ผลต่างระหว่างรุ่นของ "โซเฟีย คอปโปลา"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
D'ohBot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต เพิ่ม: fa:سوفیا کاپولا
Pongsak ksm (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 64: บรรทัด 64:
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
* {{imdb name|id=0001068|name=Sofia Coppola}}
* {{imdb name|id=0001068|name=Sofia Coppola}}
{{lifetime|1971||คอปโปลา, ซโเฟีย}}
{{lifetime|1971||ซโเฟีย}}
{{โครงดารา}}
{{โครงดารา}}



รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:51, 26 มกราคม 2554

Sofia Coppola
ไฟล์:Sofia Coppola LA June 2009.jpg
สารนิเทศภูมิหลัง
เกิด (1971-05-14) 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1971 (52 ปี)
โซเฟีย คาร์มินา คอปโปลา
คู่สมรสสไปค์ จอนซ์ (1999-2003)
คู่ครองโทมัส มาร์ส
อาชีพนักแสดง นักเขียนบท ผู้กำกับ ผู้อำนวยการสร้าง
ปีที่แสดง1972 - ปัจจุบัน

โซเฟีย คาร์มินา คอปโปลา นักแสดง นักเขียนบท ผู้กำกับ และผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ชาวอเมริกัน เป็นผู้กำกับภาพยนตร์สตรีคนที่สาม และสตรีชาวอเมริกันคนแรกที่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์ สาขาผู้กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จากเรื่อง Lost in Translation (2003) ต่อจากลินา เวิร์ทมูลเลอร์ (ชาวอิตาเลียน-สวิส ปี 1975 จากเรื่อง Seven Beauties) และเจน แคมเปียน (ชาวนิวซีแลนด์ ปี 1993 จากเรื่อง The Piano)

โซเฟีย คอปโปลาเกิดที่นิวยอร์ก เป็นบุตรคนสุดท้องของฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา และเอเลนอร์ คอปโปลา จบการศึกษาด้านการออกแบบเสื้อผ้า และเคยเปิดบริษัทผลิตเสื้อผ้า "Milkfed" วางจำหน่ายเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น [1]

ผลงานแสดง

เธอปรากฏตัวในภาพยนตร์หลายเรื่องของบิดาตั้งแต่เด็ก โดยในเรื่อง เดอะก็อดฟาเธอร์ (1972) ขณะยังเป็นทารก รับบทเป็นแอนโทนี ลูกชายของไมเคิล คอร์เลโอเน (อัล ปาชิโน) ในฉากรับศีลจุ่ม ในเรื่อง Peggy Sue Got Married (1986) รับบทเป็นน้องสาวของเพ็กกี ซู (แคทลีน เทอร์เนอร์) [2]

ในปี 1990 เธอรับบทเป็น มาเรีย คอร์เลโอเน ตัวเอกใน เดอะก็อดฟาเธอร์ ภาค 3 โดยรับบทนี้แทนวิโนนา ไรเดอร์ ที่ต้องถอนตัวเนื่องจากอาการป่วย เนื่องจากบทนี้เป็นบทสำคัญ และเธอขาดประสบการณ์ด้านแสดง ทำให้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้อ่อนด้อย [2] และได้รับรางวัลราสเบอร์รี สาขานักแสดงประกอบหญิงยอดแย่ และสาขานักแสดงหน้าใหม่ยอดแย่ ประจำปี 1990 [3]

นอกเหนือจากผลงานที่บิดาเป็นผู้กำกับแล้ว เธอยังรับบทเล็ก ในภาพยนตร์อีกหลายเรื่อง เช่น Frankenweenie (1984) ของทิม เบอร์ตัน, Inside Monkey Zetterland (1992), Star Wars Episode I (1999) ของจอร์จ ลูคัส และในมิวสิกวิดีโอหลายเรื่องที่กำกับโดยสไปค์ จอนซ์ อดีตสามี

ผลงานเขียนบทและกำกับภาพยนตร์

โซเฟีย คอปโปลาเป็นผู้เขียนบทภาพยนตร์เรื่อง New York Stories (1989) เป็นภาพยนตร์สั้นสามเรื่องที่กำกับโดยวูดดี อัลเลน มาร์ติน สกอร์เซซี และฟรานซิส ฟอร์ด คอปโปลา โดยเธอเป็นผู้เขียนบทตอน "Life Without Zoe" ร่วมกับบิดา

เธอมีผลงานเขียนบทและกำกับภาพยนตร์มาแล้ว 5 เรื่อง ได้แก่ Lick the Star (1998), The Virgin Suicides (1999), Lost in Translation (2003), Marie Antoinette (2006) และ Somewhere (2010) [4] โดยเรื่อง Lost in Translation นำแสดงโดยบิล เมอร์เรย์และสกาเล็ต โยแฮนสัน เนื้อเรื่องเกี่ยวกับชาวอเมริกันที่ใช้ชีวิตอยู่ในโตเกียว และพบกับความแปลกแยกทางวัฒนธรรม ภาษา และอุปสรรคในติดต่อสื่อสาร เธอเขียนบทภาพยนตร์เรื่องนี้จากประสบการณ์จริง ที่เคยใช้ชีวิตอยู่ในญี่ปุ่นคนเดียวหลังจากเรียนจบ [2] ภาพยนตร์ได้รับคำชื่นชม ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 17 รางวัล จากสามสถาบันหลัก คือรางวัลออสการ์ รางวัลลูกโลกทองคำ และรางวัลบาฟตา [5]

อ้างอิง

  1. Lee, Helen (5 November 2007). "Did you know Sofia Coppola has a fashion line called MilkFed?". Sassybella.com. สืบค้นเมื่อ 2009-07-29. {{cite web}}: ระบุ |author= และ |last= มากกว่าหนึ่งรายการ (help)
  2. 2.0 2.1 2.2 http://www.film.com/celebrities/sofia-coppola/biography/15034328
  3. Eleventh Annual RAZZIE® Awards (for 1990)
  4. The Coppola Smart Mob
  5. http://www.imdb.com/title/tt0335266/awards

แหล่งข้อมูลอื่น