ผลต่างระหว่างรุ่นของ "คำสร้างใหม่"
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ล แจ้งต้องการตรวจลิขสิทธิ์ด้วยสจห. |
ปรับปรุง |
||
บรรทัด 1: | บรรทัด 1: | ||
{{ตรวจลิขสิทธิ์}} |
|||
การบัญญัติศัพท์ |
|||
'''การบัญญัติศัพท์''' คือการสร้างคำใหม่ ที่อาจเริ่มมีการใช้งานทั่วไป แต่อาจยังไม่เป็นที่ยอมรับในภาษาทั่วไป การบัญญัติศัพท์ ขึ้นมาอาจเพื่อความเฉพาะเจาะจง เกี่ยวกับคน การเผยแพร่ เวลา หรือเหตุการณ์ |
|||
การบัญญัติศัพท์ คือ การคิดค้นคำที่เหมาะสมและสอดคล้องกับลักษณะเฉพาะของภาษาไทยเพื่อให้คนไทยเข้าใจในความหมายตรงกันและเพื่อใช้ติดต่อสื่อสารกับประเทศต่างๆได้ |
|||
ในประเทศไทย[[ราชบัณฑิตยสถาน]]มีหน้าที่บัญญัติศัพท์ และมีคณะกรรมการบัญญัติศัพท์สาขาวิชาต่างๆ เช่น คณะกรรมการบัญญัติศัพท์ปรับอากาศ คณะกรรมการบัญญัติศัพท์วิทยาศาสตร์ คณะอนุกรรมการบัญญัติศัพท์แพทย์ และคณะกรรมการบัญญัติศัพท์พิมพ์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานทางด้านวิทยาการและเทคโนโลยีจาก ต่างประเทศเข้ามา และได้บัญญัติศัพท์เฉพาะขึ้นมาใช้เอง เช่น คณะกรรมการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย คณะกรรมการพิจารณาศัพท์วิชาการศึกษาของกรมวิชาการ [[กระทรวงศึกษาธิการ]] และกรรมการพิจารณาศัพท์วิชาการของกรมวิชาการ |
|||
อย่างราบรื่น การบัญญัติศัพท์ถือได้ว่าเป็นภูมิปัญญาของคนไทยในการป้องกันมิให้ภาษาต่างประเทศทั้งหลายเข้ามาปะปนกับภาษาไทยมากจนทำให้ลักษณะเฉพาะของภาษาไทย |
|||
เสียไป โดยเหตุที่ประเทศไทยมีความสัมพันธ์กับต่างประเทศในด้านต่าง เช่น ทางด้านการค้าขาย ทางการทูต ฯลฯ มาตั้งแต่โบราณจึงทำให้มีคำศัพท์ในภาษาต่างประเทศเข้ามาปะปน |
|||
[[หมวดหมู่:ภาษา]] |
|||
กับคำไทยเป็นจำนวนมาก เมื่อวิทยาการต่างๆ เจริญก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว คำศัพท์จากต่างประเทศที่จำเป็นต้องใช้ก็มีเพิ่มจำนวนมากขึ้นเป็นเงาตามตัว การที่เราจะนำคำในภาษา |
|||
[[en:Neologism]] |
|||
ต่างประเทศมาทับศัพท์ใช้ก็ยังสื่อความหมายได้ไม่ชัดเจน ทั้งที่คำทับศัพท์เหล่านี้นั้นก็ดูไม่เป็นภาษาไทยนัก ดังนั้นการบัญญัติศัพท์จึงเกิดด้วยสาเหตุนี้ |
|||
เหตุแห่งการบัญญัติศัพท์ |
|||
การบัญญัติศัพท์มีสาเหตุอันเนื่องมาจากปัจจัย ๓ ประการ |
|||
๑.ความเจริญก้าวหน้าทางด้านวิทยาการเทคโนโลยีในสาขาต่างๆ เช่น ทางด้านการแพทย์ ทางด้านการศึกษา ทางด้านสังคมศาสตร์และทางด้านวิศวกรรมศาสตร์ เป็นต้น การรับ |
|||
ความเจริญก้าวหน้าดังกล่าวนี้เข้ามาย่อมมีคำศัพท์ภาษาต่างประเทศเข้ามาด้วย จึงต้องคิดศัพท์บัญญัติขึ้นมาใช้แทน เช่น |
|||
Statistics สถิติศาสตร์ |
|||
Chemical Equivalent สมมูลเคมี |
|||
Coeducation สหศึกษา เป็นต้น |
|||
๒.การประดิษฐ์คิดค้นสิ่งของวัตถุที่ยังใหม่ และไม่มีชื่อเรียกในภาษาไทย เช่น |
|||
Telephone โทรศัพท์มือถือ |
|||
Socket เต้ารับ เป็นต้น |
|||
๓.การเผยแพร่วัฒนธรรม และ การแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมระหว่าง ประเทศไทยกับต่างประเทศ ทำให้ได้รับคำศัพท์จากวัฒนธรรมหลากหลายสาขา เช่น ดนตรี ศิลปะ กีฬา ฯลฯ เช่น |
|||
Pizza พิซซ่า |
|||
Football ฟุตบอล เป็นต้น |
|||
ราชบัณฑิตยสถานมีหน้าที่บัญญัติศัพท์ และมีคณะกรรมการบัญญัติศัพท์สาขาวิชาต่างๆ เช่น คณะกรรมการบัญญัติศัพท์ปรับอากาศ คณะกรรมการบัญญัติศัพท์วิทยาศาสตร์ คณะ |
|||
อนุกรรมการบัญญัติศัพท์แพทย์ และคณะกรรมการบัญญัติศัพท์พิมพ์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานเฉพาะขององค์กรบางที่ที่รับวิทยาการและเทคโนโลยีจากต่างประเทศเข้ามา |
|||
และได้บัญญัติศัพท์เฉพาะขึ้นมาใช้เอง เช่น คณะกรรมการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย คณะกรรมการพิจารณาศัพท์วิชาการศึกษาของกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ และ |
|||
คณะกรรมการจัดทำศัพท์สรีรวิทยาของสรีรวิทยาสมาคมแห่งประเทศไทย เป็นต้น ด้วยเหตุนี้จึงมีเกณฑ์การบัญญัติแตกต่างกัน ในที่นี้จะยึดของราชบัณฑิตยสถานและคณะของคณะ |
|||
กรรมการพิจารณาศัพท์วิชาการของกรมวิชาการ |
|||
ราชบัณฑิตยสถานมีหลักในการบัญญัติศัพท์ ๓ ประการ ดังนี้ |
|||
๑. คิดค้นขึ้นใหม่โดยหาคำภาษาไทยมาประกอบกันเป็นคำศัพท์เป็นลำดับแรก ซึ่งจะต้องเป็นคำศัพท์ที่สั้น กะทัดรัด และไม่มีลักษณะเป็นคำนิยาม |
|||
๒. หากหาคำภาษาไทยที่เหมาะสมหรือมีความหมายตรงตามคำศัพท์เดิมไม่ได้ จึงนำคำภาษาบาลีหรือภาษาสันสกฤตที่ใช้กันอย่างแพร่หลายแล้วในภาษาไทยมาประกอบ |
|||
เป็นคำศัพท์ขึ้น วิธีนี้จะทำเมื่อจำเป็นหรือหลีกเลี่ยงไม่ได้เท่านั้น |
|||
๓. หากไม่สามารถหาคำภาษาไทย คำภาษาบาลีหรือภาษาสันสกฤตที่สื่อความหมายได้ใกล้เคียงหรือถูกต้องได้ และคำศัพท์เดิมนั้น เป็นคำที่ใช้ทับศัพท์จนเป็นที่นิยมคุ้น |
|||
เคยในภาษาไทยแล้วก็ให้ใช้วิธีทับศัพท์ คำศัพท์เดิมนี้มักเป็นคำศัพท์ภาษาอังกฤษ |
|||
คณะกรรมการพิจารณาศัพท์วิชาการการศึกษามีหลักในการบัญญัติศัพท์ดังนี้ |
|||
๑. พิจารณาความหมายของคำศัพท์เดิม แล้วบัญญัติศัพท์ที่มีความหมายใกล้เคียงกับความหมายเดิม ซึ่งมีวิธีการบัญญัติศัพท์ดังนี้ |
|||
๑.๑ เลือกใช้คำหรือกลุ่มคำภาษาไทย เช่น |
|||
Accelerate บัญญัติว่า เร่ง |
|||
Co – ordination บัญญัติว่า การประสาน เป็นต้น |
|||
๑.๒ เลือกใช้คำภาษาบาลี ภาษาสันสกฤตที่คนไทยคุ้นเคยและออกเสียงได้สะดวก เช่น |
|||
Human บัญญัติว่า มนุษย์ |
|||
Behavior บัญญัติว่า พฤติกรรม เป็นต้น |
|||
๑.๓ บัญญัติศัพท์ด้วยการสมาสหรือสนธิ เช่น |
|||
Bibliography บัญญัติว่า บรรณานุกรม |
|||
Concept บัญญัติว่า มโนภาพ เป็นต้น |
|||
๑.๔ บัญญัติด้วยการทับศัพท์ เช่น |
|||
Id บัญญัติว่า อิด เป็นต้น |
|||
๑.๕ เลียนเสียงคำศัพท์เดิม ด้วยการนำคำภาษาบาลีภาษาสันสกฤตที่มีความหมายเหมือนกับคำศัพท์เดิม เช่น |
|||
Innovation บัญญัติว่า นวตกรรม เป็นต้น |
|||
๑.๖ สร้างคำใหม่ด้วยคำภาษาบาลีภาษาสันสกฤต เช่น |
|||
Gift บัญญัติว่า ทายวุฒิ เป็นต้น |
|||
๑.๗ แปลความหมายตรงตัว เช่น |
|||
Field Work บัญญัติว่า งานสนาม เป็นต้น |
|||
๑.๘ ถ่ายทอดจากคำศัพท์เดิม เช่น |
|||
ccerditing บัญญัติว่า วิธีการดำเนินการรับ |
|||
รองวิทยฐานะ เป็นต้น |
|||
๒. ยึดหลักการออกเสียงของกรุงเทพมหานครเป็นเกณฑ์ |
|||
๓. พยายามบัญญัติศัพท์ให้คำศัพท์หนึ่ง มีหนึ่งความหมาย หากศัพท์บัญญัติคำเดียวมีหลายความหมายก็อาจบัญญัติศัพท์หลายคำได้ |
|||
๔. ศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่มีความหมายไม่ตรงกับคำศัพท์ที่คนไทยใช้คำเดียว ก็ต้องบัญญัติศัพท์ขึ้นใหม่ให้ตรงกับศัพท์ภาษาอังกฤษและให้ใกล้เคียงกับศัพท์ไทยด้วยเช่น |
|||
Attitude ไทยว่า คติ ซึ่งไม่ตรงกับศัพท์ต้นบัญญัติ จึงต้องบัญญัติใหม่ว่า ทัศนคติ และต่อมาบัญญัติใหม่ว่า เจตคติ เป็นต้น |
|||
การเพิ่มจำนวนคำในภาษาจะด้วยวิธีการสร้างคำแบบใดก็ตาม ล้วนเพื่อสนองความต้องการในการสื่อสารของมนุษย์ การเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงทางสังคม การขยายตัว และความ |
|||
เจริญก้าวหน้าของวิทยาการและเทคโนโลยีทั้งสิ้น |
|||
ที่มา ผศ.จรรยา ทองดี |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 12:33, 29 กรกฎาคม 2553
การบัญญัติศัพท์ คือการสร้างคำใหม่ ที่อาจเริ่มมีการใช้งานทั่วไป แต่อาจยังไม่เป็นที่ยอมรับในภาษาทั่วไป การบัญญัติศัพท์ ขึ้นมาอาจเพื่อความเฉพาะเจาะจง เกี่ยวกับคน การเผยแพร่ เวลา หรือเหตุการณ์
ในประเทศไทยราชบัณฑิตยสถานมีหน้าที่บัญญัติศัพท์ และมีคณะกรรมการบัญญัติศัพท์สาขาวิชาต่างๆ เช่น คณะกรรมการบัญญัติศัพท์ปรับอากาศ คณะกรรมการบัญญัติศัพท์วิทยาศาสตร์ คณะอนุกรรมการบัญญัติศัพท์แพทย์ และคณะกรรมการบัญญัติศัพท์พิมพ์ เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีหน่วยงานทางด้านวิทยาการและเทคโนโลยีจาก ต่างประเทศเข้ามา และได้บัญญัติศัพท์เฉพาะขึ้นมาใช้เอง เช่น คณะกรรมการวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย คณะกรรมการพิจารณาศัพท์วิชาการศึกษาของกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ และกรรมการพิจารณาศัพท์วิชาการของกรมวิชาการ