ผลต่างระหว่างรุ่นของ "มวยไท่เก๊กตระกูลอู่"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Amx002 (คุย | ส่วนร่วม)
Amx002 (คุย | ส่วนร่วม)
บรรทัด 49: บรรทัด 49:


== มวยไท่เก็กตระกูลอู่ในประเทศไทย ==
== มวยไท่เก็กตระกูลอู่ในประเทศไทย ==
เนื่องจากในอดีตอาจาย์ผู้สอนมวยไท่เก๊กตระกูลอู่ได้รับศิษย์ค่อนข้างน้อย วิทยายุทธ์ชนิดนี้จึงเผยแพร่ในวงจำกัด สำหรับในประเทศไทยมีการเชิญอาจารย์ หลี่ เว่ย หมิง จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาฝึกสอนที่สวนลุมพินี
เนื่องจากในอดีตอาจาย์ผู้สอนมวยไท่เก๊กตระกูลอู่ได้รับศิษย์ค่อนข้างน้อย วิทยายุทธ์ชนิดนี้จึงเผยแพร่ในวงจำกัด สำหรับในประเทศไทยมีการเชิญอาจารย์ [[หลี่ เว่ย หมิง]] จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาฝึกสอนที่สวนลุมพินี


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:41, 25 ธันวาคม 2553

มวยไท่เก๊กตระกูลอู่ หรือ มวยไท่เก๊กตระกูลเฮ่อ (武式太极拳 หรือ Wǔ shì tàijí quán) เป็นมวยไท่เก๊กสายตระกูลหนึ่งซึ่งสถาปนาขึ้นโดย ปรมาจารย์อู่อวี่เซียง (ค.ศ. 1870-1942) โดยนำความรู้จาก วิชามวยไทเก๊กดั้งเดิม, วิชาเต้าอิ่น (วิชาที่ฝึกให้ชี่หมุนเวียนไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย), ศิลปศาสตร์, แพทย์ศาสตร์, พลศาสตร์, กายภาพวิทยา, และปรัชญา มาประยุกต์รวมกัน

มวยไท้เก็ก สกุลอู่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า มวยไท้เก็กสกุลอู่เฮ่อ ซึ่งเป็นหนึ่งในมวยไท้เก็กห้าสกุลใหญ่ (เฉิน หยาง อู่ อู๋ ซุน) มวยไทเก็กสกุลอู่มีการเคลื่อนไหวที่ เรียบง่าย ท่วงท่ารัดกุม ทุกส่วนเคลื่อนไหวต่อเนื่องไม่ขาดตอน เข้มงวดกับหลักของร่างกาย ที่ต้องประณีตและละเอียดอ่อน ร่างกายตั้งตรง ท่าเท้าเบาคล่อง การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างเนิบช้า รวมทั้งให้ความสำคัญกับกำลังภายใน ใช้การเคลื่อนไหวภายใน โดยการเปลี่ยนเต็มและว่างรวมทั้งการ “โคจรชี่ภายในอย่างซ่อนเร้น” มาประกอบกับท่วงท่าภายนอก

ขั้นตอนการฝึกมวยไทเก็กตระกูลอู่

  • การฝึกมวยนี้ จำเป็นต้องฝึกตามขั้นตอน โดยจะเริ่มจาก การจดจำท่ารำ 96 ท่าให้ได้ก่อน แล้วจึงฝึกท่าร่าง 13 ประการของมวยไท่เก็กตระกูลอู่ โดยจะต้องปฎิบัติท่าร่างทั้ง 13 ให้ได้ตลอดเวลา ขณะที่รำ 96 ท่า เมื่อผ่านพ้นจากขั้นนี้ไปจึงจะเริ่มฝึกสะสมกำลังภายในได้
  • ส่วนการยืน การก้าวเท้านั้นจะต้องปฎิบัติตามแบบแผนเดิม หากก้าวเท้าแบบประยุกต์ หรือตามสบายแล้ว จะผิดหลักท่าร่าง 13 ประการ

ผลต่อสุขภาพ

การฝึกมวยไท่เก๊ก ก็คือการออกกำลังกายรูปแบบนึง ซึ่งทำให้เกิดผลดีกับสุขภาพในหลายๆ ด้านเช่น

  • ระบบประสาทส่วนกลางให้สมบูรณ์
  • หัวใจ
  • ระบบสูบฉีดโลหิต
  • ระบบทางเดินหายใจ และอาการภูมิแพ้
  • ช่วยให้ระบบย่อยอาหาร มีการดูดซึมที่ดี และมีการขับถ่ายของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ
  • ทั้งยังสามารถช่วยกล้ามเนื้อและกระดูกให้แข็งแรง
  • ช่วยให้ข้อต่อต่างๆเคลื่อนไหวได้คล่อง อีกทั้งยังสามารถปรับโครงกระดูกให้เข้าที่ได้

ลักษณะเฉพาะของมวยไท่เก๊กตระกูลอู่

ผู้ฝึกจำเป็นจะต้องพินิจพิเคราะห์โดยสม่ำเสมอ ตลอดเวลาการฝึกฝน ให้ถูกต้องในทุกๆ กระบวนท่ามวยจนสามารถปฎิบัติได้อย่างเป็นธรรมชาติ การฝึกฝนควรเริ่มฝึกไปทีละท่าร่าง เมื่อทำได้จนหมดแล้ว จึงพยายามฝึกทำทั้ง 13 ท่าร่างให้ได้พร้อมกันขณะที่ฝึกฝนกระบวนท่ามวย

1. 涵 胸 หันเซวียง; hán xiōng

2. 拔 背 ป๋าเป้ย; bá bèi

3. 提 頂 ถีติ่ง; tí dĭng

4. 沉 肘 เฉินโจ่ว; chén zhŏu

5. 松 肩 ซงเจียน; sōng jiān

6. 吊 襠 เตี้ยวตั้ง; diào dăng

7. 裹 襠 กั่วตั้ง; guŏ dăng

8. 護 肫 ฮู่เจิน; hù zhūn

9. 尾 闾 正中 เหวยหลู่เจิ้นจง; wĕi lǘ zhèng zhōng

10. 氣 沉 丹 田ชี่เฉินตันเถียน; qì chén dān tián

11. 腾挪 เถิงหนัว; téng nuó

12. 闪 战 สั่นจั้น; shăn zhàn

13. 虚 实 分 清 ซีเสอเฟินชิง; xū shí fēn qīng

มวยไท่เก็กตระกูลอู่ในประเทศไทย

เนื่องจากในอดีตอาจาย์ผู้สอนมวยไท่เก๊กตระกูลอู่ได้รับศิษย์ค่อนข้างน้อย วิทยายุทธ์ชนิดนี้จึงเผยแพร่ในวงจำกัด สำหรับในประเทศไทยมีการเชิญอาจารย์ หลี่ เว่ย หมิง จากสาธารณรัฐประชาชนจีนมาฝึกสอนที่สวนลุมพินี

อ้างอิง

  • คณิต ครุฑหงษ์ (2527). มวยไทเก๊ก. สำนักพิมพ์สุขภาพใจ, กรุงเทพฯ.
  • หลี่ เว่ย หมิง (2552). 武式太极拳精粹研究全书, กรุงเทพฯ.

แหล่งข้อมูลอื่น