ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วิกฤตตัวประกันมะนิลา"
ล โรบอต เพิ่ม: ceb:Pagbibihag ng bus sa Maynila (2010) |
ลไม่มีความย่อการแก้ไข |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
[[ไฟล์:2010 Manila hostage crisis bus.JPG|thumb|250px|รถบัสทัวร์ซึ่งมีการจี้ตัวประกัน]] |
[[ไฟล์:2010 Manila hostage crisis bus.JPG|thumb|250px|รถบัสทัวร์ซึ่งมีการจี้ตัวประกัน]] |
||
'''วิกฤตตัวประกันมะนิลา''' เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งได้ยึดรถบัสทัวร์หน้าควิริโนแกรนด์สแตนด์ใน[[สวนรีซัล]] [[มะนิลา|กรุงมะนิลา]] [[ประเทศฟิลิปปินส์]] เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553 อดีตสารวัตรตำรวจอาวุโสซึ่งไม่พอใจ (มียศเทียบเท่าร้อยเอกในกองทัพบก) โรลันโด เมนโดซา จากสถานีตำรวจมะนิลาได้จี้รถบัสทัวร์ซึ่งมีผู้โดยสารเป็นนักท่องเที่ยวจาก[[ฮ่องกง]]จำนวน 25 คน ในความพยายามที่จะได้รับตำแหน่งงานกลับคืน<ref name="HostageRef1">{{cite web |url=http://www.philstar.com/Article.aspx?articleId=605431&publicationSubCategoryId=200 |title=Report: Disgruntled cop takes tourists hostage in Manila |first=Dennis |last=Carcamo |author=Dennis Carcamo |date=2010-08-23 |month=August |work=[[The Philippine Star]] |location=Manila, Philippines |accessdate=2010-08-23 |quote=A dismissed police official has taken hostage 25 passengers of a tourist bus, including some children, in Manila this morning, a radio report said.}}</ref> เขากล่าวว่า เขารู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งโดยไม่มีโอกาสที่จะปกป้องตนเองอย่างเหมาะสม และสิ่งที่เขาต้องการมีเพียงการรับฟังอย่างยุติธรรมเท่านั้น |
'''วิกฤตตัวประกันมะนิลา''' เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งได้ยึดรถบัสทัวร์หน้าควิริโนแกรนด์สแตนด์ใน[[สวนรีซัล]] [[มะนิลา|กรุงมะนิลา]] [[ประเทศฟิลิปปินส์]] เมื่อวันที่ [[23 สิงหาคม]] [[พ.ศ. 2553]] อดีตสารวัตรตำรวจอาวุโสซึ่งไม่พอใจ (มียศเทียบเท่าร้อยเอกในกองทัพบก) โรลันโด เมนโดซา จากสถานีตำรวจมะนิลาได้จี้รถบัสทัวร์ซึ่งมีผู้โดยสารเป็นนักท่องเที่ยวจาก[[ฮ่องกง]]จำนวน 25 คน ในความพยายามที่จะได้รับตำแหน่งงานกลับคืน<ref name="HostageRef1">{{cite web |url=http://www.philstar.com/Article.aspx?articleId=605431&publicationSubCategoryId=200 |title=Report: Disgruntled cop takes tourists hostage in Manila |first=Dennis |last=Carcamo |author=Dennis Carcamo |date=2010-08-23 |month=August |work=[[The Philippine Star]] |location=Manila, Philippines |accessdate=2010-08-23 |quote=A dismissed police official has taken hostage 25 passengers of a tourist bus, including some children, in Manila this morning, a radio report said.}}</ref> เขากล่าวว่า เขารู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งโดยไม่มีโอกาสที่จะปกป้องตนเองอย่างเหมาะสม และสิ่งที่เขาต้องการมีเพียงการรับฟังอย่างยุติธรรมเท่านั้น |
||
จากผลของการปิดล้อมนานสิบชั่วโมง ความพยายามช่วยเหลือตัวประกันที่ผิดพลาดของตำรวจกรุงมะนิลาได้ปรากฎบนหน้าจอโทรทัศน์ถ่ายทอดสดแก่ผู้ชมหลายล้านคนที่กำลังชมข่าวอยู่ ตัวประกัน 8 คน<ref name="hkgovt-victimlist">{{cite news|title=Manila hostage incident victim name list|url=http://www.info.gov.hk/gia/general/201008/24/P201008240172.htm|accessdate=24 August 2010|newspaper=Hong Kong's Information Services Department Press Release|date=24 August 2010}}</ref>และเมนโดซา<ref name="rolando">{{cite news|last=Conde|first=Carlos|title=Gunman and 8 Hostages Dead in the Philippines|url=http://www.nytimes.com/2010/08/24/world/asia/24phils.html?partner=rss&emc=rss|accessdate=24 August 2010|newspaper=The New York Times|date=23 August 2010}}</ref>เสียชีวิต และอีก 9 คนได้รับบาดเจ็บ รัฐบาลฮ่องกงได้ประกาศเตือนภัยท่องเที่ยวขั้นสูงสุด "สีดำ" ทันที<ref name=bbc310>{{cite web |url=http://www.bbc.co.uk/news/world-asia-pacific-11067310 |title=Hong Kong bans Philippines travel after hijack deaths|publisher=BBC News |date=2010-08-24 |accessdate=24 August 2010}}</ref> |
จากผลของการปิดล้อมนานสิบชั่วโมง ความพยายามช่วยเหลือตัวประกันที่ผิดพลาดของตำรวจกรุงมะนิลาได้ปรากฎบนหน้าจอโทรทัศน์ถ่ายทอดสดแก่ผู้ชมหลายล้านคนที่กำลังชมข่าวอยู่ ตัวประกัน 8 คน<ref name="hkgovt-victimlist">{{cite news|title=Manila hostage incident victim name list|url=http://www.info.gov.hk/gia/general/201008/24/P201008240172.htm|accessdate=24 August 2010|newspaper=Hong Kong's Information Services Department Press Release|date=24 August 2010}}</ref>และเมนโดซา<ref name="rolando">{{cite news|last=Conde|first=Carlos|title=Gunman and 8 Hostages Dead in the Philippines|url=http://www.nytimes.com/2010/08/24/world/asia/24phils.html?partner=rss&emc=rss|accessdate=24 August 2010|newspaper=The New York Times|date=23 August 2010}}</ref>เสียชีวิต และอีก 9 คนได้รับบาดเจ็บ รัฐบาลฮ่องกงได้ประกาศเตือนภัยท่องเที่ยวขั้นสูงสุด "สีดำ" ทันที<ref name=bbc310>{{cite web |url=http://www.bbc.co.uk/news/world-asia-pacific-11067310 |title=Hong Kong bans Philippines travel after hijack deaths|publisher=BBC News |date=2010-08-24 |accessdate=24 August 2010}}</ref> |
||
บรรทัด 7: | บรรทัด 7: | ||
ผู้ก่อการจี้ชิงตัวประกันในครั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ระบุว่าเป็นโรลันโด เมนโดซา อดีตนายตำรวจสัญญาบัตรระดับสูง<ref name="HostageRef2">{{cite web |url=http://www.gov.ph/2010/08/23/pnp-statement-on-the-hostage-incident-at-quirino-grandstand-august-23-2010-as-of-114-pm/ |title=PNP statement on the hostage-taking incident at Quirino Grandstand, August 23, 2010, as of 1:14 PM |publisher=Philippine National Police |accessdate=2010-08-23}}</ref> ผู้ซึ่งต้องการที่จะกลับเข้าทำงานในตำแหน่งเดิมพร้อมกับสิทธิประโยชน์ไปยังสถานีตำรวจเดิมที่เขาทำงานอยู่ในกรุงมะนิลา เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งในปี พ.ศ. 2552 เนื่องจากข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการกรรโชกทรัพย์<ref name="HostageRef1" /><ref name="Driver escapes">{{cite news|url=http://newsinfo.inquirer.net/breakingnews/metro/view/20100823-288423/Driver-escapes-claims-Chinese-hostages-killed |title=Driver escapes, claims Chinese hostages killed |co-authors=Jeannette Andrade, Marlon Ramos, DJ Yap, Tetch Torres |work=[[Philippine Daily Inquirer]] |date=2010-08-23 |accessdate=2010-08-23}}</ref> |
ผู้ก่อการจี้ชิงตัวประกันในครั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ระบุว่าเป็นโรลันโด เมนโดซา อดีตนายตำรวจสัญญาบัตรระดับสูง<ref name="HostageRef2">{{cite web |url=http://www.gov.ph/2010/08/23/pnp-statement-on-the-hostage-incident-at-quirino-grandstand-august-23-2010-as-of-114-pm/ |title=PNP statement on the hostage-taking incident at Quirino Grandstand, August 23, 2010, as of 1:14 PM |publisher=Philippine National Police |accessdate=2010-08-23}}</ref> ผู้ซึ่งต้องการที่จะกลับเข้าทำงานในตำแหน่งเดิมพร้อมกับสิทธิประโยชน์ไปยังสถานีตำรวจเดิมที่เขาทำงานอยู่ในกรุงมะนิลา เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งในปี พ.ศ. 2552 เนื่องจากข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการกรรโชกทรัพย์<ref name="HostageRef1" /><ref name="Driver escapes">{{cite news|url=http://newsinfo.inquirer.net/breakingnews/metro/view/20100823-288423/Driver-escapes-claims-Chinese-hostages-killed |title=Driver escapes, claims Chinese hostages killed |co-authors=Jeannette Andrade, Marlon Ramos, DJ Yap, Tetch Torres |work=[[Philippine Daily Inquirer]] |date=2010-08-23 |accessdate=2010-08-23}}</ref> |
||
เมนโดซาสำเร็จการศึกษาด้านอาชญวิทยา สมัครเข้าเป็นตำรวจในตำแหน่งสายตรวจ จากนั้นได้ไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งสารวัตรอาวุโส เขาได้รับมอบเหรียญตรา 17 ครั้งในความกล้าหาญและเกียรติยศ ผู้ร่วมงานในสถานีตำรวจกรุงมะนิลากล่าวว่า เขาเป็นคนทำงานหนักและใจดี<ref name=robles>Robles, Alan (24 August 2010). "Disgrace of a model policeman thrown out of force for corruption", ''South China Morning Post''</ref> ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529 เมนโดซานำกลุ่มตำรวจโบกสัญญาณให้กับรถตู้ซึ่งกำลังขนกล่องเงินจำนวน 13 กล่อง ซึ่งอดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส พยายามที่จะลักลอบนำออกนอกประเทศ เมนโดซาและทีมของเขาได้ส่งเงินดังกล่าวคืนให้กับทางการ<ref name=robles/> ในปีนั้น เมนโดซาได้รับรางวัลในฐานะที่เป็นสิบตำรวจยอดเยี่ยมของฟิลิปปินส์<ref>{{cite news|url=http://newsinfo.inquirer.net/breakingnews/metro/view/20100823-288385/Who-is-this-hostage-taking-cop |title=Who is this hostage-taking cop? |first=Alcuin |last=Papa |work=Philippine Daily Inquirer |date=2010-08-23 |accessdate=2010-08-23}}</ref> |
เมนโดซาสำเร็จการศึกษาด้านอาชญวิทยา สมัครเข้าเป็นตำรวจในตำแหน่งสายตรวจ จากนั้นได้ไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งสารวัตรอาวุโส เขาได้รับมอบเหรียญตรา 17 ครั้งในความกล้าหาญและเกียรติยศ ผู้ร่วมงานในสถานีตำรวจกรุงมะนิลากล่าวว่า เขาเป็นคนทำงานหนักและใจดี<ref name=robles>Robles, Alan (24 August 2010). "Disgrace of a model policeman thrown out of force for corruption", ''South China Morning Post''</ref> ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529 เมนโดซานำกลุ่มตำรวจโบกสัญญาณให้กับรถตู้ซึ่งกำลังขนกล่องเงินจำนวน 13 กล่อง ซึ่งอดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ [[เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส]] พยายามที่จะลักลอบนำออกนอกประเทศ เมนโดซาและทีมของเขาได้ส่งเงินดังกล่าวคืนให้กับทางการ<ref name=robles/> ในปีนั้น เมนโดซาได้รับรางวัลในฐานะที่เป็นสิบตำรวจยอดเยี่ยมของฟิลิปปินส์<ref>{{cite news|url=http://newsinfo.inquirer.net/breakingnews/metro/view/20100823-288385/Who-is-this-hostage-taking-cop |title=Who is this hostage-taking cop? |first=Alcuin |last=Papa |work=Philippine Daily Inquirer |date=2010-08-23 |accessdate=2010-08-23}}</ref> |
||
เชฟโรงแรม คริสเตียน คาลอว์ กล่าวว่า เขาถูกกล่าวหาจากเมนโดซาและตำรวจคนอื่น ๆ ในข้อหาละเมิดการจอดรถเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2551 พวกเขาได้นำถุงเล็ก ๆ ซึ่งภายในบรรจุ[[เมทแอมเฟตามีน]]ในรถของเขา บีบบังคับให้เขารับยาเสพติด กล่าวหาว่าเขาติดยา และต้องการให้เขาส่งเงินในเอทีเอ็มทั้งหมด คาลอว์กล่าวว่าตำรวจได้ปล่อยตัวเขาหลังจากที่เพื่อนของเขาได้ส่งเงินให้กับตำรวจจำนวน 20,000 เปโซ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินพบว่าเมนโดซาและพวกอีก 4 คนมีความผิดจริงในการประพฤติที่ไม่เหมาะสมและสั่งให้เมนโดซาออกจากราชการและยกเลิกสิทธิประโยชน์ทั้งหมดของเขา<ref name=robles/> ข้อกล่าวหาต่อเมนโดซาได้ลงบันทึกไว้เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2551 หลังจากเขาถูกปลดออกจากตำแหน่งหน่วยลาดตระเวนเคลื่อนที่ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2551 กองที่แปดของสำนักงานอัยการมะนิลาได้ยกฟ้องคดีหลังจากคาลอว์ไม่สามารถเข้าร่วมการพิจารณาคดีได้ ส่วนกิจการภายในของสำนักงานตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์แนะนำให้ยกฟ้องคดีเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ด้วยเหตุผลเดียวกัน น้องชาย เกรโกรีโอ กล่าวว่าสิ่งที่พี่ชายของเขาต้องการ คือ การได้รับฟังอย่างเป็นธรรมโดยผู้ตรจการแผ่นดิน ผู้ซึ่ง "ไม่เคยให้โอกาสเขาที่จะป้องกันตัวเอง พวกเขาปลดออกจากตำแหน่งในทันที"<ref name=robles/> |
เชฟโรงแรม คริสเตียน คาลอว์ กล่าวว่า เขาถูกกล่าวหาจากเมนโดซาและตำรวจคนอื่น ๆ ในข้อหาละเมิดการจอดรถเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2551 พวกเขาได้นำถุงเล็ก ๆ ซึ่งภายในบรรจุ[[เมทแอมเฟตามีน]]ในรถของเขา บีบบังคับให้เขารับยาเสพติด กล่าวหาว่าเขาติดยา และต้องการให้เขาส่งเงินในเอทีเอ็มทั้งหมด คาลอว์กล่าวว่าตำรวจได้ปล่อยตัวเขาหลังจากที่เพื่อนของเขาได้ส่งเงินให้กับตำรวจจำนวน 20,000 เปโซ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินพบว่าเมนโดซาและพวกอีก 4 คนมีความผิดจริงในการประพฤติที่ไม่เหมาะสมและสั่งให้เมนโดซาออกจากราชการและยกเลิกสิทธิประโยชน์ทั้งหมดของเขา<ref name=robles/> ข้อกล่าวหาต่อเมนโดซาได้ลงบันทึกไว้เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2551 หลังจากเขาถูกปลดออกจากตำแหน่งหน่วยลาดตระเวนเคลื่อนที่ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2551 กองที่แปดของสำนักงานอัยการมะนิลาได้ยกฟ้องคดีหลังจากคาลอว์ไม่สามารถเข้าร่วมการพิจารณาคดีได้ ส่วนกิจการภายในของสำนักงานตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์แนะนำให้ยกฟ้องคดีเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ด้วยเหตุผลเดียวกัน น้องชาย เกรโกรีโอ กล่าวว่าสิ่งที่พี่ชายของเขาต้องการ คือ การได้รับฟังอย่างเป็นธรรมโดยผู้ตรจการแผ่นดิน ผู้ซึ่ง "ไม่เคยให้โอกาสเขาที่จะป้องกันตัวเอง พวกเขาปลดออกจากตำแหน่งในทันที"<ref name=robles/> |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 14:26, 14 กันยายน 2553
วิกฤตตัวประกันมะนิลา เกิดขึ้นเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งได้ยึดรถบัสทัวร์หน้าควิริโนแกรนด์สแตนด์ในสวนรีซัล กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2553 อดีตสารวัตรตำรวจอาวุโสซึ่งไม่พอใจ (มียศเทียบเท่าร้อยเอกในกองทัพบก) โรลันโด เมนโดซา จากสถานีตำรวจมะนิลาได้จี้รถบัสทัวร์ซึ่งมีผู้โดยสารเป็นนักท่องเที่ยวจากฮ่องกงจำนวน 25 คน ในความพยายามที่จะได้รับตำแหน่งงานกลับคืน[1] เขากล่าวว่า เขารู้สึกผิดหวังอย่างยิ่งที่ถูกปลดออกจากตำแหน่งโดยไม่มีโอกาสที่จะปกป้องตนเองอย่างเหมาะสม และสิ่งที่เขาต้องการมีเพียงการรับฟังอย่างยุติธรรมเท่านั้น
จากผลของการปิดล้อมนานสิบชั่วโมง ความพยายามช่วยเหลือตัวประกันที่ผิดพลาดของตำรวจกรุงมะนิลาได้ปรากฎบนหน้าจอโทรทัศน์ถ่ายทอดสดแก่ผู้ชมหลายล้านคนที่กำลังชมข่าวอยู่ ตัวประกัน 8 คน[2]และเมนโดซา[3]เสียชีวิต และอีก 9 คนได้รับบาดเจ็บ รัฐบาลฮ่องกงได้ประกาศเตือนภัยท่องเที่ยวขั้นสูงสุด "สีดำ" ทันที[4]
ผู้ก่อการ
ผู้ก่อการจี้ชิงตัวประกันในครั้งนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์ระบุว่าเป็นโรลันโด เมนโดซา อดีตนายตำรวจสัญญาบัตรระดับสูง[5] ผู้ซึ่งต้องการที่จะกลับเข้าทำงานในตำแหน่งเดิมพร้อมกับสิทธิประโยชน์ไปยังสถานีตำรวจเดิมที่เขาทำงานอยู่ในกรุงมะนิลา เขาถูกปลดออกจากตำแหน่งในปี พ.ศ. 2552 เนื่องจากข้อกล่าวหาเกี่ยวกับการกรรโชกทรัพย์[1][6]
เมนโดซาสำเร็จการศึกษาด้านอาชญวิทยา สมัครเข้าเป็นตำรวจในตำแหน่งสายตรวจ จากนั้นได้ไต่เต้าขึ้นสู่ตำแหน่งสารวัตรอาวุโส เขาได้รับมอบเหรียญตรา 17 ครั้งในความกล้าหาญและเกียรติยศ ผู้ร่วมงานในสถานีตำรวจกรุงมะนิลากล่าวว่า เขาเป็นคนทำงานหนักและใจดี[7] ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2529 เมนโดซานำกลุ่มตำรวจโบกสัญญาณให้กับรถตู้ซึ่งกำลังขนกล่องเงินจำนวน 13 กล่อง ซึ่งอดีตประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ เฟอร์ดินานด์ มาร์กอส พยายามที่จะลักลอบนำออกนอกประเทศ เมนโดซาและทีมของเขาได้ส่งเงินดังกล่าวคืนให้กับทางการ[7] ในปีนั้น เมนโดซาได้รับรางวัลในฐานะที่เป็นสิบตำรวจยอดเยี่ยมของฟิลิปปินส์[8]
เชฟโรงแรม คริสเตียน คาลอว์ กล่าวว่า เขาถูกกล่าวหาจากเมนโดซาและตำรวจคนอื่น ๆ ในข้อหาละเมิดการจอดรถเมื่อวันที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2551 พวกเขาได้นำถุงเล็ก ๆ ซึ่งภายในบรรจุเมทแอมเฟตามีนในรถของเขา บีบบังคับให้เขารับยาเสพติด กล่าวหาว่าเขาติดยา และต้องการให้เขาส่งเงินในเอทีเอ็มทั้งหมด คาลอว์กล่าวว่าตำรวจได้ปล่อยตัวเขาหลังจากที่เพื่อนของเขาได้ส่งเงินให้กับตำรวจจำนวน 20,000 เปโซ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินพบว่าเมนโดซาและพวกอีก 4 คนมีความผิดจริงในการประพฤติที่ไม่เหมาะสมและสั่งให้เมนโดซาออกจากราชการและยกเลิกสิทธิประโยชน์ทั้งหมดของเขา[7] ข้อกล่าวหาต่อเมนโดซาได้ลงบันทึกไว้เมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2551 หลังจากเขาถูกปลดออกจากตำแหน่งหน่วยลาดตระเวนเคลื่อนที่ ในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2551 กองที่แปดของสำนักงานอัยการมะนิลาได้ยกฟ้องคดีหลังจากคาลอว์ไม่สามารถเข้าร่วมการพิจารณาคดีได้ ส่วนกิจการภายในของสำนักงานตำรวจแห่งชาติฟิลิปปินส์แนะนำให้ยกฟ้องคดีเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2551 ด้วยเหตุผลเดียวกัน น้องชาย เกรโกรีโอ กล่าวว่าสิ่งที่พี่ชายของเขาต้องการ คือ การได้รับฟังอย่างเป็นธรรมโดยผู้ตรจการแผ่นดิน ผู้ซึ่ง "ไม่เคยให้โอกาสเขาที่จะป้องกันตัวเอง พวกเขาปลดออกจากตำแหน่งในทันที"[7]
การจี้ตัวประกัน
การขึ้นรถ
ขณะที่รถบัสทัวร์ของคังไท่ ทราเวล เซอร์วิส กำลังรับนักท่องเที่ยวจากฮ่องกงจำนวน 25 คนหน้าควิริโนแกรนด์สแตนด์ในสวนรีซัล มือปืน โรลันโด เมนโดซา พยายามที่จะตามนักท่องเที่ยวขึ้นไปบนรถและขอโดยสารฟรี เมื่อคนขับปฏิเสธความต้องการของเขา เมนโดซาได้ชักอาวุธของตนเองมา และใส่กุญแจมือคนขับเข้ากับพวงมาลัยและทำการจี้รถบัส[9] อย่างไรก็ตาม ผู้รอดชีวิต ลี อิก บิว ได้เล่าว่าการขึ้นรถนั้นเกิดขึ้นที่ฟอร์ตซานเตียโก[10][11] ข้อเท็จจริงดังกล่าวได้รับการยืนยันโดยคนขับ อัลเบร์โต ลูบัง ผู้ซึ่งกล่าวว่าเมนโดซาได้ประกาศเจตนาที่แท้จริงของเขาที่สวนรีซัล[12]
เมนโดซามีอาวุธปืนขนาดเล็กและไรเฟิลเอ็ม 16[13] แสดงความต้องการขอกลับเข้าทำงานในตำแหน่งเดิมพร้อมกับคืนสิทธิประโยชน์ให้แก่เขา พร้อมทั้งกล่าวว่าเขาถูกใส่ร้าย นายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา อัลเฟรโด ลิม กล่าวว่าเขาสามารถทำตามความปรารถนาของเมนโดซาที่จะกลับเข้าทำงานได้หากเขาสามารถพิสูจน์ตนเอง[14]
การเจรจา
อีกเกือบหนึ่งชั่วโมงต่อมา นักท่องเที่ยวฮ่องกงหกคนได้รับการปล่อยตัว:[15] หญิงชราซึ่งบ่นถึงความเจ็บปวดที่ท้องเป็นรายแรกที่ได้รับการปล่อยตัวจากรถบัส สามีของเธอและผู้ป่วยโรคเบาหวานคนหนึ่งในรับการปล่อยตัว จากนั้น หญิงวัยกลางคนและลูกอีกสองคนได้รับการป่อยตัว และเมื่อเธอออกมา เธอได้ขอให้เด็กคนที่สาม (เป็นเด็กชายวัย 12 ปี) ได้รับการปล่อยตัวเช่นกัน โดยอ้างว่าเด็กชายคนดังกล่าวเป็นลูกของเธอ ช่างภาพชาวฟิลิปปินส์สองคนขึ้นมาบนรถบัสและอาสาที่จะถูกจับเป็นตัวประกันแทนการปล่อยตัวก่อนหน้า ผู้ที่ได้รับการปล่อยตัวได้ถูกนำไปยังพื้นที่ตำรวจในสวนรีซัล[16]
จนถึงเวลาเที่ยง ตัวประกันอีกสี่คน (รวมไปถึงไกด์ทัวร์และช่างภาพอีกสองคน) ได้รับการปล่อยตัว ทำให้มีตัวประกันถูกปล่อยตัวไปแล้ว 10 คน นักข่าวทีวี 5 เออร์วิน ทัลโฟ ยังคงติดต่อกับเมนโดซาอย่างต่อเนื่อง โดยมีออร์ลันโด เยบรา ผู้อำนวยการ และโรเมโอ ซัลวาดอร์ หัวหน้าสารวัตร เป็นผู้นำการเจรจา ยังเหลือตัวประกันอีก 17 คนบนรถ[17] ในเวลานี้ สถานีโทรทัศน์หลายแห่ง (ABS-CBN, GMA, TV5 และ NBN) ได้ถ่ายทอดสดในมะนิลา TVB และ Cable TV ยังได้ถ่ายทอดสอดในฮ่องกงหลังเที่ยงเป็นต้นไป และด้วยการยืมใช้การเชื่อมต่อดาวเทียมจากเครือข่าย GMA ทำให้ CNN, Channel News Asia, และรอยเตอร์ สามารถถ่ายทอดข่าวไปได้ทั่วโลก [18]
สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดินไม่อนุญาตตามความต้องการของเมนโดซาที่จะรับเขากลับเข้ารับราชการตำรวจอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็ยืนยันกับเมนโดซาว่าคดีของเขาจะได้รับการพิจารณาใหม่ อิสโก โมเรโน รองนายกเทศมนตรีกรุงมะนิลา ส่งจดหมายจากผู้ตรวจการแผ่นดินมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุการณ์จี้ตัวประกันหลังจากดวงอาทิตย์ตกดิน[19] อย่างไรก็ตาม เมนโดซากล่าวถึงการตัดสินใจของผู้ตรวจการแผ่นดินว่าเป็น "ขยะ" และกล่าวว่าข้อความดังกล่าวมิได้ตอบสนองข้อเรียกร้องของเขา[20] นายกเทศมนตรีลิมกล่าวทางวิทยุท้องถิ่นว่าทางการตกลงที่จะรับเมนโดซากลับเข้ารับราชการและยุติวิกฤตดังกล่าว แต่ข้อความไม่สามารถส่งไปได้เนื่องจากการจราจรที่เลวร้าย[21][22]
เมื่อหน่วยสวาทของสถานีตำรวจมะนิลามาถึง เมนโดซาประกาศทางการสัมภาษณ์ทางวิทยุบน DZXL ว่าเขาจะสังหารผู้โดยสารและต้องการให้หน่วยสวาทออกจากพื้นที่[23] เกรโกรีโอ เมนโดซา น้องชายของเขา ตำแหน่งนายตำรวจอาวุโส-2 (SPO2 เทียบเท่าสิบโทในกองทัพบก) เดินออกไปหลังจากเจรจากับพี่ชาย เขากระตุ้นพี่ชายให้ยอมมอบตัวโดยสันติและกล่าวว่า "ไม่มีอะไรเกิดขึ้นที่นี่"[24] เกรกอรืโอถูกจับกุมหลังจากนั้น โดยกล่าวว่าเขามิได้ถูกร้องขอให้มีส่วนในการเจรจา และเขาฝ่าพื้นที่กีดกันในขณะที่มีอาวุธปืน[25][26] ประธานาธิบดีอากีโนกล่าวในภายหลังว่าน้องชายของมือปืนได้มีส่วนทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงโดยการสร้างความเกลียดชังต่อผู้เจรจา[21]
การโจมตี
หลังจากเมนโดซาเห็นน้องชายของตนถูกจับกุมทางทีวีและวิทยุบนรถบัสซึ่งถ่ายทอดสดทางสื่อ พบว่าเขามีอาการกระสับกระส่าย เขาคิดว่าเขาถูกยิงเตือนเมื่อเห็นน้องชายและลูกชายถูกฉุดออกไปโดยตำรวจ[27] เขาเรียกร้องผ่านทางการสัมภาษณ์ทางวิทยุให้ตำรวจปล่อยตัวน้องชายของเขา มิฉะนั้นเขาจะเริ่มการสังหารตัวประกัน เมนโดซาได้กล่าวอ้างในภายหลังสดทางวิทยุไม่นานก่อนที่ตำรวจจะจู่โจมและเขาได้ยิงตัวประกันไปสองคน[6][28]
กระสุนปืนนัดแรกยิงมาจากในรถบัสเมื่อเวลา 19.21 น. ในเวลาใกล้เคียงกัน มีรายงานว่าพลแม่นปืนได้ยิงยางรถบัสทำให้รถไม่สามารถเคลื่อนที่ต่อไปได้หลังจากพบว่ารถกำลังจะเคลื่อนที่ คนขับรถบัสสามารถหลบหนีออกมาได้เมื่อราว 19.30 น. และเล่าแก่ตำรวจว่าตัวประกันทั้งหมดบนรถถูกฆ่าแล้ว เขาได้ยอมรับในภายหลังว่าการสันนิษฐานของเขามาจากการได้เห็นเมนโดซายิงตัวประกันสามคนและยิงกระสุนออกไปไม่ทราบจำนวนบนรถบัส[12][25][29]
ทีมสวาทได้เริ่มล้อมรถบัสเมื่อเวลา 19.37 น.[29] ตำรวจได้พังกระจกรถบัสด้วยค้อนขนาดใหญ่และพยายามที่จะเข้าสู่ตัวรถ แต่ก็ไม่สามารถทำไดเนื่องจากถูกยิงขัดขวาง ความพยายามที่จะขึ้้นใช้เวลาไปกว่าหนึ่งชั่วโมง หลังจากนั้น ระเบิดแก๊สน้ำตาสี่ลูกได้ถูกโยนเข้ามาในรถเมื่อตำรวจพยายามที่จะเปิดประตูรถ ไม่มีตำรวจนายได้ทราบถึงที่เปิดประตูฉุกเฉิน ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและความพยายามของพวกเขา ความพยายามที่จะพังประตูเขามาโดยผูกเชือกเข้ากับยานพาหนะของตำรถทำให้เชือกกระชาก และกลายเป็นการดันประตูไปแทน[30] นักแม่นปืนตำรวจ ผู้ซึ่งเข้าตำแหน่งก่อนหน้านี้ ได้ยิงเมนโดซาเข้าที่หัวระหว่างการโจมตี ในเวลานั้น ตามที่โฆษกประธานาธิบดี เอ็ดวิน ลาเซียร์ดา มีตัวประกันอีกสี่คนที่ได้รับยืนยันว่าเสียชีวิต ตัวประกันอีกหกคนได้รับยืนยันว่ารอดชีวิตและไม่ได้รับบาดเจ็บสาหัส[31] มีรายงานว่ามีสองคนนอกรถ ได้แก่วิศวกรของ TVB วัย 47 ปีและเด็กผู้มุงดูเหตุการณ์ ได้รับลูกหลงบาดเจ็บจากกระสุนที่ยิงออกมา[9]
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 Carcamo, Dennis (2010-08-23). "Report: Disgruntled cop takes tourists hostage in Manila". The Philippine Star. Manila, Philippines. สืบค้นเมื่อ 2010-08-23.
A dismissed police official has taken hostage 25 passengers of a tourist bus, including some children, in Manila this morning, a radio report said.
{{cite web}}
: ระบุ|author=
และ|last=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์|month=
ถูกละเว้น (help) - ↑ "Manila hostage incident victim name list". Hong Kong's Information Services Department Press Release. 24 August 2010. สืบค้นเมื่อ 24 August 2010.
- ↑ Conde, Carlos (23 August 2010). "Gunman and 8 Hostages Dead in the Philippines". The New York Times. สืบค้นเมื่อ 24 August 2010.
- ↑ "Hong Kong bans Philippines travel after hijack deaths". BBC News. 2010-08-24. สืบค้นเมื่อ 24 August 2010.
- ↑ "PNP statement on the hostage-taking incident at Quirino Grandstand, August 23, 2010, as of 1:14 PM". Philippine National Police. สืบค้นเมื่อ 2010-08-23.
- ↑ 6.0 6.1 "Driver escapes, claims Chinese hostages killed". Philippine Daily Inquirer. 2010-08-23. สืบค้นเมื่อ 2010-08-23.
{{cite news}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|co-authors=
ถูกละเว้น (help) - ↑ 7.0 7.1 7.2 7.3 Robles, Alan (24 August 2010). "Disgrace of a model policeman thrown out of force for corruption", South China Morning Post
- ↑ Papa, Alcuin (2010-08-23). "Who is this hostage-taking cop?". Philippine Daily Inquirer. สืบค้นเมื่อ 2010-08-23.
- ↑ 9.0 9.1 Natalie Wong (2010-08-24). "Tour leader calmly sent SOS to office". The Standard. Hong Kong. สืบค้นเมื่อ 2010-08-24.
- ↑ "英勇与怯懦 就这一瞬间 (Translation: Bravery and Cowardice in a Blink of an Eye)". Jinling Evening News (via Wangyi News) (ภาษาSimplified Chinese). 27 August 2010. สืบค้นเมื่อ 27 August 2010.
{{cite news}}
: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์) - ↑ "甩身李太曾想再登旅巴 (Translation: Released Mrs. Lee Wanted to Re-Board the Tour Bus)". Apple Daily (ภาษาTraditional Chinese). 27 August 2010. สืบค้นเมื่อ 27 August 2010.
{{cite news}}
: CS1 maint: unrecognized language (ลิงก์) - ↑ 12.0 12.1 "Bus driver: Hostage-taker got mad after brod's arrest". ABS-CBN News. 2010-08-24. สืบค้นเมื่อ 2010-08-24.
- ↑ Chong, Dennis (August 26, 2010). "Police may go it alone in deaths probe", The Standard (Hong Kong)
- ↑ Carcamo, Dennis (2010-08-23). "Lim calls for review of Manila hostage-taker's case". Manila, Philippines: The Philippine Star. สืบค้นเมื่อ 2010-08-23.
Manila mayor Alfredo Lim has called for a review of the case involving a disgruntled former police officer who hijacked a tourist bus with 25 people on board today at the Luneta Grandstand.
{{cite web}}
: ระบุ|author=
และ|last=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์|month=
ถูกละเว้น (help) - ↑ Carcamo, Dennis (2010-08-23). "6 freed in Manila hostage drama". The Philippine Star. Manila, Philippines. สืบค้นเมื่อ 2010-08-23.
Six hostages, including three children have been released to police by a dismissed police officer who took hijacked a bus carrying 25 tourists n Manila, a radio report said.
{{cite web}}
: ระบุ|author=
และ|last=
มากกว่าหนึ่งรายการ (help); ไม่รู้จักพารามิเตอร์|month=
ถูกละเว้น (help) - ↑ "Ex-cop holds tourist bus passengers hostage in Manila". GMANews.tv. 2010-08-23. สืบค้นเมื่อ 2010-08-23.
- ↑ "9th hostage freed, 17 others left onboard bus". Philippine Daily Inquirer, INQUIRER.net. 2010-08-23. สืบค้นเมื่อ 2010-08-23.
{{cite news}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|coauthors=
ถูกละเว้น แนะนำ (|author=
) (help) - ↑ แม่แบบ:Zh-tw icon "菲人質事件陷僵局 槍手貼出字條「3p.m. dead lock」". Radio Taiwan International. 2010-08-23. สืบค้นเมื่อ 2010-08-24.
- ↑ "Policeman's demand for reinstatement nixed". Philippine Daily Inquirer. INQUIRER.net. 2010-08-23. สืบค้นเมื่อ 2010-08-23.
{{cite news}}
: ไม่รู้จักพารามิเตอร์|coauthors=
ถูกละเว้น แนะนำ (|author=
) (help) - ↑ http://www.abs-cbnnews.com/-depth/08/24/10/bus-driver-hostage-taker-got-mad-after-brods-arrest
- ↑ 21.0 21.1 Chong, Dennis &agencies (August 25, 2010). "Letter reinstating Mendoza stuck in traffic", The Standard
- ↑ "Police were ready to reinstate hostage-taker at the last minute", Manila Standard Today
- ↑ "Police hostage-taker threatens to kill hostages". Agence France Presse. INQUIRER.net. 2010-08-23. สืบค้นเมื่อ 2010-08-23.
- ↑ Andrade, Jeannette (2010-08-23). "Hostage-taking cop's brother walks out of negotiations". Philippine Daily Inquirer. สืบค้นเมื่อ 2010-08-23.
- ↑ 25.0 25.1 "Shots fired in Manila hostage crisis — report". GMANews.tv. 2010-08-23. สืบค้นเมื่อ 2010-08-23.
- ↑ "President Aquino: SPO2 Gregorio Mendoza in custody". ANC News. 2010-08-23. สืบค้นเมื่อ 2010-08-23.
- ↑ "Dismissed cop kills most of Chinese hostages—tourist bus driver". INQUIRER.net. 2010-08-23. สืบค้นเมื่อ 2010-08-28.
- ↑ "Gunman tells live radio he shot two Hong Kong hostages". Agence France Presse. INQUIRER.net. 2010-08-23. สืบค้นเมื่อ 2010-08-23.
- ↑ 29.0 29.1 Abella, Jerrie, Pia Faustino, et al. (2010-08-24). Massacre in nation's heart: Timeline of Manila bus siege. GMA News. Retrieved 2010-08-26.
- ↑ "Assault starts vs Manila hostage-taker — report". GMANews.tv. 2010-08-23. สืบค้นเมื่อ 2010-08-23.
{{cite news}}
:|first=
ไม่มี|last=
(help); ข้อความ "last-Edep" ถูกละเว้น (help) - ↑ "Hostage crisis ends in bloody carnage; 4 hostages dead". GMANews.tv. 2010-08-23. สืบค้นเมื่อ 2010-08-23.
{{cite news}}
:|first=
ไม่มี|last=
(help); ข้อความ "last-Abella" ถูกละเว้น (help)