ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ปลาช่อนบาร์กา"
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
ไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 18: | บรรทัด 18: | ||
มีถิ่นกระจายพันธุ์อยู่ใน[[แม่น้ำพรหมบุตร]]และ[[แม่น้ำคงคา]]ใน[[รัฐอัสสัม]]และ[[รัฐเบงกอลตะวันตก]] |
มีถิ่นกระจายพันธุ์อยู่ใน[[แม่น้ำพรหมบุตร]]และ[[แม่น้ำคงคา]]ใน[[รัฐอัสสัม]]และ[[รัฐเบงกอลตะวันตก]] |
||
ปลาช่อนบาร์กา เป็นที่รู้จักครั้งแรก ในปี [[ค.ศ. 1822]] โดย [[ฟรานซิส บูชาแนน แฮมิลตัน]] ซึ่งเป็นนายแพทย์และนักชีววิทยาประจำกองทัพ[[จักรวรรดิอังกฤษ]]ที่[[บริติชราช|ปกครองอินเดีย]]อยู่ ได้ศึกษา[[ธรรมชาติ]]ใน[[รัฐเบงกอล]]และได้ค้นพบ[[ปลา]]น้ำจืดชนิดใหม่ ๆ ได้ถึง 100 ชนิด หนึ่งในนั้นคือ ปลาช่อนชนิดนี้ พร้อมกับได้เขียน[[ภาพวาด|ภาพประกอบ]]ไว้ โดยได้ตีพิมพ์ในหนังสือชื่อ ''An account of the fishes found in the river Ganges and its branches'' โดย |
ปลาช่อนบาร์กา เป็นที่รู้จักครั้งแรก ในปี [[ค.ศ. 1822]] โดย [[ฟรานซิส บูชาแนน แฮมิลตัน]] ซึ่งเป็นนายแพทย์และนักชีววิทยาประจำกองทัพ[[จักรวรรดิอังกฤษ]]ที่[[บริติชราช|ปกครองอินเดีย]]อยู่ ได้ศึกษา[[ธรรมชาติ]]ใน[[รัฐเบงกอล]]และได้ค้นพบ[[ปลา]]น้ำจืดชนิดใหม่ ๆ ได้ถึง 100 ชนิด หนึ่งในนั้นคือ ปลาช่อนชนิดนี้ พร้อมกับได้เขียน[[ภาพวาด|ภาพประกอบ]]ไว้ โดยได้ตีพิมพ์ในหนังสือชื่อ ''An account of the fishes found in the river Ganges and its branches'' โดยบรรยายไว้เกี่ยวกับปลาช่อนบาร์กาว่า ความยาวเต็มที่ได้ถึง 90 [[เซนติเมตร]] และทำรังโดยขุดรูขึ้นบริเวณริมฝั่งโผล่และเฉพาะส่วนหัวออกมาเพื่อหา[[อาหาร]] |
||
ปลาช่อนบาร์กา จัดไว้เป็นหนึ่งในปลาช่อนที่หายากที่สุดในโลก<ref>[http://thesnakeheadforum.com/viewtopic.php?f=14&t=897&start=0 Channa Barca Becoming Less "Rare"?]</ref>จากคุณสมบัติทั้งหมดดังกล่าว ทำให้เป็นปลาสวยงามที่มีราคาแพงมากชนิดหนึ่ง<ref>[http://thesnakeheadforum.com/viewtopic.php?f=26&t=1102 INDIAN IMPORT AND LOADS OF CHANNA'S]</ref> และสำหรับใน[[ประเทศไทย]]เป็นปลาที่มีเพียงแค่ไม่กี่ตัว โดยพฤติกรรมในสถานที่เลี้ยงจะกินอาหารจำพวก[[แมลง]]และ[[สัตว์เลื้อยคลาน]]<ref>[http://aqua.c1ub.net/forum/lite.php?topic=109060.0 ร้านตะเพียนทอง พิเศษสุดกับ Channa barca สภาพสวย เลี้ยงง่าย มีจำนวนจำกัด ]</ref><ref>[http://siamensis.org/webboard/topic/2285 ปลาช่อนทอง Channa barca ปลาช่อนในดวงใจ]</ref> |
ปลาช่อนบาร์กา จัดไว้เป็นหนึ่งในปลาช่อนที่หายากที่สุดในโลก<ref>[http://thesnakeheadforum.com/viewtopic.php?f=14&t=897&start=0 Channa Barca Becoming Less "Rare"?]</ref>จากคุณสมบัติทั้งหมดดังกล่าว ทำให้เป็นปลาสวยงามที่มีราคาแพงมากชนิดหนึ่ง<ref>[http://thesnakeheadforum.com/viewtopic.php?f=26&t=1102 INDIAN IMPORT AND LOADS OF CHANNA'S]</ref> และสำหรับใน[[ประเทศไทย]]เป็นปลาที่มีเพียงแค่ไม่กี่ตัว โดยพฤติกรรมในสถานที่เลี้ยงจะกินอาหารจำพวก[[แมลง]]และ[[สัตว์เลื้อยคลาน]]<ref>[http://aqua.c1ub.net/forum/lite.php?topic=109060.0 ร้านตะเพียนทอง พิเศษสุดกับ Channa barca สภาพสวย เลี้ยงง่าย มีจำนวนจำกัด ]</ref><ref>[http://siamensis.org/webboard/topic/2285 ปลาช่อนทอง Channa barca ปลาช่อนในดวงใจ]</ref> |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:53, 5 พฤศจิกายน 2553
ปลาช่อนบาร์กา | |
---|---|
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์ | |
อาณาจักร: | Animalia |
ไฟลัม: | Chordata |
ชั้น: | Actinopterygii |
อันดับ: | Perciformes |
วงศ์: | Channidae |
สกุล: | Channa |
สปีชีส์: | C. barca |
ชื่อทวินาม | |
Channa barca (Hamilton, 1822) | |
ชื่อพ้อง | |
ปลาช่อนบาร์กา (อังกฤษ: Barca snakehead) เป็นปลาน้ำจืดชนิดหนึ่ง มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Channa barca ในวงศ์ปลาช่อน (Channidae) มีความยาวเต็มที่ประมาณ 90 เซนติเมตร เป็นปลาที่มีสีสันสวยงามมาก โดยมีสีเขียวและเหลืองประกอบกับจุดสีดำและแดงกระจายทั่วบริเวณส่วนหัว, ลำตัว และครีบ ส่วนหัวมีขนาดโตและปากกว้างมาก จนได้ชื่อว่าเป็นปลาช่อนที่มีความสวยงามที่สุดในโลก[1]
มีถิ่นกระจายพันธุ์อยู่ในแม่น้ำพรหมบุตรและแม่น้ำคงคาในรัฐอัสสัมและรัฐเบงกอลตะวันตก
ปลาช่อนบาร์กา เป็นที่รู้จักครั้งแรก ในปี ค.ศ. 1822 โดย ฟรานซิส บูชาแนน แฮมิลตัน ซึ่งเป็นนายแพทย์และนักชีววิทยาประจำกองทัพจักรวรรดิอังกฤษที่ปกครองอินเดียอยู่ ได้ศึกษาธรรมชาติในรัฐเบงกอลและได้ค้นพบปลาน้ำจืดชนิดใหม่ ๆ ได้ถึง 100 ชนิด หนึ่งในนั้นคือ ปลาช่อนชนิดนี้ พร้อมกับได้เขียนภาพประกอบไว้ โดยได้ตีพิมพ์ในหนังสือชื่อ An account of the fishes found in the river Ganges and its branches โดยบรรยายไว้เกี่ยวกับปลาช่อนบาร์กาว่า ความยาวเต็มที่ได้ถึง 90 เซนติเมตร และทำรังโดยขุดรูขึ้นบริเวณริมฝั่งโผล่และเฉพาะส่วนหัวออกมาเพื่อหาอาหาร
ปลาช่อนบาร์กา จัดไว้เป็นหนึ่งในปลาช่อนที่หายากที่สุดในโลก[2]จากคุณสมบัติทั้งหมดดังกล่าว ทำให้เป็นปลาสวยงามที่มีราคาแพงมากชนิดหนึ่ง[3] และสำหรับในประเทศไทยเป็นปลาที่มีเพียงแค่ไม่กี่ตัว โดยพฤติกรรมในสถานที่เลี้ยงจะกินอาหารจำพวกแมลงและสัตว์เลื้อยคลาน[4][5]