ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วิลเลียม มอร์ริส"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Xqbot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต เพิ่ม: ro:William Morris
SieBot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต เพิ่ม: cy:William Morris (1834–1896)
บรรทัด 62: บรรทัด 62:
[[bg:Уилям Морис]]
[[bg:Уилям Морис]]
[[ca:William Morris]]
[[ca:William Morris]]
[[cy:William Morris (1834–1896)]]
[[da:William Morris]]
[[da:William Morris]]
[[de:William Morris]]
[[de:William Morris]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 00:17, 19 มีนาคม 2553

วิลเลียม มอร์ริส
เกิด24 มีนาคม ค.ศ. 1834
เสียชีวิต3 ตุลาคม ค.ศ. 1896
อาชีพศิลปิน นักเขียน
สัญชาติอังกฤษ

วิลเลียม มอร์ริส (อังกฤษ: William Morris) (24 มีนาคม ค.ศ. 1834 - 3 ตุลาคม ค.ศ. 1896) เป็นศิลปิน นักเขียน และนักสังคมนิยมชาวอังกฤษ เป็นหนึ่งในผู้วางรากฐานของ British Arts and Crafts movement และเป็นผู้นำการเปลี่ยนแปลงทางสังคมในสหราชอาณาจักร รวมถึงเป็นกวีและนักประพันธ์นวนิยายด้วย เขาเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ออกแบบลวดลายบนผนัง

มอร์ริสเคยเป็นนักศึกษาที่วิทยาลัย Exeter มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด เมื่อจบการศึกษาได้ทำงานเป็นสถาปนิก ต่อมาจึงพบว่าตัวเองชอบศิลปะการวาดมากกว่า มอร์ริสได้ตั้งบริษัทร่วมกับเพื่อน และสร้างงานศิลปะเช่น ภาพวาดบนกระจกสี

งานเขียน

มอร์ริสเริ่มเขียนบทกวีลงตีพิมพ์ในนิตยสารตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัย แต่ผลตอบรับในช่วงแรกไม่ดีนัก ทำให้เขาไม่กล้าเขียนอะไรไปหลายปี อย่างไรก็ดี ผลงานกวีที่มีชื่อเสียงของเขา คือ "The Haystack in the Floods" เขาหันมาเขียนบทกวีอีกครั้งในช่วงปลายคริสต์ทศวรรษ 1860 และสร้างผลงานดีๆ ไว้หลายชิ้น มีชื่อเรียกรวม ๆ ว่า The Earthly Paradise โดยเป็นบทกวีเกี่ยวกับนักผจญภัยกลุ่มหนึ่งที่ออกเดินทางไปเสาะหาแผ่นดินแห่งชีวิตนิรันดร์ แล้วได้พบกับอาณาจักรกรีกที่เหลือรอดอยู่อย่างลี้ลับ ผลงานชุดนี้สร้างชื่อเสียงให้เขาอย่างมาก บทกวีชุดท้าย ๆ ที่เขาเขียนขึ้นก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับงานสังคมนิยม คือมหากาพย์ไอซ์แลนด์ มอร์ริสให้ความสนใจกับตำนานโบราณของเยอรมันและนอร์สอย่างมาก และนำมาเป็นข้อมูลในการประพันธ์ของเขา งานประพันธ์มหากาพย์อีกเรื่องหนึ่งของมอร์ริสที่มีชื่อเสียงมาก คือ ซิกุร์ด เดอะ โวลซุง (Sigurd the Volsung)

มอร์ริสยังเป็นผู้แปลงานวรรณกรรมคลาสสิก วรรณกรรมยุคกลาง และวรรณกรรมไอซ์แลนด์อีกหลายเรื่อง เช่น Three Northern Love Stories และ อีเนียด ของ เวอร์จิล ในปี ค.ศ. 1875 และแปลมหากาพย์โอดิสซีย์ของโฮเมอร์ ในปี ค.ศ. 1887

ในช่วงเก้าปีสุดท้ายของชีวิตของเขา มอร์ริสเขียนนวนิยายขึ้นหลายเรื่อง รวมถึง The Wood Beyond the World และ The Well at the World's End ซึ่งได้รับการนับถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของวรรณกรรมแฟนตาซี เพราะในขณะที่นักเขียนคนอื่นเขียนถึงแผ่นดินลี้ลับ แผ่นดินในฝัน หรือเขียนเรื่องอนาคต (ซึ่งมอร์ริสก็เคยเขียนในเรื่อง News from Nowhere) แต่งานเขียนของมอร์ริสชิ้นนี้เป็นเรื่องแรกที่เขียนหนึ่งโลกแฟนตาซีที่สร้างขึ้นใหม่ทั้งหมด[1]

The Wood Beyond the World เป็นงานที่มีอิทธิพลอย่างมากต่อ ซี. เอส. ลิวอิส ขณะที่ เจ. อาร์. อาร์. โทลคีน ได้รับอิทธิพลจาก The House of the Wolfings และ The Roots of the Mountains นักเขียนคนอื่นเช่น เจมส์ จอยซ์ ก็ได้รับอิทธิพลจากมอร์ริสเช่นกัน

ดูเพิ่ม

อ้างอิง

  1. Lin Carter, ed. Kingdoms of Sorcery, p 39 Doubleday and Company Garden City, NY, 1976

แหล่งข้อมูลอื่น