ผลต่างระหว่างรุ่นของ "สาราลา ตามาง"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 33: บรรทัด 33:


==การเปลี่ยนแปลงการปกครองเนปาล==
==การเปลี่ยนแปลงการปกครองเนปาล==
หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองในเนปาล ได้มีการถอดถอน[[สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทรวีรวิกรมศาหเทวะ]] พระราชนัดดาใน[[สมเด็จพระราชาธิบดีตริภุวนวีรพิกรมศาหเทวะ]] ลงจากตำแหน่งประมุขแห่งรัฐ ยกเลิกระบอบการปกครองแบบราชาธิปไตยเป็นประชาธิปไตย<ref>{{cite news|url=http://news.bbc.co.uk/2/hi/south_asia/7163034.stm|title=Vote to abolish Nepal's monarchy|publisher=[[BBC News]]|date=2007-12-28|accessdate=2010-08-13}}</ref> พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ถูกลดพระอิสริยยศเป็นสามัญชน และให้เหล่าพระบรมวงศานุวงศ์เนปาลให้ออกจากพระราชวังนารายันหิติ ซึ่งจะมีการดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ<ref>{{cite web |url=http://www.depers.nl/buitenland/212786/Koninklijk-paleis-van-Nepal-wordt-museum.html|title=Koninklijk paleis van Nepal wordt museum|accessdate=2010-09-6|work=DePers.nl|date=maandag 16 juni 2008 13:32}}</ref> โดย[[สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทรวีรวิกรมศาหเทวะ|สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทร]]พร้อมด้วย[[สมเด็จพระราชินีโกมลราชยลักษมีเทวีศาหะ|สมเด็จพระราชินีโกมล]] ได้เสด็จออกจากพระราชวังนารายันหิติก่อนหน้าเส้นตาย 1 วัน โดยได้อาศัยอยู่ในพระราชวังฤดูร้อนนาคารชุนะ (Nagarjuna) ซึ่งอยู่ชานเมือง ส่วนมกุฎราชกุมารแห่งเนปาลได้อาศัยอยู่ในบ้านส่วนพระองค์กลางกรุงของสมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทรา แต่รัฐบาลเนปาลก็อนุญาตให้[[สมเด็จพระราชินีรัตนาราชยลักษมีเทวีศาหะ|สมเด็จพระราชินีรัตนาในสมเด็จพระราชาธิบดีมเหนทรวีรวิกรมศาหเทวะ]] พำนักภายในพระราชวังนารายันหิติได้ โดยให้พำนักในพระตำหนักมเหนทรมันซิล ที่มีพื้นที่เพียง 30 เฮกตาร์<ref name="สาราลา"/> ส่วนนางสาราลาก็ได้ถูกเรียกตัวให้กลับไปพำนัก ณ เรือนหลังเล็กสีขาว ภายในพระราชวังนารายันหิติได้ เนื่องจากเหล่ารัฐมนตรีให้เหตุผลว่า ''"เธอไม่มีครอบครัวและไม่มีทรัพย์สมบัติ"''<ref name="สาราลา"/> และเห็นว่าทั้งสองคนชราภาพมากแล้ว<ref>[http://www.tiewnepal.com/show_article.php?a_id=61&view=1 อดีตประมุขเนปาล ทิ้งวัง-เคลียร์ข่าวลืออดีต]</ref><ref>[http://beacononline.wordpress.com/2008/06/10/former-queen-mother-allowed-to-stay-in-palace/#more-2626 Former queen mother allowed to stay in palace] Barun Roy on June 10, 2008</ref>
หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองในเนปาล ได้มีการถอดถอน[[สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทรวีรวิกรมศาหเทวะ]] พระราชนัดดาใน[[สมเด็จพระราชาธิบดีตริภุวนวีรพิกรมศาหเทวะ]] ลงจากตำแหน่งประมุขแห่งรัฐ ยกเลิกระบอบการปกครองแบบราชาธิปไตยเป็นสาธารณรัฐ<ref>{{cite news|url=http://news.bbc.co.uk/2/hi/south_asia/7163034.stm|title=Vote to abolish Nepal's monarchy|publisher=[[BBC News]]|date=2007-12-28|accessdate=2010-08-13}}</ref> พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ถูกลดพระอิสริยยศเป็นสามัญชน และให้เหล่าพระบรมวงศานุวงศ์เนปาลให้ออกจากพระราชวังนารายันหิติ ซึ่งจะมีการดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ<ref>{{cite web |url=http://www.depers.nl/buitenland/212786/Koninklijk-paleis-van-Nepal-wordt-museum.html|title=Koninklijk paleis van Nepal wordt museum|accessdate=2010-09-6|work=DePers.nl|date=maandag 16 juni 2008 13:32}}</ref> โดย[[สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทรวีรวิกรมศาหเทวะ|สมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทร]]พร้อมด้วย[[สมเด็จพระราชินีโกมลราชยลักษมีเทวีศาหะ|สมเด็จพระราชินีโกมล]] ได้เสด็จออกจากพระราชวังนารายันหิติก่อนหน้าเส้นตาย 1 วัน โดยได้อาศัยอยู่ในพระราชวังฤดูร้อนนาคารชุนะ (Nagarjuna) ซึ่งอยู่ชานเมือง ส่วนมกุฎราชกุมารแห่งเนปาลได้อาศัยอยู่ในบ้านส่วนพระองค์กลางกรุงของสมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทรา แต่รัฐบาลเนปาลก็อนุญาตให้[[สมเด็จพระราชินีรัตนาราชยลักษมีเทวีศาหะ|สมเด็จพระราชินีรัตนาในสมเด็จพระราชาธิบดีมเหนทรวีรวิกรมศาหเทวะ]] พำนักภายในพระราชวังนารายันหิติได้ โดยให้พำนักในพระตำหนักมเหนทรมันซิล ที่มีพื้นที่เพียง 30 เฮกตาร์<ref name="สาราลา"/> ส่วนนางสาราลาก็ได้ถูกเรียกตัวให้กลับไปพำนัก ณ เรือนหลังเล็กสีขาว ภายในพระราชวังนารายันหิติได้ เนื่องจากเหล่ารัฐมนตรีให้เหตุผลว่า ''"เธอไม่มีครอบครัวและไม่มีทรัพย์สมบัติ"''<ref name="สาราลา"/> และเห็นว่าทั้งสองคนชราภาพมากแล้ว<ref>[http://www.tiewnepal.com/show_article.php?a_id=61&view=1 อดีตประมุขเนปาล ทิ้งวัง-เคลียร์ข่าวลืออดีต]</ref><ref>[http://beacononline.wordpress.com/2008/06/10/former-queen-mother-allowed-to-stay-in-palace/#more-2626 Former queen mother allowed to stay in palace] Barun Roy on June 10, 2008</ref>


==อ้างอิง==
==อ้างอิง==

รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:21, 6 กันยายน 2553

สาราลา ตามัง
Sarala Tamang
เกิดสาราลา ตามัง
พ.ศ. 2457 (อายุ 110 ปี)
เนปาล ประเทศเนปาล
สัญชาติเนปาล
มีชื่อเสียงจากพระสนมในสมเด็จพระราชาธิบดีตริภุวนวีรพิกรมศาหเทวะที่ยังมีชีวิตอยู่หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในเนปาล
คู่สมรสสมเด็จพระราชาธิบดีตริภุวนวีรพิกรมศาหเทวะ

สาราลา ตามัง (Sarala Tamang) หรือ สาราลา โครขาลี (Sarala Gorkhali) อดีตพระสนมในสมเด็จพระราชาธิบดีตริภุวนวีรพิกรมศาหเทวะ[1] พระมหากษัตริย์แห่งเนปาล ซึ่งครองราชย์ในช่วงปี ค.ศ. 19111950 (ครั้งแรก) และ ค.ศ. 19511955 (ครั้งที่สอง) โดยสมเด็จพระราชาธิบดีตริภุวนวีรพิกรมศาหเทวะทรงเป็นพระปัยกาในสมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทรวีรวิกรมศาหเทวะ พระมหากษัตริย์องค์สุดท้ายแห่งเนปาล และนางสาราลาเองก็ถือเป็นพระสนมคนสุดท้ายของสมเด็จพระราชาธิบดีตริภุวนวีรพิกรมศาหเทวะที่ยังมีชีวิตอยู่

ประวัติ

นางสาราลา ตามัง เกิดในครอบครัวเชื้อสายชนเผ่าตามัง โดยเธอเข้ารับราชการเป็นพระสนมแก่พระมหากษัตริย์ตั้งแต่เธอยังเป็นสาวสะพรั่ง และเป็นที่ยอมรับกันว่าสมเด็จพระราชาธิบดีตริภุวนวีรพิกรมศาหเทวะ ทรงมีพระสนมกว่า 100 คน ในช่วงปี ค.ศ. 1940[2] ต่อมาเมื่อสมเด็จพระราชาธิบดีตริภุวนวีรพิกรมศาหเทวะ เสด็จสวรรคต ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ในปี ค.ศ. 1955 นางสาราลาก็ยังพำนักอยู่ในเรือนเล็กสีขาวภายในพระราชวังนารายันหิติตลอดมา ซึ่งแท้จริงแล้วเธอสามารถอยู่ภายในพระราชวังได้ตามกฎหมาย เนื่องจากเธอเป็นพระสนมคนโปรดของอดีตกษัตริย์[2]

ชีวิตหลังการสวรรคตของสวามี

หลังจากการสวรรคตของสมเด็จพระราชาธิบดีตริภุวนวีรพิกรมศาหเทวะ เธอยังคงพำนักอยู่ในเรือนเล็กของพระราชวังตามเดิม แต่วิถีชีวิตในพระราชวังของเธอก็ไม่ได้มีความสุขเลย เนื่องจากพระบรมวงศานุวงศ์เนปาลไม่ยอมรับในตัวเธอ มีการมอบเสื้อผ้าพื้นๆให้เธอนุ่งห่ม และอาหารจำนวนเล็กน้อยให้เธอรับประทาน[2] โดยท้ายที่สุดเธอจึงออกมาจากพระราชวังและพำนักที่วัดซึ่งตั้งอยู่ภายในพระราชวังหนุมานโธกาที่อยู่ห่างไม่กี่กิโลเมตร

การเปลี่ยนแปลงการปกครองเนปาล

หลังจากการเปลี่ยนแปลงการปกครองในเนปาล ได้มีการถอดถอนสมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทรวีรวิกรมศาหเทวะ พระราชนัดดาในสมเด็จพระราชาธิบดีตริภุวนวีรพิกรมศาหเทวะ ลงจากตำแหน่งประมุขแห่งรัฐ ยกเลิกระบอบการปกครองแบบราชาธิปไตยเป็นสาธารณรัฐ[3] พระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์ถูกลดพระอิสริยยศเป็นสามัญชน และให้เหล่าพระบรมวงศานุวงศ์เนปาลให้ออกจากพระราชวังนารายันหิติ ซึ่งจะมีการดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ[4] โดยสมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทรพร้อมด้วยสมเด็จพระราชินีโกมล ได้เสด็จออกจากพระราชวังนารายันหิติก่อนหน้าเส้นตาย 1 วัน โดยได้อาศัยอยู่ในพระราชวังฤดูร้อนนาคารชุนะ (Nagarjuna) ซึ่งอยู่ชานเมือง ส่วนมกุฎราชกุมารแห่งเนปาลได้อาศัยอยู่ในบ้านส่วนพระองค์กลางกรุงของสมเด็จพระราชาธิบดีชญาเนนทรา แต่รัฐบาลเนปาลก็อนุญาตให้สมเด็จพระราชินีรัตนาในสมเด็จพระราชาธิบดีมเหนทรวีรวิกรมศาหเทวะ พำนักภายในพระราชวังนารายันหิติได้ โดยให้พำนักในพระตำหนักมเหนทรมันซิล ที่มีพื้นที่เพียง 30 เฮกตาร์[2] ส่วนนางสาราลาก็ได้ถูกเรียกตัวให้กลับไปพำนัก ณ เรือนหลังเล็กสีขาว ภายในพระราชวังนารายันหิติได้ เนื่องจากเหล่ารัฐมนตรีให้เหตุผลว่า "เธอไม่มีครอบครัวและไม่มีทรัพย์สมบัติ"[2] และเห็นว่าทั้งสองคนชราภาพมากแล้ว[5][6]

อ้างอิง

  1. "Koninklijke concubine blijft in paleis Kathmandu". DePers.nl. woensdag 11 juni 2008 17:12. สืบค้นเมื่อ 2010-09-6. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  2. 2.0 2.1 2.2 2.3 2.4 "Secret royal concubine, 94, to remain at palace". Hannah Gardner, Foreign Correspondent. June 13. 2008 4:31AM UAE / June 13. 2008 12:31AM GMT. สืบค้นเมื่อ 2010-09-5. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  3. "Vote to abolish Nepal's monarchy". BBC News. 2007-12-28. สืบค้นเมื่อ 2010-08-13.
  4. "Koninklijk paleis van Nepal wordt museum". DePers.nl. maandag 16 juni 2008 13:32. สืบค้นเมื่อ 2010-09-6. {{cite web}}: ตรวจสอบค่าวันที่ใน: |accessdate= และ |date= (help)
  5. อดีตประมุขเนปาล ทิ้งวัง-เคลียร์ข่าวลืออดีต
  6. Former queen mother allowed to stay in palace Barun Roy on June 10, 2008