ผลต่างระหว่างรุ่นของ "พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 แห่งอังกฤษ"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
SieBot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต แก้ไข: bs:Eduard IV, kralj Engleske
TXiKiBoT (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต เพิ่ม: eu:Eduardo IV.a Ingalaterrakoa
บรรทัด 175: บรรทัด 175:
[[es:Eduardo IV de Inglaterra]]
[[es:Eduardo IV de Inglaterra]]
[[et:Edward IV]]
[[et:Edward IV]]
[[eu:Eduardo IV.a Ingalaterrakoa]]
[[fi:Edvard IV]]
[[fi:Edvard IV]]
[[fr:Édouard IV d'Angleterre]]
[[fr:Édouard IV d'Angleterre]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 16:01, 8 มกราคม 2553

พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 แห่งอังกฤษ
รัชกาลก่อนหน้าสมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 6 แห่งอังกฤษ (ครั้งที่ 1)
รัชกาลถัดไปสมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 6 แห่งอังกฤษ (ครั้งที่ 2)
สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 แห่งอังกฤษ
ประสูติ28 เมษายน ค.ศ. 1442
รูออง ในประเทศฝรั่งเศส
สวรรคต9 เมษายน ค.ศ. 1483
แอบบีเวสต์มินสเตอร์ในอังกฤษ
พระอัครมเหสีเอลิซาเบธ วูดวิลล์ สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ
พระราชบุตรเอลิซาเบธแห่งยอร์ค

แมรีแห่งยอร์ค
เซซิลีแห่งยอร์ค
สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 แห่งอังกฤษ
ริชาร์ดดยุคแห่งยอร์ค ที่ 1
แอนน์แห่งยอร์ค
แคทเธอรีนแห่งยอร์ค

บริจิตแห่งยอร์ค
สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 แห่งอังกฤษ
ราชวงศ์ยอร์ค
พระราชบิดาริชาร์ด แพลนทาเจเน็ท ดยุคแห่งยอร์คที่ 3
พระราชมารดาเซซิลี เนวิลล์

สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 แห่งอังกฤษ (อังกฤษ: Edward IV of England) (28 เมษายน ค.ศ. 14429 เมษายน ค.ศ. 1483) ทรงเป็นพระเจ้าแผ่นดินราชวงศ์ยอร์คของราชอาณาจักรอังกฤษและราชอาณาจักรไอร์แลนด์

พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 เสด็จพระราชสมภพเมื่อวันที่ 28 เมษายน ค.ศ. 14429 เมษายน ที่รูออง ในประเทศฝรั่งเศส ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่สองของริชาร์ด แพลนทาเจเน็ท ดยุคแห่งยอร์คที่ 3 และ เซซิลี เนวิลล์ ทรงเสกสมรสกับเอลิซาเบธ วูดวิลล์ และทรงราชย์ครั้งแรกระหว่างวันที่ 4 มีนาคม ค.ศ. 14612 ตุลาคม ค.ศ. 1470 และอีกครั้งหนึ่งระหว่างวันที่ 11 เมษายน ค.ศ. 1471 จนสวรรคตเมื่อวันที่ 9 เมษายน ค.ศ. 1483 ที่แอบบีเวสต์มินสเตอร์ในอังกฤษ พระบรมศพอยู่ที่ชาเปลเซนต์จอร์จ ในพระราชวังวินด์เซอร์

ขึ้นครองราชย์

เอ็ดเวิร์ดแห่งยอร์คทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่สองของริชาร์ด แพลนทาเจเน็ท ดยุคแห่งยอร์คที่ 3 ผู้อ้างว่ามีสิทธิในราชบัลลังก์อังกฤษโดยตรง [1]) และ เซซิลี เนวิลล์ เอ็ดเวิร์ดเป็นลูกคนโตที่สุดในบรรดาลูกชายสี่คนที่รอดชีวิตมาจนโต ดยุคแห่งยอร์คอ้างสิทธิในราชบัลลังก์เป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1460 ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้ความขัดแย้งระหว่างราชสกุลยอร์คและแลงคาสเตอร์เลวร้ายลงจนกลายเป็นการต่อสู้กันในสงครามดอกกุหลาบ เมื่อริชาร์ด แพลนทาเจเน็ทเสียชีวิตในยุทธการเวคฟิลด์ เอ็ดเวิร์ดก็อ้างสิทธิต่อ โดยมีริชาร์ด เนวิลล์ เอิร์ลแห่งวอริคที่ 16 (“ผู้สร้างกษัตริย์” (The Kingmaker)) ผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องเป็นผู้หนุนหลัง เอ็ดเวิร์ดได้รับชัยชนะต่อราชวงศ์แลงคาสเตอร์ในหลายศึก ขณะที่พระเจ้าเฮนรีที่ 6 และพระราชินีมาร์กาเร็ตมัวแต่ไปรณรงค์อยู่ทางเหนือของอังกฤษ ดยุคแห่งวอริคได้ทีเข้ายึดเมืองหลวงและให้เอ็ดเวิร์ดประกาศตัวเป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ลอนดอนในปี ค.ศ. 1461 เอ็ดเวิร์ดย้ำความมีสิทธิของพระองค์ด้วยการได้รับชัยชนะอย่างเด็ดขาดที่ ยุทธการโทว์ทันในปีเดียวกันจนกองกำลังของราชสกุลแลงคาสเตอร์ถูกกำจัดเกือบหมดสิ้น

ถูกโค่นราชบัลลังก์

หลังจากพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 เสด็จขึ้นครองราชย์แล้วเอิร์ลแห่งวอริคก็ยังพยายามใช้อิทธิพลทางการเมืองต่อไปและเชื่อว่ายังคงสามารถปกครองอังกฤษได้โดยผ่านพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดและพยายามหว่านล้อมให้พระองค์หาคู่เสกสมรสจากมหาอำนาจในยุโรป แต่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดกลับทรงแอบไปเสกสมรสอย่างลับๆ กับเอลิซาเบธ วูดวิลล์แม่หม้ายของผู้สนับสนุนราชวงศ์แลงคาสเตอร์ แม่ของเอลิซาเบธแจเค็ตตาแห่งลักเซ็มเบิร์ก ดัชเชสแห่งเบดฟอร์ดเป็นผู้มีฐานะมั่งคั่ง แต่ริชาร์ด วูดวิลล์ เอิร์ลแห่งริเวอร์สที่ 1 ผู้เป็นพ่อเป็นบารอนใหม่ที่มีความทะเยอทะยาน การแต่งงานของเอลิซาเบธจึงทำให้พี่ๆ น้องๆ สิบสองคนที่ยังมิได้แต่งงานกลายเป็นผู้ที่มีผู้ต้องการแต่งงานด้วย

แม้ว่าการเสกสมรสดูจะไม่มีผลกระทบกระเทือนต่ออำนาจของเอิร์ลแห่งวอริคแต่อย่างใด แต่วอริคก็ยังไม่พอใจกับอิทธิพลของตระกูลวูดวิลล์ที่มีต่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด วอริคจึงหันไปร่วมมือกับจอร์จ แพลนทาเจเน็ท ดยุคแห่งแคลเรนซ์ที่ 1 พระอนุชาของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดในการนำกองทัพเข้าต่อต้านพระองค์

กองทัพของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด (โดยไม่มีพระองค์นำ) ได้รับความพ่ายแพ้ในยุทธการเอ็ดจโคทมัวร์ในปี ค.ศ. 1469 และพระองค์ถูกจับได้ต่อมาที่โอลนีย์ เอิร์ลแห่งวอริคจึงพยายามปกครองอังกฤษในนามของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดต่อ แต่บรรดาขุนนางที่ได้ดีขึ้นมาเพราะพระองค์ไม่มีความพอใจและแสดงความประสงค์ที่จะต่อต้าน วอริคจึงจำต้องปล่อยพระเจ้าเอ็ดเวิร์ด ในเวลานี้พระองค์มิได้มีพระประสงค์ที่จะลงโทษวอริคและดยุคแห่งแคลเรนซ์และทรงหาวิธีประนีประนอมกับทั้งสองคน

แต่ในปี ค.ศ. 1470 เอิร์ลแห่งวอริคและดยุคแห่งแคลเรนซ์ก่อการปฏิวัติขึ้นอีกครั้งหนึ่ง แต่พ่ายแพ้จนต้องหนีไปฝรั่งเศส และไปทำพันธมิตรกับพระราชินีมาร์กาเร็ต เอิร์ลแห่งวอริคสัญญาว่าจะถวายบัลลังก์คืนให้แก่พระเจ้าเฮนรีที่ 6 พระสวามีของมาร์กาเร็ต เป็นการแลกเปลี่ยนกับการหนุนหลังของฝรั่งเศสในการรุกรานอังกฤษในปี ค.ศ. 1470 ครั้งนี้พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำจนต้องหนีไปพึ่งน้องชายของวอริคจอห์น เนวิลล์ มาควิสแห่งมองตากิวที่ 1 ที่เปลี่ยนข้างไปสนับสนุนฝ่ายแลงคาสเตอร์

ฟื้นฟูราชบัลลังก์

พระเจ้าเฮนรีที่ 6 กลับขึ้นครองราชบัลลังก์อีกครั้งในปี ค.ศ. 1470 ในสมัยที่เรียกว่าการฟื้นฟูพระเจ้าเฮนรีที่ 6 (Readeption of Henry VI) พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเสด็จไปลี้ภัยใน อาณาจักรดยุคแห่งเบอร์กันดีพร้อมกับริชาร์ด ดยุคแห่งกลอสเตอร์ ประมุขแห่งเบอร์กันดีคือชาร์ลส์เดอะโบลด์ ดยุคแห่งเบอร์กันดี สามีของน้องสาวมาร์กาเร็ตแห่งยอร์ค แม้ว่าชาร์ลส์จะไม่เต็มใจช่วยเอ็ดเวิร์ดเมื่อเริ่มแรกแต่เมือฝรั่งเศสประกาศสงครามกับเบอร์กันดี ชาร์ลส์จึงตัดสินใจช่วยเอ็ดเวิร์ดและรวบรวมกำลังในการต่อสู้เพื่อจะชิงราชบัลลังก์คืน

พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเสด็จกลับอังกฤษกับกองทหารจำนวนน้อยเพื่อเลี่ยงการจับกุมโดยฝ่ายที่เป็นปฏิปักษ์ ในการประกาศอ้างสิทธิในราชบัลลังก์อังกฤษเช่นที่เฮนรี โบลลิงโบรคได้ทำเจ็ดสิบปีก่อนหน้านั้นที่ทรงอ้างว่าเพื่อต้องการอ้างในสิทธิของอาณาจักรดยุคของตนเองเท่านั้น แต่เมืองยอร์คปิดประตูเมืองแก่พระองค์แต่เมื่อทรงเดินทัพลงทางไต้พระองค์ก็ได้รับการสนับสนุนมากขึ้นและดยุคแห่งแคลเรนซ์ผู้เห็นว่าการเข้าข้างพระเชษฐาจะปลอดภัยกว่าก็เปลี่ยนข้างมาสนับสนุนพระองค์ พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดและพระอนุชาจึงได้รับชัยชนะต่อเอิร์ลแห่งวอริคในยุทธการบาร์เน็ต (Battle of Barnet) เมื่อเอิร์ลแห่งวอริคเสียชีวิตพระองค์ก็ทรงดำเนินการกำจัดผู้ต่อต้านฝ่ายแลงคาสเตอร์ที่ยังหลงเหลืออยู่ที่ยุทธการทูคสบรี (Battle of Tewkesbury) ในปี ค.ศ. 1471 เอ็ดเวิร์ดแห่งเวสต์มินสเตอร์ เจ้าชายแห่งเวลส์รัชทายาทฝ่ายแลงคาสเตอร์สิ้นพระชนม์ในสนามรบหรือทันทีหลังจากนั้น สองสามวันต่อมาเมื่อพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดเสด็จเข้าลอนดอน ในคืนนั้นพระเจ้าเฮนรีที่ 6 ก็ทรงถูกปลงพระชนม์เพื่อเป็นการกำจัดฝ่ายแลงคาสเตอร์ให้เสร็จสิ้น

พระอนุชาสองพระองค์ของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดจอร์จ ดยุคแห่งแคลเรนซ์ และริชาร์ด ดยุคแห่งกลอสเตอร์ (ต่อมา สมเด็จพระเจ้าริชาร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ) แต่งงานกับอิสซาเบลลา เนวิลล์ และแอนน์ เนวิลล์ ทั้งสองคนเป็นลูกสาวของริชาร์ด เนวิลล์ เอิร์ลแห่งวอริคที่ 16 กับแอนน์ โบแชมพ์ ผู้เป็นทายาทของมรดกจำนวนมหาศาลของมารดาผู้ยังมีชีวิตอยู่ ดยุคแห่งแคลเรนซ์และดยุคแห่งกลอสเตอร์มีความขัดแย้งกันตลอดรัชสมัยของเอ็ดเวิร์ด ในที่สุดดยุคแห่งแคลเรนซ์ก็ถูกกล่าวหาว่าวางแผนโค่นราชบัลลังก์ของเอ็ดเวิร์ดและถูกนำไปจำขังไว้ที่หอคอยแห่งลอนดอน และถูก “ประหารชีวิตเป็นการภายใน” (privately executed) (ตำนานเชคสเปียร์กล่าวว่าถูกถ่วงในถังไวน์มาล์มซีย์เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1478

พระราชวงศ์

อ้างอิง

  1. ราชสกุลยอร์คเป็นเชื้อสายโดยตรงจากเอ็ดมันด์แห่งแลงลีย์ ดยุคแห่งยอร์คที่ 1 ผู้เป็นพระราชโอรสองค์ที่ 4 ในสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 แห่งอังกฤษ; ราชวงศ์แลงคาสเตอร์สืบเชื้อสายมาจากจอห์นแห่งกอนท์ ดยุคแห่งแลงคาสเตอร์ที่ 1 พระราชโอรสองค์ที่ 3 ในสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 จึงทำให้มีอาวุโสในการอ้างสิทธิมากกว่าราชวงศ์ยอร์ค แต่แม่ของริชาร์ด แพลนทาเจเน็ทคือแอนน์ เดอ มอร์ติเมอร์ซึ่งเป็นเป็นหลานของไลโอเนลแห่งอันท์เวิร์พ ดยุคแห่งแคลเรนซ์ที่ 1 พระราชโอรสองค์ที่ 2 ในพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 3 ที่มีอาวุโสที่สุด ฉะนั้นจึงเป็นสายที่อาวุโสกว่าสายจากจอห์นแห่งกอนท์แต่เป็นสายที่สืบมาทางสตรี ริชาร์ด แพลนทาเจเน็ทจึงได้อ้างว่ามีสิทธิในราชบัลลังก์มากกว่าราชสกุลแลงคาสเตอร์

ดูเพิ่ม

แหล่งข้อมูลอื่น

วิกิมีเดียคอมมอนส์มีสื่อเกี่ยวกับ สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 แห่งอังกฤษ

ก่อนหน้า พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 4 แห่งอังกฤษ ถัดไป
สมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 6
พระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษ
(ราชวงศ์ยอร์ค)
สาขาหนึ่งของราชวงศ์แพลนทาเจเน็ท

(ค.ศ. 1461ค.ศ. 1470)
สมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 6
สมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 6
พระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษ
(ราชวงศ์ยอร์ค)
สาขาหนึ่งของราชวงศ์แพลนทาเจเน็ท

(ค.ศ. 1471ค.ศ. 1483)
สมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5