ผลต่างระหว่างรุ่นของ "วลาดีมีร์-ซุซดัล"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
Xqbot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต เพิ่ม: et:Vladimir-Suzdal; ปรับแต่งให้อ่านง่าย
Xqbot (คุย | ส่วนร่วม)
โรบอต แก้ไข: et:Vladimiri-Suzdali vürstiriik
บรรทัด 23: บรรทัด 23:
[[en:Vladimir-Suzdal]]
[[en:Vladimir-Suzdal]]
[[es:Principado de Vladímir-Súzdal]]
[[es:Principado de Vladímir-Súzdal]]
[[et:Vladimir-Suzdal]]
[[et:Vladimiri-Suzdali vürstiriik]]
[[fi:Vladimir–Suzdal]]
[[fi:Vladimir–Suzdal]]
[[fr:Vladimir-Souzdal]]
[[fr:Vladimir-Souzdal]]

รุ่นแก้ไขเมื่อ 10:55, 28 พฤศจิกายน 2552

การสักการะพระมารดาของพระเจ้า (Theotokos) ในฐานะผู้พิทักษ์วลาดิเมียร์เริ่มขึ้นโดยเจ้าชายแอนดรูว์ ผู้ทรงอุทิศวัดหลายวัดให้แก่พระองค์ และติดตั้งพระรูปศักดิ์สิทธิ์สำหรับใช้สักการะที่เรียกว่าพระมารดาของพระเจ้าแห่งวลาดิเมียร์

วลาดิเมียร์-ซุสดาล หรือ วลาดิเมียร์-ซุสดาล รุส (รัสเซีย: Владимиро-Суздальское княжество, อังกฤษ: Vladimir-Suzdal) หรือ วลาดิเมียร์-ซุสดาล รุส (รัสเซีย: Владимирско-Суздальская Русь , อังกฤษ: Vladimir-Suzdal Rus) เป็นราชรัฐสืบต่อจากจักรวรรดิเคียฟรุส และเป็นราชรัฐรุสที่มีอำนาจมากที่สุดในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 12 และรุ่งเรืองต่อมาจนถึงปลายคริสต์ศตวรรษที่ 14 วลาดิเมียร์-ซุสดาลถือกันว่าเป็นแห่งของความเจริญของภาษารัสเซียและความเป็นชาตินิยม วลาดิเมียร์-ซุสดาลเจริญขึ้นมาเป็นอาณาจักรแกรนด์ดยุคแห่งมอสโคว์

ที่มา

ราชรัฐมีเนื้อที่ครอบคลุมอาณาบริเวณอันกว้างขวางทาตะวันออกเฉียงเหนือของเคียฟรุส โดยมีแม่น้ำโวลกา แม่น้ำโอคา และแม่น้ำดวินาเหนือ เป็นเขตแดน ในคริสต์ศตวรรษที่ 11 เมืองหลวงอยู่ที่รอสทอฟ เมืองสำคัญอื่นๆ ก็รวมทั้งซุสดาล, ยาโรสลาฟวล และเบโลเซิร์สค

หลังจากวลาดิเมียร์ โมโนมาคห์ (Vladimir Monomakh) ก่อตั้งราชรัฐในปี ค.ศ. 1093 แล้วพระองค์ก็ทรงย้ายเมืองหลวงจากรอสทอฟไปยังซุสดาล สิบห้าปีต่อมาพระองค์ก็ทรงสร้างเสริม และก่อสร้างปฏิสังขรณ์เมืองวลาดิเมียร์บนฝั่งแม่น้ำคลยาซมา (Klyazma River) ขึ้นใหม่ พระราชโอรสยูริ โดลกอรูคี (Yury Dolgoruky) ย้ายราชสำนักไปยังวลาดิเมียร์ในปี ค.ศ. 1157 แต่ความไม่เต็มใจของขุนนางของรอสทอฟและซุสดาลนำไปสู่สงครามกลางเมืองที่ตามมา

ในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 12 เมื่อดินแดนทางตอนใต้ของรุสถูกรุกรานปล้นสดมโดยชนเร่รอนเตอร์กิก ซึ่งทำให้ประชาชนต้องอพยพหนีขึ้นไปทางเหนือ ไปตั้งถิ่นฐานกันเป็นชุมชนหลายชุมชนอยู่ในบริเวณที่เดิมเป็นป่าที่เรียกว่า Zalesye