ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พอล ไวต์"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 79: บรรทัด 79:
*'''ฉายา'''
*'''ฉายา'''
**"The Big Show" Paul Wight
**"The Big Show" Paul Wight
**'''World's Largest Athlete'''
**'''World's Largest Athlete'''
**'''The Giant'''


*'''เพลงเปิดตัว'''
*'''เพลงเปิดตัว'''

รุ่นแก้ไขเมื่อ 13:52, 4 ธันวาคม 2553

พอล ไวต์
เกิด8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2515 (อายุ 38 ปี)
ไอเคน, เซาท์แคโรไลนา[1]
ที่พักแทมปา มลรัฐฟลอริดา
ประวัติมวยปล้ำอาชีพ
ชื่อบนสังเวียน(เดอะ) บิ๊กโชว์
พอล ไวต์[2]
เดอะ ไจแอนท์
พอล "เดอะ เกรท" ไวต์
โชว์กิชิ
ส่วนสูง7 ft 0 in (2.13 m)
น้ำหนัก441 lb (200 กก.)
ฝึกหัดโดยลาร์รี่ ชาร์พ
จิม ดักแกน
เกลน รูท[3]
เปิดตัวค.ศ. 1995

พอล แรนดาลล์ ไวต์, จูเนียร์. (อังกฤษ:Paul Randall Wight, Jr.) เกิดวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2515 ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างดีในนามแห่งวงการสังเวียนมวยปล้ำที่มีชื่อว่า บิ๊กโชว์ เป็นนักมวยปล้ำอาชีพ และ นักแสดง ชาวอเมริกัน ปัจจุบันได้เซ็นสัญญาปล้ำให้กับสมาคม เวิลด์เรสต์ลิงเอ็นเตอร์เทนเมนต์ หรือ WWE ในค่ายสังกัด SmackDown

ประวัติในวงการมวยปล้ำ

พอล ไวต์ หรือ บิ๊กโชว์ เป็นนักมวยปล้ำร่างยักษ์ ที่สามารถปราบนักมวยปล้ำตัวเก่งๆ มาแล้วหลายคน และยังเคยสามารถล้มปราบ นักมวยปล้ำร่างสูงยักษ์ อย่าง เดอะ เกรท คาลี มาได้ นอกจากนี้ บิ๊กโชว์ ยังเคยสามารถคว้า แชมป์โลก WWE 2 สมัย แชมป์ยูเอส 1 สมัย แชมป์โลก ECW 1 สมัย และ แชมป์ฮาร์ดคอร์ 3 สมัย และผลงานอื่นๆ อีกหลายรายการ

ปี 2004

ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20 บิ๊กโชว์ จะต้องป้องกัน แชมป์ยูเอส กับ จอห์น ซีนา แต่สุดท้าย บิ๊กโชว์ ก็เป็นฝ่ายแพ้ไป ให้กับ จอห์น ซีนา ด้วยท่า F-U หรือ Attitude Adjustment ในปัจจุบัน ทำให้ บิ๊กโชว์ เสีย แชมป์ยูเอส ให้กับ จอห์น ซีนา ไปในที่สุด

ปี 2005

ในศึก รอยัลรัมเบิล บิ๊กโชว์ จะต้องเจอกับ กับ JBL เจ้าของตำแหน่ง แชมป์ WWE และ เคิร์ต แองเกิล ผู้ท้าชิง ในแมตช์การปล้ำสามเสร้า เพื่อชิงแชมป์ WWE ซึ่ง JBL เป็นฝ่ายเอาชนะและป้องกัน แชมป์ WWE ไว้ได้

ต่อมา บิ๊กโชว์ ก็สามารถคว้า แชมป์โลกแทคทีม คู่กับ เคน โดยการเอาชนะ แลนด์ เคด และ เทรเวอร์ เมอร์ด็อค มาได้สำเร็จ แต่สุดท้าย ก็แพ้ไป ให้กับกลุ่ม Spirit Squad และทำให้ต้องเสีย แชมป์โลกแทคทีม ไปในที่สุด หลังจากนั้น เคน ก็ได้ทำการหักหลัง บิ๊กโชว์ ทำให้ทั้งคู่กลายเป็นคู่แค้นกันไปในที่สุด

ปี 2006

บิ๊กโชว์ สามารถคว้า แชมป์โลก ECW เป็นคนที่สองในยุคใหม่ มาครอบครอง โดยการเอาชนะ ร็อบ แวน แดม แชมป์เก่าคนแรกของ ECW ยุคใหม่ ต่อมา บิ๊กโชว์ ก็มีเรื่องกับ บ็อบบี้ แลชลีย์ โดยมี เทส เป็นคู่แทคทีม จนถึง ในศึก December To Dismember หรือ Extreme Elimination Chamber โดยแมตช์นี้มีอาวุธอยู่ในกรง และ อาวุธแต่ละอย่างมี ไม้เบสบอล พันลวดหนาม, เก้าอี้, ชะแลง และ โต๊ะ และ บิ๊กโชว์ จะต้องป้องกัน แชมป์โลก ECW กับผู้ท้าชิงทั้งหมด 5 คน คือ ร็อบ แวน แดม, ซีเอ็ม พังค์, เทส, ซาบู และ บ็อบบี้ แลชลีย์ แต่ ซาบู ถูกลอบทำร้าย จนต้องถูกหามส่ง โรงพยาบาล จึงต้องให้ ฮาร์ดคอร์ ฮอลลีย์ มาแทน ซาบู แต่สุดท้าย บิ๊กโชว์ ก็เสีย แชมป์โลก ECW ให้กับ บ็อบบี้ แลชลีย์ ไปในที่สุด

ปี 2008

ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 24 บิ๊กโชว์ ได้ท้ากับ นักมวยชื่อดัง ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์, จูเนียร์. เจอกัน ในแมตช์การปล้ำ ไม่มีกฏกติกา หรือ ไม่มีการจับแพ้ฟาวล์ แต่ บิ๊กโชว์ ก็แพ้ให้กับ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์, จูเนียร์. โดย เมย์เวทเธอร์ ได้ใช้ สนับมือ ชกไปที่ ขากรรไกร ของ บิ๊กโชว์ และถูกกรรมการนับ 10 จึงแพ้ไปเป็นที่เรียบร้อย

ในศึก แบคแลช บิ๊กโชว์ จะต้องเจอกับ เดอะ เกรท คาลี นักมวยปล้ำร่างสูงยักษ์ ในแมตช์ระหว่างยักษ์เจอยักษ์ และ บิ๊กโชว์ ก็เป็นฝ่ายสามารถเอาชนะ เดอะ เกรท คาลี มาได้ ในที่สุด

ต่อมา บิ๊กโชว์ ได้ไปลอบทำร้าย ดิ อันเดอร์เทคเกอร์ ทำให้ ดิ อันเดอร์เทคเกอร์ แค้นมาก จึงไปขอท้าเจอกับ บิ๊กโชว์ ในศึก เซอร์ไวเวอร์ ซีรีส์ ในรูปแบบการปล้ำ (Casket Match) จับคู่ต่อสู้ยัดใส่โลงศพ แต่สุดท้าย บิ๊กโชว์ ก็เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ไป ให้กับ อันเดอร์เทคเกอร์ ในที่สุด

ปี 2009

บิ๊กโชว์ ได้เปิดศึกกับ จอห์น ซีนา ซึ่ง จอห์น ซีนา ได้ขู่ วิกกี้ เกอร์เรโร เรื่องที่เธอแอบเป็นกิ๊กกับ บิ๊กโชว์ จนเธอต้องยอมให้ จอห์น ซีนา ได้ชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ เอดจ์ แต่สุดท้ายความจริงก็ปรากฏให้ เอดจ์ รู้ว่าเธอปันใจให้กับ บิ๊กโชว์ ทำให้ทั้งคู่ต้องกลายมาเป็นศัตรูกันจนในที่สุด และเจอกัน ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 25 ในแมตช์การปล้ำสามเสร้า เพื่อชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท และ จอห์น ซีนา เป็นฝ่ายสามารถเอาชนะ บิ๊กโชว์ กับ เอดจ์ และคว้า แชมป์โลกเฮฟวี่เวท ไปได้ในที่สุด

ต่อมา จอห์น ซีนา จะต้องป้องกัน แชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ เอดจ์ ในรูปแบบการปล้ำ Last Man Standing Match ซึ่งใครล้มลงไปนอนกับพื้นแล้วถูกกรรมการนับ 10 ก็จะเป็นฝ่ายแพ้ไป และ บิ๊กโชว์ ก็ได้เล่นงาน จอห์น ซีนา ด้วยท่า โชคสแลม กับ ไฟสปอตไลท์ยักษ์ จนทำให้ จอห์น ซีนา สลบและแพ้ไปแบบหมดรูป ทำให้ จอห์น ซีนา ต้องเสียแชมป์คืนให้กับ เอดจ์ ต่อมาในศึก จัดจ์เมนท์เดย์ (2009) บิ๊กโชว์ ขอท้าเจอกับ จอห์น ซีนา แต่ บิ๊กโชว์ ก็เป็นฝ่ายแพ้ไป ให้กับ จอห์น ซีนา และ จอห์น ซีนา จึงไปขอท้าเจอกับ บิ๊กโชว์ อีกครั้งในศึก เอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2009) ในรูปแบบการปล้ำ Submission Match ใครตบพื้นก่อนยอมแพ้ และสุดท้าย บิ๊กโชว์ ต้องตบพื้นยอมแพ้ ด้วยท่า STF ทำให้ จอห์น ซีนา ได้ล้างแค้น บิ๊กโชว์ อย่างสะใจ ไปในที่สุด

ในศึก WWE Bragging Rights บิ๊กโชว์ ได้เป็นสมาชิก ของทีมฝั่ง RAW ในการเจอกับทีมฝั่ง SmackDown แต่ บิ๊กโชว์ ได้ทำการหักหลังทีมฝั่งของตนเอง จนทำให้ทีม RAW เป็นฝ่ายพ่ายแพ้ให้กับทีม SmackDown ไปในที่สุด ศึก RAW ต่อมา บิ๊กโชว์ จะต้องปล้ำกับ ทริปเปิล เอช ในการปล้ำ Lumberjack Match โดยมีนักมวยปล้ำฝั่ง RAW ทั้งหมดอยู่ข้างเวที เพราะต้องการล้างแค้นที่ บิ๊กโชว์ เป็นต้นเหตุทำให้ทีม RAW พ่ายแพ้ต่อทีม SmackDown และแมตช์นี้ จอห์น ซีนา เป็นกรรมการพิเศษอีกด้วย และ บิ๊กโชว์ ถูกนักมวยปล้ำทั้งหมดเล่นงานด้วยท่าไม้ตายของแต่ละคน รวมทั้งท่าไม้ตาย 3 ท่าหลัก Attitude Adjustment ของ กรรมการพิเศษ จอห์น ซีนา, Sweet Chin Music ของ ชอว์น ไมเคิลส์ และ Pedigree ของ ทริปเปิล เอช ทำให้ บิ๊กโชว์ แพ้ให้กับ ทริปเปิล เอช ไปแบบหมดรูป ทำให้ทีม RAW ได้ล้างแค้น บิ๊กโชว์ อย่างสะใจ ไปในที่สุด

ต่อมา บิ๊กโชว์ ก็สามารถคว้า แชมป์แทคทีมยูนิฟายด์ คู่กับ คริส เจอริโก้ มาได้สำเร็จ และได้ตั้งชื่อทีมว่า JeriShow แต่ก็เสีย แชมป์แทคทีมยูนิฟายด์ ให้กับกลุ่ม ดิ-เจเรเนชั่น เอ็กซ์ (ทริปเปิล เอช กับ ชอว์น ไมเคิลส์) ในแมตช์การปล้ำ TLC Match ในศึก WWE TLC ทำให้ทีม JeriShow ต้องแตกทีมกันไปในที่สุด

ปี 2010

บิ๊กโชว์ ในปี 2010

ต่อมา บิ๊กโชว์ ก็สามารถคว้า แชมป์แทคทีมยูนิฟายด์ กลับมาอีกครั้ง กับ เดอะ มิซ โดยการเอาชนะกลุ่ม ดิ-เจเรเนชั่น เอ็กซ์ มาได้ และได้ตั้งชื่อกลุ่มทีมว่า ShoMiz แต่สุดท้ายก็เสียแชมป์แทคทีมไปให้กับกลุ่ม The Hart Dynasty (เดวิด ฮาร์ท สมิธ กับ ไทสัน คิดด์) ในศึก RAW หลังจากเสียแชมป์ไปนั้น ทำให้ บิ๊กโชว์ โกรธมากและชกหน้า เดอะ มิซ จนสลบคาเวที ทำให้ ShoMiz ต้องแตกทีมกัน ไปในที่สุด

ต่อมา บิ๊กโชว์ ก็ถูก ดราฟท์ ตัวไปอยู่ SmackDown ในตอนนี้ได้กลายมาเป็นฝ่ายธรรมมะและเป็นขวัญใจของแฟนๆมวยปล้ำจนถึงปัจจุบัน และ บิ๊กโชว์ ได้ขอท้าชิงแชมป์โลกเฮฟวี่เวท กับ แจ๊ค สแวกเกอร์ ในศึก Over The Limit แต่ก็ไม่สำเร็จ เพราะ แจ๊ค สแวกเกอร์ เอาเข็มขัดแชมป์ตีใส่หัว บิ๊กโชว์ ทำให้ แจ๊ค สแวกเกอร์ ถูกจับแพ้ฟาล์ว แต่ แจ๊ค สแวกเกอร์ ไม่เสีย แชมป์โลกเฮฟวี่เวท หลังจากนั้น แจ๊ค สแวกเกอร์ ก็เล่นงาน บิ๊กโชว์ อย่างต่อเนื่อง แต่สุดท้าย บิ๊กโชว์ ก็เล่นงานกลับ ด้วยท่า โชคสแลม ใส่ แจ๊ค สแวกเกอร์

ล่าสุด บิ๊กโชว์ ถอดหน้ากากของ ซีเอ็ม พังค์ ทำให้เห็นหัวล้านของ ซีเอ็ม พังค์ และในศึก Summerslam บิ๊กโชว์ จะต้องปล้ำ Handicap Match 3 รุม 1 กับ Straight Edge Society สมาชิก คือ ซีเอ็ม พังค์ , ลุค กาล์โลว์ และ โจอี้ เมอร์คิวรี่ แต่ บิ๊กโชว์ ก็เป็นฝ่ายที่สามารถเอาชนะกลุ่ม Straight Edge Society ได้สำเร็จ ต่อมา ในศึก Night of Champions บิ๊กโชว์ จะต้องเจอกับ ซีเอ็ม พังค์ อีกครั้ง แต่ก็สามารถเอาชนะ ซีเอ็ม พังค์ ได้สำเร็จ

ในศึก WWE Bragging Rights บิ๊กโชว์ ได้เป็นกัปตันทีมฝั่ง SmackDown จะต้องเจอกับทีมฝั่ง RAW โดย เอดจ์ สามารถนำทีม SmackDown เอาชนะทีม RAW มาได้ในที่สุด ต่อมา ในศึก Survivor Series บิ๊กโชว์ ได้เข้าร่วมทีมของ เรย์ มิสเตริโอ ปะทะกับ ทีมของ อัลเบอร์โต เดล ริโอ และทีมของ เรย์ มิสเตริโอ ก็เป็นฝ่ายเอาชนะทีมของ อัลเบอร์โต เดล ริโอ มาได้สำเร็จ

เกี่ยวกับมวยปล้ำ

  • ท่าไม้ตาย
    • โชคสแลม
    • ไรท์-แฮนเดด (น็อคเอาท์ ฮุค)
    • โคลอสซอล คลัทซ์ (คาเมล คลัทซ์)
    • โชว์สตอปเปอร์ (เลค ดรอป)
  • ผู้จัดการ
    • Joy Giovanni
    • Jimmy Hart
    • Paul Heyman
    • Shane McMahon
    • Vickie Guerrero
    • Chris Jericho
    • The Miz
  • ฉายา
    • "The Big Show" Paul Wight
    • World's Largest Athlete
    • The Giant
  • เพลงเปิดตัว
    • "Rockhouse" โดย Jimmy Hart and H. Helm (ปี 1996 – 1997, 1998 – 1999, 2002)
    • "No Chance In Hell" โดย Jim Johnston (ปี 1999)
    • "Big" โดย Jim Johnston (ปี 1999 – 2006)
    • "Big (Remix)" โดย Mack 10, K Mac, Boo Kapone, and MC Eiht (ปี 2000)
    • "Crank It Up" โดย Brand New Sin (ปี 2006, 2008 – ปัจจุบัน)
    • "Crank The Walls Down" โดย Maylene and the Sons of Disaster (ใช้เพลง คู่กับ คริส เจอริโก้)

แชมป์และรางวัล

บิ๊กโชว์ กับ แชมป์โลก ECW
บิ๊กโชว์ กับ แชมป์แทคทีมยูนิฟายด์ คู่กับ คริส เจอริโค ในนาม JeriShow
  • Pro Wrestling Illustrated
    • PWI Rookie of the Year (ปี 1996)
    • PWI Wrestler of the Year (ปี 1996)
    • PWI ranked him #2 of the top 500 singles wrestlers of the year in the PWI 500 in 1996
  • World Championship Wrestling
    • WCW World Heavyweight Championship (2 สมัย)
    • WCW World Tag Team Championship (3 สมัย) คู่กับ เลค ลูคเกอร์ (1 สมัย), สติง (1 สมัย) และ สก็อตต์ ฮอลล์ (1 สมัย)
    • WCW World War 3 (ปี 1996)
    • King of Cable Tournament (ปี 1996)
  • World Wrestling Federation / World Wrestling Entertainment
    • ECW World Heavyweight Championship (1 time)
    • World Tag Team Championship (5 times) – with The Undertaker (2), Kane (1), Chris Jericho (1) and The miz (1)
    • WWE Tag Team Championship (2 times) – with Chris Jericho (1) and The miz (1)
    • WWE United States Championship (1 time)
    • WWF/E Championship (2 times)
    • WWF Hardcore Championship (3 times)
    • Slammy Award for Tag Team of the Year (2009) – with Chris Jericho
  • Wrestling Observer Newsletter awards
    • Rookie of the Year (ปี 1996)
    • Worst Feud of the Year (ปี 1999) vs. The Big Boss Man
    • Worst Wrestler (ปี 2001, 2002)
    • Most Embarrassing Wrestler (ปี 2002)

ผลงานภาพยนตร์

ในปี 2010 บิ๊กโชว์ ได้นำแสดง ภาพยนตร์ เรื่อง Knucklehead ซึ่งเป็นภาพยนตร์ แนวคอเมดี้ ของ WWE Studios

อ้างอิง

  1. "Big Show's profile". IMDb. สืบค้นเมื่อ 2009-06-15.
  2. Reynolds, R.D. The Wrestlecrap Book of Lists. p. 21. {{cite book}}: |access-date= ต้องการ |url= (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์ |coauthors= ถูกละเว้น แนะนำ (|author=) (help)
  3. http://www.wwe.com/superstars/wherearetheynow/headbangerspart1

แหล่งข้อมูลอื่น