ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ฌ็อง อานูย"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
บรรทัด 62: บรรทัด 62:


[[หมวดหมู่:นักประพันธ์]]
[[หมวดหมู่:นักประพันธ์]]

[[de:Jean Anouilh]]
[[el:Ζαν Ανούιγ]]
[[en:Jean Anouilh]]
[[es:Jean Anouilh]]
[[fr:Jean Anouilh]]
[[gl:Jean Anouilh]]
[[hr:Jean Anouilh]]
[[it:Jean Anouilh]]
[[ku:Jean Anouilh]]
[[lt:Žanas Anujis]]
[[nl:Jean Anouilh]]
[[pl:Jean Anouilh]]
[[pt:Jean Anouilh]]
[[fi:Jean Anouilh]]
[[sv:Jean Anouilh]]
[[uk:Ануй Жан]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 17:17, 29 กันยายน 2549

ฌอง อานุยห์ (Jean Anouilh) เกิดเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน ค.ศ. 1910 ที่เมืองบอร์โดซ์ ( Bordeaux ) พ่อของเขาชื่อ ฟรองซัวส์ อานุยห์ ( François Anouilh ) เป็นช่างตัดเสื้อ แม่ของเขาชื่อ มารี – มัคเดอแรน ซูลู ( Marie – Magdeleine Soulue ) เป็นนักไวโอลิน

ประวัติ

เขาเข้าเรียนระดับประถมศึกษาที่โรงเรียนกอลแบร์ (Colbert) จากนั้นเขาก็เข้าศึกษาต่อที่วิทยาลัยชับตัล (collège Chaptal) ซึ่งเขาได้เริ่มต้นเรียนทางด้านกฎหมายที่นี่ หลังจากที่เขาเรียนจบทางด้านกฎหมายแล้ว เขาได้ใช้เวลา 2 ปี ในโรงพิมพ์ ซึ่งทำให้เขาได้รับประสบการณ์เป็นอย่างมาก เมื่อเขาอายุได้ 18 ปี เขาได้เข้ามาอยู่ที่กอมเมดี้ เดส์ ฌอง – เซลิเซ่ (Comédies des Champs – Elysées) ซึ่งมี หลุยส์ ชูแวร์ (Louis Jouvert) เป็นหัวหน้า เขาได้เข้ามาทำหน้าที่ในฐานะผู้ช่วยของหลุยส์ ชูแวร์ และในปี ค.ศ. 1930 เขาต้องลาออกจากกอมเมดี้ เดส์ ฌอง – เซลิเซ่ (Comédies des Champs–Elysées) เนื่องจากเขาต้องไปรับราชการทหาร

ต่อมาในปี ค.ศ. 1931 หลังจากที่เขากลับมาจากรับราชการทหารแล้ว เขาได้แต่งงานกับนักแสดงที่ชื่อ โมแนล วาลองแต็ง (Monelle Valentin) และมีบุตรสาวด้วยกัน 1 คน คือ แคทเธอรีน (Catherine)

ในปีค.ศ. 1932 เขาได้เขียนบทละครเรื่อง L’Hermine ซึ่งบทละครเรื่องนี้ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยบทละครเรื่องนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นบทละครที่ดี แต่ผลงานอีก 2 เรื่องถัดมา ก็ประสบความล้มเหลว ได้แก่ เรื่อง Mandarine และเรื่อง Y avait un prisonnier

ในปี ค.ศ. 1937 บทละครเรื่อง Le voyageur sans bagage ก็จัดว่าเป็นบทละครที่ประสบความสำเร็จอีกบทละครหนึ่ง ซึ่งบทละครเรื่องนี้ถูกนำมาเล่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าถึง 190 ครั้ง

ในปี ค.ศ. 1944 ได้มีการนำบทละครเรื่อง Antigone ออกมาแสดง ซึ่งบทละครเรื่องนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก บทละครเรื่องนี้แสดงให้เห็นถึงโศกนาฏกรรม ที่สะท้อนให้เห็นถึงชะตากรรมของมนุษย์ ผู้ผยองในความยิ่งใหญ่ของตนเอง จนก่อให้เกิดเป็นสถานการณ์ความขัดแย้งที่นำไปสู่ความพินาศอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในปี ค.ศ. 1953 เขาได้แต่งงานใหม่อีกครั้งกับ ชาร์ล็อต ชาร์ดง ทั้งคู่มีบุตรด้วยกัน 3 คน คือ แคโรลีน (Caroline), นิโกลาส์ (Nicolas) และมารี–โกลอมบ์ (Marie–Colombe)

ในช่วงบั้นปลายชีวิตของเขา ผลงานของเขาก็เริ่มน้อยลง เนื่องจากเขารู้สึกเบื่อหน่ายกับการวิจารณ์ ดังนั้นเขาจึงใช้ชีวิตอยู่อย่างสันโดษ จะสังเกตได้ว่า ช่วงนี้ผลงานของเขาจะออกมาน้อยมาก อีกทั้งผลงานที่ออกมานั้นก็ไม่ได้รับความนิยมเท่าที่ควร

ฌอง อานุยห์เสียชีวิตในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1987 ที่เมืองโลซาน ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ รวมอายุได้ 77 ปี

ผลงานโดยรวม

บทละครที่เป็นแนวโศกนาฏกรรม ตอนจบของเรื่องจะไม่สุขสมหวัง (Pièces noires)

  • Hermine (1932)
ฟร็อง” ชายหนุ่มผู้ซึ่งตกหลุมรัก “โมนีม” หญิงสาวผู้ซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยฐานะ แต่ด้วยเพราะฟร็องเป็นคนที่ไม่มีฐานะและไม่มียศถาบรรดาศักดิ์อื่นใด ทำให้ป้าของโมนีมกีดกันการแต่งงาน สิ่งนี้เองทำให้ฟร็องต้องฆ่าป้าของโมนีม เมื่อตอนแรกที่โมนีมรู้เรื่องก็ถึงกับต่อว่าฟร็อง แต่ในท้ายที่สุดแล้วเธอก็ได้บอกกับเขาตอนที่เขากำลังถูกตำรวจจับว่าเธอรักเขามาก
  • Le voyageur sans bagage (1937)
เป็นเรื่องราวของชายหนุ่มผู้ความจำเสื่อม เขาได้ปฏิเสธที่จะกลับไปที่บ้านเพื่อพบกับครอบครัวเนื่องจากเขาได้พบว่าเขาเป็นญาติกับเด็กกำพร้าคนหนึ่ง ซึ่งในที่สุดเขาก็ได้จากไปพร้อมกับเด็กคนดังกล่าว
  • La sauvage (1938)
"แตแคส" นักไวโอลินสาว เธอมีฐานะยากจน เธอตกหลุมรัก “ฟลอค็องก์” นักแสดงหนุ่มผู้ร่ำรวยและมีชื่อเสียง แต่เธอกลับล้มเลิกที่จะแต่งงานกับเขา เพราะเธอไม่สามารถใช้ชีวิตในแบบที่เขาเป็นได้ เพราะเธอไม่ชอบชีวิตที่หรูหรา และถึงแม้ว่าเธอจะพยายามที่จะปรับตัวเองเท่าใด แต่เธอก็ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงได้
  • Roméo et Jeannette (1946)
"เฟรเดริก" ตอนแรกเขาจะต้องแต่งงานกับ "จูเลีย" หญิงสาวที่เรียบร้อย แต่เขากลับหลงรัก "เชอแนต" ซึ่งเป็นน้องสาวของจูเลีย ซึ่งแม้ว่าคนภายนอกจะมองดูว่าแปลก แต่เค้าก็ไม่สนใจและเขาทั้งสองคนกลับพากันหนีไปและหนีไปกระโดดน้ำตายด้วยกันทั้งคู่

Pièces grinçantes

เป็นลักษณะบทละครที่เป็นแนวเสียดสีทางสังคมหรือการเมือง

  • La Valse de toréadors (1952)
ข้าทาสของภรรยาเขาได้แกล้งป่วยและนักร้องก็ได้ลาออกทำให้นายพลแซงก์ เป ต้องปลอบใจตัวเองเหมือนกับอย่างที่เขาได้ทำกับคนอื่นๆ แต่เขาก็ได้พบกับความรักใหม่ที่ดีกับผู้ช่วยของเขานั่นเอง
  • Le Boulanger, la boulangère et le petit mitron (1968)
ย้อนกลับไปในช่วงสมัยพระเจ้าหลุยส์ที่ 16 เป็นเรื่องราวของพระราชินีและรัชทายาท เป็นเรื่องที่เต็มไปด้วยการเสียดสีและการนองเลือดที่ซึ่งพบว่าในเรื่องมีความขัดแย้งในฉากที่เป็นจริงและฉากที่คิดค้นขึ้นมาใหม่ผ่านทางตัวละครที่เป็นเด็ก 2 ตัวละคร ที่ต่อมาในภายหลังพบว่าทั้งสองคนเป็นเด็กกำพร้า

บทละครเกี่ยวกับความรัก (Pièces roses)

  • Le Bal des voleurs (1938)
ด้วยความเข้าใจของ Lady Hurf ที่คิดว่า พวกโจรเป็นพวกที่ใหญ่โตและมีอำนาจของประเทศสเปน อีกทั้งพวกโจรกลุ่มนี้ยังทำให้ Lady Hurf รู้สึกชอบใจ ดังนั้นจึงทำให้พวกโจรสามารถที่จะเข้าไปอยู่ในปราสาทของเธอได้ไม่ยาก อีกทั้งชายหนุ่มที่โรแมนติกที่สุดของพวกโจรได้แต่งงานกับหญิงสาวที่โรแมนติกที่สุดของพวกโจร การแต่งงานจึงไม่มีการคัดค้านอะไร อีกทั้ง Lady Hurf ยังสนับสนุนอีกด้วย
  • Le Rendez – vous de Senlis (1941)
เพิ่อที่จะได้แต่งงานกับ Isabelle หญิงสาวที่เขาหลงรัก Georges จึงสร้างพ่อแม่ที่เป็นไปตามแบบฉบับของกวีที่สุดขึ้นมา และเขาได้ดึงตัวเองออกมาจากชีวิตที่เหลวไหล ซึ่งเขามีทั้งภรรยาและเมียน้อยอยู่แล้ว แต่เขาก็เพิกเฉยไม่สนใจ

บทละครที่มีการกล่าวกินจริงและเนื้อเรื่องจะไม่สมจริง (Pièces faceuses)

  • Colombe (1951)
คู่สมรสของ Julien ต้องไปรับราชการทหารและขอเงินช่วยเหลือจากแม่ไม่เป็นผลสำเร็จ มาดาม Alexandra บ้าละครมาก Colombe จึงตัดสินใจไปเป็นนักแสดง เมื่อกลายเป็นดาราละคร ตัวเองก็ชอบละครไปด้วย จากเดิมที่ไม่ชอบละคร

บทละครที่ตัวละครจะแต่งตัวอย่างสวยงาม (Pièces costumées)

  • L’Alouette (1952)
เกิดขึ้นในยุคของ ฌาน ดาร์ค ซึ่งในตอนนั้นเธอถูกทรมาน และตัวละครของเรื่อง คือ โกชง ซึ่งเป็นเสมือนตัวแทนในการช่วยชีวิตเธอให้รอดพ้นจากพวกทหารอังกฤษที่ทรมานเธอ
  • Becket ou l’honneur de Dieu (1959)
โศกนาฏกรรมที่เกิดโดยทันทีทันใดและเกิดจากระบบราชาธิปไตยที่ผู้ปกครองเป็นใหญ่ เรื่องดังกล่าวว่าด้วยลัทธิการปกครองแบบกดขี่ของกษัตริย์อังกฤษที่ไม่เคยได้ยอมรับจากพระเจ้า ทำให้ผู้ที่สนับสนุนในเรื่องของศาสนาถึงกับยอมตายเพื่อศาสนา

อ้างอิง