ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระคเณศ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Xqbot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต เพิ่ม: als:Ganesha
Jessica cando (คุย | ส่วนร่วม)
ไม่มีความย่อการแก้ไข
บรรทัด 119: บรรทัด 119:
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
== แหล่งข้อมูลอื่น ==
{{commonscat|Ganesha}}
{{commonscat|Ganesha}}
* [http://www.thaibuddhiststore.com/%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%9B%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%AD%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B9%86/%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B9-%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%9E%E0%B8%B4%E0%B8%86%E0%B9%80%E0%B8%99%E0%B8%A8 ธนารัตนโชติสังฆภัณฑ์] หนูบริวาร ของพระพิฆเนศ

* [http://www.siamganesh.com พระพิฆเณศ 32 ปาง]
* [http://www.siamganesh.com พระพิฆเณศ 32 ปาง]
* [http://www.siamganesh.com/brahma.html วัดเทพมณเฑียร วัดแขกสีลม โบสถ์พราหมณ์]
* [http://www.siamganesh.com/brahma.html วัดเทพมณเฑียร วัดแขกสีลม โบสถ์พราหมณ์]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 23:37, 1 มิถุนายน 2553

พระคเณศ
จำพวกเทวะ
อาวุธงาช้าง กระโหลก ขวาน บ่วงบาศ
สัตว์พาหนะหนู

พระพิฆเนศวร (ภาษาสันสกฤต : คเณศ) หรือ พระพิฆเนศ หรือ พระพิฆเณศ หรือ พระวิฆเณศวร หรือ พระพิฆเณศ หรือ พระคเณศ หรือ คณปติ เป็นเทพในศาสนาพราหมณ์ นับถือว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความรู้ เป็นผู้มีปัญญาเป็นเลิศ ปราดเปรื่องในศิลปวิทยาทุกแขนง เป็นหัวหน้านำคณะข้ามความขัดข้อง (ผู้เป็นใหญ่เหนือความขัดข้อง)

พระพิฆเนศวรกับประเทศไทย

ในประเทศไทยจะเห็นได้ว่ามีการบูชาเทพองค์ต่างๆในศาสนาพราหมณ์อยู่มากมาย รวมทั้งองค์พระพิฆเณศ ซึ่งอยู่คู่กับคนไทยมาช้านาน ดูได้จากการพบรูปสลักพระพิฆเณศในเทวสถานตามเมืองต่างๆ ทั่วทั้งประเทศไทย โดยมีหลักฐานการค้นพบองค์เทวรูปบูชาพระพิฆเณศที่เก่าแก่ในสมัยที่ขอมเรืองอำนาจในดินแดนสุวรรณภูมิ เป็นต้นว่าองค์เทวรูปบูชานั้นสลักจากหิน ค้นพบทางแถบจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งจัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร กรุงเทพฯ

คนไทยถือว่าองค์พระพิฆเนศวรเป็นที่เคารพสักการะในฐานะองค์บรมครูแห่งศิลปวิทยาการ 18 ประการ โดยคนไทยยอมรับในองค์พระพิฆเนศวรให้เป็นเทพแห่งศิลปะทั้งมวล และเป็นเทพองค์สำคัญในการประกอบพิธีกรรมต่างๆ ซึ่งทางศาสนาพราหมณ์ได้สถาปนาพระพิฆเนศวร เป็นเทพพระองค์แรกที่ต้องบูชาก่อนเริ่มพิธีใดๆ เป็นการคารวะในฐานะบรมครูผู้ประสาทปัญญาและความสำเร็จ สามารถขจัดอุปสรรคทั้งปวงให้หมดสิ้นไป กิจการทุกอย่างจึงสำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี หน่วยงานราชการกรมศิลปากรและมหาวิทยาลัยศิลปากรจึงได้ถือเอาพระพิฆเนศวรเป็นสัญลักษณ์

พระพิฆเนศวรเป็นโอรสของพระอิศวรและพระอุมาเทวี มีรูปกายเป็นมนุษย์ มีเศียรเป็นช้าง ทุกคนเคารพนับถือท่านในฐานะที่ท่านเป็น "วิฆเนศ" นั่นคือ เจ้า (อิศ) แห่งอุปสรรค (วิฆณ) เพราะเจ้าแห่งอุปสรรค ที่สามารถปลดปล่อยอุปสรรคได้ และอีกความหมายถึง ท่านเป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จในทุกศาสตร์สรรพสิ่งหรือเทพเจ้าแห่งการเริ่มต้นใหม่ทั้งปวง เมื่อพิจารณาความหมายในทางสัญญะ รูปกายที่อ้วนพีนั้นมีความหมายว่า ความอุดมสมบูรณ์ เศียรที่เป็นช้างมีความหมาย หมายถึงผู้มีปัญญามาก ตาที่เล็กคือ สามารถมอง แยกแยะสิ่งถูกผิด หูและจมูกที่ใหญ่หมายถึง มีสัมผัสพิจารณา ที่ดีเลิศ พระพิฆเนศวรมีพาหนะคือ หนู ซึ่งอาจเปรียบได้กับความคิด ที่พุ่งพล่าน รวดเร็ว ดังนั้น มนุษย์จึงต้องมีปัญญากำกับเป็นดั่งเจ้านายในใจตน

ลักษณะของพระพิฆเนศวร

มีรูปกายเป็นมนุษย์อ้วนเตี้ย ท้องพลุ้ย มีเศียรเป็นช้าง มีงาข้างเดียว (ถูกขวาน ปรศุรามหักเสียงา) สีกายสีแดง (บางแห่งว่าผิวเหลือง นุ่งห่มแดง) มีสี่กร พระหัตถ์หน้าขวาถืองาช้าง พระหัตถ์ซ้ายถือขันน้ำมนต์ เป็นกระโหลกศีรษะมนุษย์ พระหัตถ์หลังขวาถือ ตรี พระหัตถ์ซ้ายถือบาศ (บ่วง) พาหนะคือ หนู

ตำนาน

ในคราวที่พระศิวะเทพทรงไปบำเพ็ญสมาธิเป็นระยะเวลานานอยู่นั้น พระแม่ปารวตีเนื่องจากอยู่องค์เดียวเลยเกิดความเหงา และ ประสงค์ที่จะมีผู้มาคอยดูแลพระองค์และป้องกันคนภายนอก ที่จะเข้ามาก่อความ วุ่นวายในพระตำหนัก


ในจึงทรงเสกเด็กขึ้นมาเพื่อเป็นพระโอรสที่จะเป็นเพื่อนในยามที่องค์ศิวเทพ เสด็จออกไปตามพระกิจต่างๆมีอยู่คราวหนึ่ง เมื่อพระนางทรงเข้าไปสรงในพระตำหนักด้านในนั้นองค์ศิวเทพได้ กลับมาและเมื่อ จะเข้าไปด้านในก็ถูกเด็กหนุ่มห้ามไม่ให้เข้า เนื่องจากไม่รู้ว่าเป็นใครและในลักษณะเดียวกันศิวเทพก็ไม่ทราบว่าเด็กหนุ่ม นั้นเป็นพระโอรสที่พระแม่ปารวตีได้เสกขึ้นมา

เมื่อพระองค์ถูกขัดใจก็ทรงพิโรธและตวาดให้เด็กหนุ่มนั้นหลีกทางให้พลาง ถามว่ารู้ไหมว่ากำลังห้ามใครอยู่ ฝ่ายเด็กนั้นก็ตอบกลับว่าไม่จำเป็นที่จะต้องรู้ว่าเป็นใครเพราะตนกำลังทำตาม บัญชาของพระแม่ปารวตี และทั้งสองก็ได้ทำการต่อสู้กันอย่างรุนแรง จนเทพทั่วทั้งสวรรค์เกิดความวิตกในความหายนะที่จะตามมา และในที่สุดเด็กหนุ่มนั้นก็ถูกตรีศูลของมหาเทพจนสิ้นใจ และศีรษะก็ถูกตัดหายไป

ในขณะนั้นเองพระแม่ปารวตีเมื่อได้ยินเสียงดังกึกก้องไปทั่วจักรวาลก็ เสด็จออกมาด้านนอกและถึงกับสิ้นสติเมื่อเห็นร่างพระโอรสที่ปราศจากศีรษะ และเมื่อได้สติก็ทรงมีความโศกาอาดูร และตัดพ้อพระสวามีที่มีใจโหดเหี้ยมทำ ร้ายเด็กได้ลงคอ โดยเฉพาะเมื่อเด็กนั้นเป็นพระโอรสของพระนางเอง

เมื่อได้ยินพระนางตัดพ้อต่อว่าเช่นนั้นองค์มหาเทพก็ทรงตรัสว่าจะทำให้ เด็กนั้นกลับพื้นขึ้นมาใหม่แต่ก็เกิดปัญหา เนื่องจากหาศีรษะที่หายไปไม่ได้ และยิ่งใกล้เวลาเช้าแล้วต่างก็ยิ่ง กระวนกระวายใจเนื่องจากหากดวงอาทิตย์ขึ้น แล้วก็จะไม่สามารถชุบชีวิตให้เด็กหนุ่มฟื้นขึ้นมาได้เมื่อเห็น

เช่นนั้นพระศิวะเลยโยนตรีศูลอาวุธของพระองค์ออกไปหาศีรษะสิ่งที่มีชีวิตแรก ที่พบมาและปรากฏว่าเหล่าเทพได้นำเอาศีรษะช้างมาซึ่งพระศิวะทรงนำศีรษะมาต่อ ให้และชุบชีวิตให้ใหม่พร้อมยกย่อง ให้เป็นเทพที่สูงที่สุด และขนานนามว่า พระพิฆเนศวร ซึ่งแปลว่าเทพผู้ขจัดปัดเป่าอุปสรรคและยังทรงให้พรว่าในการประกอบ พิธีการต่างๆทั้งหมดนั้นจะต้องทำพิธีบูชาพระพิฆเนศวรก่อนเพื่อความสำเร็จของพิธีนั้น

เนื่องจากพระพิฆเนศวรมีพระวรกายที่ไม่เหมือนเทพอื่นๆนั้น ได้มีการอธิบายถึงพระวรกายของพระองค์ท่านดังนี้

1. พระเศียรของท่านหมายถึงวิญญาณซึ่งเป็นส่วนสำคัญของการมีชีวิต

2. พระวรกายแสดงถึงการที่เป็นมนุษย์ที่อยู่บนพื้นปฐพี

3. ศีรษะช้างแสดงถึงความเฉลียวฉลาด

4. เสียงดังที่เปล่งออกมาจากงวงหมายถึงคำว่า โอม ซึ่งเป็นเสียงแสดงถึงความเป็นสัจจะของสุริยจักรวาล

5. หระหัตถ์บนด้านขวาทรงเชือกบ่วงบาศน์ที่ทรงใช้ในการนำพามนุษย์ไปสู่เส้นทางแห่งธรรมะและหลุดพ้นพร้อมทรงขจัดอุปสรรคในระหว่างทาง

6. พระหัตถ์บนซ้ายทรงเชือกขอสับที่ใช้ในการป้องกันและพันฝ่าความยากลำบาก

7. มือขวาล่างทรงงาที่หักครึ่งซึ่งพระองค์ทรงใช้เป็นปากกาในการเขียนมหากาพย์มหาภารตะให้มหาฤษีเวทวยาสมุนีและเป็นสัญญลักษณ์แห่งความเสียสละ


8. อีกมือทรงลูกประคำที่แสดงว่าการแสวงหาความรู้จะต้องเป็นไปอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา

9.ขนมโมณฑกะหรือขนมหวานลัดดูในงวงเป็นการชี้นำว่ามนุษย์จะต้องแสวงหาความ หวานชื่นในจิตวิญญาณของตนเองเพื่อที่จะได้มีจิตเอื้อเพื้อเผื่อแผ่ให้กับคน อื่นๆ

10. หูที่กว้างใหญ่เหมือนใบพัดหมายความว่าท่านพร้อมที่รับฟังสิ่งที่เราร้องเรียนและเรียกหา

11. งูที่พันอยู่รอบท้องท่านแสดงถึงพลังที่มีอยู่โดยรอบ

12. หนูที่ทรงใช้เป็นพาหนะแสดงถึงความไม่ถือองค์และพร้อมที่จะเกี่ยวข้องกับสิ่งมีชีวิตที่เล็กและเป็นที่รังเกียจของมนุษย์ส่วนมาก

ผลที่ได้จากการบูชาพระพิฆเนศ

1. การบูชาพระพิฆเณศนั้น นับเนื่องในอานิสงส์สำคัญหลายประการด้วย หากเป็นผู้ที่ศึกษาฮินดูแท้ๆ การบูชาพระพิฆเณศย่อมเป็นไปเพื่อการหลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิดบรรลุธรรมตามหลักโมกษะนั่นแล ด้วยว่า พระพิฆเณศแท้ที่จริงย่อมเป็นพลังงานบริสุทธิ์ พลังแห่งปัญญาอันพิสุทธิ์ การเข้าถึงพระพิฆเณศในแง่แห่งความสูงสุดทางจิตวิญญาณจึงหมายถึง การชำระมลทินภายในจิตใจให้สิ้นไป คงเหลือแต่สภาพจิตที่บริสุทธิ์ เป็นจิตแท้ดังเดิม เพื่อก้าวไปสู่การรวมเป็นหนึ่งกับพระเป็นเจ้า

2. อานิสงส์ประการต่อมาคือ การบูชาพระพิฆเณศเพื่อปัญญาและการหยั่งรู้ พระพิฆเณศตามตำนานเป็นเทพแห่งปัญญาโดยชัดเจน จากเรื่องราวการเดินทางรอบโลกแข่งกันระหว่างพระพิฆเณศกับพระขันธกุมาร ทันทีที่พระอิศวรบัญชาว่าใครเดินทางรอบโลกครบ 7 รอบก่อนจะให้ผลมะม่วงแก่ผู้นั้น เมื่อพระขันธกุมารทรงนกยูงออกไปก่อน ในขณะที่พระพิฆเณศเลือกการทักษิณาวัตรพระอิศวรและพระอุมาซึ่งมีฐานะเป็นบิดามารดาของตนแล้วกล่าวตามเนื้อหาพระคัมภีร์ว่า ผู้ใดที่ทักษิณาวัตรบิดามารดาของตนเอง ย่อมเท่ากับผู้นั้นได้เวียนรอบโลก เพราะว่าคุณของบิดามารดายิ่งใหญ่กว่าแผ่นดิน นี่คือการชี้คุณลักษณะพิเศษของปัญญา

ไม่เพียงเรื่องนี้เท่านั้น ปัญญาญาณของพระพิฆเณศยังกล่าวไว้ในเรื่องการเขียนมหาภารตะว่า พระฤๅษีวยาสเป็นผู้บอกเล่าเรื่องราวนี้แก่พระพิฆเนศขอให้เป็นผู้เขียน ในการเขียนนั้นพระพิฆเณศกล่าวว่าอย่าให้สะดุด ต้องบอกกล่าวทีเดียวให้จบ พระฤๅษีก็แก้ว่าย่อมได้ แต่ตนจะใช้โศลกที่เข้าใจยาก เป็นปรัชญาลึกซึ้ง ต้องตีความหมายก่อนเขียน และหากพระพิฆเนศไม่เข้าใจตรงไหนก็ให้หยุดถาม ทั้งนี้ พระฤๅษีเองจะได้พักเหนื่อยด้วย แสดงว่าความสามารถในการเขียน การจำ ของพระพิฆเนศนั้นนับว่าเป็นยอด ด้วยเหตนี้ ผู้ที่นับถือพระพิฆเณศและหมั่นพิจารณา ในคุณข้อนี้ย่อมเป็นผู้ได้มาซึ่งปัญญาแห่งเทวะ ประกอบด้วยคุณความดี คึอ ความกตัญญูต่อบิดามารดา และจากเนื้อเรื่องที่กล่าวมา พระพิฆเนศยังถือว่าเป็นเทพแห่งการเขียนอ่าน ซึ่งก็คือปัญญา ดังนั้น นักเรียนนักศึกษาทั้งหลายจืงควรให้ความนับถือพระพิฆเณศเป็นพิเศษ

การนับถือพระพิฆเนศ เพื่ออานิสงค์เรื่องปัญญาความรู้นั้น ควรที่ต้องรับถือควบคู่กับ พระแม่สรัสวดี เทวีแห่งปัญญา พรหมจรรย์ และความบริสุทธิ์ ทั้งพระนางยังเป็นเทวีแห่งศิลปวิทยาการอีกด้วย การนับถือคตินี้ จะเห็นได้ชัดจากภาพมี 3 เทพประทับอยู่ด้วยกัน ซึ่งเป็นไตรภาคีระหว่าง พระพิฆเนศ พระแม่ลักษมี พระแม่สรัสวดี ผู้ใดประสงค์ความมีปัญญา ประกอบด้วยความสำเร็จ ความร่ำรวย ความฉลาด ก็หารูปภาพเหล่านี้มาบูชาเอาเถิด (ในลักษณะตรีเทวะ หรือ ไตรภาคี หรือ ตรีเอกานุภาพ เช่น พระตรีมูรติ ก็เป็นตรีเอกานุภาพ)

3. ถัดจากเรื่องปัญญา การบูชาพระพิฆเนศที่สำคัญที่สุดคือ อำนาจแห่งการขจัดอุปสรรค ดังที่กล่าวมา พระพิฆเนศคืออำนาจแห่งอุปสรรคและเป็นอำนาจแห่งการขจัดอุปสรรคด้วยในตัว ดังนั้น ผู้ที่บูชาพระองค์ย่อมทำกิจการงานราบรื่นหรือหากมีอุปสรรคอันใด พระองค์ท่านย่อมบำราศเสียซึ่งอุปสรรคนั้นๆ

4. เพื่อความอุดมสมบูรณ์ ด้วยว่าศีรษะช้างของพระพิฆเนศนั้น เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นสิริมงคล ช้างหมายถึงความอุดมสมบูรณ์ ความยิ่งใหญ่ สิริมงคล ด้วยเหตุนี้ พระพิฆเณศจึงเป็นตัวแทนแห่งความอุดมสมบูรณ์ด้วย ที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ในพระหัตถ์ของพระพิฆเนศนั้นมักถือขนมโมทกะอยู่ตลอดเวลา อันเป็นสื่อถึงอาหารการกินที่พร้อมเสมอ หมายความว่า พระองค์จะประทานความอิ่มหนำสำราญแก่ผู้บูชาพระองค์ ความอุดมสมบูรณ์จึงพึงบังเกิดแก่บุคคลนั้นไม่รู้สิ้น ชีวิตของผู้ที่มีพระองค์เป็นสรณะจะหอมหวานอยู่เสมอ

5. เป็นผู้ป้องกันภูติผีปีศาจและคุณไสยมนต์ดำทั้งปวง จากคติเรื่องพระพิฆเณศเป็นยมทูต เป็นเจ้าแห่งภูตผีปีศาจ ซึ่งคตินี้น่าจะรับจากการที่พระศิวะ ซึ่งอยู่ในฐานะบิดา ทรงมีภาคภูเตศวร และอีกประการหนุ่งทรงเป็นมหาโยคีที่อาศัยตามป่าช้าเพื่อปฏิบัติกรรมฐาน นั่งสมาธิเข้าฌานสมาบัติให้แก่กล้า และในภาคนี้ พระศิวะเองก็เป็นเจ้าแห่งภูติผี มีภูติผีทั้งหลายแวดล้อมพระองค์ พระองค์ทรงเป็นเจ้าแห่งความตาย คุณสมบัติต่างๆ ของพระศิวะถูกถ่ายทอดสู่พระพิฆเนศผู้เป็นศิวะบุตร ด้วยเหตุนี้ พระพิฆเนศจึงทรงอำนาจยิ่งใหญ่ในโลกวิญญาณ โดยพระองค์ทรงเป็นเจ้าแห่งภูติผีปีศาจทั้งหมด ทรงเป็นใหญ่เหนือใครในโลกวิญญาณ ดวงวิญญาณทุกดวงย่อมอยู่ในอาณัติแห่งพระองค์ และผู้บูชาพระองค์ย่อมปลอดภัยจากการคุกคามของภูติผีปีศาจ ทั้งคุณไสยมนต์ดำทั้งปวง เพราะพระองค์คือผู้บริสุทธิ์ คือเจ้าแห่งอำนาจเหนือธรรมชาติ ดังนั้น ผู้อยู่ใต้บารมีของพระองค์ย่อมพ้นจากภัยทั้งหลายที่มองไม่เห็นเหล่านี้

6. อำนาจแห่งความเป็นที่รัก เนื่องจากพระพิฆเณศเป็นเทพที่บังเกิดจากพระแม่อุมาเทวี ในเบื้องต้นพระพิฆเณศย่อมเป็นที่รักแห่งนางที่สุด ภายหลังจากการต่อสู้กับพระศิวะด้วยควาเข้าใจผิดจนบานปลายทำให้ศีรษะพระพิฆเณศหลุดไป ยังความไม่พอใจแก่พระแม่อุมา ต่อเมื่อได้มีการต่อศีรษะใหม่และมีการขอขมาพระแม่อุมา ในเหตุการณ์ดังกล่าว ทวยเทพทั้งหลายต่างมาประชุมพร้อมกัน พร้อมทั้งให้พรแก่พระพิฆเณศ พระพิฆเณศจึงเป็นที่รักของทวยเทพทั้งหลายในสากลจักรวาล พระพิฆเณศจึงเป็นผู้ประทานความเป็นที่รักแก่ผู้บูชาพระองค์อีกประการหนึ่งด้วย

การเตรียมการสักการะพระพิฆเนศ

การสักการบูชาขอพร พระพิฆเนศ ไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นอาชีพใด ประชาชนทุกชนชั้นวรรณะ ก็สามารถขอพรจากพระองค์ท่านได้ไม่จำกัด เพราะท่านเป็นมหาเทพที่ใจดี มีปัญญาลึกล้ำ แก้ไขปัญหาได้เก่ง จนได้รับการขนานนามให้เป็น "เทพเจ้าแห่งความสำเร็จ"

วิธีบูชาพระพิฆเนศ วันที่เริ่มต้นครั้งแรกควรเริ่มบูชาในวันอังคาร หรือวันพฤหัสบดี เพื่อถวายตัวเป็นผู้ศรัทธา หรือลูกศิษย์ของพระพิฆเนศ วันต่อไปให้สักการะตามปกติ จะเป็นฤกษ์ยามใดถือเป็นมงคลทั้งสิ้น ของที่ใช้ในการสักการบูชาได้แก่ น้ำสะอาด นม น้ำมะพร้าว แต่ถ้ามีเครื่องสังเวยควรใช้ผลไม้และขนมต่างๆ เช่น อ้อย กล้วยสุก มะพร้าว ... เลือกถวายได้ตามศรัทธา และกำลังทรัพย์ แต่ถ้าสามารถถวายได้ทุกวันก็จะเป็นการดี

วันและเดือนที่เหมาะแก่การบูชาพระพิฆเนศ หลังจากที่ถวายตัวเป็นผู้ศรัทธาในวันอังคาร หรือวันพฤหัสบดีแล้ว ก็สามารถบูชาได้ทุกวัน ทุกเดือน โปรดเข้าใจไว้ว่าไม่มีวันใดที่ไม่เหมาะแก่การบูชาพระพิฆเนศเลย ผู้ศรัทธาสามารถกราบไหว้ สักการะบูชาองค์พระพิฆเนศได้ทุกวัน ทุกเดือน และขอพรได้ตลอดเวลา

เครื่องสังเวยพระพิฆเนศ ห้ามใช้เนื้อสัตว์ทุกชนิด (สามารถใช้ขนมที่มีส่วนผสมของไข่ได้บ้าง แต่ถ้าเลือกได้ก็ควรเลี่ยง) ให้ถวายผลไม้ที่สุกแล้วเป็นหลัก อ้อย น้ำอ้อย นมวัว ขนมโมทกะ (หรือ ขนมต้มแดง ต้มขาว ของไทย) หรือขนมหวานลาดูป (ชาวอินเดียนิยมถวาย) ตลอดจนข้าวสาร เกลือ พืช ผัก งา สมุนไพร ธัญพืชและเครื่องเทศทุกชนิด ก็สามารถใช้ถวายได้

เทศกาลคเณศจตุรถี

เทศกาลคเณศจตุรถี นับเป็นเทศกาลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของการบูชาพระพิฆเนศ จะกระทำในวันแรม 4 ค่ำ เดือน 9 และวันแรม 4 ค่ำ เดือน 10 ซึ่งถือว่าเป็นวันกำเนิดของพระพิฆเนศ เชื่อกันว่าพระองค์จะเสด็จลงมาสู่โลกมนุษย์เพื่อประทานพรอันประเสริฐสูงสุดแก่ผู้ศรัทธาพระองค์ท่าน เทศกาลนี้มีการจัดพิธีกรรมบูชาและการเฉลิมฉลองอย่างยิ่งใหญ่ทั่วอินเดียและทั่วโลก มีการจัดสร้างเทวรูปพระพิฆเนศขนาดใหญ่โตมโหฬาร เพื่อเข้าพิธีบูชา จากนั้นจะแห่องค์เทวรูปไปทั่วเมืองและมุ่งหน้าไปสู่แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์สายต่างๆ ถนนหนทางทั่วทุกหนแห่งจะมีแต่ผู้คนออกมาชมการแห่องค์เทวรูปนับร้อยนับพันองค์ ผู้ศรัทธาทุกคนแต่งชุดส่าหรีสีสันสวยงาม ขบวนแห่จะไปสิ้นสุดที่แม่น้ำศักดิ์สิทธิ์ เช่น แม่น้ำคงคา แม่น้ำสรัสวตี ฯลฯ แล้วทำพิธีลอยเทวรูปลงสู่แม่น้ำหรือทะเล

เทศกาลคเณศจตุรถีและพิธีกรรมต่างๆ กระทำกันมาแต่โบราณ มีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมาย และหนึ่งในพิธีกรรมที่กระทำกันก็คือ "เอกวีสติ ปัตรบูชา" หรือการบูชาด้วยใบไม้ 21 ชนิดเป็นเวลา 21 วัน เข้าชมและศึกษา พระพิฆเนศวร ที่ สมเด็จโตสร้างถวาย รัชกาลที่๔ ที่ http://board.tantee.net/jeejee และ http://picasaweb.google.co.th/jeejee28

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น


แม่แบบ:Link FA แม่แบบ:Link FA แม่แบบ:Link FA