ผลต่างระหว่างรุ่นของ "รัฐสวัสดิการ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Horus (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Idioma-bot (คุย | ส่วนร่วม)
r2.6.3) (โรบอต เพิ่ม: bg:Социална държава, lt:Socialinė valstybė แก้ไข: es:Estado social
บรรทัด 13: บรรทัด 13:
[[หมวดหมู่:อุดมการณ์ทางการเมือง]]
[[หมวดหมู่:อุดมการณ์ทางการเมือง]]


[[bg:Социална държава]]
[[ca:Estat del benestar]]
[[ca:Estat del benestar]]
[[cs:Sociální stát]]
[[cs:Sociální stát]]
บรรทัด 19: บรรทัด 20:
[[en:Welfare state]]
[[en:Welfare state]]
[[eo:Sociala ŝtato]]
[[eo:Sociala ŝtato]]
[[es:Estado Social]]
[[es:Estado social]]
[[et:Heaoluriik]]
[[et:Heaoluriik]]
[[fi:Hyvinvointivaltio]]
[[fi:Hyvinvointivaltio]]
บรรทัด 28: บรรทัด 29:
[[ja:福祉国家論]]
[[ja:福祉国家論]]
[[ko:복지국가]]
[[ko:복지국가]]
[[lt:Socialinė valstybė]]
[[nl:Welvaartsstaat]]
[[nl:Welvaartsstaat]]
[[nn:Velferdsstat]]
[[nn:Velferdsstat]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:09, 14 มกราคม 2554

รัฐสวัสดิการ (อังกฤษ: Welfare state) เป็นระบบทางสังคมที่รัฐให้หลักประกันแก่ประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียมกันในด้านปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการมีคุณภาพชีวิตที่ดี เช่น หลักประกันด้านสุขภาพ ทุกคนมีสิทธิ์ได้รับบริการป้องกันและรักษาโรคฟรี หลักประกันด้านการศึกษา ทุกคนมีโอกาสได้รับการศึกษาตามความสามารถโดยได้รับทุนการศึกษาฟรีจนทำงานได้ตามความสามารถในการเรียน หลักประกันด้านการว่างงาน รัฐต้องช่วยให้ทุกคนได้งานทำ ใครยังหางานไม่ได้รัฐต้องให้เงินเดือนขั้นต่ำไปพลางก่อน หลักประกันด้านชราภาพ รัฐให้หลักประกันด้านบำนาญสำหรับผู้สูงอายุทุกคน หลักประกันด้านที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกิน เป็นต้น

ประเทศที่มีระบบรัฐสวัสดิการจะใช้ระบบการเก็บภาษีแบบก้าวหน้า คือเก็บภาษีจากคนรวยในอัตราต่อรายได้สูงกว่าคนจนมาก เก็บจากชนชั้นกลางในระดับพอประมาณ และเก็บจากคนจนน้อยหรือไม่เก็บเลยถ้าจนมาก นอกจากนั้นอาจมีการเก็บเบี้ยประกันสังคมจากคนที่มีงานทำตามอัตราเงินเดือน เงินที่เก็บได้ทั้งหมดรัฐก็จะนำมาใช้จ่ายสำหรับบริการทางสังคมทั้งหมดในระบบรัฐสวัสดิการ ระบบนี้จึงเป็นการ ‘เฉลี่ยทุกข์ เฉลี่ยสุข’ คนที่มีรายได้ดีต้องช่วยจ่ายค่าบริการทางสังคมส่วนหนึ่งแก่คนที่ยากจนกว่า

นอกจากนี้จะเน้นไปที่ภาษีทางตรง คือเก็บจากรายได้ มากกว่าภาษีทางอ้อม เช่น ภาษีมูลค่าเพิ่ม เพราะอย่างหลังจะถูกบวกในราคาสินค้า รวมถึงสินค้าจำเป็นอุปโภคบริโภค ทำให้เกิดความไม่เป็นธรรม เพราะคนรวยคนจนก็บริโภคสิ่งจำเป็นพอๆกัน ทำให้คนจนเสียภาษีทางอ้อมในอัตราที่มากกว่าคนรวย

อ้างอิง

สรุปจากข้อมูลบางส่วนในหนังสือ "รัฐสวัสดิการ ทางเลือกที่ดีกว่าประชานิยมของไทยรักไทย" โดย ใจ อึ๊งภากรณ์ และเก่งกิจ กิติเรียงลาภ

แหล่งข้อมูลอื่น