ผลต่างระหว่างรุ่นของ "เหตุการณ์รถตู้สาธารณะถูกชนบนทางยกระดับอุตราภิมุข พ.ศ. 2553"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Clumsy (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
Clumsy (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 217: บรรทัด 217:
พันเอกรัฐชัย เทพหัสดิน ณ อยุธยา บิดาของอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา กล่าวเสริมว่า "...กระแสในโซเชียลเน็ตเวิร์คที่กล่าวว่าลูกสาวเส้นใหญ่ หรือมีการปิดสื่อ ไม่โกรธที่จะมีใครคิดอย่างนั้น เพราะว่าใครเห็นนามสกุลของตระกูล ก็สามารถคิดได้ทั้งนั้น แต่ไม่เคยมีพฤติกรรมเอาเปรียบประชาชน เพราะตั้งแต่เข้ารับราชการกระทั่งลาออก ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี ไม่เคยเล่นเส้นสายหรือทุจริตแต่อย่างใด..."<ref>มติชนออนไลน์; 2553, 30 ธันวาคม ("เปิดใจ"พ.อ.รัฐชัย"พ่อมือขับซีวิค ยันลูกโทร.หาตัว ไม่ได้เล่นบีบี วอนสังคมให้ความเป็นธรรม") : ออนไลน์.</ref>
พันเอกรัฐชัย เทพหัสดิน ณ อยุธยา บิดาของอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา กล่าวเสริมว่า "...กระแสในโซเชียลเน็ตเวิร์คที่กล่าวว่าลูกสาวเส้นใหญ่ หรือมีการปิดสื่อ ไม่โกรธที่จะมีใครคิดอย่างนั้น เพราะว่าใครเห็นนามสกุลของตระกูล ก็สามารถคิดได้ทั้งนั้น แต่ไม่เคยมีพฤติกรรมเอาเปรียบประชาชน เพราะตั้งแต่เข้ารับราชการกระทั่งลาออก ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี ไม่เคยเล่นเส้นสายหรือทุจริตแต่อย่างใด..."<ref>มติชนออนไลน์; 2553, 30 ธันวาคม ("เปิดใจ"พ.อ.รัฐชัย"พ่อมือขับซีวิค ยันลูกโทร.หาตัว ไม่ได้เล่นบีบี วอนสังคมให้ความเป็นธรรม") : ออนไลน์.</ref>


ค่ำวันเดียวกัน ครอบครัวเทพหัสดินมีหนังสือแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอวยพรปีใหม่ตบท้าย<ref>ไทยรัฐ; 2553, 30 ธันวาคม ("สกุล 'เทพหัสดิน' แพร่จดหมายเสียใจ") : ออนไลน์.</ref>
ค่ำวันเดียวกัน ครอบครัวเทพหัสดินมีหนังสือแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอวยพรปีใหม่ตบท้าย<ref>ไทยรัฐ; 2553, 30 ธันวาคม ("สกุล 'เทพหัสดิน' แพร่จดหมายเสียใจ") : ออนไลน์.</ref> ครั้นวันถัดมา อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ให้สัมภาษณ์ว่า จำไม่ได้ว่าวันเกิดเหตุขับรถด้วยความเร็วเท่าไร และที่ใช้แบล็กเบอร์รี ก็เพื่อแจ้งพวกพ้องให้ทราบถึงเหตุการณ์และเรียกประกัน หาได้สนทนากับเพื่อน หรือเพิ่มเติมเนื้อหาในหน้า[[เฟซบุ๊ก]]หรือ[[ทวิตเตอร์]]ของตน แต่ประการใดไม่ และทิ้งท้ายว่่า หลังเหตุการณ์จะไปบวชชี<ref name = "Manager-006"/>


== การดำเนินคดี ==
== การดำเนินคดี ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:58, 31 ธันวาคม 2553


เหตุการณ์รถตู้สาธารณะถูกชนบนทางยกระดับอุตราภิมุข พ.ศ. 2553
ไฟล์:Accident on Bangkok Tollway 2010-12-28 001.jpg
หน่วยกู้ภัยคลุมศพผู้ประสบเหตุศพหนึ่ง
รายละเอียด
วันเวลา 27 ธันวาคม พ.ศ. 2553, ราว 21:30 นาฬิกา[1]
สถานที่ ไทย ทางยกระดับอุตราภิมุข ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร
พิกัดภูมิศาสตร์ 13541.43°N 1003525.96°E / 13541.43°N 1003525.96°E / 13541.43; 1003525.96 Coordinates: latitude degrees > 90
Coordinates: longitude degrees >= 360
พิกัดภูมิศาสตร์: 13541.43°N 1003525.96°E / 13541.43°N 1003525.96°E / 13541.43; 1003525.96 Coordinates: latitude degrees > 90
Coordinates: longitude degrees >= 360
{{#coordinates:}}: ละติจูดไม่ถูกต้อง
ข้อมูลพาหนะ • รถยนต์นั่งส่วนบุคคล สีขาว ยี่ห้อฮอนด้าซีวิค ทะเบียน ฎว-8461 กท.
• รถตู้สาธารณะ สีขาว ทะเบียน 13-7795 กท. เส้นทางระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ถึงสถานีหมอชิต (สาย ต.118)
สถิติ
พาหนะที่ประสบเหตุ สองคัน
จำนวนผู้ประสบเหตุ สิบห้าคน[1]
จำนวนผู้ตาย เก้าคน[2]
จำนวนผู้บาดเจ็บ หกคน[2]

เหตุการณ์รถตู้สาธารณะถูกชนบนทางยกระดับอุตราภิมุข พ.ศ. 2553 เป็นอุบัติเหตุบนท้องถนน เกิดขึ้นในค่ำวันที่ 27 ธันวาคม 2553 เมื่อรถยนต์นั่งส่วนบุคคล สีขาว ยี่ห้อฮอนด้าซีวิค ขับโดย อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ชื่อเล่นว่า แพรวา อายุสิบเจ็ดปี[3] แล่นมาด้วยความรวดเร็ว พุ่งเข้าชนบนทางยกระดับอุตราภิมุขซึ่งท้ายรถตู้สาธารณะ เส้นทางระหว่างมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต ถึง สถานีหมอชิต (สาย ต.118) ที่บรรทุกผู้โดยสารสิบสี่คน ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาและข้าราชการของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ[1] เป็นเหตุให้รถตู้คันดังกล่าวฟาดกับขอบทางยกระดับอุตราภิมุขอย่างแรง ผู้โดยสานกระเด็นจากรถ เบื้องต้นตายแปดคนและบาดเจ็บอีกหกคน[4] [5] ต่อมา ผู้บาดเจ็บตายลงอีกหนึ่งคน สิริจำนวนผู้โดยสารตายเก้าคน และบาดเจ็บห้าคน[6] ส่วนอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา บาดเจ็บเล็กน้อย[1]

อุบัติเหตุครั้งนี้ สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ด้านลบอย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์ ขณะที่ชาวไซเบอร์บางกลุ่มเรียกร้องให้รัฐดำเนินกระบวนการยุติธรรมเกี่ยวกับอุบัติเหตุครั้งนี้อย่างโปร่งใสและเป็นกลาง[7] กับทั้งยังส่งผลให้รัฐพิจารณาออกกฎระเบียบบังคับให้ผู้โดยสารรถสาธารณะต้องคาดเข็ดขัดนิรภัยทุกคนด้วย[8]

การถูกชน

ไฟล์:Accident on Bangkok Tollway 2010-12-28 038.jpg
ศพของศาสตรา เช้าเที่ยง ถูกเกี่ยวห้อยอยู่ยังสะพานลอยใต้ทางยกระดับอุตราภิมุข

วันที่ 27 ธันวาคม 2553 ราว 21:00 นาฬิกา รถตู้สาธารณะคันข้างต้นได้รับผู้โดยสารจำนวนสิบสี่คน จากสถานีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาและข้าราชการของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ที่เลิกเรียนและเลิกงานจะกลับบ้านก่อนวันหยุดยาวช่วงขึ้นปีใหม่[1] ปลายทางของรถตู้คือสถานีหมอชิต เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร[1]

ครั้นมาถึงทางยกระดับอุตราภิมุข ซึ่งอยู่สูงยี่สิบเมตรเหนือทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 บริเวณหน้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ติดต่อกับสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ และบริษัทยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด แขวงลาดยาว เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร[1] [9] รถยนต์นั่งส่วนบุคคลของอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ได้วิ่งมาด้วยความรวดเร็ว พุ่งเข้าชนท้ายรถตู้ รถตู้จึงเสียหลัก พลิกคว่ำไปชนขอบกั้นคอนกรีตของทางยกระดับอุตราภิมุข และฟาดกับเสาไฟฟ้า ก่อนคว่ำลงกับพื้นในลักษณะตะแคง กระจกแตก และประตูเปิดออก[10] แรงเหวี่ยงส่งผลให้ผู้โดยสารบางส่วนกระเด็นจากรถ กระแทกพื้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 บางส่วนปลิวตกลงคลองของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีหนึ่งคนกระเด็นไปกระแทกสะพานลอยใต้ทางยกระดับอุตราภิมุขตายและศพถูกเกี่ยวห้อยอยู่ ณ ที่ตายนั้น ขณะที่อีกส่วนคาอยู่ในรถตู้[1] [11]

เวลา 21.41 นาฬิกา พันตำรวจโทฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง สารวัตรสืบสวนสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลวิภาวดีรังสิต รับรายงานเหตุ จึงนำกำลังไปตรวจสอบ และสั่งปิดการจราจรบนทางยกระดับอุตราภิมุข ตลอดจนบริเวณทางคู่ขนานขาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 ตั้งแต่หน้าบริษัทยาคูลท์ (ประเทศไทย) จำกัด ไปถึงสี่แยกบางเขน[9] [12] บนทางยกระดับอุตราภิมุข เขาพบรถรรถยนต์นั่งส่วนบุคคลของอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา จอดอยู่กลางถนน หน้ารถพังยับเยิน และล้อหลุด ส่วนอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา พิงขอบทางยกระดับอุตราภิมุข เล่นแบล็กเบอร์รีอยู่ข้าง ๆ[13] และพบรถตู้ที่ประสบเหตุ กำลังพลิกคว่ำ สภาพท้ายรถพังยับเยิน[1] นอกจากนี้ เขายังพบศพผู้เสียชีวิตกระจายเกลื่อนอยู่บนทางคู่ขนาน ตั้งแต่หน้าหน้าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ มาถึงประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นับได้ทั้งหมดแปดศพ ส่วนผู้บาดเจ็บมีจำนวนเจ็ดคน รวมอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ด้วยแล้ว เจ้าหน้าที่และพลเมืองดีได้ช่วยกันนำส่งโรงพยาบาลวิภาวดีที่อยู่ใกล้เคียง[11] ต่อมา จันจิรา ซิมกระโทก ผู้บาดเจ็บ ตายลงอีกหนึ่ง จำนวนผู้ประสบจึงเปลี่ยนแปลงเป็น ตายเก้าคน และบาดเจ็บหกคน[6]

เมื่อทราบข่าวแล้ว ค่ำวันนั้น นักศึกษาและอาจารย์จำนวนหนึ่งของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เดินทางเข้าเยี่ยมผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลวิภาวดี ในจำนวนนี้ มี ปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเวลาเดียวกัน เจ้าหน้าที่จากกรมทางหลวงก็ทำความสะอาดพื้นที่เกิดเหตุ[14] ครั้นวันรุ่งขึ้น เวลา 11:00 นาฬิกา พลโทพร้อมพงศ์ พีระบูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิภาวดี แถลงข่าวว่า ให้ส่งผู้บาดเจ็บที่เป็นนักศึกษาและบุคลากรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติได้ โดยผู้บาดเจ็บส่วนใหญ่อาการสาหัสและต้องรักษาพยาบาลด้วยการผ่าตัด ส่วนอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เพียงปากและข้อศอกแตก[13] แพทย์รักษาพยาบาลแล้วก็ให้กลับได้[15] บ่ายวันเดียวกัน ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ญาติสนิทมิตรสหายผู้เสียชีวิตทั้งแปดทยอยเดินทางมารับศพไปจัดการต่อไป[13]

ผู้ประสบเหตุ

ผู้ตาย

ลำดับที่ ชื่อ อายุ (ปี) อาชีพ หรือความเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ อาการตาย
1. เกียรติมันท์ รอดอารีย์[1] ยี่สิบสาม[16] นักวิทยาศาสตร์ ศูนย์นาโนเทคโนโลยีแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ[17]
2. จันจิรา ซิมกระโทก[6] ยี่สิบสอง[2] นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[2] • เดิมบาดเจ็บ กระดูกหักเกือบทั้งตัว โดยเฉพาะที่เชิงกราน ทรวงอก และซี่โครงซ้าย ศีรษะยังถูกกระแทก สมองบวมมาก และไม่รู้สึกตัว[13]
• ต้องผ่าตัดสมอง ให้เลือด และใส่เครื่องช่วยหายใจ อยู่หน่วยอภิบาล แพทย์แถลงว่าเป็นตายมีโอกาสเท่ากัน[15]
• ต่อมาตายในวันที่ 30 ธันวาคม 2553[6]
3. ตรอง สุดธนกิจ[16] ยี่สิบสี่[18] รัฐศาสตรบัณฑิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[18]
4. นฤมล ปิตตาทะนัง[1] สามสิบแปด[18] คนขับรถตู้คันประสบเหตุ[18]
5. ปรัชญา คันธา[1] ยี่สิบเอ็ด[17] นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[18]
6. ภิญโญ จินันทุยา[1] สามสิบสี่[17] ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบริหารจัดการเทคโนโลยีและสารสนเทศ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์และการผังเมือง มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[16]
7. ศาสตรา เช้าเที่ยง[18] สามสิบสาม[16] นักวิทยาศาสตร์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ[18] หนังสือพิมพ์ไทยรัฐพรรณนาสภาพศพของเขาว่า "...ค้างอยู่บนสะพานลอยคนข้าม สภาพกะโหลกศีรษะเปิด เศษสมองร่วงไหลหล่นลงมาบนพื้นถนน เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องใช้เชือกผูกไว้ กันร่างไร้วิญญาณร่วงหล่นลงมา..."[11]
8. สุดาวดี นิลวรรณ[1] ยี่สิบ[16] นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[1]
9. อุกฤษฎ์ รัตนโฉมศรี[1] สามสิบ[17] นักวิจัย ศูนย์พันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ[16]

ผู้บาดเจ็บ

ลำดับที่ ชื่อ อายุ (ปี) อาชีพ หรือความเกี่ยวข้องในเหตุการณ์ อาการเจ็บ
1. กันณภัส ปัญญาประเสริฐ[12] ยี่สิบสาม[12] นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีบาดแผลทั่วกาย และปวดหลัง ส่งต่อยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และปลอดภัยแล้ว[13]
2. มูฮัมหมัด ชารีฟ[15] [19] สามสิบเอ็ด[12] นักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[15] มีแผลที่เท้าและเข่า นิ้วก้อยเท้าแตก เอกซเรย์กระดูก ผ่าตัดรักษา และปลอดภัยแล้ว[13]
3. วรัญญู เกตุชู[12] ยี่สิบ[12] นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ และเลขาธิการองค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ไหปลาร้าซ้ายหัก หัวเข่าแตก ผ่าตัดรักษา และส่งต่อยังโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ และปลอดภัยแล้ว[13]
4. วิศรุต พลสิทธิ์[12] สามสิบห้า[12] นักวิทยาศาสตร์ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ปวด และมีแผลถลอกตามตัว ปฐมพยาบาล แล้วให้กลับได้[13]
5. สุนทร ปิตตาทะนัง[20] สี่สิบสี่[20] สามีของคนขับรถตู้ หัวแตก หัวไหล่ซ้ายเคลื่อน เย็บแผลและรักษาให้ และปลอดภัยแล้ว[13]
6. อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา สิบเจ็ด[3] คนขับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลผู้ก่อเหตุ ปากและข้อศอกแตก รักษาพยาบาลแล้ว ให้กลับได้ในวันที่ 28 ธันวาคม 2553[15] [13]

สถิติ

ผู้ประสบเหตุทั้งหมด สิบห้าคน ซึ่งรวมอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เข้าด้วยแล้ว

  • แบ่งตามเพศ จะได้เป็นเป็นชายเก้าคน หญิงหกคน, ในจำนวนนี้ เป็นผู้ตายเก้าคน เป็นชายสี่คน และหญิงห้าคน, เป็นผู้บาดเจ็บหกคน เป็นชายสามคน หญิงสามคน[11]
  • แบ่งตามสังกัดแล้ว จะได้เป็นชาวมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์แปดคน, เป็นบุคลากรสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติสี่คน, อีกสองคนเป็นคนขับรถตู้ และหนึ่งคนสุดท้ายคืออรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา
  • แบ่งตามอาชีพแล้ว จะได้เป็นนักศึกษาแปดคน, เป็นอาจารย์หนึ่งคน, เป็นนักวิทยาศาสตร์สี่คน, ที่เหลืออีกสองคนเป็นคนขับรถตู้ และหนึ่งคนสุดท้ายคืออรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา

การสอบสวน

ไฟล์:Accident on Bangkok Tollway 2010-12-28 011.jpg
สภาพรถตู้ที่ถูกชนท้าย

วันที่ 28 ธันวาคม 2553 เวลา 10:00 นาฬิกา พันตำรวจโทฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง แถลงข่าวว่า เบื้องต้น ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิด พบว่าสามารถบันทึกภาพช่วงที่เกิดเหตุได้[13] โดยปรากฏว่า[1]

"...รถตู้วิ่งอยู่เลนกลางด้วยความเร็วประมาณแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง รถเก๋งซีวิควิ่งตามหลังมาด้วยความเร็วสูง แล้วเกิดเปลี่ยนเลน [ช่องทาง] ไปทางขวากะทันหัน ทำให้ด้านหน้ารถเก๋งชนท้ายขวาของรถตู้อย่างแรง...รถตู้หมุนหัวรถหันไปทางด้านซ้าย...รถเก๋งซึ่งเสียหลักก็หมุนเช่นกัน ส่งผลให้ด้านข้างขวาของรถเก๋งกระแทกซ้ำเข้าไปที่ด้านซ้ายของรถตู้อย่างจัง ผลจากการชนซ้ำทำให้รถตู้กระแทกเข้าไปที่ขอบปูนอย่างรุนแรง จนด้านหน้าของรถตู้ฉีกขาด ทำให้ผู้โดยสารที่อยู่ภายในหลุดกระเด็นออกมา...ช่วงระยะเวลาที่เกิดเหตุนั้น รวมเพียงแค่ห้าถึงหกวินาทีเท่านั้น..."

ภาพยังปรากฏอีกว่า เมื่อรถตู้ถูกชน มีจังหวะหนึ่งผู้โดยสารกระเด็นออกจากรถตู้ขึ้นสู่อากาศกว่าเจ็ดสิบเมตร[21] พันตำรวจโทฉัตรชัยกล่าวอีกว่า ขั้นต่อไปจะได้เชิญผู้เชี่ยวชาญจากศูนย์วิจัยพัฒนาการจราจร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และจากศูนย์ความปลอดภัย กระทรวงคมนาคม ร่วมหาปัจจัยในเชิงลึกของเหตุการณ์นี้ พร้อมทั้งจะได้ปฏิบัติการสอบสวนตามกฎหมาย[1]

พันตำรวจโทฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง ระบุอีกว่า สอบสวนอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ผู้ก่อเหตุ เบื้องต้นแล้ว พบว่าเป็นบุตรของ พันเอกรัฐชัย เทพหัสดิน ณ อยุธยา, เป็นน้องสาวของ ณัฏฐ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา นักแสดงวัยรุ่น[12] กับทั้งเป็นหลานของ วรัญญู เทพหัสดิน อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคไทยรักไทย และ กนก เทพหัสดิน ณ อยุธยา เจ้าของนิคมอุตสาหกรรมนวนคร จังหวัดปทุมธานี[22] [23] เนื่องจากอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา มีอายุเพียงสิบเจ็ดปี ย่อมปรากฏชัดว่า ขับรถโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ ซึ่งจะออกให้สำหรับบุคคลอายุสิบแปดปีขึ้นไปเท่านั้น แต่เด็กอายุสิบเจ็ดปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 75 แล้ว ไม่อาจรับโทษได้เต็มที่ เขาจึงตัดสินใจยังไม่แจ้งข้อกล่าวหาแก่เธอในเวลานี้[21]

โอกาสเดียวกัน พลตำรวจตรีภาณุ เกิดลาภผล รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ด้านการจราจร ว่า เขาได้ดูภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วเช่นกัน พบว่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลของอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขับมาชนรถตู้อย่างกระชั้น โดยเขาใช้คำว่า "สะกิดรถตู้ให้เสียหลัก"[24] ขณะที่สมบัติ วงศ์กำแหง โฆษกสภาทนายความ ว่า "...คนขับรถตู้มีความผิดชัดเจนอยู่แล้ว แต่คนขับเสียชีวิตด้านอาญาไม่ต้องรับผิดชอบ แต่ทางแพ่งยังคงต้องรับผิดชอบ โดยผู้เสียหายหรือญาติสามารถฟ้องร้องจากเจ้าของรถตู้ หรือถ้าผู้ตายเป็นเจ้าของก็สามารถฟ้องร้องนำทรัพย์สินมาชดใช้เป็นค่าเสียหายได้ ส่วนรถเก๋งก็ต้องรับผิดชอบด้วยเหมือนกัน แต่จะต้องรับผิดชอบทั้งอาญาและแพ่ง..." เรื่องนี้กลายเป็นประเด็นหนึ่งที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์เป็นอันมากในสังคมออนไลน์[25] [26]

การตอบสนอง

การตอบสนองในสังคมออนไลน์

ไฟล์:Accident on Bangkok Tollway 2010-12-28 020.jpg
เว็บไซต์ "ราชสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา" ถูกนักเลงคอมพิวเตอร์เจาะเข้าไปก่อกวน

อุบัติเหตุครั้งนี้ กลายเป็นประเด็นสนทนาเป็นอันมากในสังคมออนไลน์ ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตส่วนใหญ่พยายามค้นหาประวัติของอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา และส่วนใหญ่แสดงความคิดเห็นเชิงลบ รุมประนามการที่อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขับรถโดยประมาทและในวัยสิบเจ็ดปีเท่านั้น ตลอดจนกรณีที่เจ้าพนักงานตำรวจไม่ดำเนินคดี ต่างก็คาดเดากันว่า เนื่องจากอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นลูกหลานราชสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา จึงหลุดพ้นคดีได้[27] [22] มีผู้ตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ และตั้งหัวข้อสนทนา เป็นหลายประการ อาทิ ในพันทิปดอตคอม มีหัวข้อว่า "ขอประณามการกระทำคุณแพรวา และครอบครัว"[28], "ตกลงใครเป็นคนขับชนกันแน่...รถตู้โดนซีวิคชนท้าย คนตกทางด่วน ตายเกลื่อน"[29] และ "มาดูหลังภาพรถเก๋งและคนขับหลังจากเกิดเหตุการณ์"[30] เป็นต้น อีกประเด็นหนึ่งที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์มาก คือ กรณีที่สมบัติ วงศ์กำแหง โฆษกสภาทนายความ แถลงว่าคนขับรถตู้ต้องรับผิดทั้งทางแพ่งและทางอาญานั้น มีผู้แสดงความคิดว่า "นายสมบัติ วงศ์กำแหง มึงดูถาพจากล้องหรือยัง ถ้ามึงขับมาดี ๆ ไม่เร็ว ขับปรกติ แล้วรถมาชนตูดมึง รถมึงหมุน ลูกมึงกระเด็นมาตายนอกรถ มึงว่ามึงผิดไหม แล้วมึงต้องจ่ายค่าเสียหายรถที่ขับมาชนตูดมึงไหม...." เป็นอาทิ[31] [32]

ส่วนประชาคมธรรมศาสตร์บนเฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็นทำนองเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ผู้ตายซึ่งเป็นเพื่อนและอาจารย์ร่วมมหาวิทยาลัย และประสงค์ให้ตำรวจไทยกล้าหาญทำสิ่งที่ถูกต้อง ไม่เกรงกลัวอิทธิพลของราชสกุล บางคนว่า "มันช่างตลกร้าย นักกฎหมายแท้ ๆ ที่ตาย แต่คนชนกลับหลุดรอดกฎหมายไปได้...", "เด็กผู้หญิงอายุสิบเจ็ด ไม่มีใบขับขี่ ขับรถเก๋งบนทางด่วนด้วยความเร็วสูงตอนสี่ทุ่ม ผู้ปกครองปล่อยมาได้อย่างไร" และ "เด็กไม่ได้ตั้งใจ แต่มีคนเจ็บคนตายนะ เด็กควรขอโทษ พ่อแม่ครอบครัวเด็กมีฐานะ น่าจะแสดงความรับผิดชอบหรือแสดงถึงน้ำใจและความรู้สึกเสียใจต่อการกระทำของเด็กซักนิด" เป็นต้น[22] [33]

ไฟล์:Accident on Bangkok Tollway 2010-12-28 022.jpg
"สะกัดกั้น"

นอกจากนี้ ในเว็บบล็อกดรามา-แอดดิกต์ดอตคอม มีการเผยแพร่บทความเรื่อง "[รายงานพิเศษ]ไฮโซแปดศพ!!" นำเสนอข้อมูลข่าวสารเชิงวิพากษ์เกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ของสื่อมวลชนไทยที่ไม่เป็นกลางและเชื่อถือได้น้อย และเกี่ยวกับอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เอง[34] ส่วนในเฟซบุ๊กก็มีการตั้งโครงการ "มั่นใจว่าคนไทยเกินล้านคนไม่พอใจ แพรวา (อรชร) เทพหัสดิน ณ อยุธยา" มีชาวเฟซบุ๊กจำนวนมากเข้าได้ไปสนทนาในทางด่าว่าอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นข้อหยาบคายต่าง ๆ[33] ซึ่งซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง[35] โครงการดังกล่าวก็มีผู้เข้าเป็นสมาชิกถึงหนึ่งแสนแปดหมื่นคน และในเช้าวันที่ 29 ธันวาคม 2553 มีนักเลงคอมพิวเตอร์เจาะเข้าไปในเว็บไซต์ "ราชสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา" แล้วเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเกี่ยวกับอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา เป็นว่า "ฆาตรกรแพรวา เทพหัสดิน ณ วิภาวี เก้าศพ"[36] แต่ไม่ช้า เหล่าเว็บไซต์ที่กล่าวมาก็ถูกกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารสะกัดกั้นการเข้าถึง โดยเปลี่ยนทางไปยังหน้า "118.175.8.61" อันปรากฏข้อความว่า "การเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวนี้ ถูกระงับชั่วคราว โดยอาศัยอำนาจตามพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ตามคำสั่งของศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน" แม้อันที่จริง ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินจะสิ้นสุดลงเมื่อราวหนึ่งสัปดาห์ก่อนแล้วก็ตาม[22] เหตุการณ์นี้ยิ่งทำให้ชาวไซเบอร์ส่วนหนึ่งกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่กล้าดำเนินคดีกับคนผิด หากแต่ช่วยปกป้องเพราะเห็นแก่ราชสกุล บ้างก็กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่รัฐถูกอิทธิพลครอบงำ[27]

อย่างไรก็ดี มีสมาชิกอีกกลุ่มในสังคมออนไลน์เชิญชวนให้เพื่อนสมาชิกหมั่นใช้วิจารณญาณ และระงับสติอารมณ์ บางคนแสดงความคิดเห็นว่า "เรื่องนี้สะท้อนให้เห็นว่า คนไทยจำนวนหนึ่ง จะมากน้อยไม่รู้ มีความเก็บกดทางความคิดและอารมณ์ โดยเฉพาะในประเด็นความไม่ทัดเทียมกันในสังคมที่มีให้เห็นอย่างดาษดื่น" และ "...คนส่วนใหญ่มีการศึกษาและเข้าถึงข่าวสาร แต่กลับใช้อารมณ์ตัดสินและแต่งเติม" เป็นต้น[22] [33]

เวลา 19:00 นาฬิกาของวันเดียวกัน ชาวเฟซบุ๊กจากโครงการ "มั่นใจว่าคนไทยเกินล้านคนไม่พอใจ แพรวา (อรชร) เทพหัสดิน ณ อยุธยา" ข้างต้น ราวห้าสิบคน นัดรวมตัวกันและเดินเท้าจากหน้าโรงพยาบาลวิภาวดี ไปยังทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 31 ใต้ทางยกระดับอุตราภิมุขจุดเกิดเหตุ แล้วจุดเทียนไว้อาลัยแก่ผู้ตาย ทั้งกล่าวด้วยว่าจะจัดกิจกรรมเช่นนี้ต่อไปจนกว่าอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยาจะได้รับการลงโทษตามกฎหมาย มีรายงานข่าวว่า ประชาชนที่ผ่านไปมาหยุดดูด้วยความสนใจ[37]

วันที่ 30 ธันวาคม 2553 พลตำรวจตรีประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เตือนชาวไซเบอร์ให้ระมัดระมัดในการวิพากษ์วิจารณ์เหตุการณ์ เพราะอาจเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณาได้ เนื่องจากขณะนั้น อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ยังไม่มีสถานะเป็นผู้ถูกกล่าวหาในคดีอาญา[18]

การตอบสนองจากรัฐ

ประกาศมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ออกควบคุมการให้บริการรถตู้ทันทีหลังเหตุการณ์ครั้งนี้

วันที่ 28 ธันวาคม 2553 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ออก "ประกาศมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่อง ข้อกำหนดในการให้บริการรถตู้โดยสารที่มีสถานีรับส่งผู้โดยในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ลงวันที่ 28 ธันวาคม 2553" สาระสำคัญเป็นข้อกำหนดให้ผู้ให้บริการรถตู้ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ต้องจัดให้ผู้โดยสารทุกคนคาดเข็มขัดนิรภัย ถ้ามีผู้โดยสารไม่คาด ห้ามออกรถเป็นอันขาด กับทั้งกำหนดความเร็วรถและเส้นทางของรถ ห้ามพนักงานที่เมา เมาค้าง อ่อนเพลีย หรือไม่พร้อมทำหน้าที่ เช่น เพิ่งหายป่วย หรืออดนอน ขับรถโดยเด็ดขาด ตลอดจนกำหนดให้ติดเลขหมายโทรศัพท์ของรองอธิการบดีฝ่ายบริหารทั่วไปไว้ในรถทุกคัน เพื่อให้ผู้ใช้บริการร้องเรียนได้โดยพลัน ประกาศนี้ให้ใช้บังคับทันที[27]

วันที่ 29 ธันวาคม 2553 สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ก็ออก "แถลงการณ์สภานักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ฉบับที่ 1) กรณีอุบัติเหตุบนดอนเมืองโทลล์เวย์เมื่อ 27 ธันวาคม 2553 ลงวันที่ 29 ธันวาคม 2553" เนื้อใหญ่ใจความ เป็นการแสดงความเสียใจต่อผู้ประสบเหตุ, เรียกร้องให้อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา แสดงความรับผิดชอบ ตลอดจน เรียกร้องให้เจ้าพนักงานตำรวจมีความกล้าหาญ ไม่เกรงกลัวอิทธิพล และเป็นกลาง

บ่ายวันนั้น อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าเกี่ยวกับประเด็นที่สัมคมออนไลน์วิพากษ์วิจารณ์ถึงการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าพนักงานตำรวจในคดีนี้ว่า "...ไม่มีใครอยู่เหนือกฎหมาย ไม่มีใครสิทธิพิเศษ ก็ต้องมีการติดตามคดีอย่างเต็มที่ ส่วนการบังคับใช้กฎหมาย เพราะคนขับที่เป็นต้นเหตุอายุแค่ 16 ปีนั้น...นี่แหละคือสิ่งที่เราพยายามอย่างมากขณะนี้ คือ หนึ่ง การเคารพกฎหมาย สอง ความไม่ประมาท อันนี้เป็นจุดอ่อนมาโดยตลอด และ สาม เราจะต้องเข้มงวดกวดขันมากขึ้น"[37] และกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร มีหนังสือเรียกเจ้าพนักงานตำรวจที่เกี่ยวข้องให้เข้าชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นเดียวกัน ในวันที่ 5 มกราคม 2554[38]

วันที่ 30 ธันวาคม 2553 องค์การนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้จัดตั้ง "กลุ่มเฝ้าระวังอุบัติเหตุของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์" เพื่อจับตาความปลอดภัยของชาวมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[32] ในโอกาสเดียวกัน สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงว่า[39]

"...ที่มีหลายฝ่ายเกรงว่าผู้กระทำผิดจะรอดจากคดีนี้ เนื่องจากเป็นผู้เยาว์ และนามสกุลดังนั้น เรื่องนี้ไม่ต้องเป็นห่วง เพราะทางมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ตั้งทีมนักกฎหมายที่ดีที่สุดของมหาวิทยาลัยไปดูแล ประกอบด้วย นายณรงค์ ใจหาญ ผู้อำนวยการศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, นายปกป้อง ศรีสนิท ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา รวมทั้งทนายความจากศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สามคน และนิติกรจากสำนักนิติการ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ อีกสองคน ไปช่วยดูแลคดี โดยที่ญาติ ๆ ของผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บไม่ต้องจ้างทนายความเองทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา..."

พลตำรวจเอกวิเชียร พจน์โพศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ได้สำทับพันตำรวจโทฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง เจ้าของคดี ให้ตรงไปตรงมา และขอให้สังคมมั่นใจว่าคดีจะไม่เงียบหาย อนึ่ง พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังสั่งให้พันตำรวจโทชัยวิณ เสมาทอง ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ, พันตำรวจโทวันนพ สมจินตนากุล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 5 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และพันตำรวจโทพงศพร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสืบสวนและสะกดรอย กรมสอบสวนคดีพิเศษ เข้าติดตามการทำงานของพันตำรวจโทฉัตรชัย เอี่ยมอ่อง อย่างใกล้ชิดด้วย[39]

ในช่วงเดียวกัน กรมการขนส่งทางบก กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า มีดำริจะออกกฎกระทรวงบังคับให้ผู้โดยสารรถตู้และรถประจำทางสาธารณะทั่วประเทศต้องคาดเข็มนิรภัยทุกคน ขณะที่ ปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ขอให้กระทรวงคมนาคมทบทวนให้ดี เกรงว่าในกรณีที่เพลิงไหม้ ผู้โดยสารอาจตายคารถ เพราะปลดเข็มขัดไม่ทัน[37] เขาเห็นว่า ควรที่จะส่งเสริมให้ประชาชนใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย มากกว่าคอยออกกฎระเบียบ[8]

การตอบสนองจากครอบครัวเทพหัสดิน ณ อยุธยา

ไฟล์:Accident on Bangkok Tollway 2010-12-28 015.jpg
อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ยืนใช้แบล็กเบอร์รีอยู่หน้ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลของตน หลังเกิดเหตุ

นับแต่เกิดเหตุเป็นต้นมา อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา และครอบครัวยังคงเก็บตัวเงียบ ในขณะที่ฝ่ายผู้เสียหายในอุบัติครั้งนี้ต่างเรียกร้องให้อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา แสดงความรับผิดชอบบ้าง อาทิ สะโอด ซิมกระโทก บิดาของจันจิรา ซิมกระโทก ผู้ตาย ว่า "...อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำคดีอย่างตรงไปตรงมา...และอยากให้คู่กรณีออกมาแสดงความรับผิดชอบบ้าง ให้มีน้ำใจต่อกันบ้าง สำหรับตอนนี้ ยังไม่มีใครออกมารับผิดชอบหรือให้ความช่วยเหลืออะไรเลย" ขณะที่ปิยะวรรณ ซิมกระโทก มารดาของจันจิรา ซิมกระโทก ว่า "...ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่เรียกร้องเรื่องเงิน แต่ให้คนที่เกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบบ้าง แค่แสดงความเสียใจก็ยังดี แต่ถึงตอนนี้ยังไม่มีใครทำอะไรเลย"[40]

กระทั่งวันที่ 30 ธันวาคม 2553 ลัดดาวัลย์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา มารดาของอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา แถลงว่า ที่ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบตั้งแต่แรกเริ่มนั้น เพราะต้องการให้กระแสของอารมณ์ในสังคมคลี่คลายลงเสียก่อน และยืนยันว่าจะไม่หนีไปไหน เธอยังกล่าวด้วยว่า "...ลูกสาวยอมรับว่าขับรถเร็ว เพราะจะรีบเอารถไปคืนเพื่อน รถไม่ใช่ของเรา ดิฉันไม่เคยอนุญาตให้ลูกขับรถไปข้างนอกแบบนั้น...ลูกสาวผิดแน่ที่อายุสิบเจ็ดไม่มีบัตร [ใบอนุญาตขับขี่รถยนต์] แพรวารีบกดบีบี [แบล็กเบอร์รี] บอกเพื่อนว่ารถชน และถามเรื่องประกันของรถคันนี้ ไม่ใช่มัวเล่นบีบีตามที่บางท่านเข้าใจ...ถ้าน้องผิดจริง เราก็ยินดีให้น้องเข้ากระบวนการทุกอย่าง"[39]

พันเอกรัฐชัย เทพหัสดิน ณ อยุธยา บิดาของอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา กล่าวเสริมว่า "...กระแสในโซเชียลเน็ตเวิร์คที่กล่าวว่าลูกสาวเส้นใหญ่ หรือมีการปิดสื่อ ไม่โกรธที่จะมีใครคิดอย่างนั้น เพราะว่าใครเห็นนามสกุลของตระกูล ก็สามารถคิดได้ทั้งนั้น แต่ไม่เคยมีพฤติกรรมเอาเปรียบประชาชน เพราะตั้งแต่เข้ารับราชการกระทั่งลาออก ทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี ไม่เคยเล่นเส้นสายหรือทุจริตแต่อย่างใด..."[41]

ค่ำวันเดียวกัน ครอบครัวเทพหัสดินมีหนังสือแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอวยพรปีใหม่ตบท้าย[42] ครั้นวันถัดมา อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ให้สัมภาษณ์ว่า จำไม่ได้ว่าวันเกิดเหตุขับรถด้วยความเร็วเท่าไร และที่ใช้แบล็กเบอร์รี ก็เพื่อแจ้งพวกพ้องให้ทราบถึงเหตุการณ์และเรียกประกัน หาได้สนทนากับเพื่อน หรือเพิ่มเติมเนื้อหาในหน้าเฟซบุ๊กหรือทวิตเตอร์ของตน แต่ประการใดไม่ และทิ้งท้ายว่่า หลังเหตุการณ์จะไปบวชชี[3]

การดำเนินคดี

วันที่ 30 ธันวาคม 2553 พลตำรวจโทอำนวย นิ่มมะโน รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ว่า เจ้าพนักงานตำรวจได้หมายเรียกอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ให้มาที่สถานีตำรวจนครบาลวิภาวดีในวันที่ 5 มกราคม 2554 เวลา 12.00 น. เพื่อถามปากคำ หากไม่มาตามหมาย ก็จะขอให้ศาลหมายจับต่อไป และที่มีข่าวว่า อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยาเตรียมหลบหนีออกนอกประเทศนั้น ทางตำรวจได้ประสานกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจำทุกจุดผ่านแดนให้เตรียมสะกัดไว้แล้ว[6] เขายังสำทับด้วยว่า เตรียมตั้งข้อกล่าวหาอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ว่ากระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ชีวิตและบาดเจ็บ และขับขี่รถยนต์ โดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่[18]

การเยียวยาความเสียหาย

ไฟล์:Accident on Bangkok Tollway 2010-12-28 031.jpg
พวงหรีดของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในงานสวดศพสุดาวดี นิลวรรณ

วันที่ 29 ธันวาคม 2553 ปิยะพันธ์ จัมปาสุต ประธานคณะกรรมการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ว่า "...ได้ตรวจสอบแล้วว่ารถตู้คันดังกล่าวเป็นรถตู้ของบริษัท สยามออโต้เซอร์วิส จัดทำประกันภัยไว้กับบริษัทนำสินประกันภัย ประเภท 1 ระยะเวลาประกันภัยตั้งแต่ 31 ธันวาคม 2552 ถึง 31 ธันวาคม 2553 โดยผู้เสียชีวิตจะได้รับค่าชดเชยจากบริษัทประกันภัยรายละสองแสนบาท และผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจะได้รับค่ารักษาพยาบาลก่อนไม่เกินหนึ่งแสนบาท..." วันถัดมา จันทรา บูรณฤกษ์ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย แถลงว่า เงินดังกล่าวเป็นเพียงเบื้องต้น และบริษัทประกันภัยได้เริ่มจ่ายให้แก่ทายาทผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บแล้ว[39]

ในโอกาสเดียวกัน บริษัทนำสินประกันภัย ว่า เงินทั้งนี้ บริษัทประกันจ่ายให้แก่ผู้ประสบเหตุ โดยไม่คำนึงว่าฝ่ายใดถูกฝ่ายใดผิด แม้เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วจะปรากฏว่าฝ่ายรถตู้ผิด ก็จะรับผิดชอบชดใช้ค่าสินไหมทดแทนเพิ่มเติมอีกไม่เกินจำนวนหนึ่งล้านบาทให้แก่ผู้ตายแต่ละคน และไม่เกินหนึ่งแสนห้าหมื่นบาทให้แก่ผู้บาดเจ็บ แต่ถ้าฝ่ายรถตู้ถูก บริษัทจะเรียกค่าสินไหมทดแทนจากอรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา ให้[43]

นอกจากนี้ สมคิด เลิศไพฑูรย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แถลงว่า มหาวิทยาลัยจะจ่ายเงินช่วนเหลือแก่อาจารย์ที่ตายเป็นเงินหนึ่งแสนหกหมื่นบาทจากการประกันอุบัติเหตุกลุ่ม และอีกสามแสนบาทจากการเป็นสมาชิกสหกรณ์ธรรมศาสตร์ รวมเป็นเงินสี่แสนหกหมื่นบาทต่อคน ส่วนนักศึกษาที่ตาย จะได้รับเงินหนึ่งแสนหกหมื่นบาทจากการประกันอุบัติเหตุ และอีกราวสองหมื่นถึงสามหมื่นบาทจากกองทุนของมหาวิทยาลัย รวมเป็นเงินราวหนึ่งแสนแปดหมื่นถึงหนึ่งแสนเก้าหมื่นบาทต่อคน[44] เย็นวันเดียวกันนั้น ปริญญา เทวานฤมิตร รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้มอบเงินช่วยเหลือของมหาวิทยาลัยให้แก่ครอบครัวของจันจิรา ซิมกระโทก ผู้ตาย จำนวนแปดหมื่นบาท เป็นค่ารักษาพยาบาลและค่าปลงศพ และจะให้เงินสามแสนหนึ่งหมื่นบาทอีกภายหลัง[6]

เชิงอรรถ

  1. 1.00 1.01 1.02 1.03 1.04 1.05 1.06 1.07 1.08 1.09 1.10 1.11 1.12 1.13 1.14 1.15 1.16 1.17 เดลินิวส์; 2553, 28 ธันวาคม : ออนไลน์.
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 มติชนออนไลน์; 2553, 30 ธันวาคม (""ญาติ-เพื่อน" ร่วมรับศพ "น.ศ.ธรรมศาสตร์" เหยื่อเก๋งซิ่งรายล่าสุด มธ.มอบเงิน-จัดทีม กม.ช่วยเหลือด้านคดี") : ออนไลน์.
  3. 3.0 3.1 3.2 ผู้จัดการออนไลน์; 2553, 31 ธันวาคม : ออนไลน์.
  4. Tha Nation; 2010, 28 December : Online.
  5. Bangkok Post; 2010, 28 December ("Eight killed in latest van horror") : Online.
  6. 6.0 6.1 6.2 6.3 6.4 6.5 ไทยรัฐ; 2553, 30 ธันวาคม ("ออกหมายเรียก สาวซิ่งซีวิค เหยื่อตายเพิ่ม 1") : ออนไลน์.
  7. มติชนออนไลน์; 2553, 29 ธันวาคม ("โซเชียลเน็ตเวิร์กโพสท์วิจารณ์"น.ส.เอ" กระหน่ำทะลุแสน") : ออนไลน์.
  8. 8.0 8.1 บ้านเมือง; 2553, 30 ธันวาคม : ออนไลน์.
  9. 9.0 9.1 ข่าวสด; 2553, 28 ธันวาคม : ออนไลน์.
  10. โพสต์ทูเดย์; 2553, 28 ธันวาคม : ออนไลน์.
  11. 11.0 11.1 11.2 11.3 ไทยรัฐ; 2553, 28 ธันวาคม ("เก๋งแข่งนรกเสยท้ายรถตู้ 8 ศพ เละร่วงจากโทลล์เวย์") : ออนไลน์.
  12. 12.0 12.1 12.2 12.3 12.4 12.5 12.6 12.7 12.8 ทรูไลฟ์นิวส์รีพอร์ต; 2553, 28 ธันวาคม : ออนไลน์.
  13. 13.00 13.01 13.02 13.03 13.04 13.05 13.06 13.07 13.08 13.09 13.10 ผู้จัดการออนไลน์; 2553, 28 ธันวาคม ("ภาพฟ้องเก๋งซิ่งสะบัดชนรถตู้ก่อนคร่า 8 ศพ!") : ออนไลน์.
  14. มติชนออนไลน์; 2553, 27 ธันวาคม : ออนไลน์.
  15. 15.0 15.1 15.2 15.3 15.4 สำนักข่าวไทย; 2553, 28 ธันวาคม : ออนไลน์.
  16. 16.0 16.1 16.2 16.3 16.4 16.5 Tha Nation; 2010, 30 December ("What went wrong?") : Online.
  17. 17.0 17.1 17.2 17.3 ไทยรัฐ; 2553, 28 ธันวาคม ("ตกโทลล์เวย์ ดับ 8 ศพ เก๋งซิ่งชนรถตู้") : ออนไลน์.
  18. 18.0 18.1 18.2 18.3 18.4 18.5 18.6 18.7 18.8 Tha Nation; 2010, 30 December ("Sedan driver to face several charges") : Online.
  19. ชื่อสกุล "ชารีฟ" บางสำนักข่าวฟังผิดแล้วรายงานเป็น "ชาวมัลดีฟ" และที่ว่า "ชาคริต" ก็มี เช่น ทรูไลฟ์นิวส์รีพอร์ต; 2553, 28 ธันวาคม : ออนไลน์.
  20. 20.0 20.1 ผู้จัดการออนไลน์; 2553, 28 ธันวาคม ("ซีวิคซิ่งชนรถตู้บนด่วน “โทลล์เวย์” ผู้โดยสารร่วงลงมาตาย 8 ศพ เจ็บอีก 7") : ออนไลน์.
  21. 21.0 21.1 The Nation; 2010, 29 December ("Driver of sedan was a 16yearold girl!") : Online.
  22. 22.0 22.1 22.2 22.3 22.4 ผู้จัดการออนไลน์; 2553, 29 ธันวาคม : ออนไลน์.
  23. ผู้จัดการออนไลน์; 2553, 28 ธันวาคม ("“ณัฏฐ์” รับช็อก น้องสาวต่างแม่ต้นเหตุซิ่งเก๋งชนรถตู้ตาย 8 ศพ") : ออนไลน์.
  24. เดลินิวส์; 2553, 30 ธันวาคม ("ฟันเด็กตีนผีชนรถตู้ 8 ศพ ") : ออนไลน์.
  25. เนชั่นชาแนล; 2553, 28 ธันวาคม : ออนไลน์.
  26. Bangkok Post; 2010, 28 December ("Relatives of van victims urged to sue") : Online.
  27. 27.0 27.1 27.2 โกซิกซ์; 2553, 29 ธันวาคม : ออนไลน์.
  28. พันทิพ; 2553, 28 ธันวาคม ("ขอประนามการกระทำคุณแพรวา และครอบครัว") : ออนไลน์.
  29. พันทิพ; 2553, 28 ธันวาคม (ตกลงใครเป็นคนขับชนกันแน่...รถตู้โดนซีวิคชนท้าย คนตกทางด่วน ตายเกลื่อน) : ออนไลน์.
  30. พันทิพ; 2553, 28 ธันวาคม ("ภาพหลังเหตุการณ์บนโทลเวย์") : ออนไลน์.
  31. เฟซบุ๊ก; 2553, 29 ธันวาคม ("Chawalit รักไม่ลงคนหลอกลวง") : ออนไลน์.
  32. 32.0 32.1 ไทยรัฐ; 2553, 30 ธันวาคม ("โพสต์เน็ตอัดยับ สาว 16 ชนดับ 9 ศพ") : ออนไลน์.
  33. 33.0 33.1 33.2 มติชนออนไลน์; 2553, 29 ธันวาคม ("จากอุบัติเหตุสะเทือนใจบน "ดอนเมือง โทลล์เวย์" ถึงหลากหลายปฏิกิริยาสนองกลับใน "เฟซบุ๊ก"") : ออนไลน์.
  34. ดรามา-แอดดิกต์; 2553, 28 ธันวาคม : ออนไลน์.
  35. CNN; 2010, 29 December : Online.
  36. ระบบฐานข้อมูลเครือญาติ ราชสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา, ม.ป.ป. : ออนไลน์.
  37. 37.0 37.1 37.2 ไทยรัฐ; 2553, 29 ธันวาคม ("กลุ่มในเฟซบุ๊กจุดเทียนรำลึกผู้เคราะห์ร้าย ประกันจ่ายรายละ 2 แสน") : ออนไลน์. อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ <ref> ไม่สมเหตุสมผล มีนิยามชื่อ "Thairath-003" หลายครั้งด้วยเนื้อหาต่างกัน
  38. มติชนออนไลน์; 2553, 29 ธันวาคม ("กมธ.ตำรวจสภา เรียก พนง.สอบสวนคดีซีวิคชนรถตู้แจง 5 ม.ค.") : ออนไลน์.
  39. 39.0 39.1 39.2 39.3 เดลินิวส์; 2553, 30 ธันวาคม ("นศ.ธรรมศาสตร์เหยื่อซีวิคสิ้นใจ") : ออนไลน์.
  40. ผู้จัดการออนไลน์; 2553, 30 ธันวาคม : ออนไลน์.
  41. มติชนออนไลน์; 2553, 30 ธันวาคม ("เปิดใจ"พ.อ.รัฐชัย"พ่อมือขับซีวิค ยันลูกโทร.หาตัว ไม่ได้เล่นบีบี วอนสังคมให้ความเป็นธรรม") : ออนไลน์.
  42. ไทยรัฐ; 2553, 30 ธันวาคม ("สกุล 'เทพหัสดิน' แพร่จดหมายเสียใจ") : ออนไลน์.
  43. ไทยรัฐ; 2553, 30 ธันวาคม ("8 ศพโทลล์เวย์ สาว 16 หนีภัย") : ออนไลน์.
  44. ไทยรัฐ; 2553, 31 ธันวาคม : ออนไลน์.

อ้างอิง

ภาษาไทย

  • โกซิกซ์. (2553, 29 ธันวาคม). สื่อกระหน่ำ "อรชร เทพหัสดิน ณ อยุธยา" เล่น บีบี จริงหรือ?!. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
  • ข่าวสด. (2553, 28 ธันวาคม).สยองบนโทลล์เวย์ ผู้โดยสารร่วงตกรถตู้ ดับ 8 ศพ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
  • เฟซบุ๊ก.
    • (2553, 29 ธันวาคม). Chawalit รักไม่ลงคนหลอกลวง. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
  • เดลินิวส์.
    • (2553, 28 ธันวาคม). รถตู้ฟาดกำแพงโทลล์เวย์ คนตกลงมาตาย 8 ศพ . [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 29 ธันวาคม). เปิดคลิปชนสยองบนทางด่วนตายเกลื่อน!. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 30 ธันวาคม). นศ.ธรรมศาสตร์เหยื่อซีวิคสิ้นใจ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 30 ธันวาคม). ฟันเด็กตีนผีชนรถตู้ 8 ศพ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
  • ทรูไลฟ์นิวส์รีพอร์ต. (2553, 28 ธันวาคม). สยอง! รถเก๋งชนรถตู้ บนทางด่วนโทลล์เวย์ ผู้โดยสารกระเด็นตกลงมาตาย 8 ศพ สาหัส 7 (มีคลิป). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
  • ไทยรัฐ.
    • (2553, 28 ธันวาคม). เก๋งแข่งนรกเสยท้ายรถตู้ 8 ศพ เละร่วงจากโทลล์เวย์. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 28 ธันวาคม). ตกโทลล์เวย์ ดับ 8 ศพ เก๋งซิ่งชนรถตู้. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 29 ธันวาคม). 'เร็วก็ตาย ไม่เร็วตายอยู่ดี' สุดอาลัย ..จากใจโชเฟอร์รถตู้. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 29 ธันวาคม). 'ชนบนโทลล์เวย์ มาร์คยัน ดำเนินคดีเต็มที่. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 29 ธันวาคม). 'กลุ่มในเฟซบุ๊กจุดเทียนรำลึกผู้เคราะห์ร้าย ประกันจ่ายรายละ 2 แสน. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 30 ธันวาคม). 'โพสต์เน็ตอัดยับ สาว 16 ชนดับ 9 ศพ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 30 ธันวาคม). 'ออกหมายเรียกสาวซิ่งซีวิค เหยื่อตายเพิ่ม 1. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 30 ธันวาคม). '8 ศพโทลล์เวย์ สาว 16 หนีภัย. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 31 ธันวาคม). 'แจ้งข้อหา 5 ม.ค. สาว 16 ตีนผี ไม่มาออกหมาย. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
  • เนชั่นชาแนล. (2553, 28 ธันวาคม). สภาทนายชี้ช่องฟ้องอาญา-แพ่งอุบัติเหตุโทลล์เวย์. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
  • บ้านเมือง. (2553, 30 ธันวาคม). เร่งเยียวยาเหยื่อรถตู้มรณะ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
  • พันทิพ.
    • (2553, 28 ธันวาคม). ขอประนามการกระทำคุณแพรวา และครอบครัว. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 28 ธันวาคม). ตกลงใครเป็นคนขับชนกันแน่...รถตู้โดนซีวิคชนท้าย คนตกทางด่วน ตายเกลื่อน. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 28 ธันวาคม). ภาพหลังเหตุการณ์บนโทลเวย์. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 28 ธันวาคม). มาดูหลังภาพรถเก๋งและคนขับหลังจากเกิดเหตุการณ์ . [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
  • โพสต์ทูเดย์. (2553, 28 ธันวาคม). เก๋งชนรถตู้คนกระเด็นตกทางด่วนดับ 8 . [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
  • ผู้จัดการออนไลน์.
    • (2553, 28 ธันวาคม). ซีวิคซิ่งชนรถตู้บนด่วน “โทลล์เวย์” ผู้โดยสารร่วงลงมาตาย 8 ศพ เจ็บอีก 7. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 28 ธันวาคม). ภาพฟ้องเก๋งซิ่งสะบัดชนรถตู้ก่อนคร่า 8 ศพ! [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 28 ธันวาคม). “ณัฏฐ์” รับช็อก น้องสาวต่างแม่ต้นเหตุซิ่งเก๋งชนรถตู้ตาย 8 ศพ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 29 ธันวาคม). “ฟอร์เวิร์ดว่อนไซเบอร์ประณาม “แพรวา” ทวงความยุติธรรมให้เหยื่อ ด้าน "ณัฏฐ์" ช็อกเตรียมย้ายรพ.น้องสาว. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 30 ธันวาคม). “แค่น้ำใจ-เสียใจ” พ่อ-เพื่อน “น้องฝ้าย” เหยื่อตีนผีทีนเอจขอ!. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 31 ธันวาคม). “วัยรุ่นซีวิค” เปิดปากรับผิดประมาทจนก่ออุบัติเหตุ ปฏิเสธเล่นบีบี-โพสต์ FB ระบุอายุ 17 ปี [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
  • มติชนออนไลน์.
    • (2553, 28 ธันวาคม). จนท.เร่งลงมือเช็ดคราบเลือดผู้เสียชีวิตจากเหตุรถเก๋งชนรถตู้บนโทลล์เวย์ ด้านหน้า ม.เกษตร. (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 29 ธันวาคม). จากอุบัติเหตุสะเทือนใจบน "ดอนเมือง โทลล์เวย์" ถึงหลากหลายปฏิกิริยาสนองกลับใน "เฟซบุ๊ก". (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 29 ธันวาคม). กมธ.ตำรวจสภา เรียก พนง.สอบสวนคดีซีวิคชนรถตู้แจง 5 ม.ค.. (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 30 ธันวาคม). เปิดใจ"พ.อ.รัฐชัย"พ่อมือขับซีวิค ยันลูกโทร.หาตัว ไม่ได้เล่นบีบี วอนสังคมให้ความเป็นธรรม. (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 30 ธันวาคม). โซเชียลเน็ตเวิร์กโพสท์วิจารณ์"น.ส.เอ" กระหน่ำทะลุแสน. (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 30 ธันวาคม). แม่สาวซิ่งซีวิคยันให้ดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมา. (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
    • (2553, 30 ธันวาคม). "ญาติ-เพื่อน" ร่วมรับศพ "น.ศ.ธรรมศาสตร์" เหยื่อเก๋งซิ่งรายล่าสุด มธ.มอบเงิน-จัดทีม กม.ช่วยเหลือด้านคดี. (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
  • ระบบฐานข้อมูลเครือญาติ ราชสกุลเทพหัสดิน ณ อยุธยา. (ม.ป.ป.). [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).
  • สำนักข่าวไทย. (2553, 28 ธันวาคม). อาการผู้บาดเจ็บรถตู้ตกทางด่วนสาหัส 1 คน อีก 6 คน พ้นขีดอันตราย. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก: <ลิงก์>. (เข้าถึงเมื่อ: 31 ธันวาคม 2553).

ภาษาต่างประเทศ

  • Bangkok Post.
    • (2010, 28 December). Eight killed in latest van horror. [Online]. Available: <link>. (Accessed: 31 December 2010).
    • (2010, 28 December). Relatives of van victims urged to sue. [Online]. Available: <link>. (Accessed: 31 December 2010).
    • (2010, 29 December). Slam brakes on urban vans. [Online]. Available: <link>. (Accessed: 30 December 2010).
  • CNN. (2010, 29 December). Bangkok Auto Accident Has Facebook Fanpage with 180,000 'like' in 24 hours. [Online]. Available: <link>. (Accessed: 30 December 2010).
  • The Nation.
    • (2010, 28 December). Eight killed in grisly tollway accident. [Online]. Available: <link>. (Accessed: 31 December 2010).
    • (2010, 29 December). Driver of sedan was a 16yearold girl. [Online]. Available: <link>. (Accessed: 31 December 2010).
    • (2010, 29 December). Tragedy shatters families. [Online]. Available: <link>. (Accessed: 31 December 2010).
    • (2010, 30 December). What went wrong?. [Online]. Available: <link>. (Accessed: 31 December 2010).
    • (2010, 30 December). Sedan driver to face several charges. [Online]. Available: <link>. (Accessed: 31 December 2010).

ดูเพิ่ม

วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ เหตุการณ์รถตู้สาธารณะถูกชนบนทางยกระดับอุตราภิมุข พ.ศ. 2553