรวจสอบแล้ว |
Rattakorn c (คุย | ส่วนร่วม) จับเข้ากล่องข้อมูล |
||
บรรทัด 13: | บรรทัด 13: | ||
}} |
}} |
||
{{จบป้ายสถานีรถไฟ|สายตะวันตก}} |
{{จบป้ายสถานีรถไฟ|สายตะวันตก}} |
||
{{กล่องข้อมูล สถานีรถไฟ |
|||
| line = ย่านชานเมือง |
|||
| image = Thonburi_new.jpg |
|||
| short_description = สถานีรถไฟธนบุรี |
|||
| station_id = |
|||
| name_full_th = ธนบุรี |
|||
| name_abbr_th = ธบ. |
|||
| name_full_en = Thonburi |
|||
| name_abbr_en = TBR |
|||
| area_of = กรุงเทพ |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
| latitude = 13.76086 |
|||
| longtitude = 100.47827 |
|||
| mapia_url = |
|||
| area_of = บางซื่อ |
|||
⚫ | |||
| telno = |
|||
| station_master = |
|||
| station_master_assistant = |
|||
| noof_rails = |
|||
| institution = |
|||
| note = |
|||
}} |
|||
|- |
|- |
||
|[[ไฟล์:Thonburi_new.jpg|thumb| |250px|สถานีรถไฟธนบุรี]] |
|[[ไฟล์:Thonburi_new.jpg|thumb| |250px|สถานีรถไฟธนบุรี]] |
||
บรรทัด 22: | บรรทัด 46: | ||
'''สถานีรถไฟธนบุรี''' หรือเดิมเรียกว่า '''สถานีรถไฟบางกอกน้อย''' ตั้งอยู่บนถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร บริเวณตลาดรถไฟ (แห่งใหม่) มีความสำคัญในฐานะเป็นสถานีต้นทางของรถไฟสายใต้ และสายตะวันตก [[สถานีรถไฟบางกอกน้อย]] เปิดเมื่อ [[19 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2446]] โดยมีสถานีต้นทางอยู่[[สถานีรถไฟบางกอกน้อย]] ปลายทางไปที่[[สถานีรถไฟเพชรบุรี]] <ref>http://www.oknation.net/blog/nukpan/2010/08/01/entry-1 รถไฟสายใต้ ช่วงแรกจากบางกอกน้อยถึงเพชรบุรี</ref> |
'''สถานีรถไฟธนบุรี''' หรือเดิมเรียกว่า '''สถานีรถไฟบางกอกน้อย''' ตั้งอยู่บนถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร บริเวณตลาดรถไฟ (แห่งใหม่) มีความสำคัญในฐานะเป็นสถานีต้นทางของรถไฟสายใต้ และสายตะวันตก [[สถานีรถไฟบางกอกน้อย]] เปิดเมื่อ [[19 มิถุนายน]] [[พ.ศ. 2446]] โดยมีสถานีต้นทางอยู่[[สถานีรถไฟบางกอกน้อย]] ปลายทางไปที่[[สถานีรถไฟเพชรบุรี]] <ref>http://www.oknation.net/blog/nukpan/2010/08/01/entry-1 รถไฟสายใต้ ช่วงแรกจากบางกอกน้อยถึงเพชรบุรี</ref> |
||
== ประวัติ == |
|||
อาคารแรกเริ่มเมื่อสร้างสถานีบางกอกน้อย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 นั้นไม่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนนัก พบว่ามีภาพวาดที่ระบุว่าเป็นภาพสถานีรถไฟหลวงสายใต้ แต่ยังไม่พบภาพถ่ายจริงของสถานีรถไฟหลวงสายใต้ในระยะนั้น อย่างไรก็ตาม ต่อมาเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อาคารสถานีรถไฟหลวงสายใต้ หรือสถานีบางกอกน้อยถูกทำลายอย่างย่อยยับ รัฐบาลในสมัยของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม จึงให้สร้างอาคารหลังใหม่ทดแทนที่ถูกทำลายไป โดยสร้างเป็นอาคารอิฐสีแดง มีหอนาฬิกา ซึ่งถือว่าเป็นอาคารที่มีความสวยงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง และตั้งชื่อสถานีนี้ใหม่ว่า '''สถานีธนบุรี''' และเปิดใช้งานอาคารหลังใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2493 |
อาคารแรกเริ่มเมื่อสร้างสถานีบางกอกน้อย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 นั้นไม่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนนัก พบว่ามีภาพวาดที่ระบุว่าเป็นภาพสถานีรถไฟหลวงสายใต้ แต่ยังไม่พบภาพถ่ายจริงของสถานีรถไฟหลวงสายใต้ในระยะนั้น อย่างไรก็ตาม ต่อมาเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อาคารสถานีรถไฟหลวงสายใต้ หรือสถานีบางกอกน้อยถูกทำลายอย่างย่อยยับ รัฐบาลในสมัยของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม จึงให้สร้างอาคารหลังใหม่ทดแทนที่ถูกทำลายไป โดยสร้างเป็นอาคารอิฐสีแดง มีหอนาฬิกา ซึ่งถือว่าเป็นอาคารที่มีความสวยงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง และตั้งชื่อสถานีนี้ใหม่ว่า '''สถานีธนบุรี''' และเปิดใช้งานอาคารหลังใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2493 |
||
บรรทัด 32: | บรรทัด 57: | ||
สถานีธนบุรี หมดบทบาทไประยะเวลาหนึ่งหลังจากที่ รฟท.ยกที่ดิน 33 ไร่ อันเป็นที่ตั้งนั้นให้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล ทำให้อาคารสถานีธนบุรีมิใช่ทรัพย์สินของ รฟท.อีกต่อไป ขบวนรถต่าง ๆ ที่เข้าออก ถูกเปลี่ยนต้นทาง-ปลายทาง จากธนบุรีเป็นบางกอกน้อย (เหมือนเมื่อครั้งแรกก่อตั้งทางรถไฟหลวงสายใต้) แต่ต่อมา ในวันที่ 1 มกราคม 2547 รฟท.ได้เปลี่ยนชื่อสถานีบางกอกน้อยที่เป็นอาคารสร้างใหม่นั้นไปใช้ชื่อว่าสถานีธนบุรี และใช้คำย่อ ธบ. พร้อมทั้งยกฐานะจากสถานีชั้น 4 ขึ้นเป็นสถานีชั้น 1 เหมือนครั้งก่อนที่จะเลิกใช้อาคารสถานีธนบุรีแห่งเดิม ทำให้บทบาทของสถานีธนบุรีกลับมาอีกครั้งตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โดยใช้ที่ทำการใหม่คืออาคารสถานีบางกอกน้อยที่สร้างใหม่เมื่อประมาณปี 2542 นั้นเอง |
สถานีธนบุรี หมดบทบาทไประยะเวลาหนึ่งหลังจากที่ รฟท.ยกที่ดิน 33 ไร่ อันเป็นที่ตั้งนั้นให้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล ทำให้อาคารสถานีธนบุรีมิใช่ทรัพย์สินของ รฟท.อีกต่อไป ขบวนรถต่าง ๆ ที่เข้าออก ถูกเปลี่ยนต้นทาง-ปลายทาง จากธนบุรีเป็นบางกอกน้อย (เหมือนเมื่อครั้งแรกก่อตั้งทางรถไฟหลวงสายใต้) แต่ต่อมา ในวันที่ 1 มกราคม 2547 รฟท.ได้เปลี่ยนชื่อสถานีบางกอกน้อยที่เป็นอาคารสร้างใหม่นั้นไปใช้ชื่อว่าสถานีธนบุรี และใช้คำย่อ ธบ. พร้อมทั้งยกฐานะจากสถานีชั้น 4 ขึ้นเป็นสถานีชั้น 1 เหมือนครั้งก่อนที่จะเลิกใช้อาคารสถานีธนบุรีแห่งเดิม ทำให้บทบาทของสถานีธนบุรีกลับมาอีกครั้งตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โดยใช้ที่ทำการใหม่คืออาคารสถานีบางกอกน้อยที่สร้างใหม่เมื่อประมาณปี 2542 นั้นเอง |
||
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของสถานีธนบุรี คือเรื่องระบบอาณัติสัญญาณ โดยสถานีธนบุรี เป็นสถานีรถไฟแห่งเดียวในกรุงเทพฯ ในปัจจุบันนี้ ที่ยังคงใช้สัญญาณประจำที่ ชนิดหางปลา (ปัจจุบัน |
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของสถานีธนบุรี คือเรื่องระบบอาณัติสัญญาณ โดยสถานีธนบุรี เป็นสถานีรถไฟแห่งเดียวในกรุงเทพฯ ในปัจจุบันนี้ ที่ยังคงใช้สัญญาณประจำที่ ชนิดหางปลา (ปัจจุบันสัญญาณหางปลายกเลิกการใช้งานแล้ว แต่ยังคงตั้งอยู่) นอกจากนี้ บริเวณใกล้เคียง ยังมี โรงรถจักรธนบุรี ซึ่งเป็นสถานีบำรุงรักษา-ซ่อมแซมรถจักรดีเซลที่สำคัญแห่งหนึ่งของการรถไฟฯ และยังเป็นที่เก็บรักษารถจักรไอน้ำที่เหลืออยู่ของการรถไฟฯ ซึ่งยังคงใช้การได้อีก 5 คัน ซึ่งได้มีการนำมาวิ่งลากจูง ขบวนรถพิเศษในโอกาสสำคัญ ๆ อยู่เป็นประจำ |
||
== ขบวนรถไฟ == |
== ขบวนรถไฟ == |
||
บรรทัด 54: | บรรทัด 79: | ||
* รถธรรมดาขบวนที่ 258 {{สรฟ|น้ำตก}} -ธนบุรี |
* รถธรรมดาขบวนที่ 258 {{สรฟ|น้ำตก}} -ธนบุรี |
||
* รถชานเมืองที่ 920 {{สรฟ|ศาลายา}} -ธนบุรี (เดินวันละ 5 เที่ยว) |
* รถชานเมืองที่ 920 {{สรฟ|ศาลายา}} -ธนบุรี (เดินวันละ 5 เที่ยว) |
||
=== ข้อมูลจำเพาะ === |
|||
* ชื่อภาษาไทย : ธนบุรี |
|||
* ชื่อภาษาอังกฤษ : Thonburi |
|||
* ชื่อย่อภาษาไทย : ธบ. |
|||
* ชื่อย่อภาษาอังกฤษ : TBR |
|||
⚫ | |||
⚫ | |||
⚫ | |||
== อ้างอิง == |
== อ้างอิง == |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:00, 16 กุมภาพันธ์ 2554
แม่แบบ:รถไฟทางตรง แม่แบบ:จบป้ายสถานีรถไฟ
| ||||||||||||||||||||||||
แม่แบบ:Coor box |
ดูเพิ่มที่ สถานีรถไฟธนบุรี (แก้ความกำกวม)
สถานีรถไฟธนบุรี หรือเดิมเรียกว่า สถานีรถไฟบางกอกน้อย ตั้งอยู่บนถนนรถไฟ แขวงศิริราช เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร บริเวณตลาดรถไฟ (แห่งใหม่) มีความสำคัญในฐานะเป็นสถานีต้นทางของรถไฟสายใต้ และสายตะวันตก สถานีรถไฟบางกอกน้อย เปิดเมื่อ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2446 โดยมีสถานีต้นทางอยู่สถานีรถไฟบางกอกน้อย ปลายทางไปที่สถานีรถไฟเพชรบุรี [1]
ประวัติ
อาคารแรกเริ่มเมื่อสร้างสถานีบางกอกน้อย ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5 นั้นไม่ปรากฏให้เห็นอย่างชัดเจนนัก พบว่ามีภาพวาดที่ระบุว่าเป็นภาพสถานีรถไฟหลวงสายใต้ แต่ยังไม่พบภาพถ่ายจริงของสถานีรถไฟหลวงสายใต้ในระยะนั้น อย่างไรก็ตาม ต่อมาเมื่อเกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 อาคารสถานีรถไฟหลวงสายใต้ หรือสถานีบางกอกน้อยถูกทำลายอย่างย่อยยับ รัฐบาลในสมัยของ จอมพล ป.พิบูลสงคราม จึงให้สร้างอาคารหลังใหม่ทดแทนที่ถูกทำลายไป โดยสร้างเป็นอาคารอิฐสีแดง มีหอนาฬิกา ซึ่งถือว่าเป็นอาคารที่มีความสวยงามมากที่สุดอีกแห่งหนึ่ง และตั้งชื่อสถานีนี้ใหม่ว่า สถานีธนบุรี และเปิดใช้งานอาคารหลังใหม่เมื่อปี พ.ศ. 2493
บทบาทของสถานีธนบุรีในฐานะต้นทางของรถไฟสายใต้เริ่มน้อยลง เมื่อรถไฟสายใต้หลายขบวนได้เปลี่ยนต้นทาง-ปลายทางไปที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ซึ่งต่อมาในระยะหลัง ขบวนรถที่ให้บริการ ณ สถานีธนบุรีจึงมีเพียงขบวนรถธรรมดาและและขบวนรถชานเมือง รวมถึงขบวนรถรวม ในเส้นทางสายใต้ (รวมถึงเส้นทางสายกาญจนบุรีและสุพรรณบุรี)
ในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2542 รัฐบาลสมัยนายชวน หลีกภัย ได้มีโครงการปรับปรุงอาคารสถานีธนบุรีและพื้นที่โดยรอบ ทำให้ในช่วงระยะเวลาหนึ่ง การรถไฟได้สร้างสถานีรถไฟอีกแห่งหนึ่งขึ้นมาเพื่อใช้เป็นที่รับส่งผู้โดยสารทดแทนสถานีธนบุรี ตั้งชื่อว่าสถานีบางกอกน้อย (สถานีชั้น 4) (ชื่อเดียวกับสถานีรถไฟหลวงสายใต้ในอดีตก่อนที่จะถูกทำลายจากสงคราม) ห่างจากสถานีธนบุรี 0.866 กิโลเมตร แต่สถานีธนบุรีนั้น ก็ยังเปิดจำหน่ายตั๋วและเปิดทำการตามปกติ แต่ผู้โดยสารต้องเดินทางมาขึ้นลงขบวนรถที่สถานีใหม่ที่สร้างขึ้น แต่โครงการดังกล่าวประสบปัญหาอย่างมากทำให้หยุดชะงักไปในที่สุด
ในปี พ.ศ. 2546 ในรัฐบาลของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร เป็นที่น่าสนใจว่า มีชั่วระยะเวลาสั้นๆ ที่ รฟท.ได้นำขบวนรถโดยสารเข้ามาหยุดรับส่งผู้โดยสารที่อาคารสถานีธนบุรีเหมือนเดิม แต่ในที่สุด เมื่อ รฟท.ได้มอบที่ดินบริเวณสถานีธนบุรีจำนวน 33 ไร่ แก่คณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล ทำให้ตั้งแต่วันที่ 4 ตุลาคม 2546 รฟท.จึงไม่เดินรถเข้าสถานีธนบุรีเป็นการถาวร โดยให้ใช้สถานีบางกอกน้อยที่สร้างใหม่เป็นต้นทาง-ปลายทาง
สถานีธนบุรี หมดบทบาทไประยะเวลาหนึ่งหลังจากที่ รฟท.ยกที่ดิน 33 ไร่ อันเป็นที่ตั้งนั้นให้แก่ มหาวิทยาลัยมหิดล ทำให้อาคารสถานีธนบุรีมิใช่ทรัพย์สินของ รฟท.อีกต่อไป ขบวนรถต่าง ๆ ที่เข้าออก ถูกเปลี่ยนต้นทาง-ปลายทาง จากธนบุรีเป็นบางกอกน้อย (เหมือนเมื่อครั้งแรกก่อตั้งทางรถไฟหลวงสายใต้) แต่ต่อมา ในวันที่ 1 มกราคม 2547 รฟท.ได้เปลี่ยนชื่อสถานีบางกอกน้อยที่เป็นอาคารสร้างใหม่นั้นไปใช้ชื่อว่าสถานีธนบุรี และใช้คำย่อ ธบ. พร้อมทั้งยกฐานะจากสถานีชั้น 4 ขึ้นเป็นสถานีชั้น 1 เหมือนครั้งก่อนที่จะเลิกใช้อาคารสถานีธนบุรีแห่งเดิม ทำให้บทบาทของสถานีธนบุรีกลับมาอีกครั้งตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมา โดยใช้ที่ทำการใหม่คืออาคารสถานีบางกอกน้อยที่สร้างใหม่เมื่อประมาณปี 2542 นั้นเอง
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจของสถานีธนบุรี คือเรื่องระบบอาณัติสัญญาณ โดยสถานีธนบุรี เป็นสถานีรถไฟแห่งเดียวในกรุงเทพฯ ในปัจจุบันนี้ ที่ยังคงใช้สัญญาณประจำที่ ชนิดหางปลา (ปัจจุบันสัญญาณหางปลายกเลิกการใช้งานแล้ว แต่ยังคงตั้งอยู่) นอกจากนี้ บริเวณใกล้เคียง ยังมี โรงรถจักรธนบุรี ซึ่งเป็นสถานีบำรุงรักษา-ซ่อมแซมรถจักรดีเซลที่สำคัญแห่งหนึ่งของการรถไฟฯ และยังเป็นที่เก็บรักษารถจักรไอน้ำที่เหลืออยู่ของการรถไฟฯ ซึ่งยังคงใช้การได้อีก 5 คัน ซึ่งได้มีการนำมาวิ่งลากจูง ขบวนรถพิเศษในโอกาสสำคัญ ๆ อยู่เป็นประจำ
ขบวนรถไฟ
ปัจจุบัน มีขบวนรถไฟสายใต้ เข้า-ออกสถานีรถไฟธนบุรี ดังนี้
เที่ยวไป
- รถธรรมดาขบวนที่ 255 ธนบุรี- หลังสวน
- รถธรรมดาขบวนที่ 257 ธนบุรี- น้ำตก
- รถธรรมดาขบวนที่ 251 ธนบุรี- ประจวบคีรีขันธ์
- รถธรรมดาขบวนที่ 259 ธนบุรี- น้ำตก
- รถชานเมืองขบวนที่ 351 ธนบุรี- ราชบุรี
- รถเร็วขบวนที่ 177 ธนบุรี- หลังสวน
- รถชานเมืองที่ 919 ธนบุรี- ศาลายา (เดินวันละ 5 เที่ยว)
เที่ยวกลับ
- รถเร็วขบวนที่ 178 หลังสวน -ธนบุรี
- รถชานเมืองขบวนที่ 352 ราชบุรี -ธนบุรี
- รถธรรมดาขบวนที่ 260 น้ำตก -ธนบุรี
- รถธรรมดาขบวนที่ 252 ประจวบคีรีขันธ์ -ธนบุรี
- รถธรรมดาขบวนที่ 254 หลังสวน -ธนบุรี
- รถธรรมดาขบวนที่ 258 น้ำตก -ธนบุรี
- รถชานเมืองที่ 920 ศาลายา -ธนบุรี (เดินวันละ 5 เที่ยว)
อ้างอิง
- ↑ http://www.oknation.net/blog/nukpan/2010/08/01/entry-1 รถไฟสายใต้ ช่วงแรกจากบางกอกน้อยถึงเพชรบุรี